สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

ประธานาธิบดี พร้อมคณะรัฐบาล เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม

“การเข้าเป็นสมาชิกของข้อตกลงทั้งสองฉบับ ถือเป็นภารกิจที่สำคัญของรัฐบาล”

ประธานาธิบดี พร้อมคณะรัฐบาล เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำกล่าวชื่นชมผลงานที่ดีและเข้มแข็งของรัฐบาลในบางภาคส่วน ได้แก่ งานโครงสร้างพื้นฐาน การเติบโตของตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจมหภาค และ นโยบายต่างประเทศ โดยท่าน กล่าวว่า “แม้ว่าจะมีผลงานพื้นฐานที่น่าชื่นชมของรัฐบาล แต่ช่างน่าเสียดายยิ่งนักที่ปัญหาเกี่ยวกับค่าครองชีพ เสมือนดั่งเป็นฝุ่นที่เป็นอุปสรรคจากการมองเห็นถึงผลงานหลักของรัฐบาล ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องลดอัตราเงินเฟ้อสองหลักที่ไม่เอื้ออำนวยให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และการดำรงความยุติธรรม การลดช่องว่างทางชนชั้น การรักษาเสถียรภาพของตลาด การลดอัตราเงินเฟ้อ การรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยน และการเพิ่มการผลิต เนื่องจากเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการตัดสินใจและการดำเนินการต่างๆ ของรัฐบาล รวมถึงในแบบแผนพัฒนาฉบับที่ 7 จึงควรที่จะได้รับความสนใจอย่างเต็มที่”

ในการพบปะกับท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ครั้งนี้ ซึ่งตรงกับช่วงวันครบรอบการเป็นชะฮาดัตของชะฮีดทั้งสอง รอญาอีและบอฮุนัร และเนื่องในวโรกาสสัปดาห์แห่งรัฐบาล โดยท่านผู้นำถือว่า การแสวงหาความพอพระทัยจากพระผู้เป็นเจ้าและการทำงานเพื่อประชาชน เป็นลักษณะพิเศษที่สำคัญสองประการของชะฮีดทั้งสองคนนี้ และท่านกล่าวว่า “รอญาอีและบอฮุนัรนั้น มีทิศทางในการขับเคลื่อนเพื่อพระผู้เป็นเจ้าและการปฏิวัติอิสลาม อีกทั้งในการทำงานเพื่อประชาชน จึงเป็นสาเหตุที่ได้รับความพึงพระทัยจากพระองค์ด้วยเช่นกัน และเป้าหมายหลักนี้ เป็นเงาสะท้อนให้กับการขับเคลื่อนต่างๆ ทั้งการแต่งตั้งอื่นๆและการทำงานของพวกเขา ด้วยเหตุนี้เอง ชื่อรหัสของรัฐบาลทั้งหมดในรัฐอิสลาม จะต้องได้รับความพึงพอพระทัยจากพระผู้เป็นเจ้าและการทำงานเพื่อประชาชน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ให้เห็นถึงการสนับสนุนของผู้นำสูงสุดในทุกๆรัฐบาลที่มีแนวโน้มและขีดความสามารถที่แตกต่างกัน การช่วยเหลือต่อสภาฝ่ายบริหารจัดการ ถือเป็นหน้าที่ของทุกๆคน โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ผลงานของรัฐบาลชุดนี้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง แต่ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก เนื่องจากการเข้าไม่ถึงในภาษาสื่อของรัฐบาล ทั้งยังมีการขับเคลื่อนที่ดีในระดับที่มีความจำเป็น ซึ่งยังไม่ได้สะท้อนต่อสายตาของประชาชนอย่างเหมาะสม”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัตอิสลาม ยังกล่าวอธิบายเกี่ยวกับผลงานที่แข็งแกร่งของรัฐบาลในภาคเศรษฐกิจ โดยท่านชี้ให้เห็นถึงการเติบโตของตัวชี้วัดมหภาค รวมถึงการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม การเติบโตของการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น การลดการเติบโตของสภาพคล่อง การลดอัตราการว่างงาน การลดลงของสัมประสิทธิ์ของความไม่เสมอภาค (Gini) และการส่งออกที่เพิ่มมากขึ้น โดยท่านกล่าวเสริมว่า “การเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบภาษี การเพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีและผลงานที่มีคุณค่าทางด้านน้ำมันและก๊าซและการเปิดบริการโรงงานที่ปิดบริการหรือกึ่งปิดบริการหลายพันแห่ง ถือเป็นผลงานที่น่ายกย่องอื่นๆ ของรัฐบาล แม้ว่า ผลกระทบของการเพิ่มขึ้นของตัวชี้วัดเศรษฐกิจมหภาคและมาตรการโครงสร้างพื้นฐานในชีวิตของผู้คนจะต้องใช้เวลาก็ตาม”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี อธิบายถึงการค้นหาสาเหตุของการสะท้อนที่อ่อนแอต่อการดำเนินการที่ดีของรัฐบาลในสังคม โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “มีสองประการ ด้วยกัน กล่าวคือ ประการแรก ความอ่อนแอในการได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างมีศิลปะของรัฐบาล และประการที่สอง ปัญหาค่าครองชีพ รวมทั้ง ราคาอาหารบางชนิดที่แพงขึ้นและราคาที่สูงขึ้นในประเด็นที่อยู่อาศัย ซึ่งเสมือนดั่งฝุ่นที่เป็นอุปสรรคต่อการมองเห็นถึงผลงานหลักพื้นฐานของรัฐบาล”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม  ยังถือว่า ผลงานของรัฐบาลในด้านการบริหารจัดการ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญด้วยเช่นกัน โดยท่านกล่าวว่า “การเข้าร่วมอยู่ท่ามกลางประชาชนและการพบปะกับพวกเขาโดยตรงอย่างเป็นกันเองและความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างมาก”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า “เรานั้นไม่มีสิทธิ์ที่พูดกับกับประชาชนในฐานะที่มีตำแหน่งสูงและมีความหยิ่งทะนง เพราะว่า เราไม่ใช่ผู้อื่นใดและสิ่งที่มีอยู่ก็เป็นของประชาชน และหากเราได้รับความรับผิดชอบ ประการแรก ประชาชนต่างหาก คือผู้ที่มอบให้ และประการที่สอง ก็คือ การรับใช้ต่อประชาชน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย การมีจิตวิญญาณในการต่อสู้ และการใช้ประโยชน์จากเยาวชนคนหนุ่มสาวในระดับต่างๆของการบริหารจัดการ ถือเป็นผลงานที่น่าชื่นชมอื่นๆของรัฐบาล

