นายอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุส พร้อมคณะผู้ติดตาม เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำถือว่า ในระหว่างสองประเทศนั้น มีศักยภาพของความร่วมมือที่มากกว่าในระดับปัจจุบันนี้ และท่านได้เน้นย้ำว่า “จะต้องยกระดับความสัมพันธ์ที่เพิ่มมากขึ้นด้วยกับการใช้จิตวิญญาณและการมีเจตจำนงของทั้งสองฝ่ายในการดำเนินการตามข้อตกลงต่างๆ”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ให้เห็นว่า อิหร่านและเบลารุส มีความคล้ายคลึงกันหลายประการ ซึ่งหนึ่งในความคล้ายคลึงยนั้น ก็คือ มาตรการคว่ำบาตรที่ถูกกลั่นแกล้งโดยสหรัฐฯและประเทศชาติตะวันตกบางประเทศ โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ประเทศที่ถูกคว่ำบาตรโดยสหรัฐฯ จะต้องมีความร่วมมือกันและจัดตั้งกลุ่มร่วมกัน เพื่อขจัดกลยุทธ์ของการคว่ำบาตรและเรายังเชื่อว่า การงานนี้ จะมีความเป็นไปได้”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ให้เห็นว่า สหรัฐฯได้คว่ำบาตรอิหร่าน นับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามและการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงมากที่สุดในรอบ 12 ปีที่ผ่านมา โดยท่านผู้นำได้ตั้งข้อสังเกตว่า “การคว่ำบาตรที่รุนแรง ทำให้อิหร่านต้องตระหนักถึงขีดความสามารถและพลังงานในประเทศ และในช่วงเวลานั้น การคว่ำบาตร ได้เป็นพื้นฐานของความก้าวหน้าอย่างมากมายสำหรับอิหร่านและประเทศของเราก็สามารถบรรลุความก้าวหน้าที่น่าอัศจรรย์ในด้านต่างๆ เช่น วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การแพทย์และชีวภาพ อากาศและอวกาศ นิวเคลียร์และนาโน เป็นต้น”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้เน้นย้ำว่า “หากประเทศที่ถูกคว่ำบาตรได้ใช้ศักยภาพของกันและกันอย่างเต็มที่ จะถือเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายอย่างมากอีกด้วย”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้เน้นย้ำถึงเวทีการร่วมมือด้านต่างๆ อาทิเช่น วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การค้า การขับเคลื่อนทางการเมืองในสังคมระหว่างประเทศ โดยท่านได้ชี้ถึงประเด็นเส้นทางรถไฟ ผ่านเส้นทางเหนือไปยังทางใต้ และท่านผู้นำกล่าวว่า “การเปิดเส้นทางรถไฟ ผ่านเส้นทางเหนือไปยังทางใต้ จะเป็นประโยชน์กับสองประเทศ รัสเซียและภูมิภาค ด้วยเช่นกัน และทั้งสองฝ่าย จะต้องมีความพยายามสำหรับการเปิดเส้นทางดังกล่าวอีกด้วย”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า “อย่าได้ทำให้ข้อตกลงต่างๆและคำพูดต้องจบลงจากที่ประชุมกัน แต่ทว่า จะต้องมีการติดตามแบบพิเศษและมีการกำหนดเวลาที่ชัดเจน เพื่อที่จะนำไปสู่การดำเนินการ”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า โลกในวันนี้นั้นต้องการที่จะมีจิตวิญญาณอีกด้วยเช่นกัน โดยท่านกล่าวว่า “การมีจิตวิญญาณ สามารถที่จะเป็นปัจจัยสำหรับการขับเคลื่อนของประชาชาติทั้งหลาย”
ในการพบปะกันครั้งนี้ ฮุจญตุลอิสลาม วัลมุสลิมมีน ราอีซี ประธานาธิบดีอิหร่านเข้าร่วมอยู่ด้วย โดยนายลูกาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุส ได้แสดงความพึงพอใจอย่างมากในการเข้าพบกับท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามโดยเขากล่าวว่า “ข้าพเจ้าได้เดินทางมายังอิหร่าน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า จะเปิดภาพลักษณ์ใหม่ระหว่างสองประเทศและเราจะดำเนินการด้วยความร่วมมือและตามเจตจำนงของประธานาธิบดีอิหร่าน เพื่อที่จะบรรลุข้อตกลงต่างๆและการติดตามแบบพิเศษและการกำหนดเวลาในการดำเนินการอีกด้วย”
ประธานาธิบดีเบลารุส ได้เน้นย้ำว่า “สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านนั้น ได้รับประสบการณ์และมีความก้าวหน้าอย่างน่าอัศจรรย์ในช่วงเวลาที่อยู่ในมาตรการคว่ำบาตร และเราก็เชื่อว่า หากเราใช้สถานการณ์การคว่ำบาตรอย่างถูกต้อง เราก็จะสามารถสร้างโอกาสสำหรับความก้าวหน้า และเป้าหมายของข้าพเจ้าในการเยือนอิหร่าน เพื่อที่จะทำความรู้จักกับความสำเร็จของอิหร่านอย่างใกล้ชิด”
นายลูกาเชนโก ในตอนท้ายของคำปราศรัย ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “ท่ามกลางสถานการณ์ของโลกที่ยากลำบากในปัจจุบัน เรานั้นได้เห็นชัดเจนว่า ใครคือมิตรแท้และใครคือมิตรเทียม และเรามุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับมิตรแท้อย่างแท้จริง”