สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

บรรดาเจ้าหน้าที่รัฐฯเข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม

การล่มสลายของรัฐเถื่อนไซออนิสต์ในเวลาอันใกล้นี้ เป็นสัญญาณความอ่อนแอของพวกเขา

บรรดาเจ้าหน้าที่รัฐฯและข้าราชการของประเทศ เข้าพบปะท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม โดยท่านผู้นำได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในความเพียรพยายามและการมีเจตจำนงของเจ้าหน้าที่ทั้งหลายและหน่วยงานภาครัฐทั้งหมด ในตลอดทั้งปี เพื่อการยับยั้งเงินเฟ้อและความก้าวหน้าทางการผลิต ด้วยการอธิบายถึงข้อกำหนดในการที่จะทำให้คำขวัญประจำปีเกิดขึ้นจริงและให้คำแนะนำที่สำคัญหลายประการในประเด็นต่างๆทางด้านเศรษฐกิจ โดยท่านผู้นำ กล่าวว่า “หากว่ามีการปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้ จะเห็นถึงผลลัพธ์ในการลดลงของอัตราเงินเฟ้อและความรู้สึกสะดวกสบายของประชาชนในช่วงท้ายของปี”

ในการพบปะกันครั้งนี้ ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้กล่าวถึงประเด็นต่างๆที่สำคัญเกี่ยวกับแผนการสมรู้ร่วมคิดทางสังคม แต่ในความจริง คือ ทางการเมือง-ความมั่นคงของเหล่าศัตรู ประเด็นเรื่องฮิญาบ การเลือกตั้งในเดือนอิสฟันด์ (มีนาคม ปี 2024)และสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของโลก

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า คำขวัญของปีนี้ เป็นคำขวัญที่มีความสำคัญและมีความละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก โดยท่านกล่าวเสริมว่า “การเลือกคำขวัญทางเศรษฐกิจ ไม่ได้หมายถึงการเพิกเฉยต่อประเด็นทางสังคมและวัฒนธรรม เพราะปัญหาทางเศรษฐกิจ รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ก่อให้เกิดการแพร่กระจายของความยากจน และในทางตรงกันข้าม การเพิ่มขึ้นของการเลือกปฏิบัติและความมั่งคงที่ต้องห้ามและก่อให้เกิดการทุจริตคอรัปชั่นที่ส่งผลเสียต่อวัฒนธรรม ความคิด และพฤติกรรมของประชาชน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ความก้าวหน้าทางการผลิต มีความสำคัญที่จะต้องควบคู่กับการยับยั้งเงินเฟ้อ โดยท่านกล่าวว่า “ในบางครั้งอัตราเงินเฟ้อในประเทศได้รับการควบคุม แต่ก็นำมาซึ่งความซบเซาทางเศรษกิจ ซึ่งแน่นอนว่า จากการให้เหตุผลที่ชัดเจนของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ การควบคุมและยับยั้งอัตราเงินเฟ้อมีความเป็นไปได้ พร้อมกับความก้าวหน้าทางการผลิตและเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเกิดผลงานที่ดีด้วยความจริงจัง ความต่อเนื่องและการบรรลุผลของคำขวัญประจำปี”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ความสำคัญอันดับแรกในการบรรลุผลของคำขวัญประจำปีทางการปฏิบัติสำหรับบรรดาเจ้าหน้าที่ทั้งหมดและหน่วยงานภาครัฐต่างๆ เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างมากที่สุด โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “บรรดาเจ้าหน้าที่ทั้งหมดและผู้บริหารทั้งหลาย จะต้องให้ความสนใจ มีความเพียรพยายามและมีเจตจำนงไปยังจุดหลัก ไม่ใช่เพียงการพูดคุย การเขียนบทความ ทำหัวจดหมายและปฏิทิน หลังจากนั้น ก็ลืมทุกสิ่งทุกอย่างและการทำให้คำขวัญประจำปีต้องถูกละทิ้งและตกอยู่เพียงชายขอบ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้อธิบายถึงความหมายที่แท้จริงของการจัดอันดับความสำคัญของคำขวัญประจำปีในรัฐบาล รัฐสภา สภาตุลาการสูงสุด และทุกหน่วยงานภาครัฐฯ โดยท่านกล่าวว่า “การใช้ศักยภาพทั้งหมดและสิ่งอำนวยความสะดวกทางด้านฮาร์ดแวร์ รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติและโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งการใช้ศักยภาพต่างๆทางด้านซอฟต์แวร์ เช่น พลังงานทางด้านมนุษยธรรมที่สร้างสรรค์ บรรดาเยาวชนที่เต็มไปด้วยการมีแรงจูงใจ บรรดาชนชั้นสูงและกลุ่มนักอัจฉริยบุคคล และผู้ที่มีแนวความคิดใหม่ๆ ถือว่า เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นสำหรับการบรรลุผลของคำขวัญประจำปี”

