“การยืนหยัดของบรรดาผู้ผลิตในการเผชิญหน้ากับการโจมตีทางเศรษฐกิจนั้น เป็นการทำญิฮาดที่ยิ่งใหญ่”

บรรดาผู้ผลิต และผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรม เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำถือว่า ผู้สร้างงานทั้งหลายและผู้ที่ขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ  เป็นเสมือนดั่งทหาร นักต่อสู้อย่างบริสุทธิ์ใจในการเผชิญหน้ากับสงครามทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา และท่านผู้นำยังได้ชี้ให้เห็นถึงคำพูดของเหล่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯที่เกี่ยวกับความพ่ายแพ้ของพวกเขาในสมรภูมิอันหนักอึ้งนี้ โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “บรรดาเจ้าหน้าที่นั้นจะต้องมีความพยายามอย่างเต็มที่ในการสร้างแบบแผนอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์ การบริหารจัดการ การชี้นำ การตรวจสอบและการสนับสนุนการผลิต การปูทางเพื่อลดและการขจัดอุปสรรค และการเร่งในการผลิต การสร้างงาน และความก้าวหน้าของประเทศ ด้วยกับความพยายามที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพจากกระบวนการนี้ในการดำเนินชีวิตของประชาชน”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การให้ความสนใจของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐฯในประเด็นของผู้ผลิตและนักอุตสาหกรรม คือ สิ่งที่มีความจำเป็น จากการพบปะกันในวันนี้ โดยท่านผู้นำยังได้เน้นย้ำว่า การประกาศให้ประชาชนได้รับทราบถึงความสำเร็จของบรรดานักขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจด้วยกับคำพูดของตน จะเป็นประโยชน์อย่างดีในการเผชิญหน้ากับสงครามจิตวิทยาของศัตรู โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “แน่นอนว่า หากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บรรดาเจ้าหน้าที่ได้มีความร่วมมือกับผู้ผลิตเพิ่มมากขึ้น อุปสรรคก็จะลดน้อยลงและความสำเร็จก็จะบังเกิดมากยิ่งขึ้น”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การผลิต คือ การทำญิฮาด โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “การยืนหยัดของบรรดาผู้ผลิตในการเผชิญหน้ากับการโจมตีทางเศรษฐกิจและความพยายามของศัตรูในการสั่งห้ามไม่ให้มีการขายน้ำมันและก๊าซ การตัดขาดจากแหล่งทางการเงินและการวางรูปแบบแผนสำหรับการขัดขวางในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินตราต่างประเทศของอิหร่าน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนั้นเป็นการทำญิฮาดและยังถือเป็นการเคารพภักดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งอีกด้วย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้เน้นย้ำว่า ศัตรูได้วางแผนการร้ายเพื่อที่จะพิชิตเหนืออุปสรรคของการผลิต แต่ทว่าพวกเขาก็ได้ประสบกับความล้มเหลว โดยท่านผู้นำยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ในการโจมตีเศรษฐกิจของประเทศนี้ ได้ก่อปัญหาต่างๆในการดำรงชีพของประชาชน แต่ทว่าในการผลิตก็ไม่มีการหยุดนิ่ง ในขณะที่เมื่อสองสามหลายวันที่ผ่านมา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า นโยบายในการสร้างกดดันสูงสุดได้นำไปสู่ความพ่ายแพ้อย่างอัปยศอดสูของสหรัฐฯ”

ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม กล่าวว่า “พวกเขาต่างเชื่อว่าการล่มสลายทางเศรษฐกิจที่พวกเขาจินตนาการไว้เมื่อหลายเดือนนั้น เป็นเหตุผลให้พวกเขาบรรลุสู่วัตถุประสงค์ทางการเมืองที่น่าอัปยศ แต่ทว่า หลังจากที่สิบปีผ่านไป ฐานที่มั่นของการผลิตและเศรษฐกิจของประเทศชาติยังคงยั่งยืนอยู่ ซึ่งถือว่า บรรดาผู้ผลิตและนักขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ เป็นเสมือนดั่งทหารและคนงานในฐานะที่เป็นนักต่อสู้ในการทำญิฮาดอันศักดิ์สิทธิ์นี้ และเป็นปัจจัยหลักที่สร้างความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง” 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวว่า “ดังที่ได้มีการประกาศไปเมื่อปีที่แล้วว่า เศรษฐกิจของประเทศจำเป็นที่จะต้องเพิ่มแรงกระตุ้นในการผลิตเพื่อก้าวผ่านปัญหาต่างๆและการไม่ได้รับความเสียหายจากแรงกระทบทั้งภายในและภายนอก เพราะว่าการกระตุ้นการผลิตที่เพิ่มขึ้นนั้นจะช่วยปรับปรุงตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ เช่น การสร้างงานที่ยั่งยืน การส่งเสริมในการส่งออก รายได้จากสกุลเงิน การลดอัตราเงินเฟ้อ และความเป็นอิสระทางเศรษฐกิจ คือ สิ่งค้ำประกันศักดิ์ศรีและความมั่นคงของชาติและยังเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นในตนเองของประชาชาติอีกด้วย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้กล่าวถึงคำพูดของบรรดาผู้เชี่ยวชาญในประเทศและต่างประเทศทั้งหมดที่เกี่ยวกับขีดสามารถอันมากมายและความสะดวกสบายอันกว้างขวางของอิหร่าน โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “หากบรรดาผู้บริหารจัดการได้ใช้ประโยชน์อย่างถูกต้อง อย่างมีประสิทธิภาพ เต็มไปด้วยความพยายาม และมีความเห็นอกเห็นใจในขีดความสามารถเหล่านี้ละก็แน่นอนว่า สถานการณ์ก็จะเกิดมีความแตกต่างไปอีกหลายเท่าด้วยกัน”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าวเน้นย้ำอยู่เสมอว่า การหลีกเลี่ยงออกจากการตั้งเงื่อนไขในเศรษฐกิจของประเทศและการยุติการขับเคลื่อนต่างๆที่ไม่อยู่ในการดูแลของตนเอง พร้อมทั้งท่านผู้นำยังได้กล่าวเสริมว่า “ในช่วงระยะเวลา 10 ปีนี้ก็เช่นกัน บรรดานายหน้าและผู้ผลิต อย่าได้รอคอยการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรและผลของการเจรจา แต่พวกเขาจะต้องมีความมุมานะและความเพียรพยายามในการทำงานโดยที่จะกลายเป็นตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จให้ได้” 

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า สถิติเศรษฐกิจมหภาคของทศวรรษที่90 นั้น ยังไม่เป็นสิ่งที่น่าพอใจ และท่านผู้นำยังได้ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบของปัญหาดังกล่าวในการดำเนินชีวิตของประชาชน โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “สถิติและอัตราของการเติบโตของจีดีพี การก่อตัวของเงินทุนในประเทศ อัตราเงินเฟ้อ  การเติบโตของสภาพคล่อง  ที่อยู่อาศัย  เครื่องจักร และปัญหาที่คล้ายคลึงกันนั้น ถือว่าสิ่งเหล่านี้ยังไม่น่าพอใจยิ่งนัก และเรายังรู้สึกกังวลใจต่อผลกระทบในค่าครองชีพของประชาชน ซึ่งมีรากฐานที่มาจากปัญหาและความเป็นจริงเหล่านี้”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นย้ำว่า “ปัจจัยหลักของปัญหาเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงการมาตรการคว่ำบาตรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการตัดสินใจหรือข้อบกพร่องที่ผิดพลาด ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาในส่วนสำคัญได้อีกด้วย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญและการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดจากคำแนะนำของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ โดยท่านกล่าวว่า “บรรดาเจ้าหน้าที่ทั้งหมดทุกคน จะต้องใช้ประโยชน์จากความคิดเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำดังกล่าวอย่างเต็มที่ ความพยายามในการชี้นำและการตรวจสอบและการสนับสนุนการผลิต แทนที่การแทรกแซงของรัฐบาล การปรับปรุงสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจและการทำงาน การมีวินัยทางการเงิน การขจัดอุปสรรคในการผลิต การอำนวยความสะดวกในการออกใบอนุญาตการประกอบการ การมีมาตรการเดียวในการออกใบอนุญาต นโยบายจูงใจสำหรับการขับเคลื่อนในการผลิต ความรู้ขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับห่วงโซ่ของการผลิต การต่อต้านกับการทุจริต การสนับสนุนทางอุตสาหกรรมในประเทศ และการต่อสู้อย่างเด็ดขาดและไร้ความปราณีกับการหนีภาษี ทั้งหมดนี้คือข้อเสนอแนะต่างๆ”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาของการออกคำสั่งหลายฉบับ เป็นต้น โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “ตั้งแต่ปี 1397 ถึง 1400 (ปฏิทินอิหร่าน) มีการออกคำสั่ง 1,500 ฉบับ เฉพาะในประเด็นด้านศุลกากรเท่านั้น บรรดานักขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ จะต้องปฏิบัติอย่างไร?และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้อ่านกันบ้างหรือไม่?

