สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

ประธานและสมาชิกสภาวิจัยผลประโยชน์แห่งชาติชุดใหม่ เข้าพบท่านผู้นำสูงสุด

วิธีการเดียวที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นปฏิปักษ์กับสาธารณรัฐอิสลาม คือการยืนหยัด

ประธานพร้อมทั้งบรรดาสมาชิกสภาวิจัยผลประโยชน์แห่งชาติชุดใหม่ เข้าพบปะท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม โดยท่านผู้นำถือว่า สภาแห่งนี้สำหรับสาธารณรัฐอิสลามนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากการเข้าร่วมของบรรดานักอัจฉริยบุคคล ผู้ที่มีประสบการณ์ และมีมุมมองที่ครอบคลุมต่อปัญหาต่างๆของประเทศ ทั้งยังมีหน้าที่พื้นฐานที่จะต้องรับผิดชอบ

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์ล่าสุดว่าเป็นการก่อจลาจลที่กระจัดกระจาย โดยมีการวางแผนที่มีปฏิกิริยาตอบโต้และหยาบกระด้างของศัตรูในการเผชิญหน้ากับความก้าวหน้าและการขับเคลื่อนด้านนวัตกรรมและความยิ่งใหญ่ของประชาชาติอิหร่าน โดยท่านผู้นำได้เน้นย้ำว่า “และตราบใดที่ประชาชาติ จะยังคงเดินอยู่บนเส้นทางของรัฐอิสลามและมีค่านิยมทางศาสนา ความเป็นปฏิปักษ์เหล่านี้ก็จะดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง และวิธีการเดียวที่จะรักษามันได้ คือ การยืนหยัดและบรรดาเจ้าหน้าที่ของประเทศ ก็ควรที่จะมีความระมัดระวังด้วยว่าประเด็นดังกล่าวจะไม่เป็นปัญหาให้เกิดความรับผิดชอบและหน้าที่หลัก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวขอบคุณต่อบรรดาสมาชิกชุดก่อน สำหรับความพยายามของพวกเขาในการจัดประชุมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดประชุมที่เกี่ยวกับการกำหนดนโยบายทั่วไปของแบบแผนฉบับที่ 7 และเพื่อเป็นการเทอดเกียรติแก่ความทรงจำให้กับบรรดาสมาชิกผู้ล่วงลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านอยาตุลลอฮ์ ฮาชิมี ชาห์รูดี โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “สภาแห่งนี้มีฐานภาพอันสูงส่งและมีความยิ่งใหญ่ ทั้งในแง่ของการเข้าร่วมของบรรดานักอัจฉริยบุคคล ผู้ที่มีประสบการณ์ ด้วยการมีเหตุผลและมีหน้าที่ความรับผิดชอบที่สำคัญ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การวิจัยผลประโยชน์ของชาติ คือ หน้าที่ๆสำคัญที่สุดของสภาแห่งนี้ โดยท่านกล่าวว่า “ประเด็นของผลประโยชน์แห่งชาติ เป็นประเด็นอันดับแรกของรัฐอิสลาม ดังคำกล่าวของท่านอิมามโคมัยนี ผู้สูงส่ง (ร.ฮ.) ที่ว่า เป็นสิ่งที่สำคัญ ในบางครั้งเมื่อมีการเพิกเฉย จะเป็นสาเหตุทำให้อิสลามต้องพบกับความล้มเหลว”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การแนะนำและให้ความหมายของคำว่า “ผลประโยชน์” ในทางตรงกันข้ามกับ ข้อเท็จจริงและหลักการศาสนบัญญัติ(ชะรีอะฮ์) นั้นเป็นสิ่งที่ผิดพลาด และท่านได้เน้นย้ำให้เห็นว่า การวิจัยที่ถูกต้อง การรู้จักปัญหาและการรู้จักผลประโยชน์ เป็นสิ่งที่มีความจำเป็น โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ในการกำหนดผลประโยชน์ จำเป็นที่จะต้องมีวิธีการทางการปฏิบัติที่สร้างความเชื่อมั่นได้”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังถือว่า ความถูกต้องของข้อกฏหมายในกรณีที่มีการตรวจสอบในสภาแห่งนี้ ควรคำนึงถึงผลประโยชน์เป็นหลัก ตราบเท่าที่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน โดยท่านผู้นำได้ตั้งข้อสังเกต “อย่าได้มีมุมมองที่เกินเลยหรือน้อยเกินไปในประเด็นนโยบายทั่วไป เพราะว่า การรวมประเด็นในอุดมคติกับสิ่งที่มีประโยชน์สำหรับประเทศ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และเช่นเดียวกัน การมีมุมมองแบบปลีกย่อย และการกำหนดปริมาณในบางประเด็น และการเข้าสู่รายละเอียดในการดำเนินการและข้อกฏหมาย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การให้นิยามที่ถูกต้องของนโยบายทั่วไปที่ว่า อยู่บนกรอบของแนวทางที่ทันสมัยและเป็นการกำหนดทิศทางสำหรับกฏหมายและการบริหารงาน เพื่อให้บรรลุสู่เป้าหมาย โดยท่านกล่าวเสริมว่า “นโยบายบางประการมีผลอย่างถาวร แต่บางนโยบายก็จะเฉพาะเจาะจงในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งและจำเป็นที่จะต้องมีการปรับปรุงให้ทันสมัยอีกด้วย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า หน้าที่ของการติดตามการดำเนินนโยบายทั่วไป เป็นประเด็นที่มีความละเอียดอ่อน โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “บางครั้งเมื่อมีการร้องเรียนว่า การติดตามนี้ จะเป็นเหตุให้มีการปิดกั้นการปฏิบัติทำงาน ในขณะที่การพิจารณาทางกฏหมายและกฏเกณฑ์ต่างๆ ควรคำนึงถึงลักษณะของการติดตามเพื่อป้องกันจากการเบี่ยงเบนของข้อกฏหมายและการดำเนินการ โดยอย่าทำให้การปฏิบัติงานต้องหยุดชะงักหรือล่าช้าออกไป”

ประเด็นของการมีประสิทธิผลของนโยบายทั่วไป เป็นประเด็นสุดท้ายที่ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ในภาคส่วนนี้ 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้เน้นย้ำให้ว่า สถานการณ์ล่าสุดและการก่อจลาจลที่กระจัดกระจายและท่านยังถือว่า บรรดาสมาชิกสภาวิจัยผลประโยชน์แห่งชาติ ในฐานะที่มีบุคลากรที่มีประสิทธิภาพในการปฏิรูปกิจการต่างๆและการทำให้แผนร้ายของศัตรูต้องพบกับความพินาศ และท่านผู้นำยังได้ให้คำแนะนำว่า จะต้องให้ความสนใจในประเด็นเหล่านี้อย่างเพียงพอและอย่าได้มองข้ามประเด็นเหล่านี้เป็นอันขาด”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นย้ำให้เห็นว่า บทบาทและการแทรกแซงของศัตรูในเหตุการณ์ล่าสุด นั้น เป็นสิ่งที่ชัดเจนอย่างเปิดเผยสำหรับทุกคน หรือแม้แต่บรรดานักวิชาการชาวต่างชาติที่เป็นกลางเองก็ตาม โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ในเหตุการณ์เหล่านี้ ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเอง แต่เป็นไปได้ว่า บางคนใช้เป็นการปูพื้นฐานต่างๆ แต่ทว่าการกระทำของศัตรู เช่น การโฆษณาชวนเชื่อ การพยายามเพื่อโน้มน้าวทางปัญญา การสร้างความตื่นเต้น การเชิญชวน หรือแม้กระทั่งการสอนให้ผลิตเชื้อไฟนั้น ในปัจจุบันนี้ เป็นสิ่งที่ชัดเจนอย่างสมบูรณ์แล้ว”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ประเด็นที่สำคัญในเหตุการณ์เหล่านี้ คือ การมีปฏิกิริยาตอบโต้จากการเคลื่อนไหวของศัตรู โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ประชาชาติอิหร่านที่มีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในช่วงเวลาอันสั้นๆ ซึ่งตรงกันข้ามกับนโยบายของชาติมหาอำนาจโลก จอมอหังการ ถึง 180 องศา ด้วยกัน และพวกเหล่านี้จำต้องมีปฏิกิริยาตอบโต้ และในกรอบนี้ด้วยกับการวางแผนและการใช้จ่ายเงิน และการนำบุคคล เช่น นักการเมืองบางคนในอเมริกา ยุโรปและในบางพื้นที่อื่นๆ เข้าสู่ภาคสนามด้วย”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวว่า “การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เหล่านี้ แสดงให้เห็นว่าประชาชาติอิหร่านนั้นมีความร่าเริง สดใส มีความเคร่งครัดต่อศาสนา และการยึดมั่นในค่านิยมต่างๆและประเด็นทางศาสนา และประเทศก็ยังคงเดินหน้าต่อไปรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การเข้าร่วมของเยาวชนคนหนุ่มสาวหลายล้านคนในพิธีการเดินขบวนวันอัรบะอีนและการขับเคลื่อนด้วยศรัทธามั่น เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของความเคร่งครัดต่อศาสนา การมีความเชื่อในศาสนา และยังเป็นการเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่ของประชาชาติอิหร่าน โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “อันที่จริง การมีความคิดสร้างสรรนั้นอยู่ในมือของประชาชาติอิหร่าน แต่ศัตรูกลับมีการบังคับให้มีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างหยาบกระด้าง มีความโง่เขลาและมีการวางแผนเพื่อก่อความวุ่นวายและจลาจล”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้เน้นย้ำให้เห็นว่า คำตัดสินต่างๆ ของเหล่าผู้ที่สร้างความวุ่นวายตามท้องถนนนั้นมีความแตกต่างกัน โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “คนเหล่านี้บางคนเป็นปัจจัยของศัตรูหรือหากพวกเขาไม่ได้เป็นปัจจัย แต่พวกเขาก็อยู่ในทิศทางเดียวกันกับศัตรู และบางคนเป็นผู้ที่สร้างความตื่นเต้น ในกรณีของจำพวกที่สอง ควรปฏิบัติตามภารกิจทางด้านวัฒนธรรม แต่สำหรับจำพวกที่หนึ่ง เป็นภาระหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายตุลาการและฝ่ายความมั่นคง ที่จะต้องปฏิบัติตามหน้าที่ของตน”