การใช้ประโยชน์จากสิ่งอำนวยความสะดวกทางด้านการสื่อสาร จากประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ และองค์ประกอบที่มีประสบการณ์ หรือแม้แต่การสื่อสารจากต่างประเทศ เพื่อขยายวงกว้างของการมีปฏิสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศอื่นๆ ก็เป็นอีกหลายประเด็นที่ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้อธิบายเกี่ยวกับความหมายที่แท้จริงของการจัดอันดับความสำคัญของคำขวัญประจำปี

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การหลีกเลี่ยงออกจากการทำให้เป็นชายขอบและการขัดขวางคำขวัญประจำปี รวมถึง การมีมุมมองทางการเมืองและการฝักฝ่าย หรือการอนุมัติอัตราเงินเฟ้อ เป็นอีกเงื่อนไขประการหนึ่งที่จะทำให้คำขวัญประจำปี มีความสำคัญและมีความหมายที่แท้จริง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวสรุปในส่วนนี้จากคำปราศรัยของท่าน โดยท่านได้เน้นย้ำว่า “หากมิติต่างๆของการจัดอันดับความสำคัญนี้ ได้รับการตระหนักในทางปฏิบัติ บรรดาผู้เชี่ยวชาญก็จะเข้าใจถึงการปฏิบัติตามคำขวัญประจำปีจากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ และประชาชนก็จะรู้สึกมีความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตของพวกเขา”

 อีกส่วนหนึ่งของคำปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามในการพบปะกับบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐฯและข้าราชการของประเทศ คือ ประเด็นที่เกี่ยวกับข้อกำหนดสำหรับการปฏิบัติตามคำขวัญประจำปี

ความร่วมมือกันอย่างแท้จริงและการขยายวงกว้างของทั้งสามสภา รวมถึงการอนุมัติกฎหมายที่ฝ่ายบริหารกำหนดและการติดตามผลของการตัดสินใจอย่างจริงจังและความต่อเนื่อง จนกว่าจะบรรลุผล เป็นข้อกำหนดที่สำคัญสองประการที่ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติได้ชี้

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ให้เห็นถึงคำตักเตือนอย่างต่อเนื่องของท่านที่มีต่อบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐฯในการพบปะกันแบบส่วนตัว เกี่ยวกับประเด็นการติดตามผลของการตัดสินใจต่างๆ  โดยระบุว่า การมีอยู่ของโครงการที่แล้วเสร็จครึ่งๆ กลางๆ เป็นจำนวนมากนั้น เกิดขึ้นมาจากการขาดความสนใจในประเด็นของการติดตามผล และท่านผู้นำได้ยกตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม โดยท่านกล่าวว่า “บริษัทของรัฐฯขนาดใหญ่ไม่กี่แห่งที่มีกำไรดี พวกเขาเคยสัญญากับท่านประธานาธิบดีว่า จะดำเนินการโครงการก่อสร้างในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ เพื่อให้บริการกับประชาชน แต่ในขณะนี้ เห็นได้ชัดว่า พวกเขายังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆอย่างเด็ดขาด”

การมีเสถียรภาพในนโยบายต่างๆและการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เป็นข้อกำหนดประการที่สามซึ่งท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า เป็นพื้นฐานในการทำให้คำขวัญประจำปีบรรลุผล และท่านผู้นำยังถือว่า การเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของนโยบายดังกล่าว ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากและทำให้เหล่านักลงทุนเกิดความลังเลทั้งในประเทศและต่างประเทศ

การมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นอีกข้อกำหนดประการหนึ่งในการปฏิบัติตามคำขวัญประจำปี ซึ่งท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า มีความสำคัญเป็นอย่างมากและเป็นตัวกำหนดที่ชัดเจน

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าววิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการดำเนินการที่อ่อนแอของหน่วยงานต่างๆในประเทศนี้ ถือว่า การมีประสบการณ์ในการสร้างและการขยายบริษัทฐานความรู้หลายพันแห่ง เป็นประสบการณ์ที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง ซึ่งจะต้องอาศัยการวางแบบแผนที่ถูกต้อง โดยท่านกล่าวเสริมว่า “บรรดาเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ จะต้องมีการจัดเตรียมพื้นฐานสำหรับการทำให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรมและอย่างชัดเจน เพื่อที่ทำให้ประชาชนทุกคนรู้จักถึงหน้าที่ของตน ซึ่งในสภาพนี้ ความก้าวหน้าทางการผลิต จะเกิดขึ้นในภาคส่วนเล็กและใหญ่อย่างที่ไม่มีความสงสัยใดๆ”

ในบริบทนี้ ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้เชิญชวนให้เจ้าหน้าที่ของรัฐฯจัดทำรูปแผนงานสำหรับเศรษฐกิจฐานความรู้ของประเทศ การออกแบบแผนการดำเนินงานสำหรับแผนงานนี้และการแจ้งข้อมูลให้ประชาชนรับทราบอย่างสมบูรณ์

