ศาสนบัญญัติ
- ตักลีด
- วิธีการทั้งสาม : เอียฮ์ติยาฏ อิจญ์ติฮาดและตักลีด
ปัญหาที่1: การตักลีดได้เป็นวาญิบด้วยสาเหตุที่ยึดถือกันมา หรือได้มาจากการวินิจฉัย?
คำวินิจฉัย: เป็นเรื่องที่ได้มาจากกระบวนการวินิจฉัยด้วยหลักฐานทางสติปัญญา
ปัญหาที่ 2: ตามทัศนะของท่าน การปฏิบัติอามั้ลด้วยวิธีการเอียฮ์ติยาฏดีกว่า หรือด้วยวิธีการตักลีด?
คำวินิจฉัย: การปฏิบัติอามั้ลด้วยวิธีการเอียะฮ์ติยาฏนั้นวางอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจที่สมบูรณ์ต่อข้อปฏิบัตินั้นๆ และจะต้องรู้และเข้าใจเงื่อนไขวิธีเอียฮ์ติยาฏ ซึ่งส่วนนี้นั้นมีคนจำนวนน้อยที่รู้ นอกเหนือจากนี้การปฏิบัติอามั้ลด้วยวิธีการเอียฮ์ติยาฏยังต้องเสียเวลามากกว่าปกติอีกด้วย ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดคือการตักลีดตามมุจญ์ตะฮิดที่มีคุณสมบัติที่สมบูรณ์(ญะมิอุ้ลชะรออิฏ)
ปัญหาที่ 3: อะไรคือขอบเขตของการเอียฮ์ติยาฏในเรื่องของอะฮ์กาม(ศาสนบัญญัติ) ระหว่างฟัตวา(คำวินิจฉัยปัญหาศาสนา) ของฟะกีฮ์(ผู้วินิจฉัยปัญหาศาสนาขั้นสูงสุด) ต่างๆ? เป็นวาญิบหรือไม่ที่จะต้องนำคำฟัตวาของฟะกีฮ์ในอดีตมาพิจารณาด้วย?
คำวินิจฉัย: ความหมายของเอียฮ์ติยาฏในกรณีที่เป็นวาญิบ คือการปฏิบัติตามทุกความเป็นไปได้ในเรื่องของฟิกฮ์ ในเรื่องที่คาดว่าเป็นวาญิบในการปฏิบัติตาม
ปัญหาที่ 4: บุตรของข้าพเจ้าจะบาลิฆ(บรรลุศาสนภาวะ) อีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ และเป็นวาญิบสำหรับเขาในการเลือกมัรเญียะอ์ตักลีด(ผู้วินิจฉัยปัญหาขั้นสูงสุดที่มีผู้ปฏิบัติตาม) ในขณะที่การแยกแยะมัรเญียะตักลีดสำหรับเด็กในวัยนี้นั้นเป็นเรื่องลำบาก ดังนั้น อะไรคือหน้าที่ข้าพเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้
คำวินิจฉัย: ถ้าหากเขาไม่สามารถทำหน้าที่นี้ได้ด้วยตัวเองตามลำพัง หน้าที่ของท่านก็คือ การอธิบายและชี้นำเขาในเรื่องนี้
ปัญหาที่ 5: เป็นที่รู้กันแล้วว่าการแยกแยะ "เมาฎูอ์" เป็นหน้าที่คนทั่วไป และการแยกแยะ "ฮุกุ่ม" เป็นหน้าที่ของมุจญ์ตะฮิด คำถามคือว่า หน้าที่ของเราคืออะไรใน "เมาฎูอ์" ที่มัรเญียะอ์ทำการแยกแยะเอง? จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องปฏิบัติตามนั้น โดยที่เราเห็นว่ามีอีกหลายประเด็นที่เข้าข่ายในกรณีนั้น?
