กลุ่มประชาชนหลายพันคน จากทุกภาคส่วน เข้าพบปะท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี เนื่องในวโรกาสวันอีดฆอดีร อันจำเริญยิ่ง โดยท่านผู้นำ ถือว่า เหตุการณ์ฆอดีร เป็นพื้นฐานสำหรับความต่อเนื่องของอำนาจอธิปไตยของอิสลาม และความต่อเนื่องของรูปแบบในวิถีชีวิตของอิสลาม และท่านผู้นำยังชี้ให้เห็นถึงความประเสริฐบางประการของท่านอะมีรุลมุอ์มินีน อะลี (อ.) โดยท่านเน้นย้ำว่า “ลักษณะประชาธิปไตยของระบอบรัฐอิสลามและการมีความเชื่อนี้ ทำให้เราได้เรียนรู้จากนายของเราเกี่ยวกับอิทธิพลของการเข้าร่วมของประชาชนแต่ละบุคคลต่อชะตากรรมของประเทศ”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ให้เห็นว่า การเลือกตั้งในวันศุกร์ มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ทั้งในการมีส่วนร่วมอย่างสูงสุดของประชาชนและการเลือกตั้งผู้ที่เหมาะสมที่สุด เป็นเหตุสร้างความภาคภูมิใจของประชาชาติและสาธารณรัฐอิสลาม และท่านผู้นำยังกล่าวอธิบายถึงคุณสมบัติของผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุด โดยเชิญชวนประชาชนให้เข้าร่วมคูหาในการลงคะแนนเสียง พร้อมทั้งท่านเน้นย้ำว่า “ผู้ใดก็ตามที่ต้องการให้อิหร่านมีความเข้มแข็งและสร้างภาคภูมิใจ และผู้ใดก็ตามที่มีความเชื่อในการสนับสนุนรัฐ ควรที่จะมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งครั้งนี้”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวได้แสดงความยินดีกับประชาชาติอิหร่านและชาวมุสลิมทั่วทั้งโลก เนื่องในวันอีดุลลอฮุอักบัร และถือว่า มีการเฉลิมฉลองในวันอีดฆอดีร อันทรงเกียรติ ตามสถานที่สาธารณะต่างๆ เป็นนวัตกรรมที่ดีอย่างมาก และทำให้พวกผู้ปฏิเสธต้องสิ้นหวังที่จะเอาชนะเหนืออิสลาม ยังถือเป็นการตีความที่โดดเด่นของอัลกุรอานในประเด็นอีดฆอดีรและการประกาศตำแหน่งคอลีฟะฮ์และวิลายะฮ์ของท่านอะมีรุลมุอ์มินีน อะลี (อ.)”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ความต่อเนื่องของอำนาจอธิปไตยทางการเมืองของอิสลาม ตามพระบัญชาของพระผู้เป็นเจ้าที่ให้ประกาศตำแหน่งผู้สืบทอดและอิมามะฮ์ของท่านอะมีรุลมุอ์มินีน จากคำกล่าวของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) เป็นเหตุผลที่สิ้นหวังของเหล่าผู้ปฏิเสธ โดยท่านยังกล่าวเสริมว่า “ความต่อเนื่องของอำนาจอธิปไตยและการเมืองอิสลาม ซึ่งปรากฏอยู่ในอิมามะฮ์ ก็คือ ความต่อเนื่องทางจิตวิญญาณของอิสลาม”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ตำแหน่งอิมามะฮ์ เป็นหน้าที่อันสำคัญที่สุดประการหนึ่งของบรรดาศาสดาและยังสูงส่งกว่าตำแหน่งศาสนทูต โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ในหมู่ภารกิจการเผยแผ่ของศาสนทูตทั้งหลาย คือ การอธิบายพระบัญชาจากพระเจ้าให้แก่ประชาชน แต่ทว่าตำแหน่งอิมามะฮ์ ศาสดาได้ทำให้พระบัญชาของพระองค์เข้าซึมซับไปในหัวใจ ความคิด การกระทำ และเป็นหน้าที่ของประชาชน”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ความต่อเนื่องของอำนาจอธิปไตยอิสลาม ภายใต้อิมามะฮ์และวิลายะฮ์ เป็นเหตุผลที่ให้วิถีชีวิตแบบอิสลามดำเนินต่อไป โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “จุดประสงค์ของการต่อสู้ในตลอดช่วง 250 ปีของบรรดาอิมาม ซึ่งนักวิชาการผู้ยิ่งใหญ่ของชีอะฮ์บางคนก็ปฏิบัติตามในภายหลังและอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อถึงยุคสมัยปัจจุบัน ด้วยความเพียรพยายามของท่านอิมามโคมัยนี ผู้สูงส่ง และประชาชาติอิหร่าน ทำให้อำนาจอธิปไตยของอิสลาม นำไปสู่การขยายวงกว้างของวิถีชีวิตอิสลามในสังคมต่อไป”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังชี้ให้เห็นว่า การอธิบายถึงแนวหลักของวิถีชีวิตอิสลาม คือ ความยุติธรรม ความรุนแรงกับเหล่าผู้ปฏิเสธ ความเมตตาต่อกันและกัน การเข้าใจถึงความทุกข์ยากและความยากลำบากของประชาชนจากผู้ปกครองในสังคม ความร่วมมือ การเชื่อฟัง และการช่วยเหลือของประชาชนต่อการปกครอง