ท่านอยาตุลลอฮ์  คาเมเนอี กล่าวว่า “บางคนบอกว่า พวกท่านไม่ควรสร้างบรรยากาศด้านความมั่นคง ใช่แล้ว เราก็เห็นด้วยกับพวกเขา ตราบใดที่ยังมีความเป็นไปได้ ไม่ควรทำให้เกิดบรรยากาศของความมั่นคง แต่การงานด้านวัฒนธรรมยังคงมีอยู่ในที่ๆของมันและการงานด้านตุลาการและความมั่นคงก็อยู่ในที่ๆของมันอีกด้วยเช่นกัน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นย้ำว่า “ตราบใดที่ประชาชาติอิหร่านได้ชูธงชัยแห่งอิสลามและอยู่ในรัฐอิสลาม ความเป็นปฏิปักษ์เหล่านี้ก็จะดำเนินต่อไปในรูปแบบต่างๆ และวิธีการเดียวที่จะรักษามันได้ คือการยืนหยัด แน่นอนว่า มิได้เป็นเช่นนี้ที่เราพูดว่า การขับเคลื่อนในเส้นทางของอิสลาม จะทำให้เหล่ามารร้ายสร้างความเดือดร้อนให้กับเรา เพราะว่า ผู้ที่ไม่ได้อยู่บนเส้นทางของอิสลาม พวกเขาก็ได้รับความเดือดร้อนจากพวกมารเหล่านี้อีกรูปแบบหนึ่งเช่นกัน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้ตั้งข้อสังเกตว่า “การยืนหยัดของเราในการเผชิญหน้ากับการวางแบบแผนและการสร้างความเดือดร้อนของเหล่ามารร้าย จะไม่เป็นเหตุให้หยุดนิ่งและจะเป็นการปูพื้นฐานเพื่อการขับเคลื่อนไปข้างหน้าอีกด้วย”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังให้คำแนะนำแก่บรรดาเจ้าหน้าที่ของประเทศ โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “พวกท่านทั้งหลาย จงมีความระมัดระวังว่า อย่าได้ให้ปัญหาต่างๆถูกรบกวนเป็นอันขาดและอย่าได้ทำให้เกิดปัญหากับกิจการหลัก”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า “การสร้างสรรและภารกิจที่ยิ่งใหญ่ในการดำเนินการและการกำหนดกฏหมายอย่างมีประสิทธิภาพและภารกิจที่ยิ่งใหญ่ของตุลาการและประเด็นสำคัญในนโยบายต่างประเทศ ไม่ควรมุ่งเน้นไปยังเหตุการณ์เหล่านี้อย่างปลีกย่อยและด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระเจ้า จะไม่เป็นเช่นนี้อีกด้วยเช่นกัน”

ในช่วงท้ายของการปราศรัย ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้เน้นย้ำว่า “เรานั้นเชื่อมั่นในพันธสัญญาของพระเจ้า ที่ว่าชัยชนะจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และความช่วยเหลือจากพระองค์จะอยู่กับพวกเราอย่างแน่นอน”

ก่อนการปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ท่านอยาตุลลอฮ์ ออมุลี ลาริจานี ประธานสภาวิจัยผลประโยชน์แห่งชาติ ได้กล่าวรายงานเกี่ยวกับความจริงจังและความสูงส่งของบรรดาสมาชิกสภาแห่งนี้ รวมทั้งการดำเนินการที่เกี่ยวกับการวิจัยผลประโยชน์ของประเทศชาติ การตรวจสอบนโยบายทั่วไปและการแก้ไขปัญหาต่างๆ ตลอดจนการดำเนินการต่างๆของคณะกรรมาธิการชุดก่อนและแบบแผนงานในการดำเนินการของคณะกรรมาธิการชุดใหม่

 

700 /