ดาวน์โหลด:
เสียงเรียกร้องจากผู้นำ
- เสรีภาพ
- อิมามโคมัยนี
- อิมามโคมัยนี ผู้ถือธงอิสลามอันบริสุทธิ์ของศาสดามุฮัมหมัดวันนี้ยังคงมีอิสลาม ที่เป็นปรปักษ์กับผู้กดขี่ขมเหง วันนี้ยังมีอิสลามที่พร้อมจะทำการพิพากษาผู้ปล้นสะดมและนำความโสมมมาสู่สังคม อิสลามเช่นนี้ ต้องเตรียมพร้อมที่จะรับมือต่อการเป็นศัตรูกับเหล่าชาติมหาอำนาจ เฉกเช่นอเมริกาและไซออนิสต์ นักล่าอาณานิคมโลก รวมทั้งผู้ปกครองที่ชั่วช้าทั้งหลายของโลกปัจจุบัน.วันที่เรายืนตามหลังอิมามโคมัยนี ผู้ซึ่งเชิดชูธงอิสลามอันบริสุทธ์ิ และประกาศอิสลามที่แท้จริงไว้ในวันนั้น เราทราบดีว่า ศัตรูจะเรียงรายประจัญหน้ากับเรา เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในยุคต้นของอิสลาม ในวันนั้นยะฮูดี, มุนาฟิกีน(พวกกลับกลอก), และกาฟิรีน(ผู้ปฏิเสธ) รวมทั้งมุชริกีน(ผู้ตั้งภาคี) ได้ทำการล้อมเมืองมะดีนะฮ์ของท่านศาสดา(ศ็อลฯ) และก่อสงคราม คอนดั้ก และอะห์ซาบขึ้น บรรดาผู้ศรัทธาที่แท้จริงต่างกล่าวว่า:((นี้คือสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าและศาสนทูตของเราได้สัญญาไว้)) มันไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใด พระเจ้าของเรา ศาสดาของเรา ได้แจ้งไว้แล้วว่า คนชั่ว คนเลวจะร่วมมือกันเพื่อต่อต้านเรา ดังนั้นเมื่อพวกเขาพบว่าสิ่งที่พระองค์แจ้งไว้คือสัจธรรม อีหม่าน(ความศรัทธา)ของพวกเขาจึงแข็งเกร่งขึ้น.ที่ใดก็ตามเมื่ออิสลามที่แท้จริง ปรากฏขึ้นท่ามกลางอำนาจที่สกปรกและการต่อต้านของผู้ปฏิเสธนั้น เราจะพบว่า บรรดาศรัทธาชนผู้มีจิตใจอันบริสุทธ์ และมีจิตวิญญาณอันสูงส่ง จะให้การสนับสนุนและพยายามปกป้องแนวทางนี้อย่างสุดความสามารถ, ทำไมประชาชนจำนวนหลายสิบล้านคนต้องมารายล้อมร่างอันบริสุทธ์ิของท่านอิมามโคมัยนี และต่างแสดงอาการเสียใจด้วยการทุบอกตนเองเยี่ยงนั้น? ทำไมประชาชาติหลายร้อยล้านคนทั่วโลกต่างต้องไว้ทุกข์ไว้อาลัยให้กับการเสียชีวิตของคนๆหนึ่ง? ความรักที่พวกเขามีต่ออิมามของเราสืบเนื่องมาจากสาเหตุใด ? คำตอบคือ :เพราะอิสลาม ( ผู้คนจึงรักอิมามผู้แปล), ผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้ได้สอนเรา ทำให้เราเข้าใจ และเน้นย้ำเสมอว่า พระองค์จะทรงดึงดูดหัวใจทุกดวงให้สนใจต่อการปฏิวัติ, ต่อผู้นำและต่อประชาชาติอิหร่านเพียงเพราะ อิสลามอันบริสุทธิ์เท่านั้น.สิ่งที่ทำให้หัวใจและการก้าวเดินของพวกท่านมีพลัง จนสามารถผ่านหนทางอันยาวไกลมาได้จนถึงปัจจุบัน คืออิสลามอันบริสุทธ์ การปกป้องผู้ถูกกดขี่ และการไม่ร่วมมือกับพวกผู้กดขี่นั้นเอง อิสลามเช่นนี้ที่ดึงดูดและเป็นศูนย์รวมของหัวใจทั้งหลาย อิสลามเช่นนี้ ที่สร้างพลังอันยิ่งใหญ่ซึ่งไม่มีอำนาจใดสามารถทำลายได้ สิ่งนี้้คือรหัสลับที่แท้จริง ซึ่งเราทุกคนต้องทำความเข้าใจและย้ำเตือนตนเองอยู่ตลอดเวลา.ส่วนหนึ่งจากการปาฐกถาของผู้นำสูงสุด ในพิธีมอบสัตยาบัน( การให้บัยอัต )ของนักการศาสนาและข้าราชการ รวมทั้งประชาชนในแคว้น ฟารซ์ กัซวีน ตากิสถาน12/7/1989
- ความหวังอันยิ่งใหญ่ของอิมามโคมัยนีความหวังอันยิ่งใหญ่ที่อิมามเคยกล่าวไว้ คือ: การต่อสู้กับความอธรรมบนโลก, การรักษาความสมดุลอย่างแท้จริงต่อแนวทาง ((ไม่มีตะวันออก ไม่มีตะวันตก)), ความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงของประชาชนในทุกด้าน, การพึ่งพาตนเองของประเทศชาติอย่างสมบูรณ์, การดำรงรักษารากฐานของศาสนาและบทบัญญัตแห่งอิสลาม, การสร้างเอกภาพและความเป็นปึกแผ่น, การให้ความสนใจยังประชาชาติมุสลิมและผู้ถูกกดขี่ทั่วโลก, การสร้างเกียรติยศให้แก่อิสลามและไม่หวาดกลัวต่ออำนาจใดในโลก, การสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมอิสลาม, การให้การสนับสนุนโดยดุษณีต่อผู้ถูกกดขี่ ผู้ยากไร้และประชาชนชนชั้นล่างของสังคม, เราทุกคนประจักษ์แล้วว่าอิมามได้เดินตามอุดมการณ์ของตนอย่างไม่เฉไฉ เราจึงต้องเจริญรอยตามแนวทางและการปฏิบัติของท่านอย่างสมบูรณ์สืบไป.ส่วนหนึ่งจากการปาฐกถาผู้นำสูงสุดในพิธีมอบสัตยาบันของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี7/6/1989
- บทสรุปและบารอกัต(สิริมงคล)ที่ได้จากการเคลื่อนไหวของอิมามโคมัยนีท่านคือรูฮุลลอฮ์ ผู้ที่ทำการช่วยเหลือปลดปล่อยผู้ถูกกดขี่ ด้วยไม้เท้าและแสงแห่งหัตถาของมูซา และวาทกรรมอันจำแนกชั่วดีแห่งมุศฏอฟา ท่านได้เขย่าบัลลังค์ของฟิรอูนแห่งยุคสมัย และมอบแสงแห่งความหวังแก่ดวงตาของผู้ถูกกดขี่ทั้งหลาย, ท่านได้มอบเกียรติยศแก่มนุษยชาติ, มอบศักดิ์ศรีแก่ผู้ศรัทธา,มอบพลังอำนาจแก่มวลมุสลิม , มอบจิตวิญญาณแก่โลกแห่งวัตถุที่ไร้ซึ่งวิญญาณ, มอบการขับเคลื่อนแก่โลกอิสลาม และมอบความกล้าหาญและตำแหน่งชะฮาดัตแก่นักต่อสู้ในหนทางของพระองค์.ท่านได้ทำลายเจว็ด และขจัดปัดเป่าความเชื่อที่ปนเปื้อนกับการตั้งภาคี, ท่านได้ทำให้โลกประจักษ์ว่าการเป็นมนุษย์ผู้สมบูรณ์ ต้องใช้ชีวิตตามแบบฉบับของอาลี ( อ) การพัฒนาตนเองและย่างกายเข้าใกล้ชิดกับความบริสุทธิ์นั้น ไม่ใช่นิยาย ท่านทำให้ประชาชาติประจักษ์แล้วว่า การที่มนุษย์จะเป็นผู้เข้มแข็ง และจะสลัดตนเองจากพันธนาการ หรือต่อสู้กับผู้กดขี่ทั้งหลายนั้น ย่อมเป็นไปได้ทั้งสิ้น. ผู้มีบะศีเราะห์( การรู้เท่าทัน)ได้เห็นรัศมีแห่งความใกล้ชิดของท่านอิมามต่อพระผู้อภิบาล เจิดจรัสอยู่บนใบหน้าของท่าน และต่างได้สัมผัสความดีงามจากพระผู้อภิบาลที่หลั่งไหลมายังท่าน ทั้งช่วงที่ท่านมีชีวิตอยู่และช่วงเวลาที่ท่านจากไป ดุอาอ์ (ขอพร)ของท่านถูกตอบรับ ตามที่ท่านได้ขอไว้((الهي لم يزل برك علي ايام حياتي ،فلا تقطع برك عني في مماتي))โอ้พระผู้อภิบาลของข้าฯ โปรดอย่าทรงหยุดการประทานความสิริมงคลยามเมื่อข้าฯพระองค์ยังมีชีวิตอยู่ และทรงอย่าตัดการประทานความสิริมงคลนั้น ยามเมื่อข้าฯพระองค์ได้จากไปสาส์นถึงประชาชาติอิหร่านเนื่องในวันครบรอบสี่สิบวันการอสัญกรรมของอิมามโคมัยนี14/7/1989
