ดาวน์โหลด:
เสียงเรียกร้องจากผู้นำ
- เสรีภาพ
- อิมามโคมัยนี
- ฮัจญ์
- สถานะสตรีในสังคม
- ปาเลสไตน์
- ปาเลสไตน์คือปัญหาสำคัญที่สุดและเป็นปัญหาหลักของโลกอิสลาม"การปกป้องและพิทักษ์รักษาต่อการยืนหยัดต่อสู่เพื่ออิสลามของพี่น้องปาเลสไตน์เป็นวาญิบอัยนี"หากทำการพิจารณาถึงวิถีชีวิตของมวลมุสลิมทั่วโลกในปัจจุบัน เรามิอาจปฏิเสธได้ว่า ไม่มีปัญหาใดที่จะสำคัญและยิ่งใหญ่มากไปกว่าปัญหาปาเลสไตน์. สิ่งนี้ถือเป็นเคราะห์กรรมที่เลวร้ายที่สุด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสำหรับประชาชาติอิสลาม ศัตรูของโลกอิสลามได้ใช้บ้านของพี่น้องมุสลิมเป็นบังเกอร์ในการต่อสู้เพื่อสนองต่อความต้องการต่างๆของตนเอง, มวลมุสลิมคือเป้าหมายของการบุกโจมตีและการทำลายล้าง. การพิทักษ์ต่อการยืนหยัดต่อสู้ตามวิถีอิสลามของพี่น้องปาเลสไตน์เป็นวาญิบอัยนี เป็นที่ชัดเจนที่สุดว่าสิ่งนี้คือการทำญิฮาด ดิฟาอี (การทำสงครามปกป้องตนเองจากการรุกราน) ที่บรรดาผู้รู้ทางศาสนา ( ฟูกาฮา) ได้กำชับและย้ำเตือนเสมอมา.ทุกๆ ตารางนิ้วของแผ่นดินปาเลสไตน์ หมายถึงคืบหนึ่งจากบ้านเรือนพี่น้องมุสลิม ทุกการปกครองที่ไม่ได้มาจากการปกครองตามแบบอิสลาม และประชาชนปาเลสไตน์แล้วไซร้ มันก็คือการปกครองของผู้ยึดครองและผู้อธรรม. เราไม่ได้ทำการต่อสู้กับชาวยะฮูดี แต่เราทำการต่อสู้กับบุคคลที่ทำการยึดครองบ้านเรือนของพี่น้องมุสลิมอย่างอธรรมต่างหาก.ขอขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าต่อเนี้ยอ์มัต(ความโปรดปราน)นี้ ที่ทำให้การต่อสู้ของชาวปาเลสไตน์ในนามอิสลามนั้น เป็นที่ยอมรับจากมวลมุสลิมทั่วทั้งโลก และพร้อมจะให้การสนับสนุนทั้งทางด้านการเมือง, การเผยแพร่ข่าวสาร,และทางการทหาร จงรู้ไว้เถิดว่าสิ่งนี้เป็นหน้าที่ตามหลักชารีอัตของศาสนา.การเป็นมิตรกับบุคคลที่ให้การสนับสนุนต่อการยึดครองแผ่นดินปาเลสไตน์ ไม่ถือว่าเข้าข่ายการเป็นศัตรูกับไซออนิสต์ การพึ่งพิงต่อรัฐเถื่อนนี้ เป็นหนทางที่ผิดมหันต์ และถือเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่หลวง. ผู้ใดให้เสบียงหรือให้การช่วยเหลือใดๆ หรือเปิดการเจรจากับไซออนิสต์และอิสราเอลนั้น เขาคือพวกอิสราเอลในสนามรบนี้. ดังนั้นต้องทำความเข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงของการต่อสู้ เพื่อนำผืนแผ่นดินชาวปาเลสไตน์คืนมา, การต่อสูู้คือสิ่งตรงกันข้ามกับการประนีประนอม ปัญหาปาเลสไตน์มีเพียงวิถีเดียวเท่านั้นในการแก้ไข คือการต่อสู้ และถือเป็นหน้าที่ตามหลักศาสนา ส่วนการประนีประนอมต่อเรื่องนี้ คือการทรยศต่อศาสนา.บรรดานักวิชาการ นักเขียน ศิลปินหรือผู้ที่อยู่ในแวดวงสื่อสารมวลชน ควรหยิบยกประเด็นปัญหาปาเลสไตน์ขึ้นมา และควรถือว่าเป็นหน้าที่ทางศาสนาของท่าน โดยต้องใช้ทุกๆความสามารถที่ท่านมีอยู่ ในการเปลี่ยนแปลงทัศนคติสาธารณะของประชาคมโลก ให้รู้ถึงการกดขี่ที่มิอาจเปรียบได้ในวันนี้ของชาวปาเลสไตน์.ส่วนหนึ่งจากการปฐกถาในการเข้าพบของผู้เข้าร่วมสัมมนาปาเลสไตน์ครั้งที่หนึ่ง13/09/1369
- การอุบัติขึ้นของพันธสัญญาแห่งพระผู้เป็นเจ้าชัยชนะของ “ฮิซบุลลอฮ์” แห่งเลบานอนต่อยิวไซออนิสต์ ความสำเร็จของ “ฮามาส” ในปาเลสไตน์และความเจริญก้าวหน้าของ “สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน” ในด้านต่างๆ คือ พันธสัญญาที่พระเจ้าทรงมอบให้แด่ประชาชาติอิสลาม เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจอันยิ่งใหญ่ต่อพวกเขาทั้งหลายในการลุกขึ้นต่อสู้ ต่อไป.เลขาธิการขบวนการญิฮาดอิสลามีแห่งปาเลสไตน์เข้าพบท่านผู้นำสูงสุด31/1/2007
- ท่านผู้นำสูงสุด พณฯ ท่านอยาตุลลอฮ์ ซัยยิดอาลี คาเมเนอีได้กล่าวปฐกถาในโอกาสที่เลขาธิการญโลกอิสลามจะต้องแสดงจุดยืนที่ชัดเจนในกรณีการดูถูกเหยียดหยามของยิวไซออนิสต์ ต่อ มัสยิด อัลอักศอ และท่านยังได้กล่าวอีกว่า ประเด็นของอัลอักศอ คือปัญหาทางศาสนา และเป็นปัญหาร่วมกันของบรรดาประชาชาติอิสลามทั้งหมด. ท่านได้เน้นให้เกิดมีการเคลื่อนไหวของประเทศอิสลามทั้งหลาย และเน้นย้ำว่า การโต้ตอบของโลกอิสลามต่อการเหยียดหยามของยิวไซออนิสต์ต่ออัลกุดส์นั้น ต้องเป็นการแสดงออกในรูปแบบที่ทำให้ศัตรูนัั้นเสียใจต่อสิ่งที่พวกเขาได้กระทำลงไป การนิ่งเฉยและไม่เคลื่อนไหวใดๆต่อกรณีนี้ิ ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ อนุมัติ.ท่านผู้นำสูงสุด แสดงความเสียใจและเป็นห่วงจากการสู้รบภายในระหว่างชาวปาเลสไตน์ด้วยกัน และชี้ให้เห็นถึงการสร้างความแตกแยกและเปลี่ยนสงครามระหว่างชาวปาเลสไตน์และยิวไซออนิสต์ เป็นการทำสงครามกันเอง และท่านกล่าวว่า ..