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ชี้ให้เห็นถึงนโยบายต่างๆทางด้านเศรษฐกิจแบบการยืนหยัด โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “การดำเนินตามนโยบายเหล่านี้ จะสร้างศักยภาพให้เกิดขึ้นกับกลุ่มชนที่ด้อยโอกาสและมีการเพิ่มรายได้ให้กับพวกเขา และองค์กรการวางแบบแผนและงบประมาณและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีการกำหนดวิธีการกระตุ้นประชาชนในระบบเศรษฐกิจด้วยการสร้างกลไกที่ชัดเจน เพื่อที่จะสามารถดำเนินการตามขั้นตอนที่ดีในการสร้างความยุติธรรม ซึ่งเป็นพื้นฐานของเศรษฐศาสตร์ในอิสลาม”

หลังจากที่ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้กล่าวอธิบายถึงข้อกำหนดของคำขวัญแห่งปีที่เกิดขึ้นจริง โดยท่านผู้นำได้ให้คำแนะนำทางด้านเศรษฐกิจที่สำคัญหลายประการด้วยกัน

การต่อสู้กับการทุจริตคอรัปชั่นอย่างจริงจังและแบบตัวต่อตัว ถือเป็นกุญแจหลักของคําแนะนําที่สําคัญของท่านผู้นําสูงสุดที่มีต่อบรรดาเจ้าหน้าที่ทุกคน

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การทุจริตคอรัปชั่น เป็นดั่งมังกรเจ็ดเศียรและการต่อสู้กับมังกรตัวนี้ เป็นภารกิจที่ยากลำบากเป็นอย่างมาก โดยท่านกล่าวว่า “การทุจริตคอรัปชั่น ถือเป็นโรคร้ายแรงมีอันตรายอย่างมากและเป็นโรคติดต่อ ซึ่งทําให้ประชาชนนั้นไม่มีความหวังและความปรารถนาทางด้านความปลอดภัย ทางจริยธรรมและศีลธรรมก็ลดน้อยลง ซึ่งสภาทั้งสามและหน่วยงานทั้งหมด จะต้องมีการต่อสู้อย่างเด็ดขาดในประเด็นเหล่านี้ โดยถือว่าเป็นภารกิจที่สําคัญของตน”

การมีระเบียบวินัยทางการเงิน รวมถึงการปฏิรูปโครงสร้างของงบประมาณ ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่เกี่ยวกับหน้าที่ทางเศรษฐกิจขั้นพื้นฐานของเจ้าหน้าที่รัฐฯทั้งหลาย ซึ่งท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้ให้ความสนใจและเน้นย้ำ

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า หนึ่งในวัตถุประสงค์หลักของการประชุมความร่วมมือในระดับผู้นําของรัฐบาลชุดก่อนหน้านี้ คือ การปฏิรูปโครงสร้างของงบประมาณและท่านผู้นำยังได้ชี้ให้เห็นว่า วัตถุประสงค์นี้ยังไม่บรรลุผล โดยท่านกล่าวว่า “จะต้องมีการติดตามวาระที่สําคัญนี้”

การหลีกเลี่ยงภาระที่ผูกพันทางการเงินที่ไม่มีผลประโยชน์ยั่งยืนและการประหยัดอย่างจริงจัง รวมถึง การเดินทางที่ไม่จําเป็น การจัดสัมมนาที่ไร้ประโยชน์และการซื้ออุปกรณ์ที่ไม่จําเป็นของหน่วยงานต่างๆ เป็นประเด็นสำคัญที่ท่านผู้นําสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้กล่าวอธิบายถึง

ในคําแนะนําประการต่อมา ท่านผู้นําสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ให้เห็นถึงระดับขั้นของการผลิตที่ต่ำลงอย่างมากในภาคเศรษฐกิจของประเทศ เช่น การบริโภคที่สูงขึ้นและผลผลิตที่ต่ำลง ซึ่งถือว่า มีความจำเป็นที่จะต้องมีการเพิ่มผลผลิต โดยท่านกล่าวว่า “การบริโภคน้ำของเรา เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆในโลก ถือว่า น้อยเป็นอย่างมาก ขณะที่เรานั้นมีพลังงานที่เข้มข้นเป็นหลายเท่ากว่าประเทศที่ก้าวหน้า”

