ดาวน์โหลด:
เสียงเรียกร้องจากผู้นำ
- เสรีภาพ
- อิมามโคมัยนี
- ฮัจญ์
- สถานะสตรีในสังคม
- สถานะสตรีในสังคมในฐานะที่สตรีเป็นชนส่วนมากของสังคม และเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความสำคัญในการกำหนดบทบาทต่อสังคม ซึ่งในอดีตสิ่งนี้ไม่เป็นที่ประจักษ์มากนัก. ตำแหน่งหน้าที่ หรือบทบาทใด ๆ ของสังคมในอดีต จะไม่ถูกมอบหมายให้กับบรรดาสตรี และเช่นเดียวกัน สตรีเองก็ไม่ได้สร้างบทบาทใด ๆ สำหรับตนเองเลยในสังคม. วันนี้ถ้าเราพิจารณาถึงสตรีตามชนบทหรือตามที่กันดาร พวกนางจะถือว่า บทบาทของนางคือผู้คอยรักษาการปฏิวัติและถือว่าพวกนางคือแนวร่วมและเป็นเจ้าของการปฏิวัตินี้. ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีความแตกต่างระหว่างสตรีเพศและบุรุษเพศ บางครั้งสตรีนั้นมีศรัทธาหรืออีหม่านที่แรงกล้าและมีวิสัยทัศน์ต่อสังคมที่แหลมคมมากกว่าบุรุษ และพวกนางถือว่าปัญหาบางประการของสังคมนั้น เป็นหน้าที่ของพวกนางในการแก้ใขด้วยซ้ำไป.ทัศนะของอิสลามที่มีต่อหญิง, ชาย และมนุษย์ทุกคนนั้น เป็นทัศนะที่อิงกับความเป็นจริง , ความต้องการ, ธรรมชาติและสัญชาตญาณที่แท้จริงของมนุษย์ หมายถึงอิสลามจะไม่ร้องขอสิ่งใดจากพวกเขา นอกเหนือไปจากสิ่งที่พวกเขาได้ถูกมอบไว้ให้ทั้งสิ้น เพราะทัศนะของอิสลามนั้น เป็นทัศนะตรงกับสติปัญญาและตรงตามหลักตรรกศาสตร์ทุกประการ.ในหน้าประวัติศาสตร์ เป็นที่น่าเศร้าใจเนื่องจากคุณค่าที่แท้จริงของเหล่าสตรีไม่เป็นที่รู้จักในสังคม ศักดิ์ศรี และเกียรติยศของพวกนาง ตกอยู่ภายใต้การกดขี่และความอธรรม และไม่ถูกพิทักษ์รักษาตามที่อิสลามต้องการจะให้เป็น.การสนับสนุนเชิญชวนสตรีสู่ความสวยความงามที่จอมปลอม ด้วยการแต่งสวยแต่งงาม ทำให้สถานะของพวกนางกลายเป็นสินค้าชนิดหนึ่ง สิ่งนี้คือความอธรรมที่ยิ่งใหญ่ซึ่งทำให้พวกนางลืมเป้าหมายอันสมบูรณ์ที่แท้จริงของตน และหมกมุ่นอยู่กับการงานที่เล็กและต่ำต้อย.แต่ทัศนะของอิสลามนั้น คือสิ่งที่สัมพันธ์กับสติปัญญาและเหมาะสมกับธรรมชาติ รวมทั้งสอดคล้องกับสัญชาตญาณของมนุษย์และบทบัญญัติต่างๆแห่งพระผู้เป็นเจ้า ก็สอดคล้องกับความต้องการของพวกนางด้วยเช่นเดียวกัน.ส่วนหนึ่งจากการปฐกถาของผู้นำสูงสุดต่อสมาชิกสภาด้านวัฒนธรรม, สังคมสตรี6/1/1991
- คุณค่าของสตรีในอิสลามปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นมาในเรื่อง ปัญหาสตรีในสังคมของมนุษยชาตินั้น เป็นดัชนีชี้วัดถึงการมีทัศนะที่บิดเบือนและหลงทาง และการไม่เข้าใจถึงปัญหาของมวลมนุษยชาติ. ในยุคปัจจุบัน ถึงแม้นจะมีการพัฒนาการเรื่องราวของสังคม และวัฒนธรรมอย่างกว้างขว้าง แต่มนุษย์ก็ยังคงไม่สามารถหาหนทางที่ถูกต้องตรงกับสัญชาตญาณและชัดเจนให้แก่สตรีและบุรุษเพศได้เลย. ด้วยเหตุนี้เรายังคงพบกับปัญหาต่าง ๆ เช่นการใช้ความรุนแรง,การล่วงละเมิด , การกดขี่ข่มเหง ,ความอธรรม ปัญหาทางด้านจิตใจ และปัญหาระหว่างหญิงและชายในสังคมปัจจุบัน เสมือนกับโรคร้ายที่แพร่เชื้อเข้าสู่มวลมนุษยชาติ.ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา สิทธิของสตรีได้ถูกมองข้ามไปโดยวัฒนธรรมของชาวยุโรป และ อเมริกา ในขณะเดียวกันการไร้ขอบเขตในเรื่องทางเพศถูกยกให้เป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับสตรีแทนที่ แนวคิดจักรวรรดิ์โรมัน ถูกนำเสนอเป็นอารยธรรมและวัฒนธรรมของชาวตะวันตกในวันนี้ แต่เราขอประณามว่า แนวคิดนี้คือการดูถูกเหยียดหยามและนำความต่ำต้อยมาสู่สตรี ชาวตะวันตกต้องการเพิ่มความโสมมสู่สตรีซึ่งดูเสมือนว่าสิ่งนั้น คือให้เกียรตินางหรือการให้นางมีตำแหน่งอันจอมปลอมในสังคม ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจยิ่งนักและถือเป็นการทำให้สตรีต่ำต้อยที่สุด.ปัญหาครอบครัวที่เกิดขึ้นอยู่ในวันนี้ ล้วนมาจากมุมมองที่ผิดพลาดต่อสตรี , ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างหญิง ชายหรืออื่นๆ แน่นอนหนทางแก้ไขที่ถูกต้อง ต้องมาจากสาส์นของพระองค์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวของสตรีและบุรุษเพียงเท่านั้น . อัลกุรอานอันจำเริญไม่เพียงแต่มีบทคำสอนสั่งเพียงอย่างเดียว แต่ยังนำเสนอแนวทางให้สตรีพร้อมกับแบบอย่างทั้งด้านการพัฒนาด้านจิตวิญญาณของสตรีให้ก้าวหน้า และแบบอย่างของสตรีที่สมบูรณ์เพื่อให้สตรีนั้น รู้จักตัวตนที่แท้จริงของนางได้เป็นดียิ่งขึ้น.ท่านศาสดา (ศ็อล) จึงจูบไปที่มือของท่านหญิงฟาฏฺิมะฮ์ด้วยความเชื่อที่ว่า นางคือมนุษย์ที่สมบูรณ์ และเราไม่ควรมองไปยังเรื่องนี้ว่าเป็นแค่เรื่องราวแห่งความรักระหว่างพ่อและลูกสาว แต่มันคือการให้เกียรติต่อสถานภาพของสตรีที่สมบูรณ์ , มุมมองของอิสลามต่อสตรี คือมุมมองที่มาจากความสมบุรณ์แบบทางด้านจิตวิญญาณและความเป็นมนุษย์ เช่นเดียวกันในการพิจารณาเรื่องของวัฒนธรรมและสังคม การอบรมสอนสั่งในวิชาการความรู้ของสตรีนั้น ควรมาจากบริบทของสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้น.คุณค่าของอิสลามจะต้องถูกชุบชีวิตขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งในสังคมของเรา อย่างเช่น เรื่องราวของฮิญาบซึ่งเป็นปัญหาที่ทรงคุณค่า ถึงแม้นว่าเรื่องราวของฮิญาบนั้นเป็นเพียงพื้นฐานของเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่กว่า แต่ตัวของฮิญาบเองนั้นก็มีคุณค่าที่สูงส่งอยู่ด้วยเช่นกัน. การที่เรายึดมั่นในฮิญาบ เพราะจะฮิญาบช่วยดูแลและรักษาสิทธิของสตรีเพศ และช่วยพลักดันให้นางเหล่านั้นพัฒนาตัวตนไปจนถึงระดับสูงสุดแห่งจิตวิญญาณ ทั้งยังคอยรักษาพวกนางในระหว่างทางเดิน ที่ต้องเผชิญกับเส้นทางที่ขรุขระ และเต็มไปด้วยภัยอันตรายให้ปลอดภัย การยึดมั่นในฮิญาบจะทำให้สตรีมีพัฒนาการในเรื่องจิตวิญญานและปลอดภัยจากการตกหลุ่มพรางที่รายล้อมอยู่ระหว่างเส้นทางของพวกนาง.