- ผลงานอันยิ่งใหญ่ของอิมามโคมัยนีงานชิ้นแรกของท่านอิมามโคมัยนี “คือการชุบชีวิตอิสลาม” นับเป็นเวลาสองร้อยกว่าปีมาแล้วที่นักล่าอาณานิคมต่างใช้กลยุทธ์ทุกรูปแบบ ในการทำให้อิสลามถูกลบเลือนและถูกหลงลืมจากสังคม นายกรัฐมนตรีคนหนึ่งของอังกฤษ เคยประกาศต่อหน้านักการเมือง สมุนของนักล่าเมืองขึ้นในอดีตว่า เราต้องจำกัดบทบาทอิสลามให้แคบลงมากที่สุดในกลุ่มประเทศมุสลิม! จากอดีตจนถึงปัจจุบันเงินจำนวนมหาศาลถูกใช้จ่ายไปเพื่อทำลายอิสลามให้หายไปจากการดำรงชีวิตของผู้คนในลำดับแรก ต่อด้วยการทำให้อิสลามออกไปจากสติปัญญาความนึกคิดและการปฏิบัติตามของปัจเจกบุคคล เพราะพวกมันรู้ว่าศาสนานี้ เป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงต่อการปล้นสะดมของนักล่าอำนาจและนักล่าอาณานิคม อิมามโคมัยนีได้ชุบชีวิตอิสลามขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งและทำให้อิสลามกลับมามีบทบาทในด้านสติปัญญา การปฏิบัติตน รวมทั้งในเวทีการเมืองโลกด้วยเช่นกัน.ผลงานชิ้นที่สอง “การมอบจิตวิญญาณแห่งเกียรติยศแก่มวลมุสลิม” มิใช่เป็นแค่เกียรติยศที่ถูกกล่าวขานในด้านการวิเคราะห์, การอ้างอิงในระดับมหาวิทยาลัย, หรือการกล่าวถึงในบทบาท และรูปแบบการดำเนินชีวิตของประชาชนในสังคมเพียงเท่านั้น แต่ผลพวงของขบวนการอิมามโคมัยนีนั้น ทำให้มุสลิมทุกคนในทุกสถานที่บนโลกใบนี้มีเกียรติยศและศักดิ์ศรี.มุสลิมคนหนึ่งจากประเทศใหญ่ในโลก ซึ่งมีมุสลิมเป็นประชากรส่วนน้อย บอกกับข้าพเจ้าว่า “ก่อนการปฏิวัติ เราไม่เคยเปิดเผยความเป็นมุสลิมของตัวเอง ตามวัฒนธรรมประเพณีของประเทศนั้น ทุกคนต้องมีชื่อตามภาษาท้องถิ่น ถึงแม้นว่าบิดา มารดาเป็นมุสลิมได้ตั้งชื่ออิสลามให้บุตรของตนก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครกล้าเปิดเผยชื่อนั้น และรู้สึกเขินอายที่จะบอกชื่ออิสลามของตน แต่หลังจากการปฏิวัติอิสลามของพวกคุณ เรากล้าที่บอกชื่อมุสลิมอย่างภาคภูมิใจ หรือถ้ามีใครถามว่าเราเป็นใคร เราจะแนะนำตัวเองด้วยชื่ออิสลามด้วยความภาคภูมิใจยิ่ง”ดังนั้น ด้วยกับผลงานอันยิ่งใหญ่ของอิมามโคมัยนี ทำให้ประชาชาติอิสลามทั่วโลกรู้สึกมีเกียรติและมีความภาคภูมิใจในความเป็นมุสลิมของตนเอง.ผลงานชิ้นที่สาม อิมามโคมัยนีได้ทำให้มวลมุสลิมเข้าใจความหมายของคำว่า “ประชาชาติอิสลามที่แท้จริง” ซึ่งก่อนหน้านี้ ไม่ว่ามุสลิมจะอยู่ในมุมใดของโลก พวกเขามิเคยรับรู้ถึงความหมายของคำว่า ประชาชาติอิสลามหรือไม่เคยเห็นปรากฏอย่างเป็นรูปธรรมเกี่ยวกับคำๆนี้ แต่ในวันนี้ประชาชาติตั้งแต่ทวีปเอเชียจวบจนใจกลางทวีปแอฟริกา, อเมริกาและยุโรป รวมทั้งกลุ่มประเทศในตะวันออกกลางทั้งหมด ต่างรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของสังคมใหญ่ในโลกที่เรียกว่าประชาชาติอิสลาม อิมามคือผู้จุดประกายความรู้อย่างลึกซึ้งของ คำว่า การเป็นประชาชาติอิสลาม ซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดแห่งอาวุธในการปกป้องมวลมุสลิมจากน้ำมือของพวกอหังการ.ผลงานชิ้นที่สี่ การทำลายศูนย์รวมพลังอำนาจทั้งหมดของชาติมหาอำนาจในภูมิภาคตะวันออกกลางและของโลก โดยการโค้นล้มระบบการปกครองของชาห์ปาห์เลวี ซึ่งถือเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ถ้าเราจินตนาการถึงศักยภาพของอิหร่านในอดีต ที่เป็นฐานทัพใหญ่ของชาติมหาอำนาจประจำภูมิภาคนี้ ทั้งอ่าวเปอร์เซียและตะวันออกกลางอยู่ภายใต้ฐานทัพนี้ แต่มันต้องพังพินาศลงอย่างย่อยยับด้วยมือของอิมามโคมัยนี.ผลงานชิ้นที่ห้า จัดตั้งการปกครองตามแบบฉบับอิสลาม ทั้งมุสลิมและคนต่างศาสนิกไม่เคยคิดคาดฝันหรือคาดการณ์ว่าระบอบการปกครองแบบนี้จะถูกนำมาปฏิบัติใช้ให้เป็นรูปธรรมได้ อิมามโคมัยนี ทำให้ส่ิงนี้ซึ่งเหนือจิตนาการของทุกคนเป็นจริงปรากฏเป็นรูปธรรมที่สมบูรณ์ด้วยมุอ์ญิซาต(ปาฏิหาริย์)ของท่าน.ผลงานชิ้นที่หก การสร้างขบวนการแห่งอิสลาม ก่อนการปฏิวัติอิสลาม มีขบวนการเคลื่อนไหวมากมายจากกลุ่มชน และเยาวชน ที่ไม่พอใจต่อการปกครอง และเพื่อเรียกร้องเสรีภาพทั้งในประเทศอิสลามและในประเทศที่ไม่ใช่อิสลาม โดยที่พวกเขามีอุดมการณ์การเคลื่อนไหวแบบซ้ายจัด แต่หลังจากการปฏิวัติอิสลาม การเคลื่อนไหวของขบวนการเพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพเหล่านี้ ต่างเปลี่ยนรูปแบบไปตามแนวทางอิสลาม วันนี้ไม่ว่าในจุดใดของโลกที่มีการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านเผด็จการและเพื่ออิสรภาพ ต่างยึดแนวคิดตามแบบฉบับของอิสลามในการขับเคลื่อนทั้งสิ้น.ผลงานชิ้นที่เจ็ด การสร้างวิสัยทัศน์รูปแบบใหม่ต่อบทบัญญัติแห่งชีอะฮ์ บทบัญญัติของเรา มีรากฐานที่แข็งแกร่งและมั่นคงมาโดยตลอด บัญญัติแห่งชีอะฮ์เป็นหนึ่งในมวลบทบัญญัติ ที่มีหลักฐานและรากฐานแก่นแท้ อันมั่นคง ท่านอิมามผู้เป็นที่รักของเราได้ทำให้ฟิกฮฺ (ศาสนบัญญัติ)อันมั่นคงนี้เป็นที่รู้จักในเวทีโลกอย่างกว้างขวาง และท่านยังได้สร้างความกระจ่างให้แก่เราเกี่ยวกับบัญญัติบางประการ ที่เราไม่เคยทราบมาก่อน.ผลงานชิ้นที่เเปด การทำลายความเชื่อผิดๆของผู้ปกครองทั้งหลาย ในด้านจริยธรรมส่วนตัวของพวกเขาเป็นที่ยอมรับในโลกว่า ผู้ใดที่อยู่ในตำแหน่งระดับสูงของสังคมจะต้องมีคุณลักษณะโดดเด่น เช่น เย่อหยิ่ง ทนงตน ใช้ชีวิตความเป็นอยู่อย่างสะดวกสบาย และฟุ่มเฟือย หรูหรา เห็นแก่ตน ถือความคิดของตนเป็นใหญ่ และอื่นๆ แม้กระทั้งในประเทศที่เคยทำการการปฏิวัติมาก็มีให้เห็น บรรดานักปฏิวัติหลายคน ที่เคยใช้ชีวิตการต่อสู้ของตนในเต๊นท์บ้าง หลบซ่อนตัวอยู่ในหลุมบ้าง หลังจากได้รับตำแหน่งอำนาจการปกครอง สภาพการดำรงชีวิตและจริยธรรมอันดีงามของพวกเขาก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย เฉกเช่นกับบรรดาผู้ปกครองคนอื่นๆบนโลกใบนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราพบเห็นอย่างใกล้ชิด จึงไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่สำหรับประชาชน.