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าวชื่นชมในการขับเคลื่อนของรัฐบาลในนโยบายด้านต่างประเทศ รวมทั้งนโยบายความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านโดยท่านผู้นำกล่าวว่า “เราไม่ควรที่จะสร้างความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้านใดๆทั้งสิ้น และหากว่ามีความขัดแย้งก็ควรที่จะเปลี่ยนเป็นความร่วมมือและก้าวผ่านไปในเรื่องนี้ ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การเชื่อมความสัมพันธ์กับทุกรัฐบาลที่ต้องการมีความสัมพันธ์กับอิหร่าน (ยกเว้น ข้อยกเว้นบางประการ) ท่ามกลางนโยบายต่างๆที่ถูกต้องของรัฐบาลสมัยที่ 13 โดยท่านกล่าวว่า “การเข้าเป็นสมาชิกในข้อตกลงระหว่างประเทศทั้งสองฉบับ ถือเป็นภารกิจที่สำคัญอย่างมากอีกด้วยเช่นกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ประเทศที่อยู่ในสถานการณ์ที่เหล่าผู้ก่อตั้งข้อตกลงประชาคมระหว่างประเทศนั้นมีความเต็มใจและบางครั้งก็ยืนกรานที่จะสร้างความสัมพันธ์กับอิหร่านและจากการคำนวณและการพิจารณาถึงความเป็นจริงของอิหร่าน โดยที่พวกเขาถือว่า มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างความสัมพันธ์กับประเทศของเรา”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการเพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลงานต่างๆที่ดีของรัฐบาลในภาคส่วนทางด้านวัฒนธรรม โดยท่านชี้ให้เห็นถึงประเด็นหนึ่งที่สำคัญ กล่าวว่า “การเกิดช่องว่างระหว่างข้อเท็จจริงของประเทศกับผลงานของรัฐบาลและการรับรู้ของประชาชนเกี่ยวกับข้อเท็จจริงต่างๆนั้นยิ่งใหญ่มาก จนพวกท่านจะต้องใช้ประโยชน์จากบรรดาผู้เชี่ยวชาญในการลดช่องว่างนี้”