หลังจากนั้น ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ก็ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปรับปรุงคุณภาพของสินค้าที่ผลิตในประเทศ โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “การสนับสนุนเชิงปฏิบัติและการโฆษณาสำหรับการผลิตในประเทศ จะต้องนำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี เช่นกัน แต่น่าช่างเสียใจอย่างยิ่งที่ในบางอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ ปัญหาของคุณภาพไม่ได้รับการพิจารณาและประชาชนก็ยังคัดค้านพวกเขาอย่างถูกต้อง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า “หากว่ามีการสนับสนุนการผลิตเข้ามาแทนที่การปรับปรุงคุณภาพแล้วทำให้ราคาสูงขึ้น ก็ถือเป็นสิ่งที่ไม่ดีนัก เพราะว่าผลของการสนับสนุนของรัฐบาลและการธนาคารทั้งหมดและการป้องกันจากการแข่งขันจากต่างประเทศได้นำไปสู่ราคาที่สูงมากยิ่งขึ้น”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้กล่าวฟ้องร้องบรรดาผู้ผลิตเครื่องใช้ในครัวเรือนบางราย กล่าวว่า “ถึงแม้จะได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตเหล่านี้ แต่ก็มีการกล่าวกันว่าผลิตภัณฑ์บางส่วนของพวกเขานั้นมีราคาสูงขึ้นถึงสองเท่า ซึ่งไม่น่าที่จะเป็นเช่นนั้น”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การสนับสนุนทางอุตสาหกรรมในการสร้างงาน เป็นอีกประเด็นที่สำคัญในภาคส่วนการผลิต โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “นอกเหนือจากการสนับสนุนทางอุตสาหกรรมหลักและอุตสาหกรรมแม่แล้ว จะต้องมีการสนับสนุนอุตสาหกรรมปลายน้ำและการสร้างงานและจากการสนับสนุนของรัฐบาลและการธนาคาร เช่นกัน ซึ่งอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ภายใต้อุตสาหกรรมน้ำมันและอุตสาหกรรมปลายน้ำของอุตสาหกรรมเหล็ก ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างของประเด็นเหล่านี้”

การให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการจัดตั้งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่เป็นฐานความรู้ ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึง โดยท่านกล่าวว่า “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการจัดตั้งบริษัทฐานความรู้ขนาดเล็กและขนาดกลาง แต่ทว่ามีการเพิกเฉยต่ออุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งจะต้องใช้ประโยชน์จากศักยภาพและขีดความสามารถของบรรดาเยาวชนที่มีความสามารถ ดังที่อย่างไรก็ดี นับจากวัคซีนโคโรน่าไปจนถึงขีปนาวุธที่พุ่งเป้า โดยบรรดาเยาวชนได้รับความไว้วางใจและเรียกร้องให้พวกเขาเข้ามาทำงาน แล้วพวกเขาก็ส่องประกายอย่างเห็นได้ชัด”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นย้ำว่า ข้าพเจ้าไม่ได้คัดค้านบริษัททั่วไปของพวกต่างชาติ โดยท่านผู้นำได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ข้าพเจ้านั้นเชื่อมั่นว่า บริษัทฐานความรู้ที่มีประสิทธิภาพนั้นมีความสามารถในการตอบสนองความต้องการต่างๆในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ได้ ฉะนั้นอย่าได้คาดคิดเพียงแต่จะยกระดับด้านเทคโนโลยีทางด้านอุตสาหกรรมต่างๆเพียงอย่างเดียว แต่บริษัทต่างชาติก็จะต้องเข้าร่วมด้วย”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า “บรรดาเยาวชนที่มีศักยภาพในด้านเทคโนโลยีนาโน เซลล์ต้นกำเนิด และเทคโนโลยีทางชีวภาพ ได้ทำงานอย่างโดดเด่นและแสดงให้เห็นว่า เยาวชนชาวอิหร่านนั้นมีความสามารถ”