อิมามของเราได้เปลี่ยนแปลงและลบล้างความเชื่อเหล่านี้ ท่านได้แสดงให้เห็นว่าผู้นำที่เป็นที่รักของประชาชนและประชาชาติอิสลามบนโลก สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างสมถะ สามารถต้อนรับผู้มาเยี่ยมเยือนได้ในฮูซัยนียะห์ แทนที่จะเป็นพระราชวังหลังใหญ่ และสามารถพูดคุยพบปะกับประชาชนได้ด้วยอาภรณ์ ภาษา และกริยาตามแบบฉบับของอัมบียา.หากหัวใจของบรรดาผู้ปกครองทั้งหลายได้รับรัศมีแห่งสัจธรรมแล้วไซร้ ความหรูหรา ความอหังการ ความฟุ่มเฟือยเหล่านี้ จะไม่เป็นส่วนหนึ่งของวิธีการปกครองของพวกเขาเลย ดังนั้น หนึ่งในมุอฺญิซาตของท่านอิมามคือ รัศมีแห่งสัจธรรมและมะอฺริฟัต (การรู้จักอย่างแจ่มแจ้ง) ได้เจิดจรัสในชีวิตการเป็นอยู่และอุดมการณ์ที่ท่านได้สร้างไว้.ผลงานชิ้นที่เก้า การปลุกจิตวิญญานแห่งศักดิ์ศรี,ความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชาติอิหร่าน พี่น้องที่รักทั้งหลาย! รัฐแห่งมาร ได้ทำให้เราเป็นประชาชาติที่ไร้ความสามารถและอ่อนแอ มาเป็นเวลานาน เราซึ่งเป็น ประชาชาติที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสามารถ และมีคุณสมบัติพิเศษอันโดดเด่น ซึ่งมีผลงานอันเป็นที่ภาคภูมิใจทั้งทางด้านวิชาการและการเมือง ตลอดหน้าประวัติศาสตร์อิสลาม.อำนาจของต่างชาติ นับตั้งแต่อังกฤษ รัสเซีย และประเทศต่างๆในยุโรป ตลอดจน อเมริกา ได้เคยดูถูกความสามารถของเรา และประชาชาติของเราก็เคยหลงเชื่อเช่นนั้น ว่าพวกเขาไม่มีความสามารถที่จะทำงานชิ้นใหญ่ได้ ไม่สามารถสร้างหรือประดิษฐ์ สิ่งใดได้ และต้องคอยให้ประเทศอื่นเป็นนายนำตน ข่มเหงตน! ดังนั้น พวกเขาได้ฆ่าจิตวิญญาณแห่งศักดิ์ศรี และความภาคภูมิใจไปจากประชาชาติของเราแล้ว แต่ท่านอิมาม ได้ปลุกและชุบชีวิตจิตวิญญาณเหล่านี้แก่ประชาชาติอิหร่านอีกครั้ง.ในขณะที่ประชาชนของเรา มีความรู้สึกที่ปราศจากความเย่อหยิ่ง และชาตินิยม ตามที่ระบอบชาห์ปาห์เลวีได้หว่านความคิดชั่วนี้ไว้ แต่พวกเขากลับรู้สึกมีเกียรติและเข้มแข็ง วันนี้ประชาชาติของเราไม่เกรงกลัวต่อการร่วมมือกันระหว่างตะวันออกและตะวันตก ไม่เกรงกลัวมาตรการคว่ำบาตร และไม่รู้สึกอ่อนแอไร้ความสามารถอีกต่อไป เยาวชนคนหนุ่มสาวของเรารู้สึกว่า พวกเขาสามารถสร้างประเทศชาติของตนเองได้ด้วยน้ำมือของพวกเขา ประชาชนของเรารู้สึกว่าพวกเขาสามารถยืนหยัด ต่อสู่้จากการให้ร้ายต่างๆที่มาจากชาติตะวันตกและชาติตะวันออก ซึ่งอิมามโคมัยนีคือผู้ชุบชีวิตจิตวิญญาณแห่งความเชื่อมั่นนี้ ให้แก่ประชาชาติของเรา.และผลงานชิ้นที่สิบของท่านอิมามโคมัยนี คือ การที่ท่านได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ((ไม่เอาทั้งตะวันออกและไม่เอาทั้งตะวันตก)) เป็นไปได้ ผู้คนคิดว่า ถ้าไม่พึ่งพิงตะวันตก ก็ต้องพึ่งพิงตะวันออก และต้องอยู่ภายใต้อำนาจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแล้วสรรเสริญพวกเขา พวกเขาคิดไม่ถึงว่า ประชาชาติหนึ่งจะสามารถปฏิเสธได้ทั้งตะวันตก และทั้งตะวันออก โดยที่ยืนหยัดอยู่จนสามารถสร้างรากฐานที่เเข็งเกร่งมั่งคงให้กับตนเองได้ และอิมามโคมัยนีคือผู้พิสูจน์สิ่งนี้ให้ประจักษ์.บางส่วนจากคุฏบะห์ในนมาซวันศุกร์14/7/1989
- รัฐอิสลามแห่งอิหร่าน, ศูนย์กลางการเคลื่อนไหวอันยิ่งใหญ่ของประชาชาติอิสลามในโลกนี้อิมามโคมัยนีคือ พลังและเกียรติยศของบรรดามุสลิมวันนี้ข้าพเจ้าขอกล่าวถึงสัจธรรมอันกระจ่างแจ้งบางประการ และขอสรุปให้ประชาชาติอิหร่าน ตลอดจนประชาชาติมุสลิมทั่วโลกได้รับทราบว่า..สัจธรรมข้อที่หนึ่ง ไม่มีผู้ใดปฏิเสธได้ว่า อิมามคือผู้มอบพลังและเกียรติยศศักดิ์ศรี แก่อิสลามและมวลมุสลิม ศัตรูอิสลามต้องการอิสลามที่อ่อนแอ พวกเขาพยายามทำให้อิสลามหลุดจากการมีบทบาทในเวทีต่างๆ และถูกลืมเลือนไปจากสติปัญญาของมวลมุสลิมเอง นับประสาอะไรกับสติปัญญาของผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม และเป็นที่น่าเสียใจที่พวกเขาสามารถประสพความสำเร็จได้ในระดับหนึ่ง ในแผนการอันสกปรกนี้มีพวกรัฐปกครองอันชั่วช้า ที่ขึ้นตรงกับมหาอำนาจ ได้ให้ความร่วมมือกันอย่างแนบแน่นสมบูรณ์แบบต่อการเป็นศัตรูกับโลกอิสลาม.อิมามผู้ยิ่งใหญ่ ได้ปลุกจิตวิญญาณมวลมุสลิมและได้ชุบชีวิตอิสลามขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง จากการปฎิวัติครั้งนี้ จนวันนี้อิสลามกลายเป็นความหวังของบรรดาเยาวชนรุ่นหลัง และบรรดานักต่อสู้ รวมทั้งผู้มีวิสัยทัศน์อันกว้างไกล. เช่นปาเลสไตน์ที่รักของเรา หลายปีที่ผ่านมาพวกเขาได้ต่อสู้ในนามของ ปาเลสไตน์ แต่ต้องพบกับความผิดหวังและล้มเหลว แต่ในวันนี้ ปาเลสไตน์ต่อสู้และยืนหยัดในนามของ อิสลาม. ดังนั้นขบวนการต่อสู้ในนามองค์กรอิสระบ้าง กลุ่มคนหรือกลุ่มบุคคลบ้างในอดีต จึงเปลี่ยนแปลงมาเป็นการต่อสู้ของประชาชน ซึ่งการต่อสู้ในลักษณะนี้ จะไม่มีวันพบกับความพ่ายแพ้อย่างแน่นอน หากการยืนหยัดต่อสู้ของประชาชนดำเนินต่อไปเช่นนี้ พวกเขาจะพบกับชัยชนะอย่างแน่นอน และสิ่งนี้คือผลพวงจากความบารอกัต(สิริมงคล)ของอิสลาม ที่ท่านอิมามได้ปลุกจิตสำนึกประชาชาติอิสลามให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง.ประเทศมุสลิมแถบแอฟริกาเหนือในวันนี้ มีการต่อสู้ของขบวนการอิสลามเกิดขึ้นในนามอิสลาม เพื่อเรียกร้องระบอบการปกครองแบบอิสลาม การต่อสู้ของพวกเขาก็พัฒนาไปไกลในระดับหนึ่ง ซึ่งไม่มีใครเคยคาดคิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นได้ มวลมุสลิมได้ตื่นขึ้นแล้ว. ส่วนบรรดามุสลิมส่วนน้อยที่ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศแถบยุโรปหรือประเทศอื่นๆ ที่อยู่ภายใต้การปกครองของผู้ปฏิเสธหรือไร้ศาสนา พวกเขาก็ยังคงรู้สึกถึงตัวตนแห่งการเป็นมุสลิมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทั้งหมดเป็นผลพวงมาจากการเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่ของท่านอิมามโคมัยนีทั้งสิ้น.