อิสลาม โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ฆอดีร เป็นพื้นฐานสำหรับการบรรลุสู่แนวหลักอันสูงส่งนี้ในภาคส่วนของวิถีชีวิตแบบอิสลาม และจากมุมมองนี้ ก็สามารถที่จะเป็นที่มาของความเป็นเอกภาพสำหรับสำนักคิดทั้งหลายของอิสลาม และไม่ควรจะถือเป็นจุดที่แตกต่างระหว่างชีอะฮ์และซุนนี”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ในส่วนที่สองของการปราศรัย จากการอธิบายถึงความประเสริฐของนายแห่งบรรดาผู้ยำเกรง โดยท่านเน้นย้ำว่า “ดวงตาแห่งปัญญาและความคิดอันลึกซึ้งของมนุษย์ ไม่สามารถที่จะเข้าใจถึงความสวยงามทางจิตวิญญาณและสถานภาพของเมาลาอะลี (อ.) ได้ และอย่างน้อยที่สุด เขาก็สามารถที่วาดภาพทั่วไปในหัวใจของตนได้ แต่ด้วยการย้อนกลับไปยังนะฮ์ญุลบะลาเฆาะฮ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในความโปรดปรานอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าและไม่ได้ถูกจำกัดเฉพาะชาวชีอะฮ์เท่านั้น เราก็สามารถที่จะเรียนรู้ถึงหลักการพื้นฐาน มาตรวัด และวิธีการต่างๆจากท่านอะมีรุลมุอ์มินีน อะลี (อ.) ด้วยความประเสริฐของเขาได้”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ความประเสริฐทั้งหมดของท่านอะลี (อ.) มีความสูงส่งอย่างมาก และท่านผู้นำ ยังยกหลักฐานจากนะฮ์ญุลบะลาเฆาะฮ์ โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ความมั่นใจและการปราศจากความสิ้นหวังและความสงสัย ความรู้สึกอ่อนไหวของประชาชนทุกคนในทุกศาสนา ความยุติธรรมที่เกินจะพรรณนาได้ การไม่ถูกหลอกลวงด้วยความนุ่มนวลของศัตรู และความเฉลียวฉลาดอย่างสมบูรณ์ในการเผชิญหน้ากัน ล้วนเป็นความประเสริฐที่โดดเด่นที่สุดของอิมามอะลี บิน อะบีฏอลิบ (อ.)ทั้งสิ้น”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังถือว่า ความเชื่ออย่างลึกซึ้งในประชาธิปไตยของรัฐบาลและการมีสิทธิร่วมกันของประชาชนและผู้ปกครอง เป็นความประเสริฐอีกประการของท่านอะมีรุลมุอ์มินีน อะลี (อ.) และท่านผู้นำกล่าวว่า “เราได้เรียนรู้ถึงประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ของระบอบรัฐอิสลามจากเมาลาของเราและโองการอัลกุรอาน แต่ทว่า บางคนเข้าใจผิดคิดว่า สาธารณรัฐอิสลาม การเลือกตั้ง และประชาธิปไตย ทั้งหมดเหล่านี้ได้เรียนรู้มาจากพวกชาติตะวันตก”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การให้ความสำคัญกับคำพูดและคำแนะนำของประชาชน ในขณะที่ความรู้และวิทยปัญญาของอิมามอะลี (อ.) เชื่อมโยงกับคลังความรู้ของพระเจ้า และท่านยังเน้นย้ำให้เห็นถึงการเข้าร่วมและอิทธิพลของประชาชนแต่ละบุคคล แม้แต่ผู้ที่อ่อนแอที่สุด ในการกำหนดชะตากรรมของสังคมและ ประเทศ ถือเป็นความประเสริฐอีกสองประการของอิมามอะลี (อ.) โดยท่านกล่าวเสริมว่า “นะฮ์ญุลบะลาเฆาะฮ์ เป็นแหล่งที่มาในการค้นพบและการเข้าใจถึงแง่มุมต่างๆ อันมากมายแห่งบุคลิกภาพของท่านอะมีรุลมุอ์มินีน อะลี (อ.) และเป็นเรื่องที่เหมาะสมสำหรับประชาชนทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เยาวชนคนหนุ่มสาวที่จะต้องอ่านนะฮ์ญุลบะลาเฆาะฮ์ และทำความคุ้นเคยกับมัน อีกทั้งยังต้องเรียนรู้เกี่ยวกับบทเรียนอันพิเศษของมันอีกด้วย”