คำวินิจฉัย: ใช่แล้ว การแยกแยะ"เมาฎูอ์" เป็นหน้าที่ของคนทั่วไป ดังนั้นจึงไม่เป็นการเป็นวาญิบที่จะปฏิบัติตาม"เมาฎูอ์"ที่แยกแยะโดยมุจญตะฮิด นอกจากจะมีความมั่นใจมาก่อน หรือเป็น"เมาฎูอ์"ที่ได้มาจากอิจญ์ติฮาด(ดังนั้นจึงเป็นวาญิบที่จะต้องปฏิบัติตาม-ผู้แปล-)
- เงื่อนไขของการตักลีด
ปัญหาที่ 9: เป็นการอนุญาติหรือไม่ในการที่จะตักลีดตามมุจญ์ตะฮิดที่ไม่ได้ประกาศตัวเป็นมัรเญียะอ์และไม่มี "ริซาละฮ์อะมะลียะฮ์" (ตำราปฏิบัติศาสนกิจของมัรเญียะอ์)?
คำวินิจฉัย: ถ้าเป็นที่พิสูจน์แล้วสำหรับเขาว่า มุจญ์ตะฮิดที่เขาตักลีดตามนั้นเป็นมุจญ์ตะฮิจที่มีคุณสมบัติที่สมบูรณ์(ญามิอุลิชะรออิฏ) ก็ไม่มีปัญหาในการที่จะตักลีดตามมุจญ์ตะฮิดท่านนั้น
ปัญหาที่ 10: เป็นการอนุญาติหรือไม่ในการที่จะตักลีดตามมุจญ์ตะฮิดที่ได้ทำการอิจญ์ติฮาดบทต่างๆ ของฟิกฮ์ไว้ เพียงบทเดียว อย่างเช่น บทที่ว่าด้วยการถือศีลอด หรือบทที่ว่าด้วยการนมาซ ซึ่งเราจะตักลีดตามบทที่ได้วินิจฉัยไว้แล้ว
คำวินิจฉัย: ฟัตวาของมุจญ์ตะฮิดมุตะญัซซี (มุจญ์ตะฮิดที่ไม่ได้ทำการฮิจญ์ติฮาดบทต่างๆของฟิกฮ์ไว้ทั้งหมด-ผู้แปล-) เป็นหลักฐานสำหรับตัวของเขาเอง ก่อนที่จะอนุญาติให้ผู้อื่นตักลีดตามนั้นยังเป็นปัญหาอยู่ แต่กระนั่นก็ตามความเป็นไปได้ในการอนุญาติก็ยังมีอยู่
ปัญหาที่ 11: เป็นการอนุญาติหรือไม่ในการที่จะตักลีดตามอุลามาอ์เมืองอื่นที่เราไม่สามารถไปถึงเขาได้
คำวินิจฉัย: การตักลีดตามมุจญ์ตะฮิด ญามิอุลชะรออิต ไม่ได้มีเงื่อนไขว่าจะต้องตักลีดตามมุจญ์ตะฮิดที่เป็นคนเมืองเดียวกันกับมุกัลลิด(ผู้ตักลีด) หรือต้องอาศัยอยู่ในเมืองเดียวกัน
ปัญหาที่ 12: ความยุติธรรมที่กำหนดให้กับมัรเญียะอ์และมุจญ์ตะฮิดมีความแตกต่างกับความยุติธรรมที่กำหนดไว้กับอิมามญะมาอะฮ์หรือไม่?
คำวินิจฉัย: จากการที่ตำแหน่งมัรเญียะอ์นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้นนอกเหนือจากความยุติธรรมทั่วไปที่ได้กำหนดไว้แล้ว ยังมีเงื่อนไขที่เป็นเอียะฮ์ติยาฏวาญิบอีกว่า เขาจะต้องมีอำนาจเหนืออารมณ์ที่ใฝ่ต่ำและละเมิดของเขา และจะต้องไม่มีความละโมบในดุนยา
ปัญหาที่ 13: การมีความรู้ทันสถานการณ์และยุคสมัยเป็นเงื่อนไขของการอิจญ์ติฮาดหรือไม่?