ส่วนที่สามของคำปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามในระหว่างการพบปะกับประธานาธิบดีและคณะรัฐบาล โดยท่านกล่าวอธิบายถึงข้อเสนอแนะต่างๆที่สำคัญอย่างยิ่ง

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังถือว่า เศรษฐกิจและวัฒนธรรม เป็นความสำคัญหลักของประเทศ โดยท่านกล่าวถึงคำขวัญประจำปีว่า “การควบคุมอัตราเงินเฟ้อนั้น จะประสบความสำเร็จด้วยการเติบโตของการผลิต ด้วยเหตุนี้เอง การเติบโตของการผลิต จึงถือเป็นภารกิจที่สำคัญมากที่สุดและจะต้องได้รับความสนใจเป็นอันดับแรก”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าวอธิบายว่า การสนับสนุนจากการผลิตและการขจัดอุปสรรคในวิถีของผู้ผลิต มีสองแนวทางพื้นฐานสำหรับการเติบโตในการผลิต โดยท่านกล่าวเสริมว่า “การสนับสนุนทางกฎหมาย การอำนวยความสะดวกในการขับเคลื่อนทางการผลิต การสนับสนุนทางการเงิน และการจัดหาทรัพยากรในขอบเขตที่เป็นหน้าที่ของรัฐบาล และการสนับสนุนทางด้านวัฒนธรรม หมายถึง การส่งเสริมให้ประชาชนใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ในประเทศ เป็นช่องทางที่สำคัญมากที่สุดในการเติบโตจากการผลิต”

 ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า “แน่นอนว่า ควรที่จะมีความระมัดระวังไม่ให้เกิดความขัดแย้งเหมือนกับที่บางคนในรัฐบาลก่อนๆ โดยทำให้แหล่งที่มาของสกุลเงินตราต่างประเทศและเรียลที่เฉพาะกับการผลิต ไม่ได้เกิดขึ้นจากการกระทำอื่นๆ และบางคนที่เป็นผู้เล่นกับปัญหาต่างๆและข้อมูลทางเศรษฐกิจ ด้วยการใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ผิดกฏหมาย โดยที่ไม่แสวงหาผลกำไรจำนวนมากอย่างไม่ชอบธรรม”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การสนับสนุนทางการค้าด้านการต่างประเทศที่มีต่อการผลิตในประเทศ เป็นอีกช่องทางที่สำคัญอีกประการหนึ่งในการเติบโตทางการผลิต โดยท่านกล่าวว่า “การค้าด้านต่างประเทศเป็นอีกส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการตลาด แต่อีกส่วนหนึ่ง ควรที่จะดำเนินการเพื่อให้เกิดมีการบันทึกความเข้าใจและการบรรลุสัญญากับประเทศต่างๆ ซึ่งจะนำไปสู่การส่งออกผลผลิตในประเทศและการนำเข้าของทุนหรือสินค้าที่เป็นทุน เข้ามาในประเทศ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การวินิจฉัยถึงความต้องการของประเทศอย่างทันท่วงที เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยท่านกล่าวว่า “หากว่า ประเทศมีความต้องการสินค้าหนึ่ง ที่ไม่ได้มีการวินิจฉัยอย่างทันที และเริ่มใกล้ที่จะเข้าสู่ขั้นตอนวิกฤติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และจำเป็นที่จะต้องมีการนำเข้า ซึ่งแน่นอนว่า เราก็จะประสบกับปัญหานี้อย่างแน่นอน”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าวแสดงความพึงพอใจต่อการซื้อข้าวสาลี มากกว่า 10 ล้านตันในปีนี้ โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “หากว่า ผู้ผลิตสินค้าทางการเกษตรและผู้ผลิตทางด้านอุตสาหกรรมและผู้ให้บริการรายอื่นๆ ได้รับการสนับสนุนด้วยเช่นกัน พวกเขาก็จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของประเทศได้อย่างมากมาย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังให้ข้อเสนอแนะอีกประการหนึ่ง โดยท่านได้ชี้ให้เห็นถึงหน้าที่ของรัฐบาลในแบบแผนพัฒนาฉบับที่ 7 โดยท่านเรียกร้องให้รัฐบาลดูแลและมีความระมัดระวังในภารกิจทั้งหมด และการตัดสินใจที่สำคัญทางด้านเศรษฐกิจ และมาตรวัดผล เช่น ความยุติธรรม การลดช่องว่างทางชนชั้น การมีเสถียรภาพทางการตลาด การลดลงของอัตราเงินเฟ้อ เสถียรภาพของอัตราการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน และการเติบโตของการผลิต และการตัดสินใจทางเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อตัวชี้วัดเหล่านี้”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ปัญหาค่าครองชีพของประชาชน เป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมาก โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ปัญหาค่าครองชีพ เช่น ราคาที่สูงมากขึ้นของที่อยู่อาศัยและค่าเช่าที่แพง เป็นเหตุให้ผลงานที่ดีและการทำงานหนักของรัฐบาลต้องถูกบดบังและถูกปกปิดจากสายตาต่างๆ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า เป้าหมายหลักของมาตรการคว่ำบาตร คือ ปัญหาค่าครองชีพของประชาชนและการยึดมาเป็นตัวประกัน โดยท่านกล่าวว่า “ในประเด็นของการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรกำลังมีการดำเนินการและการเจรจากันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่ามีความถูกต้องและมีความปลอดภัย แต่ในทำนองเดียวกัน แนวทางปฏิบัติของการไร้ประสิทธิภาพในมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งถือเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญที่สุด คือ การลดอัตราเงินเฟ้อ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังชี้ให้เห็นถึงสถิติของบรรดาเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการลดอัตราเงินเฟ้อ นับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของรัฐบาล โดยท่านตั้งข้อสังเกตว่า “การลดลงนี้ เป็นสิ่งที่ดี แต่ยังถือว่าไม่เพียงพอ เพราะว่าอัตราเงินเฟ้อเลขสองหลักเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายปีที่ติดต่อกัน คือ สิ่งที่ไม่พึงปรารถนาและจะต้องมีความพยายามที่ลดลงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การประสบความสำเร็จของภารกิจทั้งหลายและโครงการต่างๆอย่างมากมายที่ยังไม่แล้วเสร็จ การแก้ปัญหาความไม่สมดุลของธนาคาร การจัดการกับนายหน้าและการไกล่เกลี่ย ท่ามกลางมาตรการต่างๆ ที่มีการดำเนินการซึ่งจะมีผลอย่างรวดเร็วในการลดอัตราเงินเฟ้อ”