กรณีประเด็นการจัดการสินเชื่อ คือ อีกประเด็นหนึ่งที่ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึงโดยท่านกล่าวว่า “การเกิดช่องว่างระหว่างสภาพคล่องตัวและการเติบโตของค่าจีดีพี เป็นช่องว่างที่เป็นลูกโซ่และไม่อาจที่จะยอมรับได้และการใช้เครดิตเพื่อที่จะทำให้เกิดสภาพคล่องตัวมากขึ้นนั้นก็ไม่ได้มีผลใดๆในการผลิตเลย ในขณะเดียวกันรัฐบาลและธนาคารกลางจะต้องมีประสิทธิภาพและมีการตรวจสอบอย่างจริงจัง และการกู้ยืมของธนาคารนั้นต้องขึ้นอยู่กับการจัดการสินเชื่อในการผลิต”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ฐานความรู้และเทคโนโลยีทางการเกษตร เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “การเพาะปลูกเรือนกระจก เป็นสิ่งที่น่าสนใจ แต่ทว่าไม่สามารถที่จะบริหารประเทศด้วยกับสิ่งนี้ได้และด้วยกับพื้นดิน ดินและน้ำที่มีอยู่ในประเทศ จะต้องทำให้การเกษตรกลายเป็นฐานความรู้ในการค้นหาแบบอย่างของการบริโภค อีกทั้งการทำลายดิน การป้องกันการสูญเสียน้ำ จะต้องมีการประหยัดน้ำอย่างจริงจัง”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้เน้นย้ำอีกครั้งถึงความจำเป็นในการจัดเตรียมและการอนุมัติเอกสารแบบแผนอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศ โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “เอกสารนี้นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งและเห็นชอบด้วยกฎหมาย เป็นเหตุให้มีการป้องกันความคลาดเคลื่อนของแบบแผนอุตสาหกรรมในประเทศ ด้วยการเคลื่อนย้ายและการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวขอบคุณอีกครั้งต่อบรรดาผู้ผลิตและเจ้าหน้าที่ทั้งหลายในการขจัดอุปสรรคต่างๆเหล่านี้ โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “บรรดาเจ้าหน้าที่รัฐฯ จะต้องมีความพยายามอย่างจริงจังและจะต้องดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะให้เกิดมีประสิทธิภาพ หลังจากที่เวลาผ่านไปซักระยะหนึ่ง จะทำให้ประชาชนได้เห็นผลในการดำเนินชีวิตของพวกเขา

ก่อนการกล่าวคำปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม บรรดานักขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจทั้ง 14 คน จากภาคการผลิตต่างๆ ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นของพวกเขา

สุภาพบุรุษ ประกอบด้วย :

-มุฮัมมัด คะลัจญ์ กอเซ็มออบอดี ผู้ขับเคลื่อนด้านธุรกิจดิจิทัล 

-มะญีด ฮะบีบี ผู้ขับเคลื่อนด้านปิโตรเลียมน้ำมันและก๊าซ 

-ยูซุฟ อิบรอฮีมี ผู้ขับเคลื่อนด้านการผลิตและการส่งออกผลิตภัณฑ์เรือนกระจก

-อะมีรอับบาส อิคติรออี ประธานคณะกรรมการสมาพันธ์ผู้ผลิตอุปกรณ์อุตสาหกรรมและองค์กรเครื่องจักรกล