- บะศีเราะห์(การรู้เท่าทัน)และความอดทนในการต่อสู้ คือที่มาของความสำเร็จของอิมามโคมัยนีและประชาชาติสัจธรรมข้อที่สองที่ทำให้อิมามและประชาชาติผู้กล้าหาญประสพความสำเร็จได้ในหนทางนี้คือ บะศีเราะห์และความอดทน การยืนหยัดพร้อมกับบะศีเราะห์ตามคำกล่าวของอะมีรุ้ลมุอฺมินีน(อ)ที่ท่านได้กล่าวว่า: ولا يحمل هذا العلم الا اهل البصر والصبر :"และพวกเขาจะไม่ได้ครอบครองความรู้นี้ เว้นแต่กลุ่มชนที่ซึ่งมีบะศีเราะห์และความอดทน"สาเหตุที่ต้องใช้สองสิ่งนี้ในการต่อสู้ก็คือ ทุกวันนี้ เราไม่ได้ต่อสู้กับผู้ปฏิเสธ (กุฟร์)หรือผู้ตั้งภาคี(ชิริก) ที่เปิดเผยตนเองอย่างชัดแจ้งเพื่อกำหนดการแบ่งแยกทางความขัดแย้งเท่านั้น.. แต่วันนี้เราต้องต่อสู้กับ พวกกลับกลอก, ตีสองหน้า, หลอกลวง, โกหก, ที่พวกมหาอำนาจได้ป่าวประกาศก้องไปทั่วทุกมุมโลก มีการโกหกโดยอ้างถึงสิทธิมนุษยชน มีการโกหกโดยอ้างถึงอิสลาม อิสลามที่เป็นไปตามความต้องการของเผด็จการ มีการโกหกโดยอ้างความเสมอภาคและความเท่าเทียมกันของมนุษยชาติ ดังนั้นการต่อสู้ในยุคนี้ นับเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากยิ่งนัก เนื่องจากพลังอำนาจมืดของชาติมหาอำนาจ กอปรกับอำนาจจากการโฆษณาชวนเชื่ออันมดเท็จของพวกเขา.มนุษย์ที่ไม่มีบะศีเราะห์จะถูกล่อลวงได้ง่าย ซึ่งในวันนี้ก็มีให้เห็น บุคคลที่มีจิตใจงดงามถูกหลอกลวงโดยการโฆษณาชวนเชื่อของพวกเขา จนไม่สามารถแยกแยะมิตรออกจากศัตรูได้. ประเทศอิหร่านของเรา ท่านอิมามบรรลุเป้าหมายได้ด้วยกับความสิริมงคล(บะรอกัต)ของบะศีเราะห์ ที่ควบคู่ไปกับความอดทนของประชาชน ซึ่งท่านเป็นผู้ทำให้สองคุณสมบัตินี้เกิดขึ้นในตัวของประชาชน ที่ใดก็ตามที่มีการต่อสู้ มีการเคลื่อนไหว มักจะมีผู้ใจบุญที่คิดอยากช่วยเหลือและให้การสนับสนุนประชาชน ขอให้พวกเขารู้ไว้ว่า การที่จะเดินเส้นทางนี้นั้นจะต้องมีบะศีเราะห์ ความเฉลียวฉลาดและความอดทน มิเช่นนั้นก็จะไม่สามารถก้าวผ่านพ้นไปได้.สัจธรรมข้อที่สาม คือ กลุ่มมุสลิมผู้ยากไร้และบรรดาผู้อ่อนแอ รวมทั้งพวกศัตรู ต่างรู้และเข้าใจแล้วว่า แกนนำหลักในการเคลื่อนไหวในการต่อสู้เพื่ออิสลามคือ รัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ฉะนั้น ประเด็นแรกคือ การเป็นศัตรูจากทั่วโลกจะมุ่งมาที่เรา ถึงแม้นว่าจะมีมธุรสวาจาที่ดูเป็นมิตรและอบอุ่น แต่เราก็สามารถรับรู้ถึงการเป็นศัตรูที่แอบแฝงอยู่ในวาจาเหล่านั้นได้ เราทราบเป็นอย่างดีว่าศัตรูเหล่านั้น มีความเคียดแค้นต่อรัฐอิสลาม, ประชาชาติ และอิมามของเรามากเพียงใด เป็นเพราะพวกเขารู้ว่าอิมามและแนวคิดของอิมามยังคงมีชีวิตอยู่ ความแค้นอันนี้จึงมิได้ลดน้อยถอยลงแม้แต่เศษเสี้ยวธุลี ถ้าหากพวกเขาคิดว่าท่านได้จากไปแล้วไซร้ พวกเขาจะไม่ตั้งตนเป็นศัตรูกับท่านและชื่อของท่านจวบจนปัจจุบัน.อิหร่านแห่งอิสลาม อิหร่านแห่งอิมาม อิหร่านแห่งการปฏิวัติ เป็นศูนย์กลางในการเคลื่อนไหวอันยิ่งใหญ่ของโลกอิสลาม ดังนั้นจึงเป็นเป้าหมายหลักของศัตรูในการโจมตีด้วยเช่นกัน. สิ่งนี้ได้สร้างความภาคภูมิใจให้เรามากกว่าที่จะทำให้เรารู้สึกหวาดกลัว และยังสร้างขวัญกำลังใจให้เราแทนที่จะทำให้เราตระหนกตกใจ เพราะสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า เรามีพลังอำนาจที่จะต่อต้านกับผลประโยชน์ของชาติมหาอำนาจ และพวกโจรที่ปล้นสะดมโลก และนับว่าเราคือเสียงขู่เสียงหนึ่งที่สร้างความหวาดกลัวให้ศัตรู ด้วยความเคียดแค้นของศัตรูทำให้เรามั่นใจว่า หนทางที่เราเลือกในการพัฒนาการปฏิวัตินี้ ทั้งการสร้างสรรค์ประเทศชาติและสังคมนั้นเป็นหนทางและวิธีการที่ถูกต้องแล้ว เพราะถ้าหากเรามาผิดทาง ศัตรูจะไม่แสดงการเป็นศัตรูกับเรามากถึงขนาดนี้.ในวันนี้การโฆษณาชวนเชื่อเพื่อทำลายเราในหลายรูปแบบ สื่อบางชนิดทั้งวิทยุและโทรทัศน์อาจไม่กล้าประณามเราอย่างเปิดเผยแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเป็นมิตรกับเรา แต่เป็นเพราะพวกเขารู้ว่า หากทำการประณามเราอย่างโจ่งแจ้งแล้ว จะทำให้หัวใจของประชากรโลกหันมาสนใจเรา ดังนั้นพวกเขาจึงใช้วิธีการ ใส่ร้ายและยัดเหยียดข้อกล่าวหาต่างๆนานา พวกเขาพยายามเสแสร้งเข้าใกล้เรา และสร้างภาพให้แก่ตนเองเพื่อให้เราตายใจหลงเชื่อว่าพวกเขานั้นหวังดี ทั้งหมดนี้คือแผนการชั่วร้ายและสกปรกของพวกเขาทั้งสิ้น.ส่วนหนึ่งจากการปาฐกถาของท่านผู้นำสูงสุดในงานครบรอบการอสัญกรรมปีที่ 2 ของท่านอิมามโคมัยนี4/6/1991
- อิมามโคมัยนีคือครูแห่งการปฏิวัติ ((เราทำได้))หลังจากการปฏิวัติ อิมามซึ่งเป็นอาจารย์ของเรา ท่านทำให้เราเข้าใจว่า เราสามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตนเอง พยายามได้ด้วยตนเอง สร้างได้ด้วยตนเอง และเราสามารถวางโครงสร้างและกฏเกณฑ์การผลิตในด้านต่างๆได้ด้วยตนเอง ซึ่งสิ่งนี้คือวัฒนธรรมของเรา และเราจะต้องนำอุดมการณ์เหล่านี้มาใช้ในการสร้างสรรค์ ซึ่งเราจะไม่หันหลังเพียงแค่มองดูความสามารถของผู้อื่นเพียงเท่านั้น, ใครมีสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นความรู้หรือสิ่งอำนวยความสะดวกหรือเทคโนโลยี หากสิ่งนั้นจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศเราเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายแล้วไซร้ เราจะไม่รีรอแม้แต่นาทีเดียว เราต้องนำสิ่งเหล่านี้มาเป็นเครื่องมือ เพื่อการพัฒนาความสามารถและใช้เป็นสะพานในการก้าวข้ามไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ สินค้าใดที่เราสามารถผลิตเองได้ในประเทศ เราควรเลือกใช้สิ่งนั้นมากกว่าสิ้นค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ สิ่งที่เราผลิตในประเทศได้ย่อมมีบะรอกัต( สิริมงคล ) มากกว่าและอาจมีประสิทธิภาพสูงกว่าสิ้นค้าที่นำเข้ามาด้วยซำ้ส่วนหนึ่งจากการปฐกถาของท่านผู้นำสูงสุดต่อรัฐมนตรีและคณะ ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงน้ำมัน3/12/1991