คำวินิจฉัย: เป็นไปได้ว่า ความรู้ประเภทนี้มีบทบาทในบางปัญหา
- วิธีพิสูจน์การอิจญ์ติฮาด ความเป็นอะอ์ลัม และการได้รับฟัตวา
ปัญหาที่ 23: หลังจากที่ได้พิสูจน์แล้วถึงคุณสมบัติของมุจญตะฮิดที่จะเป็นมัรเญียะอ์โดยผ่านการยืนยันจากบุคคลที่มีความยุติธรรม 2 คน เป็นวาญิบอีกหรือไม่ที่จะต้องสอบถามผู้อื่นอีก
คำวินิจฉัย: การยืนยันถึงคุณสมบัติที่สมบูรณ์(ญามีอุลชะรออิฏ) ของมุจญ์ตะฮิต โดยผ่านอุลามา(ที่เป็นมุจญ์ตะฮิด) ถือว่าเป็นหลักฐานที่เพียงพอในการเชื่อถือ และไม่วาญิบที่จะถามจากผู้อื่นอีก
ปัญหาที่ 24: อะไรคือวิธีการเลือกมัรเญียะอ์ และจะเข้าถึงฟัตวาของมัรเญียะอ์คนนั้นอย่างไร?
คำวินิจฉัย: การพิสูจน์ความอะอ์ลัมของมัรเญียะอ์ตักลีด จะต้องมีความมั่นใจหรือเชียวชาญในความรู้ หรือโดยผ่านการบอกเล่าที่สร้างความมั่นใจในความรู้ หรือจากความมั่นใจส่วนตัว หรือจากการยืนยันของอุลามาอ์ที่มีความยุติธรรม 2 คน และการรับรู้คำฟัตวาของมัรเญียะอ์ตักลีด ด้วยวิธีการดังนี้คือรับฟังโดยตรงจากมัรเญียะอ์ผู้นั้น หรือจากการบอกเล่าของผู้ที่มีความยุติธรรมสองคนหรือคนเดียวก็ได้ หรือจากการบอกเล่าของผู้ที่น่าเชื่อถือในคำพูดของเขา หรือจากตำรา(ริซาละฮ์) ของมัรเญียะผู้นั้นที่มั่นใจว่า ไม่มีการผิดพลาดในการบันทึก หรือพิมพ์
ปัญหาที่ 25: เป็นการถูกต้องหรือไม่ที่จะตั้งให้ผู้อื่นเป็นตัวแทนของเราในการเลือกมัรเญียะอ์ เหมือนกับการที่ลูกให้พ่อเป็นตัวแทน หรือศิษย์ให้ครูเป็นตัวแทน?
คำวินิจฉัย: การแต่งตั้งให้บิดา ครู ผู้รู้ หรือบุคคลอื่นให้เป็นตัวแทนในการเลือกมัรเญียะอ์ญามีอุลชะรออิฏเป็นที่อนุญาติ เพราะทัศนะของบุคคลดังกล่าวถือว่าเป็นฮุจญะฮ์(ข้อพิสูจน์) ที่เชื่อถือได้ทางศาสนา ถ้าพวกเขาสามารถให้ความรู้ที่มั่นใจได้ หรือเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติ(ตามศาสนา) ที่สามารถเป็นพยานทางศาสนาได้
- การเปลี่ยนตักลีด(อุดูล)
ปัญหาที่ 28: ข้าพเจ้าเคยได้รับอนุญาติจากมัรเยียะอ์ที่ไม่อะอ์ลัมในการคงการตักลีด(บะกอ) กับมัรเญียะอ์ผู้เสียชีวิตไปแล้ว และถ้าหากว่าการคงการตักลีดจะต้องขออนุญาติจากมัรเญียะอ์อะอ์ลัมเท่านั้น ดังนั้นเป็นวาญิบหรือไม่ที่จะต้องเปลี่ยนตักลีดไปยังผู้ที่อะอ์ลัมและขออนุญาติเขาในการคงการตักลีดกับมัรเญียะอ์ผู้เสียชีวิตไปแล้ว?