การกำหนดและการจัดระเบียบความสัมพันธ์เชิงตรรกะของรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่กับรัฐบาล คือ คําแนะนําประการที่สี่ของท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวในประเด็นนี้ว่า “ในภาครัฐและภาคเอกชน มีผู้บริหารจัดการที่ดีที่สามารถพัฒนาประเทศในภาคส่วนต่างๆในช่วงสงครามเศรษฐกิจเมื่อหลายปีที่ผ่านมา บรรดาผู้บริหารจัดการและผู้ประกอบการที่กระตือรือร้นเหล่านี้ ควรจะได้รับการสนับสนุนเพื่อเสริมสร้างคุณภาพและความแข็งแกร่งของการแข่งขันและการสร้างตลาดการขายในประเทศและต่างประเทศสําหรับผลิตภัณฑ์ของตนและพวกเขายังมีหน้าที่ในการแสดงบทบาทของตนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าววิพากษ์วิจารณ์บางบริษัทของรัฐบาลขนาดใหญ่และการมีรายได้ที่สูงขึ้น ซึ่งมีการใช้วัตถุดิบในประเทศจากการผลิต แต่ทว่ามีการเปรียบเทียบราคาของสินค้าของตนกับดอลลาร์เทเลแกรมและราคาปลอมที่ถูกกํากับโดยศัตรู โดยท่านกล่าวว่า “ทําไมต้องให้เงินดอลลาร์เข้ามาปกครองด้วย ขณะที่เรานั้น จะต้องทำให้สกุลเงินเรียลของอิหร่านมีความแข็งแกร่ง”

ท่านผู้นําสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ปัญหาหนึ่งของประเทศนั้นขึ้นอยู่กับภาคส่วนต่าง ๆ ของเศรษฐกิจที่เป็นดอลลาร์ โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ขณะที่บางประเทศที่แยกตัวเองออกจากดอลลาร์และการทำธุรกรรมของพวกเขาถูกตัดขาดจากสวิฟต์ (SWIFT หรือ "Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication"  สมาคมเพื่อการโทรคมนาคมทางการเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก) จึงได้พบสถานการณ์ที่ดีขึ้น”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้เน้นย้ำให้เห็นถึงการกำหนดบทบาทของบริษัทขนาดใหญ่ของรัฐบาลในกลยุทธ์ทั่วไปทางด้านเศรษฐกิจและการยับยั้งเงินเฟ้อ โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ในทางตรงกันข้ามกับการสนับสนุนบรรดาผู้บริหารที่ดีของบริษัท ผู้ที่แสดงบทบาทในการทําลายล้างในระบบการเงิน เช่น สถาบันการเงินบางแห่งหรือธนาคารเอกชนที่ทําให้เกิดภาวะเงินเฟ้อด้วยการซื้ออสังหาริมทรัพย์และที่ดินหรือการเบิกจ่ายเงินจากธนาคารกลางอย่างมากเกินไป ก็จะต้องไม่มีความกระดากอายทางการปฏิบัติด้วย”

การมีอำนาจในการคาดการณ์ของระบบการวางแบบแผน เป็นอีกคำแนะนำอีกประการหนึ่งของท่านผู้นําสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม โดยท่านกล่าวว่า “หากว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการวางแบบแผน ไม่มีอํานาจในการคาดการณ์ เมื่อเผชิญหน้ากับการขาดแคลนอย่างฉับพลัน ก็จะเกิดความสับสนและมีความรีบร้อนที่จะนําเข้า ซึ่งการกระทำนี้ จะเป็นการทําลายทางการผลิต ในขณะที่จะต้องมีการคาดการณ์ในเหตุการณ์ต่างๆด้วยความสัมผัสถึงความขาดแคลนในรายงานต่างๆ เช่น เนื้อสัตว์ ไก่ และข้าว ด้วยการระดมสิ่งอำนวยความสะดวกและมีความสามารถที่จะแก้ไขปัญหาของประชาชน ด้วยการใช้ขีดความสามารถต่างๆ”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวในคำแนะนำประการสุดท้าย ด้วยการแสดงความพึงพอใจในการเข้าร่วมของกลุ่มบุคคลที่มีความเข้าใจและมีความรู้ทางเศรษฐกิจอย่างดีในรัฐบาล โดยท่านผู้นำได้เชิญชวนให้มีมาตรการที่เป็นกุญแจหลักและพื้นที่ของการก้าวกระโดดทางเศรษฐกิจ รวมถึง การใช้ขีดความสามารถทางทะเลและเศรษฐกิจทางทะเลขั้นพื้นฐาน การใช้ประโยชน์จากจุดทางภูมิศาสตร์ที่ละเอียดอ่อนและมีสิทธิพิเศษของประเทศสําหรับการขนส่งระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเส้นทางสายเหนือ-ใต้ การฟื้นฟูเหมืองแร่ และการก่อสร้างที่อยู่อาศัย”