เราต้องไม่ยอมให้การโฆษณาชวนเชื่อของชาติตะวันตกมีผลใด ๆ ต่อเรื่องราวของฮิญาบ และฮิญาบก็ไม่ได้ถูกเจาะจงเฉพาะชาโดร ( ผ้าคุลมสีดำผืนใหญ่ที่ปกคุลมทั้งตัว) แต่ชาโดรนั้นคือฮิญาบที่ดีที่สุด และเป็นสัญลักษณ์ของประเทศชาติเรา การใส่ชาโดรไม่ได้เป็นสิ่งสกัดกั้นการพัฒนาการใดๆทางสังคม การเมือง และวัฒนธรรมเลยแม้แต่น้อย.บรรดาสตรีที่มีจิตวิญาณอันทรงคุณค่าของเรา ต้องแสดงความสามารถของตนอย่างเต็มที่ ในแขนงวิชาการสาขาต่างๆและต้องเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งในการยกระดับความรู้และการศึกษาในวิชาการระดับสูง เพราะการตกอยู่ภายใต้เส้นทางที่หลงผิดและความโสมมนั้น ย่อมมาจากการห่างไกลจากวิชาความรู้ทั้งสิ้น.ครอบครัวคือรากฐานที่มาแห่งมนุษยธรรม และถูกตีกรอบโดยสตรี ครอบครัวคือจุดศูนย์กลางแห่งความอบอุ่น ความรัก และพัฒนาการด้านต่างๆ สตรีต้องใช้ทุกความสามารถและความเชี่ยวชาญในความรู้ที่ตนมีอยู่ ทำหน้าที่และกำหนดบทบาทที่สำคัญ ในฐานะหัวหน้าของสมาชิกในบ้านทั้งหมดให้สมบูรณ์.ส่วนหนึ่งจากการปฐกถาของผู้นำสูงสุดต่อสมาชิกสภาด้านวัฒนธรรม,สังคมสตรีและคณะกรรมการสัมนาฮิญาบอิสลามครั้งที่หนึ่ง25/12/1991
- ความประเสริฐ และคุณค่าอันสูงส่งของสตรีพฤติกรรมความประพฤษติของมนุษย์ ย่อมมีอิทธิพลอย่างมากต่อการแสดงออกถึงความประเสริฐ และ คุณค่าอันสูงส่ง ด้วยเหตุนี้มะอ์รีฟัต (การรู้จักพระเจ้า) และ ฮิกมะฮ์ ( วิทยปัญญา)ของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (ซ) จึงต้องมองย้อนกลับไปสู่การประพฤติปฏิบัติอย่างสมบูรณ์ของนางในวัยสาว. ท่านคือบุตรีของศาสนทูตแห่งพระองค์ที่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับบิดา , เป็นภรรยาที่คอยเสียสละเพื่อสามี และเป็นครูผู้อบรมที่ยิ่งใหญ่สำหรับบุตร และจากอ้อมอกเช่นนี้ จึงเป็นที่มาของบุคลิกภาพอันสูงสงของอิมามฮาซัน อิมามฮุเซน และท่านหญิงซัยหนับ. ท่านหญิงได้พัฒนาความศรัทธา, เพิ่มพูนมะอ์รีฟัตและการขัดเกลาจิตวิญญาณของตน ด้วยการประกอบอิบาดัต และได้เปิดหัวใจของตนต้อนรับแสงรัศมีจากพระผู้เป็นเจ้า. ท่านออกห่างจากพฤติกรรมของการโอ้อวด,การปรุงแต่งความงามด้วยเครื่องประดับของโลกแห่งวัตถุทั้งหมด นางคือแบบอย่างและเป็นแม่ทัพอิสลามของเหล่าบรรดานักรบ (มูญาฮีดีน) ทั้งในด้านการทำหน้าที่ปกป้องอิสลาม, ศาสดา, อิมามัต,และวิลายัต หรือการทำหน้าที่ภรรยาต่อสามีก็ตาม.สตรีมุสลิมต้องพยายามอยู่ในหนทางการแสวงหาวิชาความรู้ การขัดเกลาจิตวิญญาณและการพัฒนาจรรยามารยาทอิสลาม , อย่าได้ให้ความสำคัญกับการเสริมสวย และควรรักนวลสงวนตัว รักษาความบริสุทธิ์จากสายตาของชายแปลกหน้าให้มากที่สุด , นางต้องเป็นผู้สร้างความสงบสุขให้กับสามีและบุตรภายในบ้าน, และภายใต้ความอบอุ่นอันนี้ นางต้องเลี้ยงดูบุตรให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ มีจิตใจอันดีงาม และปราศจากความกดดันต่างๆทางด้านจิตใจ.