บรรดานักกีฬาที่ได้คว้าเหรียญรางวัลในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำได้กล่าวขอบคุณอย่างจริงใจต่อบรรดาวีรบุรุษของประเทศ โดยท่านกล่าวว่า “สาส์นที่สำคัญที่สุดของวีรบุรุษทั้งหลายและบรรดานักกีฬาที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศในเวทีต่างๆระดับนานาชาติ คือ ความเป็นไปได้ที่บรรลุภารกิจเหนือจินตนาการ และการถ่ายทอดสาส์นแห่งการยืนหยัด ความหวัง และการทำให้สังคมและเหล่าเยาวชนทั้งหลายต่างมีชีวิตชีวาที่สดใสอย่างยิ่ง”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า สาส์นนี้มีความสำคัญอย่างมากต่อสังคม โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “ในขณะที่หน่วยงานต่างๆกำลังวางแบบแผนเพื่อที่จะทำให้สังคมต้องหมดหวังและไม่มีชีวิตชีวา โดยเฉพาะกับบรรดาเยาวชน ซึ่งวีรบุรุษทั้งหลายและบรรดานักกีฬาชาวอิหร่านได้มอบสาส์นแห่งความหวังให้กับสังคม และประเด็นนี้ก็มีความสำคัญเป็นอย่างมาก”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงสาส์นขอบคุณของท่าน หลังจากการได้รับชัยชนะของบรรดานักกีฬา โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “พวกท่านทั้งหลาย จงรู้ไว้เถิดว่า สาส์นนี้นั้นมาจากก้นบึ้งจากหัวใจของข้าพเจ้า และเรายังถือว่า เป็นสิ่งที่มีคุณค่าและมีความสำคัญในการขับเคลื่อนของพวกท่านอีกด้วย”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงการได้รับชัยชนะของบรรดานักกีฬาในสถานการณ์ที่มีข้อจำกัด โดยท่านกล่าวว่า “แม้ว่าจะมีข้อจำกัดต่างๆ แต่ธงชาติของประเทศก็ได้ชูขึ้น และยังได้พิชิตในเวทีระดับโลก แสดงให้เห็นถึงการมีเจตจำนงอันแข็งกล้า และความมุ่งมั่นอย่างมั่นคง ซึ่งความมุ่งมั่นนี้ ได้ทำให้เกิดเจตจำนง ชัยชนะ และยังสร้างความหวัง ไม่ใช่เพียงในการกีฬาเท่านั้น แต่ยังรวมถึง ในเวทีต่างๆ ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ศิลปศาสตร์ และในด้านวรรณคดี อีกด้วย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหน้าที่ความรับผิดชอบที่สำคัญของบรรดาเจ้าหน้าที่ๆจะต้องแสดงความภาคภูมิใจนี้อย่างซื่อสัตย์”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ชี้อีกถึงตัวอย่างของการได้รับชัยชนะและการได้รับเหรียญรางวัลอย่างไม่โปร่งใสในการแข่งขันกีฬาของโลก โดยท่านผู้นำได้กล่าวเสริมว่า “นอกเหนือจากความไม่ยุติธรรมในการตัดสิน การติดสินบน การแอบอ้างทางการเมือง การใช้สารกระตุ้น และการได้รับเหรียญรางวัลด้วยการขายชาติและตัวเอง ทั้งหมดนี้คือ ตัวอย่างของความไม่โปร่งใสในการไดัรับชัยชนะ”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การเทอดเกียรติอันทรงคุณค่าทางมนุษยธรรม ทางศาสนาและทางด้านจิตวิญญาณที่เคียงข้างกับชัยชนะนั้น มีคุณค่าเป็นอย่างมาก และท่านผู้นำยังได้ชี้ถึงตัวอย่างของกรณีต่างๆเหล่านี้ในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก โดยท่านกล่าวว่า "การตั้งชื่อทัพนักกีฬาด้วยการใช้ชื่อของบรรดาชะฮีด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านชะฮีด กอเซ็ม สุไลมานี การมอบเหรียญรางวัลของวีรบุรุษให้กับบรรดาชะฮีดอันจำเพาะ การใช้ประโยชน์จากผ้าบะซีญี (ผ้าพันคอสีขาว-ดำ) เป็นสัญลักษณ์แห่งการเสียสละ และการยืนหยัดต่อสู้ รวมทั้งการซูญุดบนมัน การสวมใส่ผ้าฮิญาบ และการปกปิดร่างกายโดยเฉพาะ การสวมใส่ผ้าชาโดร์(ผ้าสีดำคลุมทั้งตัว)ในการถือธงชาตินำขบวนทัพนักกีฬา ถือเป็นการแสดงออกถึงการมีความรักต่อธงชาติของอิหร่าน ภาพของการทำนมาซ การโอบกอดฝ่ายตรงข้ามที่ได้รับการปราชัย และภาพของทีมนักกีฬาพาราลิมปิกที่ได้ให้เกียรติต่อมารดาของท่านชะฮีด บาบาอี ซึ่งเป็นการฉายภาพลักษณ์ที่มีคุณค่าของอิสลามและการทำให้รู้จักถึงอัตลักษณ์ของประชาชาติอิหร่าน”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นย้ำว่า “บรรดานักกีฬาหญิงชาวอิหร่านในการแข่งขันครั้งนี้ ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ฮิญาบแห่งอิสลาม ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเฉิดฉายทางด้านกีฬาของผู้หญิงเลย ดังที่พวกเธอทั้งหลายนั้นได้พิสูจน์ให้เห็นกันแล้ว