ในอีกส่วนหนึ่งของคําปราศรัยของท่านผู้นําสูงสุด โดยท่านถือว่า สถานการณ์ทางการเมืองของโลกนั้นมีความรวดเร็วอย่างมากและในขณะเดียวกันก็ทําให้ศัตรูของสาธารณรัฐอิสลามพบกับความอ่อนแอลง โดยท่านกล่าวว่า “สำหรับการใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ เราจะต้องเพิ่มการขับเคลื่อน การมีนวัตกรรมใหม่ และการเคลื่อนไหวทางด้านนโยบายต่างประเทศ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าวอธิบายถึงสัญญาณของความอ่อนแอของแนวรบที่ต่อต้านอิหร่านในระเบียบใหม่ของโลกแห่งอนาคต โดยท่านกล่าวว่า “หนึ่งในคู่ต่อสู้ที่สําคัญที่สุดของอิหร่านในโลก คือ สหรัฐอเมริกา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า อเมริกาในสมัยโอบามานั้นอ่อนแอกว่าอเมริกาในสมัยบุชและอเมริกาในสมัยทรัมป์นั้นอ่อนแอยิ่งกว่าในสมัยโอบามา”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ให้เห็นในประเด็นนี้ว่า การแบ่งขั้วที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งของสหรัฐฯเมื่อสองหรือสามปีก่อน ยังคงมีความแข็งแกร่ง ซึ่งสหรัฐฯไม่สามารถที่จะแก้วิกฤตของระบอบรัฐเถื่อนไซออนิสต์ได้ สหรัฐได้ประกาศว่า มีความตั้งใจจะสร้างแนวรบร่วมอาหรับในการต่อต้านอิหร่าน แต่ในวันนี้ ในทางตรงกันข้ามกับสิ่งที่ต้องการ และความสัมพันธ์ของชาติอาหรับกับอิหร่านกําลังจะเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่สหรัฐฯยังอยู่ภายใต้แรงกดดันทางการเมืองและการคว่ำบาตร ซึ่งต้องการที่จะยุติปัญหานิวเคลียร์ตามแบบแผนที่วางไว้ แต่ก็พบกับความล้มเหลว”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าวต่อไปถึงตัวอย่างของความอ่อนแอของอเมริกา โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “สหรัฐฯนั้น เป็นผู้เริ่มก่อสงครามในยูเครน แต่สงครามครั้งนี้ทําให้เกิดช่องว่างระหว่างประเทศและพันธมิตรในยุโรป ซึ่งพวกเหล่านี้สามารถเอาชนะเหนือสงครามได้จริง แต่ทว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ”

ท่านผู้นําสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า “สหรัฐฯ ถือว่า ละตินอเมริกานั้นเป็นสนามหลังบ้าน แต่รัฐบาลต่างๆที่หลากหลายได้เข้ามาต่อต้านอเมริกายังที่นั่น และในขณะเดียวกันสหรัฐฯต้องการที่จะทําให้เวเนซุเอลาต้องพบกับความพินาศและแม้กระทั่งมีการแต่งตั้งประธานาธิบดีจอมปลอมขึ้นมาด้วยเงิน อาวุธและกองกำลัง แต่ก็ต้องพบกับความล้มเหลว”

การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในลักษณะที่บางประเทศกําลังซื้อขายสกุลเงินประจําชาติของกันและกัน เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ท่านผู้นําสูงสุดได้อ้างถึง โดยท่านกล่าวว่า “ด้วยเหตุนี้เอง หนึ่งในเหล่าศัตรูหลักของรัฐอิสลาม ซึ่งกำลังพบกับความอ่อนแอลง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าวเกี่ยวกับประเด็นรัฐเถื่อนไซออนิสต์ ซึ่งหมายถึง อีกศัตรูหนึ่งของสาธารณรัฐอิสลาม และท่านยังได้ชี้ให้เห็นว่า ระบอบรัฐเถื่อนไม่เคยประสบกับปัญหาที่น่าหวาดกลัว เช่น ในวันนี้ ตลอดช่วงอายุ 75 ปีของตน ด้วยการอธิบายถึงตัวอย่างของความล้มเหลวทางการเมืองของรัฐเถื่อนนี้ โดยท่านกล่าวว่า “ระบอบรัฐเถื่อนไซออนิสต์ได้เกิดการสั่นสะเทือนทางการเมืองและในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีถึงสี่คนด้วยกัน กลุ่มพันธมิตรทางการเมืองก็ไม่สามารถก่อตัวได้ และก็พบกับการล่มสลาย ขณะที่การแบ่งสองขั้วอย่างรุนแรงได้เกิดขึ้นในระบอบรัฐเถื่อน แสดงให้เห็นถึงการประท้วงหลายแสนคนของชาวอิสราเอลในหลายเมืองและเป็นไปไม่ได้ที่จะชดเชยจุดอ่อนเหล่านี้ ด้วยการยิงขีปนาวุธหลายลูก”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ชี้ถึงการเปิดเผยในประเด็นที่เกี่ยวกับจํานวนผู้คนที่จะออกจากอิสราเอลในเร็วๆนี้ว่าจะถึงสองล้านคน โดยท่านผู้นำถือว่า คําเตือนอย่างต่อเนื่องของเหล่าเจ้าหน้าที่ไซออนิสต์ถึงการล่มสลายอันใกล้นี้ของระบอบรัฐเถื่อน เป็นอีกสัญญาณหนึ่งของความอ่อนแอของพวกรัฐเถื่อนไซออนิสต์ โดยท่านกล่าวว่า “เราเคยบอกว่า จะไม่เห็นพวกเหล่านี้ในอีก 25 ปี แต่ดูเหมือนว่า พวกเขาจะรีบร้อนและต้องการที่จะจากไปอย่างเร็วกว่านี้เสียอีก”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ความแข็งแกร่งของกลุ่มปาเลสไตน์หลายสิบเท่าและการเข้าถึงของปาเลสไตน์ในออสโลและความอัปยศอดสูของยัสเซอร์ อาราฟัต ที่มีต่อปาเลสไตน์ ทำให้พวกเขาได้กลายเป็นสิงโตแห่งการต่อสู้ เป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่แสดงให้ว่า ฝ่ายแนวรบที่ต่อต้านอิหร่านกำลังพบกับความอ่อนแอลงและฝ่ายแนวรบของการต่อสู้ก็กำลังจะแข็งแกร่งมากขึ้น”