คำวินิจฉัย: ถ้าคำฟัตวาของมัรเญียะอ์ที่ไม่อะอ์ลัมตรงกับคำฟัตวาของมัรเญียะอ์อะอ์ลัม ไม่มีปัญหาในการปฏิบัติตามผู้ที่ไม่อะอ์ลัม และไม่มีความจำเป็นที่จะเปลี่ยนไปยังผู้ที่อะอ์ลัม
ปัญหาที่ 29: เป็นการอนุญาติหรือไม่ที่จะเปลี่ยนการตักลีดจากมัรเญียะอ์อะอ์ลัมในประเด็นปัญหาใหม่ๆของศาสนา เพราะเขาไม่สามารถทำการพิสูจน์หลักฐานที่ชัดแจ้งและถูกต้องจากหลักฐานที่มีอยู่?
คำวินิจฉัย: ถ้าผู้ตักลีดไม่ต้องการที่จะเอียะฮ์ติยาฏในปัญหานั้น หรือไม่อาจที่จะทำเช่นนั้นได้ และเขาพบมุจญ์ตะฮิดท่านอื่นที่อะอ์ลัมกว่าในประเด็นปัญหาที่กล่าวมา ดังนั้นเป็นการวาญิบให้เปลี่ยนการตักลีดมายังเขา
ปัญหาที่ 30: การเปลี่ยนตักลีดจากท่านอิมามโคมัยนี(หลังจากที่ท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว) วาญิบหรือไม่ที่จะต้องย้อนกลับไปหาฟัตวาของมุจญ์ตะฮิดที่อนุญาติให้คงการตักลีดกับคนตายได้ หรืออนุญาติให้ย้อนกลับไปดูฟัตวาของมุจญ์ตะฮิดท่านไหนก็ได้
คำวินิจฉัย: การเปลี่ยนการตักลีดไม่จำเป็นที่จะต้องขออนุญาติ ดันนั้นอนุญาติให้ตักลีดตามมุจญ์ตะฮิดท่านไหนก็ได้ที่มีคุณสมบัติที่สมบูรณ์ในการตักลีด
- การคงการตักลีด(บะกอ)กับมัรเญียะอ์ที่เสียชีวิตแล้ว
ปัญหาที่ 35: มีบุคคลหนึ่งเคยตักลีดตามท่านอิมามโคมัยนี และหลังจากการวะฟาตของท่านอิมาม เขาได้เปลี่ยนไปตักลีดผู้อื่น เป็นการอนุมัติหรือไม่ที่จะกลับไปตักลีดอิมามโคมัยนีอีกครั้งหนึ่ง?
คำวินิจฉัย: การเปลี่ยนการตักลีดจากมัรเญียะอ์ญามิอุลชะรอิฏที่ยังมีชีวิตอยู่ไปยังมัรเญียะอ์ที่เสียชีวิตแล้วนั้น ไม่เป็นที่อนุญาติ แต่ถ้าหากว่ามัรเญียะอ์ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วน การเปลี่ยนการตักลีดในครั้งนั้นถือว่าเป็นโมฆะ(บาฏิล) และถือว่าเขายังคงสภาพการตักลีดกับผู้ตายอยู่ ดังนั้นจึงมีทางเลือกให้เขา "บะกอตักลีด" ไว้ หรือเปลี่ยนไปตักลีดกับมัรเญียะอ์ที่ยังมีชีวิตอยู่ และมีคุณสมบัติครบถ้วนที่อนุญาติให้ตักลีดตามได้
ปัญหาที่ 36: ข้าพเจ้า "บาลิฆ" ในช่วงที่ท่านอิมาม(ร.ฮ.) ยังมีชีวิตอยู่ และได้ปฏิบัติอะมั้ลบางอย่างตามฟัตวาของท่าน แต่ปัญหาเรื่องตักลีดสำหรับข้าพเจ้ายังไม่กระจ่างนักหน้าที่ของข้าพเจ้าในตอนนี้คืออะไร?