ผู้ใดที่ยังอยู่ในโลกแห่งความโง่เขลา, หลับไหล และหลงทาง เขาจะยอมรับต่อวาทกรรมแอบอ้างของตะวันตก ที่กล่าวอ้างถึงสิทธิสตรีบ้างหรือสิทธิมนุษยชนบ้าง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาคือกลุ่มคนที่กดขี่สตรีเพศมากที่สุด บนเสโลแกนแห่งสิทธิสตรีนั้น พวกเขาได้ทำให้สตรีกลายเป็นแค่เพียงเครื่องบำเรอความสุขให้บุรุษเพศ . ในความเชื่อของเรา การกดขี่ที่เกิดขึ้นกับบรรดาสตรี ล้วนมาจากคำนิยามที่ถูกมอบให้โดยวัฒนธรรมตะวันตก ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในหน้าประวัติศาสตร์, การกดขี่ต่อสตรีเพศในสังคมยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นในปัจจุบัน ก็ล้วนมีที่มาจากอารยธรรมตะวันตก เรามีความเชื่อว่า คำกล่าวอ้างของตะวันตกในการหยิบยื่นเสรีภาพให้สตรีนั้น มันคือส่ิงตรงกันข้ามกับความเป็นจริง เพราะมันเป็นการให้เสรีภาพแก่บุรุษเพศมากกว่า ในการแสวงหาความสุขจากสตรีเพียงเท่านั้น.ชาวตะวันตกไม่เพียงแต่จะกดขี่สตรีในด้านการประกอบอาชีพและด้านอุตสาหกรรมเพียงเท่านั้น พวกเขายังกดขี่สตรีในเวทีศิลปะวัฒนธรรม, ภาพยนต์, จิตกรรมฝาผนัง หรืออื่นๆ สิ่งเหล่านี้คือข้อพิสูจน์การกดขี่ของพวกเขา. ชาวตะวันตกถือว่าสตรีเป็นเพียงแค่สินค้าชนิดหนึ่งที่เปลืองตัวและไร้ราคา มุมมองอิสลามถือว่าสิ่งเหล่านี้หาใช่คุณค่าสำหรับสตรีเพศไม่.อิสลามถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่สตรีคนหนึ่งต้องทำงานตามความสามารถของนาง หากการทำงานดังกล่าวปราศจากการรบกวนต่อหน้าที่ การเป็นผู้เลี้ยงดู และอบรมบุตรหรือการดูแลรักษาครอบครัว และงานนั้นต้องไม่ขัดกับคุณค่าทางด้านจิตวิญญาณและความเป็นมนุษย์ที่แท้จริงต่อนาง.เมื่อใดก็ตามที่สตรีให้ความสำคัญต่อสัญชาตญาณที่ประเสริฐ(ฟิฏเราะห์) และค้นพบตัวตนที่แท้จริงของนาง เราคงจะได้เห็นภาพแห่งความมหัศจรรย์อันยิ่งใหญ่ และพลังอำนาจอันล้นเหลือดังที่เคยปรากฏให้เห็นหลังจากการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน และยังคงเป็นพยานต่อความยิ่งใหญ่ของพลังอิสลามบนใบหน้าของเหล่าสตรีนักปฏิวัติอิหร่าน ด้วยกับการรักษาฮิญาบ การรักนวลสงวนตัว การดูแลบ้านและครอบครัว การเลี้ยงดูบุตรหลาน และการแสวงหาความรู้เป็นต้น.วันนี้ในประเทศของเรา มีแพทย์หญิงที่มีความเชี่ยวชาญ, มีบัณฑิตจากหลายแขนงสาขาวิชาความรู้ มีนักศึกษาที่เก่งและมีความสามารถ จนสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ และนำความภาคภูมิใจมาสู่สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านได้. ไม่มีสำนักหรือแนวคิดใดที่จะให้ความสูงส่งของคุณค่าความเป็นมนุษย์เท่ากับศาสนาอิสลาม การให้เกียรติต่อเพื่อนมนุษย์ และการเคารพในเรื่องสิทธิมนุษยชนคือหนึ่งจากหลักการสำคัญของศาสนาอิสลาม.สิทธิของมนุษยชาติจะถูกรักษาไว้ภายใต้บทบัญญัติทางตุลาการ, บทลงโทษ, หรือการปกป้องสิทธิมนุษย์ชน, ล้วนต้องมาจากกฏหมายสังคมของศาสนาอิสลามเพียงเท่านั้น. และเราคือผู้ที่ยืนหยัดในการปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริง...ส่วนหนึ่งจากการปฐกถาของท่านผู้นำสูงสุดต่อกลุ่มสตรีเนื่องในวันประสูติท่านหญิงฟาฏีมะฮ์ ((วันแม่))16/12/1992