- ทักษะและความโดดเด่นของท่านอิมามโคมัยนีทักษะและความโดดเด่น และถือเป็นผลงานรับใช้อิสลามที่ยิ่งใหญ่ของท่านอิมามโคมัยนี กล่าวคือ ท่านได้นำอิสลามออกจากความโดดเดี่ยว เดียวดายในสังคม ประชาชาติมุสลิมเปรียบเสมือนคนแปลกหน้าถึงแม้นจะอยู่ในบ้าน ในเมืองของตนเองก็ตาม อิสลามโดดเดี่ยวแม้นแต่ในถิ่นฐานของตนเอง ศัตรูอิสลามได้ใช้กุศโลบายแห่งวัฒนธรรมที่โสมม และระบบการปกครองอันจอมปลอมเป็นเครื่องมือ ในการจองจำความคิดของประชาชาติอิสลาม สถานการณ์เช่นนี้เองที่ท่านอิมามโคมัยนี ผู้สืบเชื้อสายจากวงศ์วานของท่านศาสดา ได้ใช้มือที่ทรงพลังจากพระผู้เป็นเจ้า ขจัดปัดฝุ่นแห่งความโดดเดี่ยวเดียวดายออกจากใบหน้าของอิสลาม.ส่วนหนึ่งจากการปาฐกถาของท่านผู้นำสูงสุดต่อบรรดาแขกต่างประเทศกลุ่มแรกในการเข้าร่วมงานครบรอบการอสัญกรรมของท่านอิมามโคมัยนี5/6/1991
- อิสรภาพและประชาธิปไตยควบคู่ไปกับจิตวิญญาณและจริยธรรมอันประเสริฐความสามารถที่โดดเด่นของท่านอิมามกล่าวคือ ท่านได้วางรากฐานอันมั่นคงไว้ไห้กับการปฏิวัติ และสิ่งนี้จะเป็นเกราะป้องกันมิให้การปฏิวัตินี้ถูกย่อยสลายไปโดยอำนาจของใครหรือจากเหตุการณ์วุ่นวายต่างๆทางการเมือง สโลแกนที่ถูกประกาศว่า ((ไม่มีตะวันออกไม่มีตะวันตก มีเพียงรัฐอิสลามเท่านั้น,หรือเอกราช อิสรภาพ รัฐอิสลาม )) ท่านอิมามได้ชี้ลายแทงแห่งความยั่งยืนแก่ประชาชนว่า การปฏิวัตินี้ มาจากหลักการที่มั่นคง,เเข็งแกร่งและยั่งยืน โดยลบทฤษฎีหลักการจากค่ายสังคมนิยมอย่างตะวันออก และลบทฤษฎีจากค่ายเสรีนิยมอย่างตะวันตก ออกอย่างสิ้นเชิง ด้วยเหตุผลนี้ทำให้พวกตะวันออกและตะวันตกต่างตั้งตัวเป็นศัตรูกับการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน.การปฏิวัติถูกวางรากฐานโดยหลักการที่มั่นคง ซึ่งมีทั้งแบบแผนการปฏิบัติอย่างยุติธรรมและให้ความสำคัญกับอิสรภาพและเสรีภาพ และถือเป็นคุณค่าที่สำคัญยิ่งสำหรับประชาชาชนของประเทศ. การให้ความสำคัญต่อจิตวิญญาณและจริยธรรมอันประเสริฐนั้น หมายถึงองค์ประกอบหลักของการปฏิวัตินี้ ได้ถูกหล่อหล่อมด้วยเสียงเรียกร้องความยุติธรรมและอิสรภาพจากประชาชน ,การบริหารประชาชน, จิตวิญญาณและจริยธรรมอันประเสริฐ.ส่วนหนึ่งจากการปาฐกถาของท่านผู้นำสูงสุดต่อบรรดาผู้เข้าเยี่ยมสุสานท่านอิมามโคมัยนี4/2/2002
- อิมามโคมัยนีกับการฟื้นฟูสัจธรรมที่ถูกหลงลืมของอิสลามผลงานสำคัญระดับโลกของอิสลามที่ท่านอิมามโคมัยนีได้กระทำไว้ คือการฟื้นฟูอิสลามในแง่ของการเมืองและสังคม นับจากวันที่มหาอำนาจได้เข้าไปแทรกแซงในกลุ่มประเทศมุสลิม, พวกเขาพยายามที่จะลบและทำลายบทบาทของอิสลามในด้านการเมืองและสังคม และพยายามที่จะแยกเสียงเรียกร้องขอความยุติธรรม เสียงเรียกร้องเสรีภาพ และประชาธิปไตยให้ออกจากหน้าที่ของศาสนาอิสลาม เพื่อที่จะกระจายชัยชนะของตนเองให้แผ่คุลมไปถึงกลุ่มประเทศมุสลิม, พวกเขาจึงพยายามในการกีดกันอิสลามให้ออกจากการเมือง และพยายามขยายความคำว่าอิสลามหมายถึง “การยอมจำนนต่อเหตุการณ์ ยอมจำนนต่อการรุกราน และยอมจำนนต่อศัตรูผู้กดขี่ที่แข็งแกร่งกว่า” อิมามได้ฟื้นฟูสัจธรรมที่ถูกลืมเลือนของอิสลามขึ้นมาใหม่ ท่านได้ชูการเรียกร้องสู่ความยุติธรรมของอิสลามขึ้นอย่างโดดเด่น ท่านได้แสดงให้เห็นถึงการปฏิเสธของอิสลามต่อเรื่องการแบ่งชนชั้นระหว่างบุคคลและสังคม. เริ่มตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายของชีวิตท่าน อิมามได้กล่าวเน้นถึงบรรดากลุ่มชนผู้ยากไร้ และกลุ่มชนระดับล่าง. ตลอดระยะเวลา10ปีของการดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ท่านได้กำชับแก่บรรดาผู้บริหารระดับสูงของบ้านเมือง ให้ดูแลเอาใจใส่แด่ผู้ยากไร้อย่างจริงจัง ท่านกล่าวย้้ำเสมอว่า พวกคุณเป็นหนี้บุญคุณ คนยากคนจนเหล่านี้ โอ้พี่น้องที่รักทั้งหลาย! ประชาชาติที่ยิ่งใหญ่ชาวอิหร่านทั้งหลาย เราได้ยึดมั่นในคำสอนของอิมามโคมัยนี ในทุกโอกาสและทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการร่างกฎหมาย และกฎเกณฑ์ของชาติ หรือจะเป็นการแต่งตั้งโยกย้ายใดๆ เราปฏิบัติตามคำชี้แนะของท่านอิมามเสมอมา ชัยชนะจึงเป็นของเรา.สิ่งสำคัญที่อิมามได้ทำให้ประชาชน คือการตีความหมายของคำว่า ประชาธิปไตย แตกต่างไปจากการแสดงของตะวันตกที่มีต่อประชาธิปไตย. พวกตะวันตกพยายามสร้างภาพให้เห็นว่า ศาสนจักรและอาณาจักรไม่สอดคล้องกับเรื่องราวของศาสนา อิมามได้ทำลายความเชื่ออันนี้และนำเสนอ “รัฐอิสลาม” ให้แก่ชาวโลก และท่านไม่เพียงแต่ลั่นวาจาไว้เท่านั้น ท่านยังแสดงให้ประชาคมโลกได้ประจักษ์ด้วยสายตา.ส่วนหนึ่งจากการปาฐกถาของท่านผู้นำสงสุดในงานครบรอบการอสัญกรรมปีที่สิบสี่ของท่านอิมามโคมัยนี4/6/2003
- ภาระหน้าที่ของเราต่อแนวทางของท่านอิมามโคมัยนีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศัตรูได้รับจากการปฏิวัติอิสลามนี้ ทำให้พวกเขาจ้องรอโอกาสที่ประจวบเหมาะในการปฏิบัติแผนการอันชั่วช้าของตน พวกเขาต่างเฝ้ารอวันเวลาดังกล่าว เสมือนดั่งค้างคาวรอคอยแสงสุริยันให้ดับลง ด้วยเหตุนี้มาตรแม้นว่าบรรยากาศและสถานการณ์ของประเทศชาติในช่วงนี้ จะถูกห่อหุ้มด้วยความวุ่นวายที่ถูกสร้างขึ้นโดยพวกก่อฟิตนะฮฺ (การให้ร้าย) ทั้งจากภายในประเทศหรือนอกประเทศก็ตามแต่ เราต้องไม่เปิดโอกาสให้พวกเขา ได้เคลื่อนไหวใดๆ เพื่อเป็นการบ่อนทำลายระบอบอันศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสลาม ซึ่งเปรียบดั่งมรดกอันทรงคุณค่าจากผู้นำที่ล่วงลับและสุดที่รักของเรา การตื่นตัวและการมีความพร้อมต่อการเคลื่อนไหวต่างๆเหล่านี้เป็นหน้าที่ของทุกคนที่ควรปฏิบัติ.