ในอีกส่วนหนึ่งของการปราศรัย ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้กล่าวถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดี เป็นประเด็นที่สำคัญอย่างมาก โดยท่านกล่าวว่า “ในอีกสามวันหลังจากนี้ ประชาชาติอิหร่านกำลังจะเผชิญกับการทดสอบในการเลือกตั้งที่สำคัญ ซึ่งมีความสำคัญมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การจัดการเลือกตั้ง ครบ 40 วัน หลังจากการสูญเสียและพิธีแห่ศพของประธานาธิบดีที่ดี อันเป็นที่รัก มีความเป็นประชาธิปไตย ผู้ที่มุมานะ และมีความใส่ใจ เป็นภารกิจที่ไม่อาจเปรียบเทียบได้ในโลกนี้ และท่านผู้นำยังแสดงความหวังว่า พระผู้เป็นเจ้า จะทรงเชิดชูประชาชาติอิหร่านในการเลือกตั้งครั้งนี้
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ความสำเร็จของการเลือกตั้ง โดยอาศัยการมีส่วนร่วมอย่างสูงสุดของประชาชนและการเลือกตั้งผู้ที่เหมาะสมที่สุด โดยท่านกล่าวว่า “เหตุผลยืนกรานที่จะมีส่วนร่วมอย่างมากในการเลือกตั้งก็ คือ ผลกระทบที่สำคัญที่สุดของการมีส่วนร่วมที่สูง หมายถึง เป็นผลสำเร็จของสาธารณรัฐอิสลาม”
ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังชี้ให้เห็นถึงความต่อเนื่องของความเป็นปฏิปักษ์ต่อสาธารณรัฐอิสลาม นับตั้งแต่เริ่มสถาปนาจนถึงปัจจุบัน ท่านถือว่า การเลือกตั้งและการมีส่วนร่วมที่สูง เป็นปัจจัยในการพิชิตชัยชนะเหนือเหล่าศัตรู โดยท่านกล่าวเสริมว่า “สาธารณรัฐและการมีส่วนร่วมของประชาชนในแก่นแท้ของสาธารณรัฐอิสลาม ซึ่งการเลือกตั้งและการกำหนดเจ้าหน้าที่ของประเทศ ถือเป็นการแสดงออกที่สำคัญอย่างมากที่สุด”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังชี้ให้เห็นถึงข้อเท็จจริงที่ว่าเมื่อใดก็ตามที่อัตราการมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งต่ำ ภาษาในการวิพากษ์วิจารณ์ของเหล่าศัตรูต่อสาธารณรัฐอิสลามก็จะเพิ่มมากขึ้น โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “เมื่อใดก็ตามที่อัตราการมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งสูง ภาษาของผู้ใส่ร้ายก็จะสั้นลงและพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะตำหนิและมีความสุขได้ ด้วยเหตุนี้เอง อีกเหตุผลหนึ่งที่ยืนกรานให้มีส่วนร่วมที่สูง คือ การทำให้ศัตรูนั้นไม่มีความสุข”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การเชิญชวนประชาชนให้มีส่วนร่วมและการหลีกเลี่ยงออกจากความเกียจคร้าน ความเฉยเมย และประเมินค่าการเลือกตั้งที่ต่ำ โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “การเลือกตั้งไม่เพียงแต่สำหรับเมืองต่างๆเท่านั้น แต่ในทุกหมู่บ้านและส่วนต่างๆ ของประเทศ ประชาชนควรที่จะมีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง เพื่อเป็นการเชิดชูสาธารณรัฐอิสลามในโลกนี้”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวอธิบายถึงคุณสมบัติของผู้ที่เหมาะสมที่สุด โดยท่านกล่าวว่า “ผู้ที่เหมาะสมที่สุด คือ ผู้ที่เชื่อในหลักการพื้นฐานของการปฏิวัติอิสลาม รัฐอิสลาม และด้วยแนวทางนี้ และเป็นความจริง ดังเช่น ชะฮีดผู้รับใช้ ประธานาธิบดีระอีซี ที่เคารพรักยิ่ง ที่เป็นความจริงในความเชื่อและการสัมผัสได้ในการทำงานด้วยหัวใจ ชีวิตและศรัทธา”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การมีประสิทธิภาพ เป็นคุณสมบัติที่สำคัญอีกประการหนึ่งของบุคคลที่เหมาะสมที่สุด โดยท่านกล่าวว่า “การประสิทธิภาพ หมายถึง การที่เขานั้นไม่รู้จักทั้งกลางวันและกลางคืน การปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง มีศักยภาพในการทำงาน และใช้ประโยชน์จากองค์ประกอบและเพื่อนร่วมงานที่ดี”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ความสามารถและความมีชีวิตชีวาของการทำงานควบคู่ไปกับความเชื่ออย่างมั่นคงในหลักการพื้นฐานของการปฏิวัติอิสลาม เป็นตัวบ่งชี้อีกประการหนึ่งของบุคคลที่เหมาะสมที่สุด โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “ผู้ที่เหมาะสมที่สุดด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ สามารถที่จะใช้ประโยชน์จากขีดความสามารถของประเทศที่หลากหลายและมากมายทั้งหมดนี้ให้มีความเจริญก้าวหน้า”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ไม่ถือว่า รัฐบาลชุดก่อนๆจากการใช้ศักยภาพของประเทศ ไม่เท่าเทียมกัน โดยท่านกล่าวว่า “รัฐบาลสมัยที่ 13 เป็นอีกรัฐบาลหนึ่งที่ใช้ศักยภาพของประเทศได้ดีทีเดียว และหากรัฐบาลชุดนี้ดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง ข้าพเจ้าคาดหวังอย่างมากว่า ปัญหาเศรษฐกิจส่วนใหญ่ก็จะได้รับการแก้ไข”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวอธิบายถึงศักยภาพที่สำคัญของประเทศ โดยท่านกล่าวว่า “ประชากรรุ่นเยาวชนและได้รับการศึกษาเป็นจำนวนมาก ความฉลาดและศักยภาพภายในของอิหร่าน เหมืองแร่ขนาดใหญ่และหลากหลาย สถานภาพทางภูมิศาสตร์ เขตพรมแดนน่านน้ำที่ยาว เพื่อนบ้านเป็นจำนวนมาก ตลาดขนาดใหญ่ในภูมิภาค ตลาดในประเทศ 80 ล้านแห่ง ความหลากหลายทางภูมิอากาศ เครือข่ายทางรถไฟและถนน ขีดความสามารถทางเทคนิคของเยาวชนในกิจการด้านที่อยู่อาศัย ถนน เขื่อนและอุตสาหกรรม เขตการค้าเสรี และมรดกทางวัฒนธรรมและอารยธรรม ทั้งหมดเหล่านี้ ล้วนเป็นศักยภาพของประเทศทั้งสิ้น
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า “ประชาชนที่เป็นผู้ศรัทธาที่แท้จริงและมีความเชื่อด้วยเช่นกัน ถือเป็นศักยภาพที่สำคัญอย่างมาก แม้ว่า บางคนจะไม่แสดงออกถึงการยึดมั่นในหลักศาสนบัญญัติอย่างดีก็ตาม”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าววิพากษ์วิจารณ์ความคิดของนักการเมืองบางคนในประเทศที่ว่า เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพึ่งพาอำนาจนี้หรืออำนาจนั้นในโลกเพื่อความก้าวหน้า และเป็นภาพลวงตาที่ว่าเส้นทางสู่ความก้าวหน้าทั้งหมดนั้นต้องผ่านอเมริกา โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “บรรดาผู้ที่สายตาของพวกเขามองไปยังนอกเขตพรมแดน สามารถที่จะมองและรู้จักถึงศักยภาพภายในที่สำคัญและโดยธรรมชาติแล้ว พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะวางแบบแผนในการใช้ประโยชน์จากมันได้”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังเน้นย้ำให้เห็นว่า สาธารณรัฐอิสลามได้ก้าวหน้า โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาพวกต่างชาติและถึงแม้ พวกเหล่านี้จะมีความร้ายกาจและการต่อต้านก็ตาม โดยท่านกล่าวว่า “ในอนาคต ด้วยอำนาจและพลานุภาพของพระเจ้า ประชาชาติอิหร่านจะไม่อนุญาตให้บุคคลอื่นเป็นผู้กำหนดชะตากรรมของพวกเขา”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังชี้ให้เห็นถึงภาพลวงตาและการตีความที่ผิดพลาดของบางคน