ในอีกส่วนหนึ่งของคำปราศรัยองท่านผู้นําสูงสุด ท่านได้ชี้ถึงแผนการสมรู้ร่วมคิดของเหล่าศัตรูในประเทศ โดยท่านกล่าวว่า “เมื่อปีที่ผ่านมา มีแผนการสมรู้ร่วมคิดในประเทศ ซึ่งเห็นได้จากเหตุการณ์ก่อการจลาจลด้วยข้ออ้างปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงและด้วยการสนับสนุนของหน่วยงานสายลับต่างๆของชาติตะวันตก ก็เป็นเช่นนั้น”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ให้เห็นถึงสถานภาพที่น่าเสียใจและไม่มีความปลอดภัยสำหรับผู้หญิงในประเทศชาติตะวันตก โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ประเทศต่างๆเหล่านี้ ซึ่งบางส่วนนั้น ผู้หญิงได้ยอมรับเองว่า พวกนางนั้นไม่มีความปลอดภัยทั้งตามท้องถนนหรือค่ายผู้ลี้ภัยและในสถานีตำรวจ แม้กระทั่ง ยกตัวอย่างเช่น ผู้หญิงมุสลิมที่คลุมฮิญาบได้เดินทางมายังศาลเพื่อยื่นคำร้อง นางก็ถูกฆาตกรรม แต่ทว่าในสาธารณรัฐอิสลามนั้นได้ขีดเส้นให้ผู้หญิงมีฐานะอันสูงส่งเป็นอย่างยิ่ง”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ชี้ให้เห็นถึงการถูกหลอกลวงของกลุ่มบุคคลจํานวนหนึ่งในเหตุการณ์เมื่อปีที่ผ่านมา โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “กลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งในประเทศมักถูกหลอกด้วยการปฏิบัติตามศัตรูชาวต่างชาติและเหล่าผู้ทรยศในต่างประเทศ จากการใช้สโลแกนในประเด็นเสรีภาพของผู้หญิง แทนที่การใช้คำพูดที่ถูกต้องและเหตุผลทางตรรกะในการเผชิญหน้ากับภัยคุกคามต่างๆ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้อธิบายถึงปัญหาของผู้หญิงนั้น ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการแต่งกายของพวกนาง และท่านได้ชี้ให้เห็นถึงการเข้าร่วมของสตรีและเด็กหญิงชาวอิหร่านทางด้านการศึกษา การสร้างงาน การเคลื่อนไหวทางการเมืองและทางสังคม การรับตําแหน่งฝ่ายการบริหารและการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการต่อสู้ก่อนการปฏิวัติอิสลาม และในช่วงของการป้องกันอันศักดิ์สิทธิ์และการเดินขบวนในวันที่ 22 เดือนบะห์มัน และวันอัลกุดส์สากล โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ในประเด็นใดเหล่านี้ ถือว่าในประเทศไม่มีเสรีภาพหรือ? จะมีประเทศใดในโลกหรือ? ที่เหมือนกับผู้หญิงชาวอิหร่านที่มีการเคลื่อนไหวทั้งหมดเหล่านี้ ขณะที่ผู้หญิงชาวอิหร่านนั้นต่างได้รับความภาคภูมิใจ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวอธิบายถึงข้อกําหนดทางศาสนาและกฎหมายฮิญาบ โดยท่านกล่าวว่า “ในประเด็นการคลุมศีรษะ ฮิญาบเป็นข้อจํากัดทางศาสนาและเป็นกฎหมาย ไม่ใช่ข้อจํากัดของรัฐบาลและการไม่คลุมฮิญาบ จึงถือเป็นการกระทำที่ต้องห้ามทางศาสนาและเป็นที่ต้องห้ามทางการเมืองอีกด้วยเช่นกัน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นย้ำให้เห็นว่า เหล่าผู้คนที่ไม่คลุมฮิญาบ เนื่องจากพวกเหล่านี้ไม่ทราบถึงหลังม่านของการปลุกระดมนี้ว่า มีหน่วยงานสอดแนมของศัตรูอยู่เบื้องหลังในภารกิจนี้ โดยท่านกล่าวว่า “ถ้าหากเหล่าสตรีทราบว่า ใครอยู่เบื้องหลังของการไม่คลุมฮิญาบและการต่อสู้กับฮิญาบของพวกนาง พวกนางก็จะไม่กระทําเช่นนี้ เพราะว่า จำนวนมากของพวกนางนั้นมีความเคร่งครัดต่อศาสนา ทั้งการปฏิบัติศาสนกิจ การถือศีลอดในเดือนรอมฎอนและการวิงวอนต่อพระเจ้า”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า “ปัญหานี้ จะได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอน ดั่งในช่วงสัปดาห์แรกของการปฏิวัติอิสลาม ท่านอิมามโคมัยนี ผู้ยิ่งใหญ่ ได้อธิบายว่าประเด็นฮิญาบเป็นข้อกำหนดและมีความเด็ดขาด ซึ่งแน่นอนว่า ศัตรูได้วางแผนการร้ายและวางแบบแผนในการกระทำนี้ และบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐฯก็จะต้องมีการวางแผนและแบบแผนและจะต้องหลีกเลี่ยงออกจากการกระทำที่ไม่มีหลักการและปราศจากการวางแบบแผนอีกด้วย”

การเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาและสภาผู้ชำนาญ ในเดือนอิสฟันด์ของปีนี้ (มีนาคม 2024) เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ท่านผู้นําสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้เน้นย้ำถึงความสําคัญของมัน โดยท่านกล่าวว่า

“การจัดการเลือกตั้ง เป็นอีกตัวอย่างของการมีอํานาจในระดับชาติ และหากไม่มีการดำเนินการอย่างถูกต้องก็แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของประเทศและชาติและบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐฯ ไม่ว่าเราจะมีความอ่อนแอมากน้อยเพียงใด เหล่าศัตรูก็จะสร้างความกดดันและมีการโจมตีเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เอง พวกเราก็จะต้องมีความแข็งแกร่ง ซึ่งหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดของการมีอำนาจ ก็คือ การจัดการเลือกตั้งนั่นเอง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมในประเด็นนี้ว่า “บรรดาเจ้าหน้าที่ๆเกี่ยวข้อง จะต้องกำหนดยุทธศาสตร์ การมีส่วนร่วม ความปลอดภัย ความมั่นคงและการแข่งขันกันในการเลือกตั้ง เพื่อที่เราจะทำให้มีการจัดการเลือกตั้งที่ดี มีความปลอดภัยและประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างมาก”

 ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ให้เห็นถึงประเด็นสําคัญของการสื่อสาร โดยท่านกล่าวว่า “จะต้องมีการเปิดเผยถึงการใส่ร้าย การบ่อนทำลายและแผนการสมรู้ร่วมคิดของศัตรูที่มีต่อการมีอำนาจของประเทศ ที่เกิดขึ้นทางสื่อสังคมออนไลน์ และในขณะที่สื่อในระดับชาติ ซึ่งอยู่ในมือของบุคคลที่ศรัทธาและเต็มไปด้วยกับการมีแรงจูงใจ จะต้องทำการขัดขวางความพยายามของศัตรูในประเด็นนี้”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวขอบคุณต่อการรายงานที่ดีอย่างแท้จริงของท่านประธานาธิบดีในช่วงเริ่มต้นของการพบปะกับท่านผู้นําสูงสุด โดยท่านถือว่า เดือนรอมฎอนอันจำเริญ ถือเป็นโอกาสที่พิเศษอย่างยิ่งสำหรับการรำลึกถึงพระเจ้าและการละทิ้งการทดสอบที่ยิ่งใหญ่ของการเพิกเฉย และการสัมผัสกับความแสงสว่างแห่งความเมตตาและการชี้นำของพระผู้อภิบาล”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้ยกหลักฐานจากโองการของอัลกุรอานและฮะดีษของบรรดาอิมาม ผู้บริสุทธิ์ (อ.) ถือว่า ผลที่ดีของการกระทําและพฤติกรรม คือ ผลลัพท์ของการรำลึกถึงพระเจ้าอย่างมาก โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐฯ คือ การรับใช้ประชาชนและการบริหารจัดการของประเทศ ซึ่งการกล่าวรำลึกถึงพระเจ้าในการปฏิบัติหน้าที่อันหนักหน่วงเหล่านี้ จะส่งผลดีอย่างแน่นอน”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ความหมายที่แท้จริงของการรับใช้ต่อพระเจ้า คือ การรับใช้ต่อผู้คนของพระองค์และการก้าวไปสู่เป้าหมายของพระองค์ โดยท่านผู้นำสูงสุดได้กล่าวกับบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐฯว่า “พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานความเป็นไปได้และการมีอำนาจในการรับใช้ต่อประชาชน ซึ่งถือว่า การรับใช้นี้ เป็นบททดสอบที่สำคัญที่สุดสำหรับเราในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ ด้วยเหตุนี้เอง เราจะต้องมีความพยายามอย่างทวีคูณในการปฏิบัติภาระหน้าที่อันหนักหน่วงของเรา ด้วยการรู้จักโอกาสที่ส่องแสงสว่างของเดือนรอมฎอน”