ในข้อเสนอแนะอีกประการหนึ่ง ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การรู้จักโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ และการใช้ประโยชน์อย่างตรงเวลา

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังชี้ให้เห็นถึงเอกสารความร่วมมือจำนวนมากและในระยะยาวของรัฐบาลกับบางประเทศ  ถือเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นที่จะต้องได้ผลลัพท์ของเอกสารและข้อตกลงเหล่านี้ โดยท่านกล่าวว่า การบันทึกความเข้าใจและข้อตกลงต่างๆ อย่าได้อยู่บนแผ่นกระดาษเพียงเท่านั้น”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ให้เห็นถึงความคิดเห็นของบางองค์ประกอบทางการเมืองที่มองว่าการมีปฏิสัมพันธ์กับโลกถูกจำกัดด้วยความสัมพันธ์อันอบอุ่นและความใกล้ชิดกับประเทศตะวันตกบางประเทศ โดยท่านกล่าวว่า “มุมมองนี้เป็นสิ่งที่ผิดพลาด มีล้าหลัง และเกี่ยวข้องกับความคิดเห็นเมื่อ 100 ปีก่อน เมื่อครั้งที่หลายประเทศในยุโรปกลายเป็นทุกอย่างของโลก แต่ปัจจุบันนี้ เราควรที่จะต้องละทิ้งมุมมองเก่าๆนี้ และยังมีล้าหลัง และความเข้าใจว่า การสร้างความสัมพันธ์กับโลก หมายถึง การเชื่อมความสัมพันธ์กับแอฟริกา อเมริกาใต้ และเอเชีย ซึ่งเป็นแหล่งความมั่งคั่งของมนุษย์และธรรมชาติเป็นจำนวนมหาศาล ในขณะที่มาตรวัดของการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คือการได้รับผลประโยชน์และเกียรติยศของชาติ และในการสร้างความสัมพันธ์ จะต้องไม่มีทั้งการครอบงำและการยอมรับการครอบงำอีกด้วย”

