บรรดาเจ้าหน้าที่ตุลาการ เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำถือว่า การแก้ไขปัญหาและข้อพิพาทของประชาชนบนพื้นฐานความยุติธรรม และการป้องกันการข้ามเส้นสีแดงของกฎหมาย เป็นความรับผิดชอบหลักของระบบตุลาการ และท่านกล่าวเสริมว่า “หน้าที่ที่สำคัญที่สุดของระบบตุลาการ คือ การดำเนินการอย่างกล้าหาญและการคำนึงถึงความยุติธรรม”
ในช่วงเริ่มต้นของการพบปะกันครั้งนี้ ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวเทอดเกียรติความทรงจำของบรรดาชะฮีดในระบบตุลาการ รวมทั้งชะฮีดเบเฮชตี และชะฮีดระอีซี ผู้มีประวัติศาสตร์อันโดดเด่นในด้านตุลาการ และขอบคุณอย่างจริงใจต่อความพยายามของประธานตุลาการสูงสุด เจ้าหน้าที่ ผู้พิพากษา และ พนักงานผู้มีเกียรติของตุลาการนี้
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม เน้นย้ำให้เห็นว่าในอัลกุรอานและแหล่งข้อมูลของอิสลามอื่นๆ มีการกล่าวถึงเพียงเล็กน้อยในประเด็น เช่น ความยุติธรรม โดยถือว่า ความกล้าหาญ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินการบนความยุติธรรม และท่านกล่าวว่า “ตามคำกล่าวของอิมามซัจญาด (อ.) ที่ว่า ฝ่ายตุลาการควรดำเนินการในลักษณะที่ศัตรูก็ได้รับการปกป้องจากความฉ้อฉลและเหล่ามิตรสหายที่สนิท ก็จะสิ้นหวังกับความสนับสนุนที่ไร้ซึ่งความยุติธรรม หากสิ่งนี้เกิดขึ้น ปัญหาที่สำคัญอย่างมากของ ความมั่นคงทางจิตใจของประชาชน ก็จะได้รับการแก้ไข”
ท่านอยาตุลลอฮ์คาเมเนอี ยังชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการวางแบบแผนของระบบตุลาการและเอกสารยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลง ที่ดีอย่างมากในหน่วยงานนี้ โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “เอกสารเหล่านี้จะต้องได้รับการดำเนินการในลักษณะที่เกิดผลที่สัมผัสได้ชัดเจนต่อตัวชี้วัดที่สำคัญของตุลาการ”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การลดระยะเวลาในการจัดการคดีความ เป็นเข้มแข็งและความสม่ำเสมอของการตัดสินของศาลชั้นต้น ซึ่งนำไปสู่การลดการละเมิดคะแนนเสียงในกระบวนการอุทธรณ์และการลดการรายงานและการร้องเรียนไปยังองค์กรตรวจสอบ เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญ ซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงโดยการนำเอกสารของระบบตุลาการไปดำเนินการ
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า คดีความที่มีหลายหลาก เป็นสาเหตุของแรงกดดันต่อผู้พิพากษาและอาจทำให้คำตัดสินต้องถูกลดลง โดยท่านกล่าวว่า “เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาสำคัญของคดีความที่มีหลายหลาก จะต้องมีการคิดขั้นพื้นฐานทั้งการปรับปรุงความรู้ด้านตุลาการของผู้พิพากษาทุกคนโดยใช้ขีดความสามารถของมหาวิทยาลัยในสาขาตุลาการและการเสริมสร้างกองกำลังญิฮาด เป็นคำแนะนำสองประการของท่านผู้นำที่มีต่อเจ้าหน้าที่ระบบตุลาการ”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวแสดงความกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าของการดำเนินการคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องขังและผลที่ตามมาคือระยะเวลายาวในการคุมขังชั่วคราวของผู้ต้องขัง โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “จะต้องกำหนดหน้าที่ของบุคคลดังกล่าวให้เร็วยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้ผู้ใดต้องติดคุก เนื่องจากการยืดเยื้อที่ยาวนานของการประมวลผลคดี”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาของนักโทษบางคนที่มีหนี้สิน ที่ไม่ได้รับการแก้ไข โดยท่านกล่าวเสริมว่า “บางคนถึงแม้จะติดคุกไปตลอดชีวิตก็ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้สินและปัญหานี้ก็เช่นกัน ก็จะต้องได้รับการแก้ไข”
การเน้นย้ำถึงการอ้างอิงของผู้พิพากษาเกี่ยวกับกฎหมายภายในประเทศ ไม่ใช่แหล่งที่มาด้านสิทธิมนุษยชนของชาติตะวันตก ความต่อเนื่องของการลงพื้นที่ของประธานตุลาการสูงสุด และการติดตามผลการดำเนินการตามคำตัดสินที่มีความหวังที่ดี เกิดขึ้นระหว่างการเยือนเหล่านี้ เป็นหลายประเด็นในการปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวสรุปในส่วนนี้ของการปราศรัย โดยท่านกล่าวว่า “พวกท่านจะต้องกระทำในลักษณะที่ความคิดเห็นของสาธารณชน ถือว่า ระบบตุลาการเป็นบ้านแห่งความยุติธรรมและเป็นศูนย์กลางของความยุติธรรมโดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน”
ในช่วงสุดท้ายของการปราศรัย ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้ให้คำแนะนำที่สำคัญแก่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า รายการต่างๆที่เกี่ยวกับเลือกตั้งทางสถานีโทรทัศน์ เป็นสิ่งที่ดีและทำให้ประชาชนรู้จักถึงมุมมองที่แตกต่างกัน และท่านยังกล่าวถึงบรรดาผู้สมัครในการเลือกตั้งว่า ประเด็นต่างๆของผู้สมัครทางสถานีโทรทัศน์หรือการเปิดเผยทัศนะอื่น ๆจะไม่เป็นเหตุทำให้ผู้สมัครคนหนึ่งสำหรับการเอาชนะเหนือคู่แข่งต้องพูดคำของศัตรูและให้ศัตรูมีความสุข
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า สมมติว่า ผู้สมัครทุกคนนี้นรักอิหร่านและสาธารณรัฐอิสลาม เพราะว่า พวกเขาต้องการที่จะเป็นประธานาธิบดีในรัฐนี้และสำหรับการรับใช้ประชาชน ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงไม่ควรพูดในลักษณะที่ศัตรูจะมีความสุข
ในช่วงเริ่มต้นของการพบปะกันครั้งนี้ ฮุจญตุลอิสลาม วัลมุสลิมีน มุฮ์ซินี เอเญห์อี ประธานตุลาการสูงสุด ถือว่า การจัดตั้งคณะทำงานร่วมของฝ่ายตุลาการและรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง เป็นหนึ่งในกิจกรรมเชิงบวกที่สำคัญที่สุดในปีที่ผ่านมา
พณฯ มุฮ์ซินี เอเญห์อี ยังถือว่า การใช้มาตรการต่างๆ เช่น การแจ้งเอกสารล่าสุดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงระบบตุลาการ การร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขกฎหมายเศรษฐกิจและการป้องกันการล้มละลายของโรงงานผลิตขนาดใหญ่บางแห่ง ความพยายามอย่างจริงจังในการแก้ไขปัญหาทางกฎหมายของเรื่องที่ดินประชาชน การปรับปรุงการควบคุมดูแลด่านศุลกากรและท่าเรือและคลังสินค้าการตรวจสอบกิจกรรมการก่อสร้างอย่างชาญฉลาดและการลดการก่อสร้างที่ไม่ได้รับอนุญาต การพบปะประชาชนมากกว่า 400,000 ครั้งของเจ้าหน้าที่ตุลาการทั่วประเทศ และ การติดตามการทูตด้านตุลาการอย่างจริงจัง โดยความร่วมมือกับสำนักงานสิทธิมนุษยชนและกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งหมดเหล่านี้ ล้วนเป็นการดำเนินการที่สำคัญที่สุดของหน่วยงานตุลาการ