ในช่วงเริ่มต้นของการพบปะกันครั้งนี้ ฮุจญตุลอิสลาม วัลมุสลิมีน ราอีซี ประธานาธิบดีได้กล่าวรายงานเกี่ยวกับการขับเคลื่อนและแบบแผนของรัฐบาล โดยเขากล่าวว่า “ประชาชาติอิหร่านที่ยิ่งใหญ่ คือ วีรบุรุษผู้หาญกล้าของปี 1401 ซึ่งพวกเขาได้ยืนหยัดในการต่อสู้กับเหล่าศัตรูและเอาชนะเหนือพวกศัตรูในสงครามแบบผสมได้”

ฮุจญตุลอิสลาม วัลมุสลิมีน ราอีซี ยังได้ชี้ให้เห็นถึงคำปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามในวันปีใหม่และความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลง โดยถือว่า การเปลี่ยนแปลง เป็นวิสัยทัศน์หลักของรัฐบาล โดยเขากล่าวว่า “นับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของรัฐบาล เรามีภารกิจในการเสริมสร้างจุดด้อยต่างๆของประเทศ รวมถึง การขาดดุลงบประมาณ อัตราเงินเฟ้อที่สูง การลดการกักตุนสินค้าพื้นฐาน การลดการผลิตและการบิดเบือนความเชื่อมั่นของประชาชนในการลงทุนด้วยวิธีการที่ถูกต้องในการชดเชยและการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของประเทศในทุกภาคส่วน”

ท่านประธานาธิบดี ได้อธิบายถึงอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ที่มากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ด้วยเหตุผล เช่น การปฏิรูปเศรษฐกิจในการกําจัดสกุลเงินที่ต้องการ โดยเขากล่าวว่า “เราจะปฏิบัติตามตามคำขวัญอันชาญฉลาดของปี 1402 เพื่อยับยั้งเงินเฟ้อและความก้าวหน้าทางการผลิตอย่างแข็งแกร่ง”

พณฯท่านราอีซี ถือว่า ความก้าวหน้าทางการผลิตในปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มที่ดี โดยเขากล่าวว่า “การลงทุนที่เติบโตขึ้นร้อยละ 7.7 ความก้าวหน้าทางการผลิตในอุตสาหกรรมเติบโตร้อยละ 8 ทางด้านน้ำมันและก๊าซเติบโตร้อยละ 9 ด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์เติบโตร้อยละ 19 ด้านรถยนต์เติบโตร้อยละ 19 ทางอุตสาหกรรมที่หนักบางประเภท เช่น เครื่องจักรในการก่อสร้างถนนสูงถึงร้อยละ 101 และในหมวดหมู่การผลิตอื่นๆ เช่น เหล็กและเครื่องใช้ในครัวเรือน เราก็มีการเติบโตที่สูงขึ้น”

ท่านประธานาธิบดี กล่าวเสริมว่า “แม้จะดําเนินการตามนโยบายในระดับภูมิภาคและการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ แต่รัฐบาลก็ไม่ได้ผูกมัดชีวิตของประชาชนและความก้าวหน้าของประเทศกับเจตจํานงของต่างประเทศใดๆทั้งสิ้น และไม่ได้ยินด้วยว่ามีคําพูดใดที่บ่งบอกว่าความก้าวหน้าของประเทศ จะต้องขึ้นอยู่กับข้อตกลงนิวเคลียร์หรือข้อตกลงใดๆก็ตาม”

พณฯท่านราอีซี กล่าวเสริมว่า “เราพร้อมที่จะดำเนินการร่วมกับสภาทั้งหลายและหน่วยงานอื่นๆด้วยการรักษาสัญญาของตน และหากว่าในบางกรณีใดก็ตามที่เราไม่สามารถรักษาสัญญา เราก็จะเปิดเผยให้กับประชาชนอย่างซื่อสัตย์”

ในช่วงท้ายของการพบปะกันครั้งนี้ ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้นำนมาซมักริบและอิชาอ์พร้อมทั้งร่วมละศีลอดกับบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐฯอย่างพร้อมเพียงกัน

 

 

700 /