นอกจากนี้ ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวอธิบายถึงข้อเสนอแนะอีกประการหนึ่งที่มีต่อคณะรัฐบาล โดยท่านกล่าวว่า “พวกท่านทั้งหลายจงรักษาศักดิ์ศรีของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างมาก และเช่นเดียวกัน ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พวกท่านจะต้องมีสนทนากับชนชั้นนำทางปัญญาและบรรดาผู้เชี่ยวชาญให้มากที่สุด”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การเข้าร่วมของบรรดาเจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัย เพื่อรับฟังคำพูดของนักศึกษาและคณาจารย์ ตลอดจนการแสดงวิสัยทัศน์และการถ่ายทอดประเด็นต่างๆ เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นแก่พวกเขา โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “บรรดานักศึกษา คณาจารย์ และชนชั้นนำทางปัญญา เป็นผู้ที่รอบรู้ แต่พวกเขามีความรู้ที่ไม่เพียงพอเกี่ยวกับผลงานจำนวนมากมายในประเทศ ซึ่งสามารถที่จะเห็นถึงความก้าวหน้าต่างๆด้วยการได้รับข้อมูลที่สมบูรณ์”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การสร้างรากฐานเพื่อสังเกตความก้าวหน้าโดยทั่วไปของประเทศ เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยท่านกล่าวว่า “ความหวังอีกประการหนึ่งของศัตรูในการต่อสู้กับอิหร่าน ก็คือ มหาวิทยาลัย ซึ่งการเข้าร่วมของบรรดาเจ้าหน้าที่ทั้งหลายในมหาวิทยาลัย จะทำให้แบบแผนนั้นไร้ประสิทธิภาพ”

การมีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนของสื่อของรัฐบาล เป็นข้อเสนอแนะอีกประการหนึ่งของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามที่กล่าวไว้ในบริบทนี้ว่า “ในทุกๆการดำเนินการที่สำคัญ จำเป็นต้องมีการแนบโฆษณาชวนเชื่อที่ชัดเจน เช่น ในกรณีที่จะยกเลิกสกุลเงิน ซึ่งเป็นการดำเนินการที่จำเป็น จะต้องมีการอธิบายถึงเหตุผลของการดำเนินการนี้และผลประโยชน์ อีกทั้งผลกระทบของมันให้ประชาชนได้รับทราบ”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังเน้นย้ำให้เห็นว่า การใช้ภูมิปัญญาร่วมกันในการทำงานต่างๆ โดยท่านกล่าวเสริมว่า “คำพูด สถิติ และคำสัญญาของบรรดาเจ้าหน้าที่ของรัฐควรที่จะสอดคล้องกัน ไม่ใช่ว่าหน่วยงานต่างๆ ปฏิเสธสถิติและคำสัญญาของกันและกัน หรือถือว่าไม่สามารถที่จะกระทำได้”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ให้ข้อเสนอแนะประการสุดท้าย เกี่ยวกับการไม่ให้ความสนใจต่อการสร้างสถานการณ์และการเป็นประเด็นชายขอบ โดยท่านกล่าวว่า “เป็นไปได้ว่าอาจมีบางคนที่มีพฤติกรรมรุนแรงในโลกไซเบอร์ที่กำลังมองหาข้อโต้แย้งเพื่อป้องกันในการดำเนินการของรัฐบาลหรือกำหนดการดำเนินการกับรัฐบาล แต่ทว่า ถ้าการตัดสินใจนั้น หรือการดำเนินการของพวกท่านมีการตรวจสอบอย่างรอบคอบและใช้ความคิดไตร่ตรอง พวกท่านก็อย่าได้ให้ความสนใจต่อข้อโต้แย้งของกลุ่มต่างๆที่สร้างความกดดัน แต่พวกท่านจะต้องมอบความไว้วางใจต่อพระผู้เป็นเจ้าในก้าวต่างๆที่มั่นคงและการติดตามอย่างสมบูรณ์”

ในช่วงท้าย ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวแสดงความหวังว่า ด้วยความสำเร็จของพระเจ้า จะทำให้รัฐบาลได้รับความสำเร็จเพิ่มมากขึ้นเป็นสองเท่าในช่วงระยะเวลาความรับผิดชอบที่เหลืออยู่