ตั้งแต่การเน้นย้ำถึงการใช้ศักยภาพในประเทศ ไปจนถึงการปิดล้อมประเทศและการตัดขาดการติดต่อสื่อสารกับโลก โดยท่านกล่าวว่า “นับตั้งแต่แรก เราต้องการติดต่อสื่อสารกับโลกทั้งหมด ยกเว้น หนึ่งหรือสองประการ และเช่นเดียวกัน ในรัฐบาลต่างๆ เช่น รัฐบาลของชะฮีดระอีซี ซึ่งได้ปฏิบัติตามหลักการอย่างเคร่งครัด ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของประเทศนั้น มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นเช่นกัน”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การเมินเฉยต่อพวกต่างชาติ เป็นความหมายของความกล้าหาญและความเป็นเอกราชของชาติ โดยท่านกล่าวว่า “แม้จะมีองค์ประกอบทั้งสองนี้ ประชาชาติอิหร่านก็จะแสดงศักยภาพ บุคลิกภาพ และพลังอำนาจของตน อีกทั้งการให้ความเคารพในโลกก็จะเพิ่มขึ้น”
ในช่วงท้าย ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ให้คำแนะนำที่สำคัญสองประการแก่ประชาชนและผู้สมัครทั้งหลาย
ในคำแนะนำประการแรก ท่านผู้นำได้ชี้ถึงคำขวัญที่ว่า อิหร่านที่แข็งแกร่งและมีความภาคภูมิใจ โดยท่านกล่าวว่า “อิหร่านที่แข็งแกร่งนั้นมีผู้สนับสนุนอย่างมากมาย แน่นอนว่า ความเข้มแข็งของอิหร่านไม่ได้ขึ้นอยู่กับการมีขีปนาวุธในทุกประเภทเพียงเท่านั้น ซึ่งเรานั้นมีขีปนาวุธที่มีประโยชน์และใช้งานได้ทุกประเภท แต่ทว่าความเข้มแข็ง ยังมีมิติทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคนิค เศรษฐกิจ และการเมืองอีกด้วย หนึ่งในนั้น คือ การเข้าร่วมทางการเมืองและการเลือกตั้ง”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม เน้นย้ำว่า “ด้วยเหตุนี้เอง ผู้ใดก็ตามที่ต้องการให้อิหร่านมีความเข้มแข็ง จะต้องมีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง และผู้ใดก็ตามที่เชื่อในความจำเป็นจากการสนับสนุนของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ก็จะต้องเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในประเด็นนี้”
ในคำแนะนำประการต่อมาของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามที่มีต่อผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยท่านได้ขอร้องให้พวกเขาปฏิญาณตนต่อพระเจ้าว่า หากพวกเขาได้รับตำแหน่ง พวกเขาจะไม่เลือกผู้ร่วมงานและตัวแทนของพวกเขา จากผู้ที่มีมุมเอียงกับการปฏิวัติอิสลาม”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังเน้นย้ำกับผู้สมัครทั้งหลายว่า ผู้ใดก็ตามที่มีมุมเอียงต่อการปฏิวัติอิสลาม อิมามโคมัยนี และรัฐอิสลาม จะไม่เป็นประโยชน์สำหรับพวกท่าน และจะไม่เป็นผู้ร่วมงานที่ดีสำหรับพวกท่าน โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “ผู้ใดก็ตามที่ยังมีความผูกพันกับอเมริกาและจินตนาการว่า เขาไม่สามารถที่จะเดินได้ หากปราศจากความโปรดปรานของอเมริกา และเช่นเดียวกัน ผู้ที่เพิกเฉยต่อกลยุทธ์ของศาสนาและศาสนบัญญัติ ไม่ใช่เพื่อนร่วมงานและผู้บริหารจัดการที่ดี ดังนั้น พวกท่านควรเลือกเพื่อนร่วมงานที่มีความเคร่งครัดศาสนา ศาสนบัญญัติ การปฏิวัติอิสลาม และศรัทธาในรัฐอิสลามอย่างสมบูรณ์”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า “หากพวกท่านทำงานและมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์และทำพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงสูงส่ง ภารกิจทั้งหมดของพวกท่านจะเป็นผลดี ณ พระองค์และจะได้รับผลรางวัลอีกด้วย”