คำวินิจฉัย: ถ้าท่านเคยปฏิบัติตามคำฟัตวาของอิมามโคมัยนี ในสมัยที่ท่านอิมามยังมีชีวิตอยู่ และท่านเคยเป็นผู้ที่ตักลีดอิมามในบางฟัตวาเป็นการอนุมัติที่ท่านจะ "บะกอตักลีด" กับท่านอิมามในฟัตวาอื่นๆทั้งหมด
ปัญหาที่ 37: อะไรคือกฏในการ "บะกอตักลีด" กับมัรเญียะอ์ผู้เสียชีวิตที่มีความ "อะอ์ลัม"?
คำวินิจฉัย: การ "บะกอตักลีด" กับมัรเญียะอ์ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นสิ่งอนุญาติไม่ใช่วาญิบ แต่ไม่ควรทิ้งหลักการเอียะฮ์ติยาฏในการที่จะ "บะกอตักลีด" กับมัรเญียะอ์ ผู้เสียชีวิตที่ "อะอ์ลัม" กว่า
- เรื่องทั่วไปเกี่ยวกับการตักลีด
ปัญหาที่ 49: อะไรคือความหมายของ "ญาฮิล มุก็อศศิร" ?
คำวินิจฉัย: "ญาฮิล มุก็อศศิร" คือ บุคคลที่รู้ตัวเองว่าเขาไม่มีความรู้ในเรื่องบางเรื่อง และมีหนทางที่จะทำให้ตัวเองรู้ได้ แต่เขาไม่ขวนขวายที่จะรู้
ปัญหาที่ 50: ใครคือ "ญาฮิล กอศิร" ?
คำวินิจฉัย: "ญาฮิล กอศิร" คือ ผู้ที่ไม่รู้ตัวเองว่าเขาไม่รู้ในเรื่องบางเรื่อง หรือเขาไม่รู้วิธีการ ขจัดความไม่รู้ของเขา
ปัญหาที่ 51: "เอียะฮ์ติยาฏ วาญิบ" คืออะไร ?
คำวินิจฉัย: "เอียะฮ์ติยาฏ วาญิบ" คือวาญิบให้ปฏิบัติอะมั้ลนั้น หรือให้ละทิ้งด้วยเหตุผลว่า การระวังไว้จะดีกว่า
ปัญหาที่ 52: คำว่า "อิชกาล" (มีปัญหา) ที่มีอยู่ในฟัตวา หมายถึงฮะรอม ใช่หรือไม่ ?
คำวินิจฉัย: ในแต่ละปัญหามีความหมายที่แตกต่างกัน แต่ถ้าคำว่า "อิชกาล" ใช้ในคำถามที่ว่าอนุญาติหรือไม่นั้น หมายถึงฮะรอมที่จะปฏิบัติสิ่งนั้น
ปัญหาที่ 53: คำว่า "ในสิ่งนั้นมีอิชกาล" หรือ "มุชกิล" หรือ "ไม่ว่างเว้นจากอิชกาล" หรือ "ไม่มีอิชกาลในสิ่งนั้น" คำเหล่านี้เป็นฟัตวา หรือเป็นการเอียะฮ์ตียาฏ ?