บรรดาศัตรูของการปฏิวัติอิสลาม ไม่เคยเลิกคิดค้นหาวิธีทำลายรัฐอิสลามแม้นแต่เสี้ยววินาทีเดียว และพวกเขาไม่เคยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงใดๆที่จะนำพาพวกเขาเข้าใกล้ชิดเป้าหมายนี้ ตราบใดที่ผู้บริหารรัฐอิสลาม ยังคงยึดมั่นต่อเกียรติยศของชาติ และหลักการของศาสนาอิสลาม ศัตรูจะล้มเลิกความคิดเช่นนี้ของตนเองในที่สุด แต่ก็ขึ้นอยู่กับความเมตตาและปรานีของพระองค์ และกฎเกณฑ์แห่งการสร้าง กอปรกับความตั้งมั่นและความพร้อมของประชาชาติ ที่จะทำให้แผนการและเล่ห์เหลี่ยมของศัตรูพบกับความล้มเหลว และจะเป็นเช่นนี้อย่างแน่นอนอินชาอัลลอฮ์ดังนั้น ข้าพเจ้าขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน และประชาชนทุกชนชั้นให้รู้ไว้ว่า การมีความพร้อมและการตื่นตัวต่อแผนการของศัตรูนั้นเป็นหน้าที่ของนักปฏิวัติทุกคน และให้ช่วยกันสืบเสาะเบาะแสแผนการร้ายของศัตรูที่แอบแฝงมา ตามเกมส์การเมืองบ้าง สื่อต่างๆบ้าง รวมทั้งการสร้างข่าวลือ และการกดดันทางด้านเศรฐกิจ และจงรู้ไว้เถิดว่าการตื่นตัวและความพร้อมของเราจะเป็นตัวสกัดกั้นแผนการชั่วร้ายของเหล่าศัตรูได้อย่างแน่นอน และชัยชนะจะเป็นของประชาชาติอิหร่าน.ดังที่ท่านอิมามได้เน้นย้ำไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า และท่านได้กำชับไว้ในพินัยกรรมทางการเมืองของท่านว่า เอกภาพ และความเป็นปึกแผ่นของประชาชาติของเรา คือรหัสลับสู่ชัยชนะของการปฏิวัติอิสลาม และจะเป็นรหัสลับของการรักษาไว้ซึ่งการปฏิวัติให้คงอยู่อย่างปลอดภัยด้วยเช่นกัน. การแบ่งแยกประชาชนให้ออกเป็นฝักฝ่าย การทำให้ข้อขัดแย้งเล็กๆน้อยๆกลายเป็นเรื่องใหญ่ การคล้อยตามความรู้สึกที่ไม่สอดคล้องกับสติปัญญา และการละทิ้งอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ของประชาชาติ รวมทั้งการลืมตระหนักถึงความร้ายกาจของศัตรู ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นโศกนาฏกรรมของประชาชาติที่คิดจะฟื้นฟูกับสิ่งที่สูญเสียไปแล้ว.ส่วนหนึ่งจากปาฐกถาของท่านผู้นำสูงสุดต่อประชาชาติอิหร่าน8/6/1989
- การซื่อสัตย์ต่อท่านอิมามโคมัยนีและการเคลื่อนไหวในแนวทางของท่านหากเรารักอิมามโคมัยนี ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นไม่มีใครสงสัยในความรักที่ประชาชาติอิหร่านมีต่อท่านอิมาม ดังนั้นเราจะต้องรักษาแนวทางและอุดมการณ์ของท่านให้คงอยู่ไว้ และเจริญรอยตามแนวทางนี้ โดยไม่ต้องสร้างอุดมการณ์หรือเป้าหมายใหม่ๆให้กับตัวเอง เพราะอุดมการณ์และเป้าหมายของอิมามนั้นชัดเจนและสมบูรณ์อยู่แล้ว.เมื่อพระองค์ทรงกำหนดให้บ่าวผู้ซอเเละห์ของพระองค์ มอบหมายภาระให้แก่ผู้อื่นในระหว่างทางของการทำงาน และทรงกำหนดให้เขากลับสู่ความเมตตาของพระองค์อย่างสงบ ดังนั้นเราจะไม่วางภาระหน้าที่อันนี้ไว้โดยไม่มีผู้แบกรับต่อ ทุกหน่วยงาน เล็กหรือใหญ่ ผู้บริหารในทุกๆภาคส่วน และทุกคนที่มีความรับผิดชอบ ต้องปฏิญาณตนว่า จะเจริญรอยตามแนวทางของอิมามโคมัยนีและเดินไปยังเป้าหมายที่อิมามโคมัยนีได้วางไว้ หากเป็นเช่นนี้ ความรักและความซื่อสัตย์ของเราที่มีต่ออิมามจึงจะเป็นสัจจริง แต่หากไม่ หมายถึงเราเดินตามแนวทางอื่น การร่ำให้และการทุบอกเพื่อแสดงการไว้อาลัยของเราต่อการจากไปของท่านก็ไร้ค่า ความรักความเคารพที่กล่าวขึ้น มันเป็นได้แค่เพียงลมปากเท่านัั้น ความซื่อสัตย์ของเราต่ออิมามโคมัยนีหมายถึง การเจริญรอยตามแนวทางและอุดมการณ์ของท่านอิมามอย่างมั่นคง.ส่วนหนึ่งจากการปาฐกถาของท่านผู้นำสูงสุดในพิธีมอบสัตยาบันของบรรดาผู้บังคับบัญชาและสมาชิกหน่วยงานการปฏิวัติอิสลาม8/6/1989
- พันธสัญญาที่เรามีต่อแนวทางของท่านอิมามโคมัยนีเรามีพันธสัญญาต่อพระองค์ ว่าจะเจริญรอยตามแนวทางของอิมามโคมัยนี ซึ่งเป็นแนวทางของอิสลามและอัลกุรอาน และเป็นแนวทางแห่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของมวลมุสลิม การเมืองของประโยค ไม่มีตะวันตกไม่มีตะวันออก ,การสนับสนุนผู้อ่อนแอและผู้ถูกกดขี่ ,การปกป้องเอกภาพและการเคลื่อนไหวของประชาชาติอิสลาม ,การต่อสู้เพื่อก่อตั้งเมืองแห่งอิสลาม ,การอาศัยความเสียสละของบรรดาชาวชนบท ,และการใช้ประโยชน์จากความสามารถทุกด้านเพื่อฟื้นฟูภายในประเทศ ทั้งหมดนี้คือแนวทางการเคลื่อนไหวของเรา ซึ่งมีเป้าหมายหลักคือ การชุบชีวิตอิสลามขึ้นมาใหม่ และการกลับคืนสู่คุณค่าแห่งอัลกุรอาน และเราจะไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว* ช่วงตอนหนึ่งจากคำบรรยายของผู้นำที่มีต่อบรรดาผู้แสวงบุญบัยตุ้ลลอฮิลฮะรอม(ฮุจญาจ)14/4/1368
- บทเรียนของท่านอิมามโคมัยนีต่อประชาชาติ(อุมมัต) “เชื่อมสัมพันธ์ต่อพระองค์, ความศรัทธาของประชาชาติต่ออิสลาม,และเอกภาพของประชาชาชน”หนึ่งจากคำสั่งเสียในพินัยกรรมของท่านอิมาม ที่เราไม่สามารถลืมเลือนได้คือ อิมามโคมัยนีได้กล่าวว่า “ สิ่งที่ช่วยให้การปฏิวัตินี้ประสบกับความสำเร็จ สิ่งนั้นก็จะช่วยให้การปฏิวัตินี้ดำรงยู่ต่อไปเช่นกัน” หมายถึง การมีความเชื่อมั่นอย่างแท้จริงต่อพระองค์ (ตะวั้กกัล), การศรัทธามั่นที่ประชาชนมีต่ออิสลาม การตัดสินใจอย่างมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ ที่มีต่อศาสนา, และการมีเอกภาพภายในสังคม ทั้งหมดล้วนเป็นรหัสลับแห่งความสำเร็จและความคงอยู่สืบไปของการปฏิวัตินี้ หนึ่งจากบทเรียนอมตะของท่านอิมามที่มีต่อเรา.วันนี้ เราได้เห็นว่า เอกภาพ และความสมานฉันท์ได้ปกคลุมประเทศของเรา ซึ่งนับว่าเป็นความยิ่งใหญ่ที่เราได้รับจากบะรอกัตจากท่านอิมาม ความบริสุทธิ์ใจ(อิคลาศ)ของบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้ ยังคงส่งอิทธิพลต่อสังคมของเรา ให้มีสัมพันธภาพอันแน่นแฟ้นต่อกัน ถึงแม้นท่านจะล่วงลับจากไปแล้วก็ตาม แต่ความรักใคร่สามัคคี และความกลมเกลียวกันระหว่างประชาชนและผู้บริหารประเทศชาตินั้นมิเคยจ่างหายไป จนประจักษ์ต่อสายตาชาวโลก และทำให้เหล่าศัตรูต้องพบกับความผิดหวัง.