ในเวทีต่างๆทางการเมือง วิทยาศาสตร์และการบริหารจัดการ”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า "ฮิญาบของนักกีฬาหญิงชาวอิหร่าน เป็นแนวทางอันมั่นคงให้กับบรรดานักกีฬาหญิงของประเทศชาติอิสลาม โดยที่ว่าในปัจจุบันนี้ ได้มีนักกีฬาหญิง มากกว่า 100 ประเทศ ที่สวมใส่ผ้าฮิญาบเข้าสู่แข่งขันกีฬาในครั้งนี้”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การไม่ยอมรับอย่างเป็นทางการต่อรัฐเถื่อนไซออนิสต์ ผู้ก่ออาชญากรรม ในสนามของการแข่งขันกีฬานั้น เป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และท่านผู้นำกล่าวว่า “รัฐเถื่อนที่ชอบในการหลั่งเลือด การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และความไม่ชอบธรรมของรัฐเถื่อนไซออนิสต์นี้ ซึ่งพวกเหล่านี้กำลังพยายามสร้างความชอบธรรมให้เกิดขึ้นกับตนเองจากการเข้าร่วมในการแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติ และเหล่ามหาอำนาจของโลก จอมอหังการก็ได้ให้ความช่วยเหลือกับพวกเหล่านี้ แต่บรรดาเจ้าหน้าที่การกีฬาและนักกีฬาทั้งหลาย จะต้องไม่นิ่งเฉยในบริบทนี้แต่อย่างใด”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงการดำเนินการของรัฐเถื่อนไซออนิสต์และเหล่าผู้สนับสนุนเพื่อกีดกันบรรดานักกีฬา โดยท่านผู้นำได้เน้นว่า “กระทรวงการกีฬาและกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานต่างๆด้านกฏหมาย จะต้องดำเนินการประเด็นนี้ ด้วยวิธีการทางกฏหมายต่อไป และต้องให้การสนับสนุนต่อบรรดานักกีฬาของประเทศ และแม้แต่นักกีฬาทั้งหลายชาวมุสลิมของประเทศอื่นๆ ดังเช่น ล่าสุด นักกีฬาประเทศแอลจีเรียที่เพิ่งถูกสั่งห้าม”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้เน้นย้ำให้เห็นว่า นักกีฬาชาวอิหร่านที่สร้างความภาคภูมิใจ ไม่สามารถจับมือกับตัวแทนของรัฐเถื่อนเพื่อแลกกับเหรียญรางวัลอันเดียว และจะไม่ยอมรับรัฐเถื่อนนี้เป็นอันขาด โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “ประเด็นนี้ เคยเกิดขึ้นมาก่อนและในอดีตที่ผ่านมา นักกีฬาของประเทศต่างๆก็ปฏิเสธที่จะเข้าแข่งขันกับตัวแทนของระบอบแยกสีผิวของแอฟริกาใต้และหลังจากนั้น ระบอบนี้ได้ล่มสลายและรัฐเถื่อนไซออนิสต์ก็จะล่มสลาย ด้วยเช่นกัน”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ให้คำแนะนำกับบรรดาเจ้าหน้าที่การกีฬาหลายประการด้วยกัน
“การพัฒนาคุณภาพกีฬาในระดับนานาชาติ การอาศัยการส่งนักกีฬาในสาขาต่างๆเพื่อคว้าเหรียญรางวัล การวางแบบแผนเพื่อยกฐานภาพในการจัดอันดับของอิหร่านในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก การเทอดเกียรติจากการเฉิดฉายของชาวอิหร่าน การสวมใส่ฮิญาบในโอลิมปิก และความจำเป็นในการสนับสนุนผู้ผลิตอุปกรณ์การกีฬาในประเทศ
การให้ความสนใจต่อกีฬาพื้นเมืองของอิหร่าน เช่น การแข่งขันขี่ม้าโปโล และการใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ การใช้ประโยชน์จากผู้ฝึกสอนชาวอิหร่านหากมีความเป็นไปได้ การดูแลปัญหา การทำงาน และการดำรงชีพของวีรบุรุษอย่างจริงจัง และการส่งเสริมความยุติธรรมทางด้านการกีฬา ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้คือ คำแนะนำของท่านผู้นำสูงสุดที่มีต่อบรรดาเจ้าหน้าที่ด้านการกีฬาของประเทศ
ก่อนการปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม พณฯ ท่าน ซัจญาดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการกีฬาและเยาวชน ได้กล่าวรายงานเกี่ยวกับทัพนักกีฬาที่เข้าร่วมในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก โดยที่มีผู้คว้าเหรียญรางวัล อีกทั้งในการจัดอันดับประเทศอิหร่านในการแข่งขันครั้งนี้
และ ฮาชิมีเยฮ์ มุตตะกิยาน แชมป์พาราลิมปิกในกีฬาพุ่งแหลน ตัวแทนของนักกีฬาพาราลิมปิก และญะวาด ฟูรูกี แชมป์โอลิมปิกในกีฬายิงปืน ตัวแทนของนักกีฬาโอลิมปิก ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อมีการสนับสนุนต่อวีรบุรุษทั้งหลายอย่างเท่าเทียมกัน การขยายวงกว้างในการจัดกิจกรรมทางด้านวัฒนธรรมในการกีฬา และการจัดการแข่งขันกีฬาพื้นเมืองตามภูมิภาคต่างๆ