-อีรัจญ์ กุลอบทูนชี กรรมการผู้จัดการของสมาคมบริษัทก่อสร้างอิหร่าน

- มุฮ์ซิน คอรกัร ฟอรซอญัม ผู้ขับเคลื่อนด้านไมโครอิเล็กทรอนิกส์

- อีมาน อะตีกี ผู้ขับเคลื่อนด้านการสำรวจ การสกัด การผลิตสารเข้มข้นและเม็ดแร่เหล็กและทำให้มีมูลค่าสมบูรณ์

- มะญีด รูฮี นิยาซิร ผู้ขับเคลื่อนด้านเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์และเภสัชกรรม

- ฮะซัน นะวาอี ผู้ขับเคลื่อนด้านการผลิตตัวเร่งปฏิกิริยาและสารดึงดูดที่ต้องการทางอุตสาหกรรม

- อะลี ตะกะวีฟัร ผู้ขับเคลื่อนด้านปศุสัตว์และสัตว์ปีก

- มุรตะซอ ซุลตอนี ผู้ขับเคลื่อนด้านการประมวลผลเมล็ดพืชและการผลิตมักกะโรนี

- อับบาส อับฮุรี ผู้ขับเคลื่อนในด้านเครื่องใช้ในครัวเรือน

- เมฮ์ดี ยูซุฟี ผู้ขับเคลื่อนด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้า

- และสุภาพสตรี มัรยัม ทอจออบอดี อิบรอฮีมี ผู้ขับเคลื่อนด้านเทคโนโลยีทางชีวภาพ

ในการพบปะกันครั้งนี้ ได้มีการถ่ายทอดวีดีโอภาพจากศูนย์กลางของการผลิตทั้งสี่แห่งอีกด้วย

โดยประเด็นที่สำคัญที่มีการกล่าวถึง มีดังต่อไปนี้

- ความสำเร็จที่สำคัญจากการจำกัดของตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีความต้องการสำหรับอุตสาหกรรมของประเทศในการทำให้มาตรการคว่ำบาตรไม่มีผล

- ความเป็นไปได้ในการแก้ปัญหาของระบบจำหน่ายและกำจัดตัวกลางที่ซ้ำซ้อนโดยการใช้การขยายตัวของเศรษฐกิจดิจิทัล

- การวิจารณ์การนำเข้าผลิตภัณฑ์โปรไบโอติก ทั้งๆ ที่มีการผลิตในประเทศ และอยู่ในอันดับสูงทางเทคโนโลยีชีวภาพของอิหร่าน

- การเสนอให้จัดตั้งมาตราการเดียวสำหรับการส่งออก ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการเพิ่มการผลิตและสกุลเงิน 

- ความจำเป็นในการมุ่งเน้นการขยายการส่งออกบริการด้านเทคนิค-วิศวกรรม

- ขีดความสามารถในการปลูกเรือนกระจกที่สำคัญในการเพิ่มการผลิตทางการเกษตรและการลดการใช้น้ำ

- ความจำเป็นในการระบุลักษณะพิเศษข้อเปรียบเทียบของประเทศและกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมและการลงทุนบนพื้นฐานดังกล่าว

- การวิจารณ์ของการดำเนินการที่ไม่ดีของกฎหมายที่ว่าด้วยการใช้พลังงานในประเทศสูงสุดทางด้านอุปกรณ์และเครื่องจักรกลทางอุตสาหกรรม

- การเสนอให้มีการจัดตั้งอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและเมืองวิทยาศาสตร์หลายแห่งในสาขาไมโครอิเล็กทรอนิกส์

- การควบคุมการนำเข้าให้สมบูรณ์ที่มีคุณค่าของการผลิตในประเทศ 

ความจำเป็นในการส่งเสริมชื่อและแบรนด์การผลิตที่ดีที่สุด โดยเฉพาะในตลาดโลก

-ความจำเป็นการแก้ไขปัญหาของการผลิตด้วยการส่งเสริมให้มีการอุตสาหกรรมปศุสัตว์และสัตว์ปีก