“ชาวปาเลสไตน์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะกลุ่มใดก็ตามแต่ ต้องมีการเคลื่อนไหวต่อต้านและสกัดกั้นแผนการอันชั่วร้ายของศัตรูที่ทำให้ไฟสงครามกลางเมืองที่ลุกขึ้น ดับลงอย่างเร็ววัน”ท่านผู้นำสูงสุดยังกล่าวถึงความจำเป็นอย่างยิ่งเรื่องเอกภาพในหมู่มวลมุสลิม ระหว่าง ซุนนีและชีอะฮ์ จะต้องเข้มแข็ง ต้องมีศรัทธามั่นต่อการช่วยเหลือ และสัญญาต่างๆจากพระองค์ ” ชัยชนะของฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอนที่มีต่อยิวไซออนิสต์” “ความสำเร็จต่างๆของกลุ่มฮามาสในแผ่นดินปาเลสไตน์” และความเจริญก้าวหน้าของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านในด้านต่างๆนั้น คือพันธสัญญาที่พระเจ้าทรงมอบให้แด่ประชาชาติอิสลาม เพื่อเป็นขวัญกำลังใจอันยิ่งใหญ่ต่อพวกเขาทั้งหลายในการลุกขึ้นต่อสู้ต่อไป.ท่านได้กล่าวถึงแผนการอันชั่วร้ายของอเมริกาและอิสราเอล ในการสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นต่อโลกอิสลามว่า : ต้องชาญฉลาดล่วงรู้เท่าทัน ถึงแผนการและกลลวงของศัตรู ตื่นตัวในการต่อสู้และยืนหยัดอย่างเข้มแข็งและต้องทำลายแผนการร้ายของพวกศัตรูให้สิ้นซาก.ท่านผู้นำสูงสุดได้แสดงความยินดี ต่อการตื่นตัวของโลกอิสลามและถือว่าเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าและท่านยังกล่าวว่า.. การมีศรัทธาต่อความเป็นหนึ่งเดียวกันนั้น คือ โครงสร้างที่สำคัญต่อเอกภาพและความสามัคคีของบรรดามุสลิม เราจะต้องปฏิบัติตามหลักการอิสลามที่เกี่ยวข้องต่อการตื่นตัวของโลกอิสลามทั้งหมด.ท่านผู้นำได้กล่าวว่า : จิต วิญญาณที่เข้มแข็งและอุดมการณ์แห่งการปฏิวัติของประชาชนชาวอิหร่านโดยเฉพาะ เยาวชนเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอย่างมากมาย ประชาคมโลกจะได้เห็นถึงจิตวิญญาณที่เข้มแข็งและมุ่งมั่นต่อการปฏิวัตินี้ของ ประชาชนชาวอิหร่านในวันเฉลิมฉลองครบรอบชัยชนะแห่งการปฏิวัติิอิสลาม ในวันที่22เดือนบะห์มันปีนี้อย่างแน่นอน.ดร. รอมฏอน อับดุลลอฮ์ เลขาธิการญิฮาดอิสลามีแห่งปาเลสไตน์ ได้กล่าวแสดงความยินดีต่อท่านผู้นำ ในการเฉลิมฉลองครบรอบ 28 ปี แห่งชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามโดยการนำของอิมามโคมัยนี และกล่าวว่า สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน คือ กองกำลังหลักในการยืนหยัดต่อสู้กับบรรดาผู้ปฏิเสธ และกล่าวยำ้ว่า :ประชาชนปาเลสไตน์และกลุ่มต่างๆ ทำการต่อสู้ท่ามกลางแรงกดดันและเสียงข่มขู่ และเราจะยืนหยัดในแนวทางการต่อสู้บนพันธสัญญาระหว่างเราและชูฮาดาอินติฟาเฎาะห์ต่อไปอย่างเข้มแข็ง.เลขาธิการญิฮาดอิสลามีได้กล่าวรายงานถึงสถานการณ์ล่าสุดของปาเลสไตน์ว่า แผนการของศัตรูต้องการให้เกิดสงครามระหว่างนิกายขึ้นในกลุ่มประเทศมุสลิม และพยายามสร้างสงครามกลางเมืองให้เกิดขึ้นในแผ่นดินปาเลสไตน์ เรากลุ่มญิฮาดอิสลามี ได้เตรียมทุกวิถีทางในการขจัดปัญหาความแตกแยกภายในให้หมดสิ้นไป และหวังที่จะสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นกับฝ่ายตรงข้าม พร้อมชี้ให้เห็นถึงเบื้องหลังของความขัดแย้งที่ล้วนมีมาจากศัตรูทั้งสิ้น.เลขาธิการญิฮาดอิสลามี ชี้ให้เห็นถึงความอ่อนแอ และไร้ความสามารถในปัจจุบันของไซออนิสต์จากการพ่ายแพ้ต่อขบวนการฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอน. และท่านได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ประชาชนชาวปาเลสไตน์จะไม่นิ่งเฉยต่อการทำลายความศักดิ์สิทธิ์มัสยิดอัลอักศอครั้งล่าสุดโดยไซออนิสต์ และเราจะโต้ตอบมันอย่างสาสม.วันที่31/1/2007เลขาธิการญิฮาดอิสลามีปาเลสไตน์เข้าพบผู้นำสูงสุด
- การปกป้องพิทักษ์ปาเลสไตน์ปัจจุบันนี้ ประชาชนชาวปาเลสไตน์ได้ลุกขึ้นทำการต่อสู้ บรรดามุสลิมทั่วทั้งโลกต้องมีเป้าหมายและอุดมการณ์ที่จะปกป้องและให้การสนับสนุนการต้อสู้ของพี่น้องปาเลสไตน์.เราจะปกป้องปาเลสไตน์อย่างสุดความสามารถ และปฏิเสธกลุ่มที่ยินยอมต่อการประนีประนอมอันจอมปลอมและแอบอ้างว่าสิ่งนั้น คือการปกป้องสิทธิของชาวปาเลสไตน์ เราต้องอธิบายให้ประชาคมโลกได้เข้าใจถึงความหมายของอันจอมปลอมของคำว่า เท่าเทียมกัน.ท่านผู้นำสูงสุดได้กล่าวกับคณะกรรมาธิการ การสนับสนุนการปฏิวัติอิสลามแห่งปาเลสไตน์ เนื่องในวันครบรอบสี่ปีแห่งการก่อตั้งขบวนการอินติฟาเฎาะห์ว่า ปาเลสไตน์คือส่วนหนึ่งของโลกอิสลาม ซึ่งการรวมตัวของประชาชาติอิสลามทั้งหมดจะทำให้ชาติมหาอำนาจสั่นสะท้าน และปัญหาต่างๆของปาเลสไตน์ก็จะคลี่คลายลงในเวลาอันใกล้นี้ ท่านผู้นำสูงสุดได้กล่าวเพิ่มเติมว่า นโยบายต่างประเทศที่สำคัญที่สุดของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านคือ การแก้ไขปัญหาปาเลสไตน์ และถือเป็นหน้าที่ชัรอี (ข้อบังคับตามศาสนบัญญัติ)เพราะเป็นปัญหาที่ยาวนานทางประวัติศาสตร์, ศัตรูได้ฉวยโอกาสขณะที่เราหลับไหล, ยึดอารมณ์ไฝ่ต่ำ และความแตกแยกกันเองของประชาชาติอิสลามนั้น ทำการการปลูกต้นไม้แห่งความชั่วช้า โดยการพรวนดินและให้อาหารที่มาจากชาติมหานาจผู้กดขี่. การยึดครองแผ่นดินปาเลสไตน์ของรัฐเถื่อนยิวไซออนิสต์นั้น คือความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของโลกอิสลามและเป็นบาดแผลที่ฝังลึกอยู่ในเรือนร่างของประชาชาติมุสลิม และเราจะพยายามรักษาบาดแผลนั้นให้หมดไป.