การปฏิวัติอิสลามของท่านอิมามโคมัยนี เมื่อปี1357 (1979) ยังคงมอบความสดใหม่ให้แก่การปฏิวัตินี้อยู่อย่างต่อเนื่อง ท่านทำให้การปฏิวัตินี้ผลิดอก ออกผล ด้วยกับความเมตตาของพระองค์ที่ทรงกำหนดให้อิมามโคมัยนีเป็นผู้นำมาซึ่งสิริมงคลเหล่านี้ เมื่อดวงวิญญาณของท่านล่วงลับไปแล้ว แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งบะรอกัต (ความสิริมงคล) อยู่ เป็นเหตุให้การปฏิวัติคงความสดใหม่ดุจดั่งวันแรกๆของมัน และเป็นที่น่าเกรงขามต่อชาวโลก จนทำให้ศัตรูต่างหวาดผวา.วันนี้เราสามารถพูดกับประชาคมโลกได้ในเรื่องอำนาจหรือความแข็งแกร่งของชาติ จะต้องไม่มีใครสามารถดูหมิ่นหรือลบหลู่เราได้ว่า สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านยังมีความอ่อนแออยู่ ด้วยความเมตตาของพระองค์ เราจะดำเนินกิจการงานภายในประเทศไปอย่างมั่นคงและเข้มแข็ง เราจะเพิ่มสัมพันธ์ภาพกับต่างชาติตามครรลองครองธรรมและความถูกต้องของหลักการอิสลาม และสัมพันธ์ภาพนั้นต้องนำอิสลาม, มุสลิม ,ประชาชาติอิหร่าน และการปฏิวัติอิสลามให้บรรลุถึงเป้าหมายเพียงเท่านั้น.ประโยคที่ท่านอิมามได้กล่าวเน้นย้ำแก่เราเสมอคือ “รหัสลับแห่งความสำเร็จของเราคือ เอกภาพและความเป็นปึกแผ่นของประชาชนในเวทีต่างๆ” หากมิใช่เพราะสองสิ่งนี้แล้วไซร้ ประชาชาติอิหร่านจะไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้เลยแม้แต่ก้าวเดียว ถ้าประชาชนเข้าใจถึงความหมายอย่างแท้จริงของรหัสลับสองสิ่งนี้และยึดมั่นไว้ พระองค์จะช่วยเหลือพวกเขาอย่างแน่นอน ตามสัญญาที่พระองค์ทรงให้ไว้((والذين جاهدوا فينا لنهدينهم سبلنا))، ((من كان الله كان الله ))"และบรรดาผู้ต่อสู้ในแนวทางของเรา แน่นอนเราจะนำทางพวกเขา สู่หนทางของเรา" ผู้ใดที่อยู่เพื่อพระองค์ พระองค์ก็จะอยู่กับเขา"อัลฮัมดุลิลลาฮ์ ( มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิแด่พระองค์) พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่กับประชาชาติอิหร่าน การมีอยู่ของบุรุษที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นทั้งผู้นำที่สมบูรณ์แบบและมนุษย์ที่สูงส่งจนเราไม่สามารถหาใครมาเปรียบเทียบท่านได้นั้น คือเนี๊ยะมัต (ความโปรดปราน) อันยิ่งใหญ่ของเราที่พระองค์ทรงประทานให้ วันนี้วาทกรรมคำสอนของท่านยังคงอยู่กับเรา และเราถือว่าสิ่งนี้คือความโปรดปรานอันยิ่งใหญ่เช่นเดียวกัน เพราะคำสั่งสอนจากพระผู้เป็นเจ้าและอัมบียาของพระองค์นั้นทรงคุณค่า เราจะต้องรู้คุณค่าและต้องปฏิบัติ.บางส่วนจากการปาฐกถาของท่านผู้นำสูงสุดในพิธีมอบสัตยาบันของนักการศาสนา,เจ้าหน้าที่และประชาชนของแคว้นคูซิซตาน12/7/1989
- ความจำเป็นในการไตร่ตรองและทบทวนจากบทเรียนต่างๆของท่านอิมามโคมัยนีหน้าที่อันสำคัญที่สุดสำหรับเรา ซึ่งถือว่าเป็นผู้ปฏิบัติตามและเป็นสหายของท่านอิมามโคมัยนีในวันนี้คือ การทบทวนบทเรียนที่สำคัญของท่านอิมามโคมัยนี บุคลิกภาพของผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ของการปฏิวัติ และความเจิดจรัสของท่านที่ทรงอิทธิพลไปทั่วทั้งโลก ล้วนแล้วแต่ปรากฏอยู่ในบทเรียนและวาทกรรมของท่าน เราทั้งหลายยังคงห่างไกลจากการที่เราจะกล่าวอ้างว่า ตนเองรู้จักท่านอิมามโคมัยนี ยังคงมีคุณสมบัติอันสูงส่งของท่านอีกมากมาย ที่เรายังไม่รู้จัก. เราที่เคยได้ใกล้ชิดและได้สัมผัสท่าน รวมทั้งบรรดาบุคคลที่มีโอกาสอยู่ในสถานการณ์ต่างๆกับท่านอย่างใกล้ชิด ก็ยังไม่สามารถที่จะรวบรวมคุณสมบัติต่างๆของท่านได้อย่างสมบูรณ์ เพราะการที่จะรวบรวมและวิจัยถึงบุคลิกภาพของบุรุษผู้สูงส่งผู้นี้ จำเป็นต้องใช้สติปัญญาความคิดและการใตร่ตรองเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากอย่างยิ่งสำหรับบุคคลร่วมสมัยกับท่านที่จะกระทำเช่นนี้ วาทกรรมของท่านคือบทเรียนสำหรับเราทุกคน และบทเรียน คือสิ่งที่อยู่คู่กับเรา การใตร่ตรองในบทเรียนต่างๆ ที่ท่านอิมามได้ฝากไว้ให้เรานั้น จะเป็นดัชนีชี้วัดในการรู้จักบุคลิกภาพในด้านต่างๆของท่านอิมาม บทเรียนเหล่านี้เป็นบทเรียนที่ไม่สามารถสรุปได้ในประโยคเพียงไม่กี่ประโยค แต่บทเรียนจะถูกนำไปใช้ในการแก้ใขปัญหาที่จะเกิดขึ้นในปัจจุบัน ประเทศและประชาชาติของเราตกอยู่ในสถานการณ์ท่ีโลกได้เป็นผู้กำหนดให้เรา บทเรียนคำสอนที่เราได้รับจากท่านอิมามในการแก้ใขปัญหาเช่นนี้ คือ การมีเอกภาพและความสมานฉันท์ของคนในชาติ วันนี้ประชาชาติอิหร่านมีความรักใคร่กลมเกลียวกัน มากกว่าในช่วงแรกๆของการปฏิวัติเสียอีก ซึ่งล้วนมาจากความบะรอกัตของท่านอิมามโคมัยนีทั้งสิ้นบางส่วนจากการปาฐกถาของท่านผู้นำสูงสุดในพิธีมอบสัตยาบันของนักการศาสนา และประชาชนเมืองซันจอน นะฮอวันด์และ.....15/4/1368 =6/7/1989
- สถาบันการเมืองของอิมามโคมัยนีข้าพเจ้าขอกล่าวว่า “สถาบันการเมืองของอิมามโคมัยนี” ไม่สามารถแยกออกจากคุณสมบัติและบุคลิกภาพของท่านได้ รหัสลับแห่งความสำเร็จของท่านอยู่ในสถาบันการเมืองที่ท่านได้นำเสนอไป และท่านสามารถทำให้มันปรากฏเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนในเชิงกระบวนการ และนำเสนอต่อสายตาชาวโลก. ถึงแม้นชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามครั้งนี้ มาจากการต่อสู้ของประชาชน และประชาชนได้แสดงศักยภาพและความสามารถของตนในการปฏิวัติครั้งนี้อย่างเต็มรูปแบบ แต่หากไร้ซึ่งนามของโคมัยนีและสถาบันการเมืองของท่าน การปฏิวัตินี้ก็ไม่สามารถยิ่งใหญ่ได้เช่นนี้. สถาบันการเมืองและแนวคิดของท่านอิมามโคมัยนีได้เปิดสนามแห่ง “การเมืองใหม่” อย่างกว้างขว้าง และสนามนี้กว้างขว้างยิ่งกว่าสนามแห่งการสร้างรัฐอิสลามเสียอีก. สถาบันและแนวคิดการเมืองของอิมามโคมัยนี