ในช่วงเริ่มต้นของการพบปะกันครั้งนี้ พณฯ ประธานาธิบดีได้กล่าวรายงานถึงความท้าทายที่รัฐบาลต้องเผชิญในช่วงเริ่มต้น เช่น การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า การขาดดุลงบประมาณและการขาดแคลนสินค้าพื้นฐาน พร้อมทั้งเขายังกล่าวถึงแนวทางและมาตรการของรัฐบาลในการเอาชนะอุปสรรคต่างๆ โดยเขากล่าวว่า “การเติบโตทางการผลิตเพิ่มขึ้นถึง 4% ในสองปีติดต่อกัน การลดอัตราการว่างงานลงเหลือ 8.2% ความเติบโตทางการค้าของประเทศอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การผลิตน้ำมันและก๊าซที่เพิ่มมากขึ้นและการแก้ปัญหาที่เหลืออยู่ 87 ล้านบาร์เรล ของก๊าซธรรมชาติเหลวน้ำอย่างสมบูรณ์ การวางแบบแผนเพื่อแก้ไขความไม่สมดุลของไฟฟ้า 22,000 เมกะวัตต์ การจัดการของรัฐบาลในการแก้ปัญหาความตึงเครียดด้านทรัพยากรน้ำและแก้ไขปัญหาหมู่บ้าน 3,500 แห่ง การเพิ่มการผลิตก๊าซเพื่อลดความไม่พอใจในภาคส่วนก๊าซ การวางแบบแผนเพื่อปฏิรูประบบธนาคาร การลดการเติบโตของสภาพคล่องจาก 40% เป็นร้อยละ 27 การเน้นการปฏิรูประบบและโครงสร้างงบประมาณ การเพิ่มเตียงในโรงพยาบาล 15,000 เตียง ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของรัฐบาล การครอบคลุมการประกันสุขภาพแบบครบวงจร การเติบโตเชิงปริมาณและคุณภาพของบริษัทฐานความรู้ การเพิ่มขึ้น 59% ในการคว้าเหรียญรางวัลของบรรดาเยาวชนของประเทศและนักกีฬาของชาติ การเปิดใช้ระบบโปร่งใสในการป้องกันการทุจริต การเข้าประเทศของบรรดานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถึง 8 ล้านคน การรับประกันซื้อข้าวสาลีมากกว่า 10 ล้านตัน การตั้งเป้าการผลิตรถยนต์ 1.7 ล้านคันภายในสิ้นปีนี้ และการเดินหน้าเจรจาในการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรและในขณะเดียวกัน การติดตามนโยบายของประเทศเพื่อนบ้าน การเข้าร่วมของพันธมิตรระหว่างประเทศที่ยิ่งใหญ่ของโลก และการคืนทรัพย์สินของประเทศอิหร่านในประเทศต่างๆ ถือเป็นการดำเนินการและโครงการต่างๆของรัฐบาลในช่วงระยะเวลานี้”

พณฯ ราอีซี ถือว่า การให้ความใส่ใจของรัฐบาลต่อการทำงานอย่างไม่หยุดยั้งและการหลีกเลี่ยงออกจากการเข้าไปเกี่ยวข้องกับประเด็นชายขอบ เป็นนโยบายของรัฐบาล โดยท่านประธานาธิบดีกล่าวว่า “ด้วยความช่วยเหลือ การมีส่วนร่วมของประชาชนและการแสดงบทบาทของพวกเขาเอง ได้ทำให้โครงการของศัตรูที่จะแยกอิหร่านออกจากโลกและทำให้ผู้คนในนั้นผิดหวัง พบกับความล้มเหลว”

ในการพบปะกันครั้งนี้ นายมุคบิร รองประธานาธิบดีคนที่หนึ่ง ได้กล่าวรายงานถึงสถานะตัวชี้วัดของเศรษฐกิจมหภาคและการให้ความสำคัญของรัฐบาลต่อคำขวัญประจำปีในกรอบของแบบแผนที่กำหนดชัดเจน

นายเมฮ์รอบียอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยังได้กล่าวถึงสถานะล่าสุดและความคืบหน้าของโครงการขนาดใหญ่ที่กำลังดำเนินการในภาคส่วนน้ำและไฟฟ้าของประเทศอีกด้วย

 

 

 

 

 

 

700 /