ท่านยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นมติอย่างเอกฉันท์ในของทัศนะอิสลามทุกนิกายว่า ในการต่อสู้กับรัฐเถื่อนยิวไซออนิสต์นั้น เป็นวายิบ ( สิ่งที่ต้องพึงปฏิบัติ) ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากผู้ปกครองของรัฐบาลบางประเทศและกล่าว่า “การต่อสู้ของชาวปาเลสไตน์นั้นไร้ผล” ถือเป็นการกล่าวอ้างของผู้หลงทางและพวกมุสา, เป็นหน้าที่ของมุสลิมทุกคนที่จะต้องปกป้องปาเลสไตน์. หากว่าวันนี้ประเทศอิสลามทั้งหลายต่างแสดงความรับผิดชอบในหน้าที่ต่อปัญหาปาเลสไตน์ โลกอิสลามสามารถสร้างแรงกระทบที่ยิ่งใหญ่ต่ออเมริกาและจะทำให้ฐานมั่นของมหาอำนาจนั้นสั่นคลอน และปัญหาของปาเลสไตน์จะถูกคลี่คลายลงเร็ว.ท่านผู้นำสูงสุดได้กล่าวถึงความพร้อมของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ในฝึกการกองกำลัง หรือการใช้อำนาจจากภาครัฐทุกภาคส่วน ในการเรียกร้องอิสรภาพของปาเลสไตน์จากรัฐเถื่อนไซออนิสต์ และท่านยังกล่าวอีกว่า“ โลกอิสลาม พวกท่านต้องมีส่วนร่วมในการต่อสู้ของประชาชนปาเลสไตน์ วันนี้ประชาชาติปาเลสไตน์ได้ลุกขึ้นต่อสู้ ประชาชาติอิสลามทุกคนไม่ว่าจะอยู่ซอกมุมใดบนโลกใบนี้ จะต้องปกป้องการทำญิฮาดของพี่น้องชาวปาเลสไตน์ ประชาชนชาวปาเลสไตน์คืิอชาติไร้ที่พึ่ง อิสราเอลคือรัฐเถื่อนที่ลิดรอนสิทธิของพวกเขาไป ดังนั้นเราต้องทำทุกวิถีทางในการบดขยี้และขจัดสิ่งชั่วช้านี้ออกไปให้จงได้ ”การสนับสนุน การปกป้องช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ คือแก่นแท้ที่สำคัญ และท่านปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงกับกลุ่มที่เสนอแนวทางการประนีประนอมอันจอมปลอม และกล่าวย้ำว่า เป้าหมายที่แท้จริงของเราคือ ให้การสนับสนุนในทุกเรื่องต่อขบวนการปฏิวัติอิสลามแห่งปาเลสไตน์ มิใช่การสนับสนุนแค่เพียงการต่อสู้ของประชาชน, การสนับสนุนทางด้านจริยธรรม, ศีลธรรม, การเมือง, หรือด้านการเงินเพียงเท่านั้น แต่การสนับสนุนของเรานั้นคือ การสนับสนุนการทำญิฮาดของชาวปาเลสไตน์ต่อยิวไซออนิสต์ในทุกรูปแบบ.ท่านกล่าวกับคณะกรรมาธิการ การสนับสนุนการปฏิวัติอิสลามแห่งปาเลสไตน์ว่า ต้องประชาสัมพันธ์เรื่องราวของชาวปาเลสไตน์ไปให้ทั่วทุกมุมโลก และควรใช้สื่อต่างๆให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการนำเสนอเรื่องราวเหล่านี้ เราจะปกป้องปาเลสไตน์อย่างสุดความสามารถ และปฏิเสธบรรดากลุ่มที่ยินยอมต่อการประนีประนอมอันจอมปลอมและแอบอ้างว่าสิ่งนั้น คือการปกป้องสิทธิของชาวปาเลสไตน์ เราต้องอธิบายให้ประชาคมโลกได้เข้าใจถึงความหมายอันจอมปลอมของคำว่า ความเท่าเทียมกัน .ก่อนการให้โอวาทของท่านผู้นำสูงสุด นายอยาตุลลอฮ์ มุฮาญิรอนี รองประธานาธิบดีีอิหร่าน ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ การสนับสนุนการปฏิวัติอิสลามแห่งปาเลสไตน์ที่กล่าวรายงานเกี่ยวกับผลงานและนโยบายของกรรมาธิการต่อท่านผู้นำ และประกาศว่า ได้ทำกล่องรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวปาเลสไตน์ในการต่อสู้กับยิวไซออนิสต์ ซึ่งท่านผู้นำสูงสุดได้บริจาคเงินจำนวน หนึ่งร้อยล้านริยาล เพื่อร่วมโครงการนี้ด้วย.คณะกรรมาธิการ การสนับสนุนปฏิวัติอิสลามแห่งปาเลสไตน์ เข้าพบท่านผู้นำสูงสุด25/11/1990
- ปาเลสไตน์ เป็นสิทธิของชาวปาเลสไตน์เท่านั้นดินแดนปาเลสไตน์ คือหัวใจทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญของโลกอิสลาม ชาติมหาอำนาจต่างมีแผนการที่จะทำลายล้างอิสลาม และต้องการให้ประชาชาติอิสลามตกอยู่ภายใต้การควบคุมของตน ห้ามการเคลื่อนไหวใดๆของอิสลาม. ยิวไซออนิสต์ คือ นอมีนีของชาติมหาอำนาจ และเป็นผู้ตักตวงผลประโยชน์จากภูมิภาคที่สำคัญของโลกอิสลามให้อเมริกา ทำการโฆษณาชวนเชื่อเรื่องโกหกมดเท็จถึงความชอบธรรมอันลวงโลกของพวกเขาต่อการกระทำนี้.เราถือว่า เราคือองค์กรหนึ่ง ที่เป็นตัวแทนของชาวปาเลสไตน์ในการต่อสู้เพื่อการปลดปล่อย. บรรดาผู้ที่เรียกร้องสู่การเจรจาสันติภาพหรือการประนีประนอมในประเด็นปาเลสไตน์นั้น ต่างกังวลในผลประโยชน์ของตนที่จะสูญเสียไป. ประชาชาติมุสลิมต้องร่วมมือกันเพื่อช่วยเหลือและค้ำจุนการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยของชาวปาเลสไตน์ เพราะการช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์นั้น ถือเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ต่อพระผู้เป็นเจ้า และปฏิบัติหน้าที่ตามหลักชารีอัต(ศาสนบัญญัติ)และยังถือว่าเป็นหน้าที่ ของความเป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยเช่นเดียวกัน.การบิดเบือนความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในแผ่นดินปาเลสไตน์ คือแผนการอันเลวร้ายที่ศัตรูนำเสนอต่อชาวโลก, การต่อสู้ของชาวปาเลสไตน์คือการปกป้องบ้านเรือนของตน คือการปกป้องสิทธิแห่งความเป็นมนุษย์และการปกป้องสิทธิของสังคมในประเทศตนเอง แต่สื่อที่เข้ามาทำข่าวนั้น ล้วนเป็นสื่อที่อยู่ภายใต้การควบคุมโดยชาติมหาอำนาจและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของไซออนิสต์ จึงนำเสนอว่า ชาวปาเลสไตน์คือผู้ก่อการร้าย. น่าเศร้าใจเป็นอย่างยิ่ง ที่โลกบอกว่า เราคือความศิวิไลซ์, เราคือผู้ที่รักษาสิทธิมนุษยชน, แต่ประชาคมโลกต่างไปยืนเคียงข้างผู้ที่ลิดรอนสิทธิมนุษยชน ผู้กดขี่ข่มเหงต่อประชาชนผู้ยากไร้.แผ่นดินปาเลสไตน์เป็น สิทธิของชาวปาเลสไตน์เพียงเท่านั้น ถ้าหากปาเลสไตน์หมายถึงแผ่นดินปาเลสไตน์ทั้งหมด หากร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลขึ้น สันติภาพและความสุขก็จะเกิดขึ้นตามมา ถ้าชาติมหาอำนาจไม่คิดการร้ายต่อชาวปาเลสไตน์ หรือประชาชาติอิสลาม หรือศาสนาอิสลามแล้วไซร้ หนทางเดียวที่สามารถยุติความรุนแรงได้คือแนวทางนี้, ถ้าไม่เช่นนั้น จงรู้เถิดว่า การลุกขึ้น หรือการนั้งลงของพวกท่านในแคมป์ของพวกมหาอำนาจและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่มาจากตรงนั้น ย่อมไม่มีผลใดๆในการแก้ใขปัญหาปาเลสไตน์เลย และการต่อสู้ของปาเลสไตน์จะไม่มีวันดับลง และจะต้องไม่มอดดับลงอย่างเป็นแน่นอน.วันนี้ ชาวมุสลิมปาเลสไตน์ ทั้งคนชรา คนหนุ่มสาว เด็กและผู้ใหญ่ ต่างเสียสละเพื่อทำการต่อสู้บนแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ พวกท่านจะต้องช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้น แนวทางและวิธีการช่วยเหลือต่อชาวปาเลสไตน์คือ การช่วยเหลือต่อขบวนการต่อสู้ของพวกเขา มิใช่เป็นแนวทางการช่วยเหลือที่มาจากพวกรักสันติอันจอมปลอม ที่ห่วงใยเฉพาะผลประโยชน์ของตนเป็นหลัก และไม่ได้เห็นแก่ผลประโยชน์ของชาวปาเลสไตน์, องค์กรเช่นนี้ที่เรายอมรับ และถือเป็นตัวแทนของประชาชนปาเลสไตน์ในการต่อสู้เพื่อปลดปล่อย ไม่ใช่องค์กรที่เอาปาเลสไตน์ไปขายให้กับศัตรู และฉวยโอกาสแสวงหากำไรในการค้านั้น.ส่วนหนึ่งจากการปฐกถาของผู้นำสูงสุด ในงานสัมนานานาชาติ “การปกป้องและสนับสนุนการปฏิวัติอิสลามของชาวปาเลสไตน์”19/10/1991
- ยุคสมัยแห่งการตื่นตัวของโลกอิสลามปัจจุบัน คือยุคแห่งการตื่นตัวของโลกอิสลาม และปาเลสไตน์คือชาติที่ตื่นตัวแล้ว. เป็นเวลามากกว่า 60 ปี ที่ประชาชาติปาเลสไตน์ถูกยึดครองแผ่นดินของเขา พวกเขาได้เผชิญกับความเจ็บปวดทุกรูปแบบ ท่ามกลางการต่อสู้ของชาวปาเลสไตน์ผู้ถูกกดขี่ พวกเขาต้องพบกับ การพลัดถิ่น ไม่มีที่อยู่อาศัย การทำลายบ้านเรือน การเข่นฆ่าล้างเผ่าพันธ์ จำพรากจากมิตรสหายฯลฯ จนพวกเขาหันหน้าไปหาที่พึ่งพิงต่อองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อให้ทำการช่วยเหลือ ผ่านกระบวนทางการเมืองระหว่างประเทศ และเป็นสื่อกลางในการเจรจากับอาชญากรผู้ปล้นสะดมดินแดนของตน แต่ก็ไร้ประโยชน์ และพบกับความเจ็บชำ้เช่นเดิม, จากประสบการณ์ในอดีต จนเป็นจุดก่อกำเนิดของเยาวชนรุ่นใหม่ ที่มีความกล้าหาญ และไปถึงจุดสูงสุดของนิยามแห่งคำว่า การตื่นตัว ,เสรีภาพ อิสรภาพ, และเป็นการจุดประกายการกำเนิด ขบวนการ อินติฟาเฏาะห์.การทำญิฮาด (ต่อสู้ในหนทางของศาสนา)ของปาเลสไตน์ หรือการทำญิฮาดของโลกอิสลามมีเงื่อนไขแห่งความสำเร็จคือ การยืนหยัดต่อหลักการอย่างแน่วแน่ . ศัตรูมีความพยายามที่จะทำลายอุดมการณ์และเป้าหมายอันนั้น ด้วยกับวิธีการที่มากเล่ห์เพทุบายเช่น ในเรื่องการทำสนธิสัญญาบ้าง ในเรื่องคำสัญญาบ้าง หรือแม้กระทั้งการข่มขู่ เพื่อให้นักต่อสู้หันเหจากอุดมการณ์ที่แท้จริงของตนเป็นต้น.การอ่อนแอหรือเย็นชา ต่อหลักการและเป้าหมายนั้น เป็นสาเหตุที่ทำให้โลกอิสลามนั้นหลงทาง และถูกประณามหรือตัดสินความตามเงื่อนไขที่ถูกเติมแต่งโดยศัตรู ซึ่งผลลัพท์ดังกล่าวเป็นที่ชัดเจนในปัจจุบัน.ส่วนหนึ่งจากประชาชาติของเรา ได้ละทิ้งเราและไปอยู่ข้างศัตรู โดยโจมตีต่ออุดมการณ์เรา และพวกเขาถือว่าสิ่งนั้นคือยุทธวิธีที่ถูกต้องของการบริหาร.แนวคิดเหล่านี้คือการหลงทาง และการทรยศต่ออุดมการณ์ ดังอายัตดังกล่าวจากพระมหาคัมภีร์อัลกุรอ่านفتری الذین فی قلوبهم مرض یسارعون فیهم یقولون نخشی ان تصیبنا دائرة فعسی الله ان یاتی بالفتح او امر من عنده فیصبحوا علی مااسروا فی انفسهم نادمینพวกเขาจะไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆจากศัตรู อเมริกาและตะวันตกไม่เคยมีความปราณีใดๆกับใคร แม้แต่ผู้ที่ยอมจำนนต่อเขาก็ตามแต่ เมื่อเวลาของพวกที่ถูกหลอกใช้โดยมหาอำนาจหมดลง เขาก็จะเขี่ยมันทิ้งอย่างไร้ค่า. หรือบางครั้งเขาก็จะหันไปสนับสนุนผู้ต่อต้านภายในประเทศนั้น เพื่อให้เกิดความขัดแย้ง และแน่นอนสิ่งนี้มีนัยแห่งอันตรายที่ซ่อนเร้นอยู่. ในลำดับต้น ศัตรูจะออกห่างจากการเผชิญหน้ากับมนุษย์ที่มีความฉลาดเฉลียว เพราะศัตรูมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการแสวงหาผลประโยชน์ของตน ด้วยเหตุนี้ความสูญเสียที่เกิดขึ้น ล้วนมาจากการยอมจำนนต่อพวกเขา และมาจากการที่ไม่ยืนหยัดต่อสู้ จนเป็นที่มาของความอัปยศและความต่ำต้อย.
