สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

ผู้บัญชาการกองทัพบกพร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพบกเข้าพบท่านผู้นำบัญชาการสูงสุด

หากเราปฏิบัติการอย่างจริงจัง สามารถทำให้ศัตรูพบกับความพ่ายแพ้

คณะผู้บัญชาการกองทัพบก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงกองทัพบก เข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ในฐานะผู้บัญชาสูงสุดทุกเหล่าทัพ โดยท่านผู้นำบัญชาการสูงสุด ถือว่า ตามวจนะของท่านอะมีรุลมุอ์มินีน อะลี (อ.) กล่าวว่า กองทัพบกนี้ เปรียบเสมือนดั่งป้อมปราการอันมั่นคงของประเทศและประชาชาติ และท่านผู้นำยังได้เน้นย้ำว่า “สถานภาพอันยิ่งใหญ่ของกองทัพนี้ ได้แบกเอาภารกิจที่หนักอึ้ง  ซึ่งต้องขอขอบคุณต่อพระเจ้า ที่กองทัพบกนั้นรู้จักถึงคุณค่าของสถานภาพที่สร้างความภาคภูมิใจนี้ ด้วยการปฏิบัติตามหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเอง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังรู้สึกปลื้มใจ เนื่องจากการขับเคลื่อนและความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องของกองทัพบก โดยท่านกล่าวว่า “พวกท่านทั้งหลาย อย่าได้พอใจกับความมั่นคงและความก้าวหน้า แต่จงก้าวไปข้างหน้าอย่างที่ไม่มีการหยุดนิ่งอีกด้วย”

ท่านผู้บัญชาการสูงสุดทุกเหล่าทัพ ยังได้ยกหลักฐานจากโองการอัลกุรอาน ถือว่า การเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง เป็นพระบัญชาของพระเจ้าและเป็นที่มาของความหวาดกลัวสำหรับเหล่าศัตรูของพระองค์ โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “ภัยคุกคาม จะไม่มีวันถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้เอง พวกท่านทั้งหลาย จะต้องเพิ่มความพร้อมในด้านต่างๆให้มากที่สุดเท่าที่สามารถจะมากได้”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การเตรียมความพร้อมของกองทัพบกในการยับยั้งเหล่าศัตรูและการเฝ้าระวังเหล่าผู้วางแผนอยู่เบื้องหลัง เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ให้เห็นถึงคำพูดและการดำเนินการที่เป็นไปได้ขององค์ประกอบที่ทรงพลังน้อย โดยท่านกล่าวว่า “อย่าได้ทำให้ความคิดทั้งหลายมุ่งเน้นไปยังการดำเนินการเหล่านี้และคำพูดต่างๆ แต่จะต้องมีการสังเกตเหล่าผู้วางแผนหลักและผู้ที่อยู่เบื้องหลัง”

ท่านผู้บัญชาการสูงสุดทุกเหล่าทัพ ยังได้ชี้ให้เห็นถึงสงครามของกองกำลังอันชั่วร้ายระหว่างประเทศในส่วนต่างๆของโลก โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “ความเป็นจอมอหังการ ได้ก่อความขัดแย้งที่อยู่เบื้องหลังในทุกสถานที่ ซึ่งเห็นว่ามีผลประโยชน์

การมุ่งเน้นไปยังรูปแบบแผนระยะยาวของศัตรู เป็นอีกประเด็นที่สำคัญประการหนึ่งที่ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้กล่าวเน้นย้ำกับบรรดาผู้บัญชาการและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพบก

ในบริบทเดียวกันนี้ ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวว่า “การมุ่งเน้นไปยังรูปแบบแผนในระยะห้าปีหรือสิบปีของศัตรู เป็นสิ่งที่ดีและมีความจำเป็น แต่จะต้องมีการสังเกตและการติดตามรูปแบบแผนในระยะกลางและระยะยาวอีกด้วย”

ท่านผู้บัญชาการสูงสุดทุกเหล่าทัพ ยังได้ชี้ให้เห็นถึงสงครามทั้งสองครั้งที่อเมริกาได้ก่อขึ้นในตะวันออกและตะวันตกของอิหร่าน เมื่อประมาณสองทศวรรษที่ผ่านมา โดยท่านกล่าวว่า “พวกสหรัฐฯต่างให้ความสนใจในผลประโยชน์ของอิรักและอัฟกานิสถาน แต่เป้าหมายสูงสุดของพวกเหล่านั้น คือ อิหร่านที่เป็นอิสลาม ซึ่งด้วยเหตุผลของการมีรากฐานที่แข็งแกร่ง เนื่องจากการปฏิวัติอิสลาม โดยที่พวกเหล่านั้นต่างประสบกับความล้มเหลวในเป้าหมายสูงสุดจากเหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้กล่าวถึงข้อเท็จจริงนี้ โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “ด้วยเหตุนี้เอง เราสามารถที่จะทำให้ศัตรูต้องพบกับความล้มเหลวได้ แม้ว่าการคำนวณทั้งหมดของพวกเหล่านี้ ที่มองเปลือกนอกนั้นมีความแข็งแกร่งและมีอำนาจทางทหารก็ตาม”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า สถานการณ์ปัจจุบันของระบอบรัฐเถื่อนไซออนิสต์ เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของความล้มเหลวเหล่านี้ โดยท่านกล่าวว่า “การปฏิบัติการต่อต้านชาวปาเลสไตน์ของพวกรัฐเถื่อนไซออนิสต์ในเดือนรอมฎอนเมื่อปีที่ผ่านมานั้นไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆจากโลกโดยเฉพาะ แต่ทว่าในปีนี้ ในการเผชิญกับอาชญากรรมของพวกเหล่านี้ แม้แต่ในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษก็มีการเดินขบวนประท้วงด้วยเช่นกัน”

ท่านผู้บัญชาการสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การไม่เพิกเฉยต่อศัตรู ด้วยการมีแนวความเชื่อในความล้มเหลวของเขา เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยท่านกล่าวเสริมว่า “อย่าได้เพิกเฉยต่อกลอุบายและแผนการร้ายของเหล่าศัตรูเป็นอันขาด”

ในช่วงท้ายของคำปราศรัย ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้เรียกร้องให้องค์ประกอบทางความคิดของกองทัพบก ทำการออกแบบกลยุทธ์และนโยบายที่แข็งแกร่ง มีเหตุผลและมีสร้างสรรค์

ก่อนการกล่าวสุนทรพจน์ของท่านผู้บัญชาการสูงสุดทุกเหล่าทัพ พลตรี บากิรี เสนาธิการทหารของกองทัพบก ได้กล่าวรายงานเกี่ยวกับรูปแบบแผนและการดำเนินการต่างๆของกองทัพบกในหลายมิติด้วยกัน

700 /