คำวินิจฉัย: คำเหล่านี้ทั้งหมดเป็นเอียะฮ์ติยาฏ ยกเว้นคำว่า "ไม่มีอิชกาล" เท่านั้นที่เป็นฟัตวา
ปัญหาที่ 54: อะไรคือความแตกต่างระหว่างคำว่า "ไม่อนุญาติ" กับคำว่า "ฮะรอม"
คำวินิจฉัย: ไม่มีความแตกต่างในเรื่องการปฏิบัติอะมั้ล
- การเป็นมัรเญียะอ์กับการเป็นผู้นำ
ปัญหาที่ 55: อะไรคือหน้าที่ทางศาสนา กล่าวคือ เป็นวาญิบให้ตามใครในฟัตวาที่มีความขัดแย้งระหว่างผู้นำโลกอิสลาม(วะลียุล อัมร) กับมัรเญียะอ์ที่เราตักลีดอยู่ ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งในเรื่องของสังคม การเมือง หรือวัฒนธรรม มีอะไรเป็นข้อแยกแยะระหว่างการตัดสิน(ฮุกุ่ม) ของมัรเญียะอ์กับวะลียุลฟะกีฮ์ อย่างเช่น ปัญหาที่เกี่ยวกับเรื่องดนตรี ซึ่งฟัตวาของมัรเญียะอ์ขัดแย้งกันกับฟัตวาของวะลียุลฟะกีฮ์ ดังนั้น วาญิบให้เราตามฟัตวาของใครหรือในลักษณะโดยรวม เช่น ฮุกุ่มของรัฐอิสลาม ซึ่งถือว่าเป็นฮุกุ่มของวลียุลฟะกีฮ์กับฟัตวาของมัรเญียะอ์ทั่วไป เราควรตามใคร ?
คำวินิจฉัย: ทัศนะของวลียุลอัมรในเรื่องส่วนรวมของมุสลิมและเรื่องการบริหารแผ่นดินอิสลาม เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม ส่วนผู้ที่ตักลีดมัรเญียะอ์นั้นมีสิทธิปฏิบัติตามมัรเญียะอ์ของเขาเฉพาะในเรื่องส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวกับสังคมส่วนรวมของมุสลิม
ปัญหาที่ 56: ดังเป็นที่ทราบกันแล้วว่าวิชาอุศูลุลฟิกฮ์ มีบทหนึ่งที่ถกกันเรื่อง "อิจญ์ติฮาดมุตะญัซซี" (คือ ความสามารถในการอิจญ์ติฮาดเพียงบางเรื่องของฟิกฮ์เท่านั้น) และท่านอิมามโคมัยนีก็ได้แบ่งแยกกันระหว่างการเป็นมัรเญียะอ์กับการเป็นผู้นำ ดังนั้น เท่ากับเป็นการยอมรับ "มุจญ์ตะฮิดมุตะญัซซี" ในการเป็นผู้นำใช่หรือไม่ ?
คำวินิจฉัย: การแบ่งแยกระหว่างวลียุลฟะกีฮ์กับมัรเญียะอ์ตักลีด ไม่เกี่ยวกับเรื่องของ "มุจญ์ตะฮิดมุตะญัซซี"
- วลียุลฟะกีฮ์กับฮุกุ่มของฮากิม(ผู้ปกครอง)
ปัญหาที่ 59: ความศรัทธาในเรื่องของวิลายะตุลฟะกีฮ์ เป็นผลมาจากหลักฐานทางสติปัญญา(อักลี) หรือมาจากหลักการทางศาสนา
คำวินิจฉัย: เรื่องวิลายะตุลฟะกีฮ์ที่หมายถึง การปกครองของฟะกีฮ์ ที่มีความอาดิ้ล(ยุติธรรม) และมีรู้ความสมบูรณ์ในเรื่องของศาสนา เป็นฮุกุ่มของหลักการศาสนาที่ต้องปฏิบัติตามโดยดุษณี (ตะอับบุดี) และสติปัญญาก็สนับสนุนสิ่งนี้ ส่วนการกำหนดเจาะจงไปยังผู้ใดนั้นได้ถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญของสาธารณรัฐอิสลาม
ปัญหาที่ 60: เป็นไปได้หรือไม่ที่บทบัญญัติของอิสลามสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงหรือหยุดปฏิบัติชั่วคราว ตามความเห็นของวลียุลฟะกีฮ์เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของอิสลามและมุสลิม ?
คำวินิจฉัย: มีกรณีที่แตกต่างกันมากมาย
-
- ฏอฮาเราะฮ์ (การทำความสะอาดตามศาสนบัญญัติ)
- นมาซ
- การถือศีลอด
- คุมส์
- ญิฮาด
- อัมรุบิลมะอ์รูฟ วันนะฮ์อะนิลมุนกัร