- ความสามารถอันโดดเด่นของสตรีหากเราให้ความสำคัญต่อบทบาทของสตรีในประเทศอย่างดีและจริงจัง ก็เปรียบประดุจดังกับการรับใช้สตรีทั่วทั้งโลก, ถึงแม้นว่าบางคนอาจเห็นคุณค่าของมันแล้วในวันนี้ หรือบางคนอาจได้เห็นในอนาคต เราก็ควรทำหน้าที่ให้เต็มที่ เพราะแท้จริงมันคือการรับใช้ต่อสตรีทั้งมวล.พวกท่านทุกคน ณ ที่นี้ คือบันฑิตจากทั่วประเทศ สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จจากมุมมองของรัฐต่ออิสลาม และจากมุมมองของอิสลามที่มีต่อสตรี เพราะในสมัยการปกครองที่อธรรมของชาห์ปาเลวีนั้น เราไม่มีบัณฑิตมากมายเช่นนี้. ข้าพเข้าขอกล่าวยืนยันว่า ณ วันนี้เรามีบรรดานักค้นคว้าหญิง, อาจารย์หญิง , นักวิชาการหญิงในศาสตร์แขนงต่างๆ, นักคิดนักเขียน ที่สามารถให้ทัศนะแต่ละสาขาความรู้, สตรีเหล่านั้นเป็นเจ้าของทฤษฏีต่าง ๆ ที่มีความสำคัญ นอกจากนั้นเรายังมี กวีหญิง, ศิลปินหญิง, นักเขียนเรื่องสั้นหญิง, จิตรกรหญิง มากกว่ายุคสมัยชาห์ปาเลวีที่อ้างตนว่าเป็นผู้ให้คุณค่าต่อสตรี แต่แท้จริงแล้วเขาได้ทำลายวัฒนธรรมแห่งการรักนวลสงวนตัวของสตรี และ การคลุมฮิญาบจนหมดสิ้น เขาได้สร้างความใกล้ชิดสนิทสนมระหว่างสตรีและบุรุษเพศมากยิ่งกว่าชาติตะวันตก ซึ่งในบางเรื่องนั้นเลวร้ายและก้าวไกลยิ่งกว่าวัฒนธรรมตะวันตกเสียอีก. แต่วันนี้เราได้เห็นแล้วว่า ภายใต้การคลุมฮิญาบที่ถูกต้อง เราสามารถผลิตบัณฑิตทางความคิด, ทางความรู้, ทางการปฏิบัติ, นักการเมือง, และเจ้าของทฤษฎีในเวทีวัฒนธรรมและศิลปะ. ถึงแม้นว่าในอดีตเรายังไม่มีหน่วยงานที่สมบูรณ์เช่นนี้ แต่ทัศนะของเราเป็นทัศนะที่ตรงกันข้ามกับความพยายามของศัตรูในการสร้างความเสื่อมโทรมต่อสังคม และไม่ได้ส่งผลใดๆให้จิตวิญญาณของสตรีนั้นมีการพัฒนา มันคือการสร้างความเพลิดเพลินและสิ่งเร้าภายนอกที่ไร้ค่า การแต่งสวยแต่งงาม การหมกมุ่นอยู่กับเรื่องราวที่ไร้สาระจนทำให้เขาห่างไกลจากการแสวงหาความสมบูรณ์ และการก้าวไปสู่ถึงพระผู้เป็นเจ้าทั้งสิ้น.ไม่มียุคใด ที่เรามีสตรีที่เป็นนักค้นคว้า นักคิด นักเขียน นักกวี และศิลปิน ทั้งในสนามการเมือง สังคมและวัฒนธรรม ยืนยันให้เห็นถึงทัศนะและมุมมองที่ถูกต้องของอิสลามต่อฮิญาบว่า ฮิญาบมิใช่เป็นตัวถ่วงความเจริญก้าวหน้าใดๆ ของสตรี แต่คือการรักษาบทบัญญัติของอิสลามอย่างถูกต้อง จะเป็นตัวช่วยในการผลักดันให้ความสามารถของสตรีนั้นโด่ดเด่นอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น.ส่วนหนึ่งจากการปฐกถาของผู้นำสูงสุดต่อบรรดาบันฑิตและนักกิจกรรมกรรมต่างๆของประเทศ4/7/2007
-
- ปาเลสไตน์