คณะนักเรียน นักศึกษา ผู้คว้าเหรียญโอลิมปิกวิชาการในระดับชาติและนานาชาติ เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำถือว่า เยาวชนระดับชนชั้นนำทางปัญญา เป็นแหล่งที่มาของความหวังอันยิ่งใหญ่ และลึกซึ้งอย่างแท้จริง พร้อมทั้งกล่าวว่า “ประเทศนี้ ต้องการ การตื่นตัวทางวิทยาศาสตร์และเยาวชนชั้นนำทางปัญญา ถือเป็นปัจจัยหลักในการตอบสนองความต้องการในระดับชาตินี้”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การพบปะกับเยาวชนคนหนุ่มสาวที่โดดเด่นและเตรียมพร้อมที่จะทำงาน เป็นเรื่องที่น่ายินดีและปลื้มปิติอย่างยิ่ง โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ตรงกันข้ามกับทัศนะของเจ้าหน้าที่บางคนในหลายทศวรรษที่ผ่านมา ข้าพเจ้านั้นมีความเชื่อมั่นต่อเยาวชนคนหนุ่มสาวและแรงจูงใจของพวกเขา และข้าพเจ้าก็ยังถือว่า พวกท่านนั้นเป็นความมั่งคั่งอันยิ่งใหญ่ ซึ่งมีคุณค่ามากกว่าเหรียญรางวัลที่สร้างความภาคภูมิใจของพวกท่านเสียอีก”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังชี้ให้เห็นถึงช่วงยุคสมัยการครอบงำของอังกฤษ ประมาณ 200 ปีที่ผ่านมา และหลังจากนั้น พวกสหรัฐฯก็เข้ามาครอบงำประเทศ โดยท่านกล่าวว่า “ในช่วงเวลานั้น วัฒนธรรมและการเติบโตทางวิทยาศาสตร์ของเราได้ถูกทำลาย และในทางการเมือง พวกเขาได้ทำให้อิหร่านอยู่ในระดับที่ต่ำ แต่การปฏิวัติอิสลาม ซึ่งอาศัยแรงกำลังของเยาวชนคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ ได้ขัดขวางระบอบนั้นและได้ก้าวกระโดดไปในสาขาต่างๆ ทั้งทางการเมือง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี จริยธรรม ทางสังคม และสาขาอื่นๆ”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เชิญชวนให้เยาวชนชั้นนำทางปัญญา เข้ามาร่วมใช้ความคิดและร่วมมือกันแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยท่านกล่าวเสริมว่า “การได้รับเหรียญรางวัลหรือตำแหน่งที่สูงในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการของชนชั้นนำทางปัญญาเท่านั้น และควรเดินตามเส้นทางของชนชั้นนำทางปัญญาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความคิดที่สร้างสรรค์ทางปัญญาและการปฏิบัติทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพัฒนาทางด้านจริยธรรม แน่นอนว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องมีหน้าที่ในด้านนี้ด้วย และควรที่จะทำให้เป็นสถาบันและมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้นทางด้านนี้อีกด้วย”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ให้เห็นถึงการก่อตัวของขบวนการขับเคลื่อนทางวิทยาศาสตร์ที่ประสบผลสำเร็จในช่วงทศวรรษที่ 80 (ปฏิทินอิหร่าน)และการเร่งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของประเทศ โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “ในช่วงปีสุดท้ายของทศวรรษที่ 90 การขับเคลื่อนไหวนี้ได้ลดลงมาบ้าง แน่นอนว่า การลดลงเช่นนี้ได้รับการชดเชยบ้างในช่วงหลายปีหลังจากนั้น ประมาณสองหรือสามปี แต่ยังถือว่าไม่เพียงพอ และในสถานการณ์ปัจจุบันของเรา เราจำเป็นที่จะต้องมีการตื่นตัวทางวิทยาศาสตร์เพื่อก้าวไปสู่ระดับแนวหน้าของวิทยาศาสตร์ในระดับโลก ซึ่งจะเป็นไปได้ด้วยความพยายามของเยาวชนชั้นนำทางปัญญาและการเตรียมสภาพแวดล้อมโดยทั่วไป”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ความเป็นอิสรภาพทางการเมืองของประเทศ เป็นข้อเท็จจริงที่สามารถสัมผัสได้ โดยท่านกล่าวว่า “สาธารณรัฐอิสลามนั้น มีจุดยืน ตรรกะ และคำพูดที่น่าฟัง ในประเด็นต่างๆที่สำคัญของโลก ซึ่งแม้แต่ฝ่ายตรงข้ามของเรา ก็ยังเชื่อถือเลย”
ท่านผู้นำสูงสุด ยังเน้นย้ำว่า “ไม่ควรที่จะละเมิดอิสรภาพทางการเมืองนี้และทุกรัฐบาลที่เข้ามารับตำแหน่ง ก็จะต้องรักษามันไว้ด้วย”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าวตอบคำถามของหนึ่งในเยาวชนชั้นนำทางปัญญาที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยท่านกล่าวว่า “ในการเลือกตั้งที่สำคัญอย่างมากที่กำลังจะมาถึง อันดับแรกและที่สำคัญ คือ จะต้องเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชน ด้วยเหตุนี้เอง จึงจำเป็นที่ต้องกระทำทุกอย่างที่เป็นไปได้ในด้านนี้ ไม่ว่าจะสภาพแวดล้อมของนักศึกษาและครอบครัวของพวกเขา”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ในการอธิบายถึงมาตรวัดของการคัดเลือก โดยท่านกล่าวว่า “สำหรับตัวเลือกที่ดี ให้เราดูว่า ผู้ใดที่ใกล้ชิดมาตรวัดของการปฏิวัติอิสลามมากกว่าและมีศักยภาพในการทำงาน ตามมาตรวัดเหล่านี้”
ในช่วงท้ายของการพบปะกันครั้งนี้ ผู้ที่ชนะเลิศการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการได้มอบเหรียญรางวัลให้แก่ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม โดย อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวขอบคุณสำหรับการกระทำนี้ พร้อมทั้งกล่าวว่า “ข้าพเจ้าตอบรับเหรียญรางวัลจากพวกท่าน บรรดาบุตรของข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าก็เชื่อมั่นว่า เหรียญเหล่านี้ ควรอยู่กับพวกท่าน ฉะนั้น จึงขอคืนเหรียญรางวัลให้แก่พวกท่าน อันเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง”
นอกจากนี้ ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้กล่าวขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และรองประธานาธิบดีฝ่ายวิทยาศาสตร์ สำหรับความพยายามของเขาในการดูแลเยาวชนชั้นนำทางปัญญาเหล่านี้
ในการพบปะกันครั้งนี้ ผู้ได้รับเหรียญรางวัล ทั้งนักเรียนและนักศึกษาในการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ จำนวน 8 คนได้กล่าวแสดงความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวกับการศึกษาของพวกเขา ซึ่งท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามยังได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการตรวจสอบในประเด็นเหล่านี้อย่างดีที่สุด
ก่อนการพบปะกันครั้งนี้ ก็ได้มีการนมาซซุฮ์ริและอัศริในรูปแบบญะมาอะฮ์ โดยท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติ เป็นอิมามนำนมาซ ร่วมกับเยาวชนทั้งหลายอีกด้วย