- ข้าฯพระเจ้า ขอกล่าวกับประชาชาติผู้กล้าหาญชาวปาเลสไตน์ว่าจากการที่พวกท่าน ได้ทำการญิฮาด ยืนหยัดต่อสู้และอดทนนั้น ทำให้โลกอิสลามมีเกียรติยศและศักดิ์ศรีมากขึ้น พวกท่านคือประชาชาติตัวอย่าง, ด้วยกับภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของพวกท่านที่มีอยู่นั้น มันไม่สามารถทำให้พวกท่านท้อแท้ได้เลยแม้แต่น้อยนิด, เลือดบริสุทธ์ิของบรรดาชะฮีดที่ได้หลั่งไหลไปนั้น ได้ทำให้ท่านมีความเข้มแข็งต่อการยืนหยัดต่อสู้มากขึ้น. ศัตรูได้ทำการเข่นฆ่าล้างเผ่าพันธ์อย่างไร้ความเมตตา การสังหารหมู่, การทำลายล้าง, การลักพาตัว, และอาชญกรรมอื่นๆ มันไม่สามารถทำให้พวกท่านถดถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว มิหนำซ้ำยังทำให้พวกท่านเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น.เลือดของบรรดาชูฮาดาที่ยิ่งใหญ่ (ผู้พลีชีพในศาสนา) เช่น เชคอะฮ์มัด ยาซีน, ฟัตฮี ชะกอกี, และรินตีซีย์ ตลอดจนบรรดาเยาวชนผู้หาญกล้าที่เรียกร้องชะฮาดัตนั้น คือชัยชนะอันยิ่งใหญ่เหนือคมดาบของศัตรู และจากนี้ต่อไป ด้วยกับอำนาจของพระองค์อัลลอฮ์ (ซบ.) พวกท่านจะได้รับชัยชนะมากยิ่งขึ้นในเร็ววัน.เราประชาชนชาวอิหร่าน และประชาชาติอิสลามทั่วทั้งโลก ถือว่าเราเองมีส่วนร่วมกับทุกๆการสูญเสียของพวกท่าน ชูฮาดาของพวกท่านนั้น ก็คือ ชูฮาดาของพวกเรา ความเจ็บปวดและความทุกข์ระทมของพวกท่าน ก็คือ ความเจ็บปวดและความทุกข์ระทมของพวกเรา และชัยชนะของพวกท่านก็คือ ชัยชนะของพวกเราด้วยเช่นกัน.ส่วนหนึ่งจากการปฐกถาของท่านผู้นำสูงสุด ในงานสัมมนาอัลกุดส์นานาชาติและการปกป้องสิทธิของชาวปาเลสไตน์ครั้งที่314/4/2006
- สาส์นของท่านผู้นำสูงสุดต่อเหตุการณ์การสังหารหมู่ประชาชนชาวปาเลสไตน์พณฯท่าน อยาตุลลอฮ ซัยยิดอาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดสาธารณรัฐอิสลาม ได้ส่งสาส์นแสดงความเสียใจเนื่องในโศกนาฏกรรมอันยิ่งใหญ่ จากการถูกสังหารหมู่ของประชาชนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซ่า โดยน้ำมือของไซออนิสต์อาชญากรโลก, ท่านยังประณามการร่วมมือระหว่างรัฐบาลบุชกับยิวไซออนิสต์, การนิ่งเงียบขององค์การสหประชาชาติและองค์การระหว่างประเทศ, และรัฐบาลอาหรับบางประเทศต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น คือการปูทางให้อาชญากรรมนี้เกิดขึ้น. ท่านประกาศว่า วันจันทร์ (พรุ่งนี้) ให้เป็นวันแห่งการไว้อาลัย ต่อบรรดานักต่อสู้ชาวปาเลสไตน์, และท่านได้กล่าวเน้นย้ำว่า ประชาชาติอิสลามผู้เรียกร้องเสรีภาพ, บรรดานักวิชาการ, นักคิด, นักเขียน, และสื่อมวลชนทั้งหลายของโลกอิสลาม จะต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำของอาชญากรโลกอย่างยิวไซออนิสต์ด้วย.بسم الله الرحمن الرحيمإنا لله وإنا إليه راجعونด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตานิจนิรันดรอาชญากรรมอันเลวร้าย และการสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ทั้ง หญิง ชาย เด็กและคนชรา ที่เป็นผู้ถูกกดขี่นั้น คือการเผยโฉมหน้าของยิวไซออนิสต์ในคราบหมาป่าที่กระหายเลือดอีกครั้งหนึ่งในปีนี้ การมีอยู่ของกาเฟรฮัรบี (ผู้ปฏิเสธที่ชั่วช้า) ในใจกลางผืนแผ่นดินอิสลามนั้น คือภยันอันตรายอันยิ่งใหญ่ และได้ส่งเสียงไปยังหูแก่ผู้หลับไหลและละเลยทั้งหลาย. โศกนาฏกรรมนี้ ไม่ถือว่าเป็นโศกนาฏกรรมของชาวมุสลิมเพียงเท่านั้น แต่มันคือโศกนาฏกรรมของมวลมนุษยชาติทุกคนบนโลกใบนี้ ที่มีสามัญสำนึกในความเป็นมนุษย์อยู่ , โศกนาฏกรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าคือ การนิ่งเฉยของรัฐบาลอาหรับบางประเทศ ที่อ้างว่าตนเป็นมุสลิม. อะไรจะโศกเศร้ายิ่งไปกว่าความอัปยศของรัฐบาลอิสลามบางชาติ ที่ควรออกมาปกป้องและช่วยเหลือต่อพี่น้องผู้ถูกกดขี่ชาวกาซ่า ในการต่อสู้กับยิวไซออนิสต์ ผู้ปฏิเสธที่ชั่วช้า, แต่กลับไม่แสดงท่าทีใดๆกับคำพูดที่ยโสโอหังของอาชญากรไซออนิสต์หรือพวกท่านร่วมมือ หรือเห็นพ้องต่อเหตุการณ์นี้กระนั้นหรือ? ผู้ปกครองรัฐบาลเหล่านี้ จะตอบคำถามจากท่านศาสดาอย่างไร? หรือจะตอบคำถามจากประชาชนของตนที่เศร้าโศกต่อเหตุการณ์นี้อย่างไร? วันนี้หัวใจของประชาชนชาวอียิปต์ จอร์แดน และประเทศอื่นๆนั้นแตกสลาย หลังจากท่ีชาวมุสลิมจำนวนมากถูกสังหารลง , อาหาร น้ำ ยารักษาโรคหรือไฟฟ้าได้ถูกปิดล้อมโดยศัตรู. รัฐบาลอาชญากรของบุช กับการปกครองอันน่าอัปยศของตนในวันนี้ ได้ร่วมมือกับไซออนิสต์ในการสร้างอาชญากรรมครั้งยิ่งใหญ่นี้ขึ้น ได้เพิ่มประวัติอาชญากรสงครามของรัฐบาลตนเองนั้นให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นไปอีก. รัฐบาลยุโรปต่างนิ่งเฉย หรืออาจจะมีส่วนร่วมต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า การปกป้องสิทธิมนุษยชนของยุโรปเป็นข้อแอบอ้างและโกหกทั้งสิ้น และยังชี้ให้เห็นว่า พวกเขาต้องการทำสงครามกับอิสลามและชาวมุสลิม. ข้าพเจ้าขอถามต่อบรรดาอุลามา, นักการศาสนา และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของโลกอาหรับว่า พวกท่านยังไม่รู้สึกถึงภยันอันตรายทีี่กำลังเข้ามาหาอิสลามและบรรดามุสลิมอีกกระนั้นหรือ? หรือยังไม่ถึงเวลาของการเชิญชวนสู่การกระทำความดี และห้ามปรามการกระทำชั่วอีกหรือ? หรือพวกท่านต้องการ ให้การสังหารหมู่ของพี่น้องกาซ่าที่มาจากการร่วมมือกัน ระหว่างผู้ปฏิเสธที่ชั่วช้ากับผู้ทรยศต่อชาติ ในการทำลายล้างประชาชาติอิสลามนั้น เกิดขึ้นอีกในสถานที่อื่นก่อนหรือ พวกท่านถึงจะรู้สึกความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ?คำถามของข้าพเจ้าต่อสื่อมวลชน และนักวิชาการของโลกอิสลาม โดยเฉพาะในโลกอาหรับว่า เมื่อไรที่พวกคุณจะมีจรรยาบรรณต่อสิ่งที่พวกคุณนำเสนอบ้าง ? องค์การสิทธิมนุษยชนสากลยืนเคียงข้างตะวันตก หรือจะรอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติแสดงตัวเข้าข้างพวกเขามากกว่านี้อีกหรือ? ชาวปาเลสไตน์ผู้หาญกล้า ผู้เสียสละ, และบรรดาผู้ศรัทธาของโลกอิสลามนั้น ต้องดำเนินการปกป้องเด็ก สตรี และประชาชนชาวกาซ่าในทุกรูปแบบ และผู้ใดที่บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตในการต่อสู้นี้ เราหวังว่าพวกเขาเหล่านั้นคือชะฮีด ที่อยู่ร่วมรบกับท่านศาสดาและบรรดาชูฮาดาในสงครามบะดัรและในสงครามอุฮุด.องค์การความร่วมมืิิออิสลาม (OIC) ต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้ และต้องปฏิบัติตามหน้าทีี่ของตนในอดีตที่เคยวางไว้, จะต้องเผชิญหน้าอย่างมีเอกภาพของประชาชาติอิสลามต่อไซออนิสต์อิสราเอล โดยปราศจากการทบทวนและไตร่ตรองได้แล้ว. ยิวไซออนิสนั้นจะต้องถูกพิพากษาโดยประชาคมรัฐอิสลาม. ผู้ปกครองที่ชั่วช้าไซออนิสต์และอาชญากร สมควรแก่เวลา ที่จะต้องรับเคราะห์กรรมแห่งบทลงโทษจากอาชญากรรมที่พวกเขาได้สร้างขึ้นมาอย่างยาวนาน.ประชาชาติอิสลามทั้งหมด โดยเฉพาะนักการเมือง นักการศาสนาและนักวิชาการ ควรพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนถึงภาระหน้าที่ของตนในเรื่องนี้.ข้าพเจ้า ขอแสดงความเสียใจ และขอประกาศให้วันจันทร์เป็นวันแห่งความโศกเศร้าของสาธารณชน และขอเชิญชวนเจ้าหน้าที่บ้านเมืองทุกท่าน ปฏิบัติหน้าที่ของตนต่อโศกนาฏกรรมอันโศกเศร้าอย่างเต็มที่.وسيعلم الذين ظلموا اي منقلب ينقلبونซัยยิดอาลี คอเมเนอี8/10/1387 29/ซุลฮิจญะฮ์/1429อยาตุลลอฮ ซัยยิดอาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดได้ส่งสาส์นยัง นายอิสมาอีล ฮะนียะฮ์ นายกรัฐมนตรี(ฮามาส)ของปาเลสไตน์ 27/10/1387 = 16/1/2009ท่านอยาตุลลอฮ ซัยยิดอาลี คาเมเนอี ชี้ให้เห็นถึงความพ่ายแพ้ของยิวไซออนิสต์ต่อ ขบวนการต่อสู้ของประชาชนชาวกาซ่า ที่มีความเสียสละอดทน เข้มแข็ง, ความศรัทธาและการยืนหยัดต่อสู้อย่างสมเกียรติของประชาชนชาวกาซ่า ต่ออาชญากรสงครามที่เลวร้ายที่สุดในโลก อย่างอเมริกา ผู้สนับสนุนยิวไซออนิสต์ และผู้ทรยศต่อประชาชาติอิสลามนั้น ได้ทำให้ศัตรูพบกับความอัปยศและต่ำต้อย และพวกท่านได้ชูธงชัยแห่งเกียรติยศของประชาชาติอิสลามอีกครั้ง.بسم الله الرحمن الرحيمด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตายิ่งเสมอฯพณฯ อิสมาอีล ฮะนียะฮฺ น้องชายเลือดนักสู้ (มุญาฮิด)سلام عليكم بما صبرتمขอความสันติจงประสพแด่ความอดทนของท่านความอดทนของพวกท่าน , มุญาฮิดีน (นักรบศาสนา), และประชาชนชาวกาซ่า ผู้ที่ก้าวผ่านความตายมา ตลอด20วันในการต่อสู้ กับอาชญากรสงครามของโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ ถือเป็นการ “ชูธงแห่งเกียรติยศของประชาชาติอิสลาม”. ท่านได้พิสูจน์แล้วว่า หัวใจที่เปี่ยมล้นด้วยศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้า, วันสิ้นโลก (กิยามัต) และจิตวิญญาณที่หนักแน่นของบรรดามุสลิมที่ไม่ยอมจำนนต่อความอัปยศและการกดขี่ข่มเหงนั้น, สามารถทำให้รัฐบาลที่อหังการ และกองทัพที่เพรียบพร้อมด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยนั้น จนตรอกและประสบกับความอัปยศลงได้.กองทัพที่ครั้งหนึ่งในอดีต เคยถล่ม 3 ประเทศอาหรับ อย่างย่อยยับในสงคราม6วัน ต้องมาประสบกับความพ่ายแพ้อย่างราบคาบ ณ ประตูเมืองกาซ่า เมื่อเผชิญหน้ากับกองกำลัง ที่เปี่ยมล้นไปด้วยศรัทธา การเสียสละ และเรียกร้องความตายในหนทางของพระเจ้า (ชะฮาดัต) ภายในเวลา 20 วัน. จงหล่อหลอมตนเข้ากับ แรงศรัทธา และจงมอบหมายมันต่อพระองค์, จงเชื่อมั่นในพันธสัญญาจากพระองค์, จงอดทนเข้มแข็ง, และจงเสียสละ เพราะวันนี้ประชาชาติอิสลาม กำลังเดินตามวิถีทางของพวกท่าน ในการหลอมตนเองเข้ากับสิ่งนี้. ญิฮาด (สงครามศักดิ์สิทธิ์) ที่พวกท่านได้ต่อสู้มาถึงวันนี้ ทำให้อเมริกา , ลัทธิไซออนิสต์ , ผู้สนับสนุนพวกเขา , องค์การสหประชาชาติ และผู้ทรยศต่อประชาชาติอิสลามนั้น พบกับความพ่ายแพ้และความอัปยศ.วันนี้ ไม่เพียงแต่ประชาชาติอิสลามเท่านั้น ประชาชนทั้งในทวีปยุโรปและทวีปอเมริกาอีกเป็นจำนวนมาก ที่ต่างยอมรับในสัจธรรมอันแท้จริงของพวกท่านโดยดุษณี. วันนี้ พวกท่านได้ประสบชัยแล้ว และด้วยการยืนหยัดอย่างมีศักดิ์ศรีนี้ จะสามารถเพิ่มความอัปยศ และความพ่ายแพ้ ให้แก่ศัตรูของมวลมนุษยชาติอย่างแน่นอน อินชาอัลลอฮฺ .