สุลต่าน ฮัยษัม บิน ฏอริก อัลซะอีด กษัตริย์โอมาน พร้อมคณะผู้ติดตาม เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำถือว่า ความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับโอมาน เป็นความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและมีรากฐาน อีกทั้งยังเป็นความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอด โดยท่านกล่าวว่า “เราเชื่อมั่นว่า การขยายความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ในทุกๆด้าน จะได้รับผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ให้เห็นถึงการเจรจาทางทวิภาคี ระหว่างฝ่ายอิหร่านกับโอมาน โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ประเด็นที่สำคัญจากการเจรจาเหล่านี้ ก็คือ การได้รับผลลัพท์ที่สามารถสัมผัสได้ เพื่อที่จะมีการติดตามอย่างต่อเนื่องและในท้ายที่สุด จะมีการขยายความสัมพันธ์ระหว่างกัน”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ให้เห็นถึงประเด็นอันตรายจากการปรากฏตัวของรัฐเถื่อนไซออนิสต์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยท่านกล่าวเสริมว่า “นโยบายของรัฐเถื่อนไซออนิสต์ และเหล่าผู้ให้การสนับสนุนพวกเหล่านี้ คือ การสร้างความแตกแยกและการทำให้ภูมิภาคไม่มีความมั่นคง ด้วยเหตุนี้เอง ทุกประเทศในภูมิภาค ควรที่จะให้ความสนใจกับประเด็นนี้”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า “การเพิ่มความร่วมมือต่อกันระหว่างโอมานและอิหร่าน ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ เนื่องจากทั้งสองประเทศนั้นต่างใช้เส้นทางน้ำที่สำคัญมากร่วมกันในช่องแคบฮอร์มุซ”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ให้เห็นถึงการแสดงความคิดเห็นของสุลต่านโอมาน บนพื้นฐานของความต้องการของอียิปต์สำหรับการกระชับความสัมพันธ์กับสาธารณรัฐอิสลามอีกครั้ง โดยท่านได้เน้นย้ำ “เรานั้นให้การตอบรับและเราก็ไม่มีปัญหาใดๆในประเด็นนี้”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวถึงการแสดงความพึงพอใจของสุลต่านโอมาน จากการเริ่มต้นใหม่ในความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับซาอุดีอาระเบียอีกครั้ง โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “ประเด็นเหล่านี้ อันเป็นผลมาจากนโยบายที่ดีของรัฐบาล พณฯ ราอีซี สำหรับการขยายและการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้านและประเทศต่างๆในภูมิภาค”
ในท้ายที่สุด ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้กล่าวแสดงความหวังจากการขยายความสัมพันธ์กับรัฐบาลทั้งหลายโดยที่ประชาชาติอิสลาม จะได้มีการฟื้นฟูความรุ่งโรจน์และแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของตนออกมา พร้อมทั้งการใช้ศักยภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆของประเทศอิสลาม จะเป็นผลประโยชน์กับประชาชาติทั้งหลาย ประเทศต่างๆและรัฐบาลทั้งหลายของอิสลาม”
ในการพบปะกันครั้งนี้ ฮุจญตุลอิสลาม วัลมุสลิมีน ราอีซี ประธานาธิบดีอิหร่านได้เข้าร่วมอยู่ด้วย โดยสุลต่าน ฮัยษัม บิน ฏอริก อัลซะอีด กษัตริย์โอมาน ได้กล่าวแสดงความยินดีที่ได้เข้าพบปะกับท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม โดยถือว่า นโยบายของโอมาน คือ การขยายความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน โดยสุลต่านโอมาน กล่าวว่า “ในการเจรจาที่กรุงเตหะราน เราได้มีการพูดคุยหารือ เพื่อที่จะมีความร่วมมือต่อกันและการแลกแปลี่ยนความคิดเห็นในด้านต่างๆ และเรายังหวังว่า ด้วยการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ความสัมพันธ์เหล่านี้เติบโตขึ้นต่อไปเรื่อยๆและผลลัพท์ทางการปฏิบัติ จะประจักษ์กับทั้งสองฝ่ายอีกด้วย”