นายนิโคล ปาชินยาน นายกรัฐมนตรีอาร์เมเนีย พร้อมคณะผู้ติดตาม เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดแห่งการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำถือว่า นโยบายที่ชัดเจนและมั่นคงของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน คือ การขยายความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศอาร์เมเนีย และท่านเน้นย้ำว่า “เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งในการพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศอาร์เมเนีย และความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ จะดำเนินต่อไปอย่างแข็งแกร่งตามผลประโยชน์ที่ถูกกำหนดไว้ และไม่ต้องคำนึงถึงนโยบายของบุคคลอื่นๆ”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวขอบคุณต่อนายปาชินยาน ที่เข้าร่วมในพิธีการสาบานของประธานาธิบดีเพเซชกียอน และ เช่นเดียวกัน ในพิธีการแห่ศพของชะอีดระอีซี โดยท่านเน้นย้ำให้เห็นถึงการรักษาบูรณภาพแห่งดินแดนของอาร์เมเนีย และท่านกล่าวว่า “สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ถือว่า เส้นทางซันเกซูร จะนำไปสู่ความเสียหายของอาร์เมเนียและยังคงยืนหยัดอยู่ในจุดยืนนี้”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี เน้นย้ำให้เห็นว่า “พวกต่างชาติไม่ควรสร้างข้อจำกัดในความสัมพันธ์ของประเทศกับบรรดาเพื่อนบ้าน โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “สิ่งที่รับประกันความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของประเทศต่างๆ คือ การพึ่งพาตนเองและญาติพี่น้องของตน และการกระทำของบางคนที่มาจากแดนไกลและการแทรกแซงในกิจการต่างๆของประเทศทั้งหลาย ก็จะเป็นผลเสียหายแก่พวกเขา”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนชาวอิหร่านและชาวอาร์เมเนียของประเทศนี้ด้วย โดยท่านตั้งข้อสังเกตว่า “ชาวอาร์เมเนียของอิหร่านนั้นมีบทบาทอย่างมากในช่วงสงครามแปดปีที่เกิดขึ้น และข้าพเจ้าได้เดินทางเยี่ยมบ้านเรือนของผู้คนชาวอาร์เมเนียจำนวนมาก เป็นการส่วนตัว”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การให้ความเคารพต่อศาสดาเยซู (อ.) นั้นเป็นประเด็นที่ถูกยอมรับและชัดเจนในหมู่ชาวมุสลิม โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “ในความคิดเห็นของเรา ขอกล่าวประณามการดูหมิ่นบรรดาผู้สูงส่งของศาสนาแห่งพระเจ้า รวมทั้งศาสดาเยซูด้วย”
ในการพบปะกันครั้งนี้ นายอาเรฟ รองประธานาธิบดีคนที่หนึ่ง เข้าร่วมอยู่ด้วย โดยนายนิโคล ปาชินยาน นายกรัฐมนตรีอาร์เมเนีย ได้แสดงความพึงพอใจต่อความสัมพันธ์ที่ขยายตัวระหว่างทั้งสองประเทศ ถือว่า การเจรจากับประธานาธิบดีเพเซชกียอน เป็นไปอย่างสร้างสรรค์และเชิงบวก และเขากล่าวว่า “อาร์เมเนียได้ประกาศหลายครั้งแล้วว่า จะไม่ยอมรับเส้นทางเหนือภูมิภาคใดๆ ภายในประเทศของตนเอง”
นายนิโคล ปาชินยาน ถือว่า ความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านและอาร์เมเนีย เป็นเชิงยุทธศาสตร์และกล่าวแสดงความพึงพอใจต่อการขยายความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศและประเมินความต่อเนื่องของกระบวนการนี้ว่า มีความสำคัญอย่างยิ่ง