จงรู้ว่า ما وَدَّعَك رَبُّك و ما قَلي “พระผู้อภิบาลของเจ้ามิทรงทอดทิ้งเจ้า และมิทรงกริ้วเจ้าแต่อย่างใด”และท่านทั้งหลาย พึงตระหนักเถิดว่า و لَسَوفَ يُعطِيك رَبُّكَ فَتَرضَي“และในไม่ช้าพระผู้อภิบาลของเจ้าจะทรงประทานแก่เจ้าจนเจ้าพึงพอใจ”อินชาอัลลอฮ ในวิกฤติการณ์เลือดและโศกนาฏกรรมที่ประสบกับบรรดาบุคคลอื่นที่ไม่ได้อยู่ในกองทัพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็กๆ ที่บริสุทธิ์และถูกกดขี่นั้น ได้เปลี่ยนให้หัวใจทุกดวงของเรา จมอยู่ในกองเลือดแห่งความโศกเศร้า. สถานการณ์ของอาชญากรรมอันเลวร้าย จากน้ำมือของผู้ปล้นสดมภ์ปาเลสไตน์นั้น สถานีโทรทัศน์ทุกช่องของเรา ได้ทำการถ่ายทอดสดและฉายซ้ำในทุกวัน ซึ่งมันได้สร้างความโศกเศร้าและความเจ็บปวดมาสู่ประชาชาติของเราอย่างยิ่ง. اَعظَمَ الله لَكُم الجَزاء وَ عَجَّل لَكُم النَّص“ขออัลลอฮทรงประทานรางวัลอันยิ่งใหญ่แด่ท่านและทรงช่วยเหลือท่านโดยพลันด้วยเถิด”ท่านทั้งหลาย พึงตระหนักเถิดว่าพันธสัญญาของอัลลอฮนั้นสัตย์จริงเสมอ ดังที่พระองค์ทรงตรัสว่าوَ لَيَنْصُرَنَّ اللَّهُ مَنْ يَنْصُرُهُ إِنَّ اللَّهَ لَقَوِيٌّ عَزِيز “และอัลลอฮจะทรงช่วยเหลือผู้ที่ช่วยเหลือพระองค์แท้จริงอัลลอฮทรง มหิทธานุภาพและทรงเกียรติเกรียงไกร”وَ مَن جاهَد فَانّما يُجاهِدُ لِنَفسه “และใครที่ดิ้นรนต่อสู้ แท้จริง เขาได้ดิ้นรนต่อสู้เพื่อตัวเขาเอง”พวกอาหรับผู้ทรยศทั้งหลาย จงรู้ไว้เถิดว่า ชะตากรรมของพวกเขา จะไม่ดีไปกว่าพวกยะฮูดีย์ใน “สงครามอะหฺซาบ” อย่างแน่นอน ดังที่พระองค์ทรงตรัสว่าو اَنزَلَ الَّذين ظَاهَرُوهُم مِن اَهلِ الكِتَاب وَ مِن صَيَاصِيِهم ...“พระองค์ทรงให้ชาวคัมภีร์ (พวกยิว) ที่ช่วยเหลือพวกเขา (พวกบูชาเจว็ด) ลงมาจากป้อมปราการของพวกเขา และทรงบรรจุความหวาดกลัวในหัวใจของพวกเขา”ประชาชาติทั้งหลายต่างยืนเคียงข้าง “มุญาฮิดีน(นักรบ) ชาวกาซ่า" ทุกๆรัฐบาลที่มีพฤติกรรมสวนทางกับความต้องการของประชาชนนั้น เท่ากับกำลังสร้างช่องว่างให้เกิดขึ้นระหว่างตน และประชาชนของตัวเอง ชะตากรรมของรัฐบาลที่มีพฤติกรรมเช่นนี้นัั้นชัดเจนยิ่ง. มาตรว่าผู้ปกครองเหล่านั้น คำนึงถึงชีวิตและศักดิ์ศรีของตน ก็จงรำลึกถึงวจนะจากท่านอมีรุลมุอ์มินีน อาลัยฮิสลาม ที่ได้กล่าวว่า ::المَوتُ في حَياتِكُم مَقهورين وَ الحَياةُ في مَوتِكم قاهِرين ::“ความตายที่แท้จริงคือการที่ท่านมีชีวิตอยู่อย่างผู้แพ้ และการมีชีวิตที่แท้จริงคือการที่ท่านตายอย่างผู้มีชัย”ข้าพเจ้าขอ สรรเสริญพวกท่าน บรรดานักต่อสู้ชาวกาซ่า, และประชาชนผู้ถูกกดขี่, ตลอดจนการยืนหยัดต่อสู้ของพวกท่านทุกคน . สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านจะให้การสนับสนุนต่อท่าน และถือว่าสิ่งนี้ คือหน้าที่ของเรา, ข้าพเจ้าจะวิงวอนขอพรให้ท่านทั้งในยามกลางวันและในยามกลางคืน, ขออัลลอฮฺ ผู้ทรงเกรียงไกร ผู้ทรงมหิทธานุภาพ ทรงประทานความอดทน และการช่วยเหลือแด่ท่านทั้งหลายด้วยเถิด.و السلام عليكم و علي عباد الله الصالحين و رحمة الله و بركاته“ขออัลลอฮฺทรงประทานความสันติ ความการุณย์ และความจำเริญ แด่ท่านและปวงบ่าวผู้เป็นกัลยาณชนของพระองค์ด้วยเถิด”ซัยยิดอาลี ฮูซัยนี คาเมเนอี15/1/ 2009 / 18/1/1430
- การปกป้องพิทักษ์รักษาโดยอำนาจจากอิสลามเหตุการณ์อันโหดร้ายและป่าเถื่อน ที่เกิดขึ้นตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในฉนวนกาซ่า ได้ทำให้มนุษยชาติรู้ถึงความโหดร้ายที่แท้จริงของลัทธิยิวไซออนิสต์ และเป็นการปลุกจิตใต้สำนึกของโลกอิสลาม การขับเคลื่อนอันยิ่งใหญ่ของขบวนประชาชนนั้น ได้ชุบชีวิตใหม่แก่โลกอิสลามขึ้นมาอีกครั้ง. ศัตรูจะไม่อยู่นิ่งเฉย เพราะการเคลื่อนไหวมีหลายนัยที่ซ่อนเร้นและแอบแฝงอยู่ ประการแรกกล่าวคือ ความโหดเหี้ยมของลัทธิไซออนิสต์ และความป่าเถื่อน, ไม่มีสามัญสำนึกและมโนธรรมในความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่เลย, มุ่งเป้าโจมตีทางการทหารต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ไม่ได้เป็นทหาร , เป็นสิ่งที่น่าฉงนใจเป็นอย่างยิ่งว่า ความมีมนุษยธรรมของพวกเขาไปอยู่ไหนกัน แม้แต่กลิ่นไอแห่งความเป็นมนุษย์ในหมู่พวกเขาก็ยังไม่หลงเหลืออยู่ . พวกเขาต่อต้านอิสลาม ต่อต้านระบอบการปกครองแบบอิสลาม ในขณะที่พวกเขาแอบอ้างว่า ต้องการรัฐอิสลามในโลก, กลุ่มชนที่แม้แต่กลิ่นไอแห่งความเป็นมนุษย์ยังไม่หลงเหลืออยู่นั้น คือมิติหนึ่ง ที่สำคัญต่อปัญหาของประเด็นนี้.