ที่ท่านได้ต่อสู้และทุ่มเท และท่านได้นำเสนออย่างเป็นรูปธรรมนั้น ล้วนเป็นทฤษฎีและแนวทางที่ใหม่แก่ประชาคมโลก สถาบันและแนวคิดเช่นนี้เอง ที่สามารถตอบสนองความกระหายของประชาชาติได้ แนวคิดเช่นนี้จึงจะใหม่อยู่ตลอดและจะไม่มีวันเก่าลงได้ ผู้ใดก็ตามที่พยายามจะนำเสนอให้อิมามเป็นบุคคลประวัติศาสตร์หรือบุคคลในอดีตนั้น พวกเขาจะไม่มีวันประสพความสำเร็จในความพยายามของตน อิมามยังคงมีชีวิตอยู่ในแนวคิดและในสถาบันการเมืองของท่าน ตราบใดที่สถาบันการเมืองและแนวคิดนี้ยังคงอยู่ อิมามก็จะยังคงอยู่ในหมู่ประชาชาติอิสลาม และมวลมนุษยชาติด้วยเช่นกัน. สถาบันการเมืองและแนวคิดของท่านอิมาม มีความโดดเด่นอยู่หลายประการ ข้าพเจ้าจะขอหยิบยกบางประการมากล่าว หนึ่งในนั้นคือ จิตวิญญาณและการเมืองถูกรวมเข้าด้วยกัน ในสถาบันการเมืองของท่านอิมาม. สองสิ่งนี้จะไม่ถูกแยกออกจากกัน การเมืองและรหัสยะ, การเมืองและจริยธรรมอันประเสริฐ, และตัวท่านอิมามโคมัยนีเองคือรูปธรรมของทฤษฎีนี้ ท่านมีทั้งจิตวิญญาณที่สูงส่งและมีทั้งการเมืองควบคู่กัน สิ่งนี้คือแนวทางของท่าน แม้นกระทั้งการต่อสู้ในเวทีการเมือง ท่านก็ยังคงยึดมั่นในหลักการแห่งจิตวิญญาณของตน ทุกอริยาบถของท่านในการปฏิบัติทุกภารกิจล้วนเพื่อพระองค์ทั้งสิ้น. อิมามทรงเชื่อมั่นในพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าทั้งในรูปแบบห่งบทบัญญัติ (ตัชรีอี) และทั้งในรูปแบบแห่งการดลบันดาล(ตักวีนี) และอิมามทราบดีว่า ผู้ใดก็ตามที่ทำการเคลื่อนไหวเพื่อให้บทบัญญัติของพระองค์ถูกบังคับใช้ กฎเกณฑ์และระบบแห่งการสร้างทั้งหมดก็จะช่วยเหลือเขาเอง.อิมามมั่นใจอย่างแน่วแน่ว่า: ولله جنود السماوات والارض وكان الله عزيزا حكيما " และไพร่พลแห่งชั้นฟ้าและแผ่นดินเป็นของอัลลอฮ์ และพระองค์คือผู้ทรงรอบรู้และปรีชาญาณเสมอ" อิมามยึดมั่นในกฎเกณฑ์และบทบัญญัติของพระองค์ และใช้สิ่งนี้ในการขับเคลื่อนขบวนการต่อสู้ของท่าน ขบวนการเคลื่อนไหวและการต่อสู้ของท่านอิมามเพื่อให้ประชาชนและประเทศชาตินั้นพบกับความผาสุขที่จีรังบนพื้นฐานของอิสลาม และท่านถือว่าสิ่งนี้เป็นหน้าที่จากพระผู้เป็นเจ้า ด้วยกับอุดมการณ์เพื่อพระผู้อภิบาลที่ท่านอิมามให้ความสำคัญ จึงเปรียบเสมือนเป็นกุญแจสำคัญที่ได้ไขชัยชนะอันยิ่งใหญ่นี้ให้กับท่านและประชาชาติอิสลาม.ความโดดเด่นข้อที่สอง ท่านมีความเชื่อมั่นต่อบทบาทของประชาชน ในแนวคิดและสถาบันการเมืองของท่านถือว่าประชาชนทุกคนนั้นมีคุณค่าและมีความสูงส่ง ทั้งในด้านความเป็นมนุษย์และในด้านการกำหนดทิศทางต่างๆของสังคมและถือว่าสิ่งนี้คือคุณค่าที่ต้องสรรเสริญ พลังอำนาจของประชาชนมีบทบาทในการกำหนดชะตากรรมของสังคม กล่าวคือมติของประชาชนและสังคมนั้นเป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดโครงสร้างของระบอบการปกครองเพื่อประชาชนสู่ประชาชนบนพื้นฐานอิสลาม มิใช่ประชาธิปไตยอันจอมปลอมอย่างอเมริกาหรือพวกพ้องของเขา ที่เป็นเพียงแต่สโลแกนหลอกลวงประชาชน.ความโดดเด่นข้อที่สาม การทำให้เวทีโลกหันมาสนใจต่อแนวคิดและสถาบันการเมืองเช่นนี้ การนำเสนอทัศนะทางการเมืองของท่านอิมามมีมายังมนุษยทุกชาติพันธ์ุ มิได้จำกัดเฉพาะประชาชนชาวอิหร่านเพียงเท่านั้น แต่ประชาชาติอิหร่านได้รับฟัง ยืนหยัดและนำมันมาสู่การปฏิบัติ, ต่อสู้จนได้มาซึ่งเกียรติยศและความเป็นไทของตน ท่านอิมามต้องการส่งสาส์นนี้ให้แก่มนุษยชาติทั่วโลก แนวคิดและสถาบันการเมืองของอิมามต้องการมอบ ความเป็นอิสระ ศักดิ์ศรี และศรัทธา ให้แก่ประชาชาติอิสลาม รวมถึงเป็นสาส์นที่ส่งไปยังประชาคมโลกอีกด้วย ท่านมีความเชื่อว่า สิ่งนี้คือภาระหน้าที่ของมุสลิมคนหนึ่ง ความแตกต่างระหว่างแนวคิดของอิมามกับแนวคิดอื่นคือ แนวคิดนี้ไม่ต้องใช้ระเบิดรถถัง ลูกกระสุนหรืออาวุธใดๆในการเรียกร้องความสนใจจากผู้คน อเมริกาเชื่อว่าหน้าที่ตนต่อประชาคมโลกนั้นคือการขยายความคำว่าสิทธิมนุษยชน และประชาธิปไตย วิธีการขยายประชาธิปไตยของตนคือการใช้ระเบิดปรมาณูในฮิโรชิมา !และการใช้ระเบิด รถถัง การทำสงคราม และการทำรัฐประหาร เช่นในละตินอเมริกา และแอฟริกา! ปัจจุบันในตะวันออกกลาง ก็สามารถพบเห็นการเล่นตลก การหลอกลวง การกดขี่ และอาชญากรรมอย่างมากมาย พวกเขาต้องการขยายคำว่า สิทธิมนุษยชนและประกาศสาส์นของตนเองด้วยวิธีการเช่นนี้ !! ส่วนสถาบันการเมืองแห่งอิสลาม ได้ป่าวประกาศสาส์นของตน ดั่งเช่นสายลมพัดพากลิ่มหอมของดอกไม้ให้ตลบอบอวลต่อความหอมกรุ่นความโดดเด่นอีกข้อหนึ่ง ของแนวคิดและสถาบันการเมืองของอิมามโคมัยนี คือการปกป้องรักษาคุณค่าทั้งหลาย ซึ่งท่านอิมามได้กล่าวถึงอย่างชัดเจนในประเด็นของวิลายะตุลฟะกีฮฺ หลังจากการปฏิวัติอิสลามและการตั้งรัฐอิสลาม ขึ้นคนหลายกลุ่มพยายามนำเสนอประเด็นของวิลายะตุลฟะกิฮฺ ในรูปแบบที่ไม่ถูกต้อง เสียหาย และตรงข้ามกับความเป็นจริง การตีความที่บิดเบือนความจริง การโกหก การเรียกร้องในสิ่งที่ขัดกับระบอบการเมืองของอิสลาม และขัดกับแนวคิดทางการเมืองของท่านอิมาม จนเป็นเหตุให้ ศัตรูนำไปประกาศเพื่อโจมตีรัฐอิสลาม ซึ่งสิ่งนี้มีมาตั้งแต่ยุคแรกของการปฏิวัติ มิใช่เพิ่งเกิดในปัจจุบันนี้.:ประเด็นสุดท้ายที่จะขอนำเสนอ เกี่ยวกับความโดดเด่นของแนวคิดและสถาบันการเมืองของอิมามโคมัยนี คือ ความยุติธรรมในสังคม สิ่งที่สำคัญที่สุดในสถาบันการเมืองการปกครองของท่านอิมาม คือการรักษาความยุติธรรมต่อสังคม ในทุกๆกระบวนการการปกครอง ทั้งในการร่างกฏหมาย การบังคับใช้ การตัดสินความ จะต้องให้ความสำคัญและคำนึงถึงความยุติธรรมและการเติมเต็มช่องว่างความต่างของระดับชนชั้นในชาติเป็นหลัก.ส่วนหนึ่งจากการปาฐกถาของท่านผู้นำสูงสุดในงานครบรอบการอสัญกรรมปีที่15ของท่านอิมามโคมัยนี3/6/2004
-
- ฮัจญ์
- สถานะสตรีในสังคม
- ปาเลสไตน์