ชีค ทามีม บินฮาหมัด อาลิษานี เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ พร้อมคณะผู้ติดตาม เข้าพบปะท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำได้เน้นย้ำถึงการเพิ่มขีดความร่วมมือทางการเมืองและทางเศรษฐกิจร่วมกันระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งถือว่า วิธีการในการแก้ไขปัญหาต่างๆในภูมิภาคตะวันออกกลาง คือ การเจรจาโดยปราศจากการแทรกแซงของพวกต่างชาติ และท่านผู้นำยังได้ชี้ให้เห็นถึงความต่อเนื่องในการก่ออาชญากรรมของรัฐเถื่อนไซออนิสต์ที่มีต่อประชาชนชาวปาเลสไตน์ โดยท่านกล่าวว่า “เราหวังว่า โลกอาหรับจะเข้าสู่ภาคสนามของการปฏิบัติทางการเมืองในการเผชิญหน้ากับอาชญากรรมต่างๆที่เปิดเผยอย่างชัดเจน”
ในการพบปะกันครั้งนี้ ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ความมั่นคงและการมีเสถียรภาพของความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับกาตาร์นั้นเป็นผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับทั้งสองประเทศ โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “ระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในระหว่างสองประเทศในขณะนี้นั้นอยู่ในอันดับที่ต่ำเป็นอย่างมากและจะต้องเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า และในประเด็นทางการเมืองก็เช่นกัน จะต้องมีการปูทางเพื่อมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเรานั้นหวังว่า การเดินทางครั้งนี้ จะเป็นการเริ่มต้นในการขยายความร่วมมือกันครั้งใหม่”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นย้ำในคำพูดของผู้นำแห่งกาตาร์ในการประณามการก่ออาชญากรรมของระบอบรัฐเถื่อนไซออนิสต์ และความฉ้อฉลในหลายทศวรรษของพวกไซออนิสต์ที่ชั่วร้ายที่มีต่อประชาชนชาวปาเลสไตน์ โดยท่านถือว่า เป็นความจริงอันขมขื่นและการสร้างความเสียหายให้กับโลกอิสลามและชาติอาหรับ โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “ในการเผชิญหน้ากับอาชญากรรมเหล่านี้ สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านต่างคาดหวังว่า โลกอาหรับจะเข้าสู่ภาคสนามในการปฏิบัติทางการเมืองอย่างชัดเจน”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ให้เห็นถึงคำพูดของผู้นำแห่งกาตาร์ที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในปีที่ผ่านมาที่เกิดขึ้นในเขตชุมชนเชค ญัรเราะฮ์ โดยท่านผู้นำได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ในเหตุการณ์นั้น บางประเทศชาติอาหรับให้การสนับสนุนต่อชาวปาเลสไตน์ไม่ได้มากไปกว่ากลุ่มประเทศยุโรปบางประเทศเสียด้วยซ้ำ และพวกเขาก็ไม่ได้แสดงจุดยืนใดๆเหมือนดั่งที่พวกเขากำลังปฏิบัติอยู่ในขณะนี้”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้เน้นย้ำว่า “นี่คือ วิสัยทัศน์ของประเทศชาติอาหรับ หากว่าพวกเขามีความหวาดกลัวต่อระบอบรัฐเถื่อนไซออนิสต์หรือเพราะว่าความโลภของรัฐเถื่อนนี้ พวกเขาก็จงรู้ว่า ในวันนี้ รัฐเถื่อนไซออนิสต์ ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่สร้างความหวาดกลัวหรือมีความโลภเหมือนกับพวกเหล่านั้นได้เลย”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า วิธีการในการไขปัญหาต่างๆในภูมิภาคตะวันออกกลาง คือ การเข้าสู่โต๊ะเจรจาที่อยู่มือของประเทศทั้งหลายในภูมิภาค โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ปัญหาซีเรียและเยเมน สามารถที่แก้ไขได้ด้วยกับการเจรจากัน แต่การเจรจานั้นจะต้องไม่เกิดความอ่อนแอ ในขณะเดียวกัน ฝ่ายตรงกันข้าม หมายถึง สหรัฐอเมริกาและเหล่าพันธมิตรต่างก็มีอำนาจทางการทหารและมีการพึ่งพายังทรัพย์สิน”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นย้ำว่า การบริหารจัดการภูมิภาคนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องมีการแทรกแซงจากผู้อื่นใด โดยท่านกล่าวว่า “รัฐเถื่อนไซออนิสต์ ไม่ว่าจะย่างก้าวไปในสถานที่ใดก็ตาม ก็จะก่อทุจริตและสร้างความเสียหายยังที่นั่น และยังไม่เคยให้อำนาจและความพิเศษกับประเทศใดๆเลย ด้วยเหตุนี้เอง พวกเราในประเทศต่างๆในภูมิภาค ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พวกเราก็จะต้องมีความสามารถในการเสริมสร้างความสัมพันธ์กันอย่างแข็งแกร่ง ด้วยกับการใช้แนวคิดอันเดียวกันและมีความร่วมมือกัน”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ให้เห็นถึงข้อตกลงที่กำหนดขึ้นระหว่างอิหร่านกับกาตาร์ โดยท่านได้เน้นย้ำว่า “ข้อตกลงเหล่านี้ จะต้องมีการดำเนินการตามกรอบเวลาที่กำหนดและเป็นการเฉพาะ”
ในการพบปะกันครั้งนี้ พณฯท่าน ราอีซี ประธานาธิบดีอิหร่านได้เข้าร่วมอยู่ด้วย โดยผู้นำแห่งกาตาร์ ได้กล่าวแสดงความปลึ้มปิติยินดีในการเยือนอิหร่านของตน ซึ่งเป็นครั้งที่สอง โดยเขาได้ชี้ให้เห็นถึงฐานภาพอันโดดเด่นของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามในโลกอิสลาม โดยผู้นำแห่งกาตาร์กล่าวว่า “อาชญากรรมต่างๆของระบอบรัฐเถื่อนไซออนิสต์นั้น เป็นสิ่งที่สร้างความไม่สบายใจเป็นอย่างมาก และทั้งหมดทุกๆคนจะต้องมีการยืนหยัดในการเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับชาวปาเลสไตน์”
ผู้นำแห่งกาตาร์ ยังกล่าวแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของผู้สื่อข่าวหญิงในเมืองเจนิน ด้วยน้ำมือของเจ้าหน้าที่รัฐเถื่อนไซออนิสต์ โดยเขากล่าวเสริมว่า “พวกรัฐเถื่อนไซออนิสต์ได้ก่ออาชญากรรมทั้งหมดนี้อย่างเลือดเย็นที่สุด”
ชัยค์ ทามีม บินฮาหมัด อาลิษานี ยังได้ถือว่า วิธีการแก้ไขปัญหาต่างๆของประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง เช่น ในซีเรีย อิรัก และเยเมน คือ การเจรจากัน และเขายังได้ตั้งข้อสังเกตในประเด็นที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างอิหร่านกับกาตาร์ กล่าวว่า “ได้มีการดำเนินการในการจัดตั้งคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ และเรายังหวังด้วยว่า ความร่วมมือกันทางเศรษฐกิจ จะยกระดับให้ดียิ่งขึ้นในปีหน้า”