มิติถัดไป คือการที่ผู้ปกครองของชาติมหาอำนาจ ต่างได้ปฏิบัติกับเหตุการณ์นี้อย่างน่าประหลาดใจเกี่ยวกับประเด็นนี้ กล่าวคือ ไม่มีแม้แต่การแสดงความไม่พอใจหรือ กำหนดบทลงโทษ หรือดำเนินการจับกุม มิหนำซ้ำพวกเขายังให้การสนับสนุนและสรรเสริญเยินยอต่อลัทธิไซออนิสต์หัวใจสุนัข และโหดร้ายยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน, อเมริกา อังกฤษและฝรั่งเศสคือผู้สนับสนุน นี่คือภาพลักษณ์ของผู้ปกครองชาติมหาอำนาจ. อิสลามถือว่า ไม่มีมนุษย์จำพวกไหนที่ได้สร้างความเคียดแค้นและเป็นศัตรูที่ฝังลึกในใจพวกเขา เทียบเท่ากับคนจำพวกนี้. พวกเขาได้ให้การสนับสนุนต่อเหตการณ์นี้ เราจึงเข้าใจว่า ศีลธรรม, จริยธรรม และความเป็นมนุษย์ของชาติมหาอำนาจคือสิ่งใดจากเหตุการณ์ในครั้งนี้. พวกเขาไม่ได้มีมนุษยธรรมใดๆ สาเหตุที่พวกเขาออกมาสนับสนุน ก็เพราะผลประโยขน์ทางการเมือง และความเสื่อมเสียทางด้านการเมืองที่จะเกิดขึ้น และทำไมพวกเขาจะต้องอ้างถึงสิทธิมนุษยชนด้วย ? สหรัฐอเมริกาไม่เพียงแต่ไม่ดำเนินการใดๆต่อโศกนาฏกรรมอันโหดร้ายและป่าเถื่อนนี้ เขายังให้การสนับสนุนอีก ยังมีสิทธิ์อันชอบธรรมอันใดอีกหรือ ที่จะพูดถึงคำว่าสิทธิมนุษยชนอีก ? ยังมีสิทธิอีกหรือที่จะกล่าวอ้างว่าตน คือผู้ตัดสินเรื่องสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลหรือของประชาชาติในโลก ? สิ่งนี้คือคำกล่าวที่หยาบคายคูณสอง. ทั้งฝรั่งเศสและอังกฤษ ต่างได้ฝากความชั่วของตน ต่อโลกอิสลามในอดีต ไม่ว่าในด้านอาชญกรรม หรือการสังหารประชาชนมุสลิม หรือแรงกดดันต่างๆ ที่มีต่อประชาชาติอิสลามในประเทศทั้งหลายนั้น ล้วนยังคงอยู่ในความทรงจำของประชาชาติอิสลาม แต่วันนี้ก็ยังถือวิสาสะออกมาให้การสนับสนุน รัฐเถื่อน ที่โหดร้ายยิ่งกว่าเดรัจฉานนามว่าไซออนิสต์อีกกระนั้นหรือ ?อีกนัยหนึ่งของประเด็นนี้ และนัยสุดท้ายคือ การปฏิบัติของบรรดาชาติอาหรับ ถือว่าไม่ถูกต้อง บ้างก็ยืนหยัดในคำกล่าวอ้างของตน บ้างก็แม้แต่การจะออกมากล่าวหรือประณามยังไม่มีเลย. บรรดาผู้ที่อ้างว่า เป็นอิสลาม หรือเชิญชวนให้มุสลิมมีเอกภาพต่อกันและกัน และเชิญชวนการชี้นำต่อโลก ที่จะต้องมาจากระบบอิสลาม ในสถานการณ์เช่นนี้ ท่านต้องแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา. การเมืองใดที่ส่งผลประโยชน์โดยตรงต่อท่าน ท่านจะรีบเร่งกระโดดสู่เวทีนั้น. แต่ปัจจุบันฝ่ายตรงกันข้ามท่าน คืออเมริกาและอังกฤษ แม้แต่การประณามที่ออกมาจากปากท่านยังไม่มี. หรืออ้างการสนับสนุนช่วยเหลือก็เป็นเพียงแค่ลมปาก ซึ่งส่ิงนี้ก็ไร้ค่าเช่นกัน. วันนี้โลกอิสลาม โดยเฉพาะชาติอาหรับต้องมีเอกภาพและความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวเพื่อร่วมกันช่วยเหลือประชาชาตินี้ ต้องทำลายการปิดล้อมของศัตรูและต้องช่วยเหลือในการปกป้องประชาชนผู้ถูกกดขี่ชาวกาซ่า.เอกองค์อัลลอฮ์ (ซบ) ทรงมอบโอกาสให้ชาวกาซ่าได้ลุกขึ้นต่อสู้ กับศัตรูที่เหี้ยมโหด และป่าเถื่อน และผลลัพธ์จากการยืนหยัดต่อสู้นี้คือ เกียรติยศและศักดิ์ศรีของชาวกาซ่า และยังแสดงให้เห็นว่า ความมั่นคงในการยืนหยัดต่อสู้ของคนจำนวนน้อยนั้น สามารถพิชิตชนกลุ่มมาก ที่เพรียบพร้อมด้วยอาวุทธุปกรณ์ที่ทันสมัยและได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจได้อย่างราบคาบ.วันนี้ ไซออนิสต์ผู้ที่ยึดครองแผ่นดินปาเลสไตน์นั้น หวาดผวาต่อเปลวเพลิงแห่งการต่อสู้ มากกว่าประชาชนชาวกาซ่าเสียอีก. อาชญากรรมที่พวกเขาได้สร้างมันขึ้นมา, ความโหดเหี้ยมและความชั่วช้าที่พวกเขาได้ทำลงไปนั้น ผลกระทบ มันได้ย้อนกลับไปยังพวกเขามากกว่า. สิ่งนี้มาจากยุทธวิธีเดียวคือ การยืนหยัดต่อสู้ของมุสลิมจำนวนหนึ่งในกาซ่า ที่มาจากประชาชนและเยาวชนคนหนุ่มสาว ส่ิงนี้คือสาส์นหนึ่งที่ส่งไปยังโลกอิสลาม ถ้าหากว่า โลกอิสลามไม่ต้องการพบกับความพ่ายแพ้จากศัตรูที่ชั่วช้า , ไร้มนุษยธรรม, หน้าตัวเมียแล้วไซร้ เขาต้องทำการปกป้องพิทักษ์รักษา จากความเข้มแข็งของตนที่มีอยู่อย่างสุดความสามารถ. โดยต้องสร้างความเข้มแข็งของตนเองให้เกิดขึ้นก่อน ทั้งความเข้มแข็งทางด้านจิตวิญญาณ หมายถึงการพัฒนาด้านความศรัทธา, และความเข้มแข็งทางด้านวัตถุ หมายถึงการพัฒนาทางวิชาการแห่งความรู้ , การมีอำนาจทางด้านวัตถุ, และการพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, พัฒนาการทางด้านการผลิต ทั้งอุปกรณ์ดำรงชีพของมนุษย์ อาวุธหรือสิ่งอื่น, สิ่งต่างๆเหล่านี้ โลกอิสลามต้องเตรียมพร้อมสำหรับตนเอง. ในวันนั้น จะไม่มีใครหาญกล้ากับพี่น้องชาวกาซ่าได้, บรรดาชะฮีด ผู้ที่ยอมเสียสละชีวิตตนเองเพื่อศาสนาได้สร้างความหวาดกลัวให้แก่ศัตรู ข้าพเจ้ากล่าวไปแล้วว่า ศัตรูหวาดผวาเปลวเพลิงแห่งการต่อสู้ มากกว่าประชาชนชาวกาซ่าเสียอีก เจ้าหน้าที่และประชาชนชาวกาซ่าได้ส่งออกบทเรียนนี้แก่โลกอิสลาม ซึ่งคือบทเรียนเดียวกันกับที่เราได้ผ่านมาแล้ว ในช่วงสงครามการพิทักษ์อันศักดิ์สิทธ์ิ (สงครามอ่าวเปอร์เซีย)ขอขอบคุณต่ออัลลอฮ์ (ซบ) ที่ทำให้ประชาชน, เยาวชน, นักวิชาการ,และผู้ที่ได้ผ่านประสบการณ์เหล่านี้ของเราได้มีพัฒนาการไปมากยิ่งขึ้น. เราได้พัฒนาด้านการศึกษา, เราได้พัฒนาในด้านประสบการณ์, เราเข้าใจถึงสัจธรรมแล้วว่า เราต้องพึ่งพาตนเองเพียงเท่านั้น เพราะสิ่งนี้คือบรูณาการแห่งการยืนหยัดต่อสู้.การปฐกถาของท่านผู้นำสูงสุดต่อบรรดาบาซีจญ์ (ทหารอาสาสมัคร)21/11/2012
-