รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ บรรดาเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ และเหล่าผู้บริหารของกระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดประชุมครั้งที่ 34 ประจำกระทรวงศึกษาธิการ โดยท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้เข้าร่วมด้วยโดยผ่านระบบการสื่อสารทางวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ซึ่งท่านผู้นำได้กล่าวขอบคุณอย่างจริงใจต่อบรรดาประชาชนที่เข้าร่วมในการจัดงานรำลึกถึงโศกนาฏกรรมแห่งกัรบะลาอ์ และการเคลื่อนไหวอันยิ่งใหญ่ทางจิตวิญญาณ ด้วยกับการระมัดระวังตามคำสั่งของสาธารณสุข โดยท่านถือว่า บรรดาครู คือ เหล่าทหารของกองทัพที่มีความก้าวหน้าแห่งชาติ และท่านผู้นำยังได้เน้นถึงความจำเป็นในการอบรมสั่งสอนมนุษย์ทั้งหลาย ให้เป็นผู้ที่มีศรัทธา มีสติปัญญา เป็นนักวิชาการ และเป็นผู้ที่มีจริยธรรมและศีลธรรมแห่งอิสลาม โดยถือว่า เหล่านี้เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก และท่านผู้นำยังกล่าวเสริมว่า “เอกสารการปฏิรูปในระบบการศึกษา จะต้องมีคำอธิบายอย่างถูกต้อง การเรียบเรียง และการดำเนินการตามแบบแผนปฏิบัติการที่ครอบคลุมถึงการอบรมสั่งสอนต่อบุคคลเหล่านี้”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวแสดงความเสียใจ เนื่องในวันชะฮาดัตของท่านอิมามซัจญาด (อ.) โดยท่านถือว่า การเคลื่อนไหวอันยิ่งใหญ่ของท่านหญิงซัยนับ (ซ.) และท่านอิมามซัจญาด คือ ความหมายที่แท้จริงของการลุกขึ้นต่อสู้ โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “การต่อสู้ของท่านหญิงซัยนับ (ซ.) มีมิติต่างๆของเหตุการณ์วันอาชูรอ ที่เกิดขึ้นหลังจากการลุกขึ้นต่อสู้ของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ซึ่งจะทำให้การเป็นชะฮีดของท่านอิมามฮุเซนนั้นยังดำรงอยู่อย่างเป็นนิรันดร์และมีความเป็นอมตะอีกด้วย”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การไว้อาลัยของประชาชาติในช่วงสิบวันแรกของเดือนมุฮัรรอม เป็นปรากฏการณ์หนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศ โดยท่านกล่าวเสริมว่า “แม้ว่าจะมีการจำกัดอย่างมากอันเนื่องมาจากโคโรน่า ข้าพเจ้านั้น ในฐานะที่เป็นผู้ที่มีความปรารถนาต่อบรรดาอะฮ์ลุลบัยต์ก็ต้องขอกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจต่อประชาชน บรรดานักบรรยายธรรม นักขับลำนำ ที่ได้รักษาเกียรติของอิมามฮุเซน ในการจัดงานรำลึกอันยิ่งใหญ่ทางด้านจิตวิญญาณ ด้วยกับการระมัดระวังในคำสั่งต่างๆของสาธารณสุข”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้กล่าวขอบคุณในความเพียรพยายามของหน่วยงานการศึกษาและการรายงานที่ดีอย่างมากของท่านรัฐมนตรี ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยท่านกล่าวว่า “การวางแบบแผนและการดำเนินการของหน่วยงานนี้ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หลังจากการแพร่ระบาดของโรคโคโรน่านั้น เพราะว่าเรานั้นไม่ได้มีประสบการณ์ในด้านนี้ ซึ่งข้าพเจ้าจึงต้องขอกล่าวขอบคุณกับทุกๆคนทั้งหมด”
ในส่วนหลักของการให้โอวาท ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การอบรมมนุษย์ที่มีความเหมาะสมที่คู่ควร คือ ตรรกะและเป้าหมายของการศึกษา และท่านผู้นำ กล่าวเสริมว่า “แน่นอนว่าคำจำกัดความของคำว่า มนุษย์ที่คู่ควรนั้น มีความแตกต่างกันในระดับชั้นและประเภทของการศึกษา”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า “ในระบบอิสลาม ผลผลิตของการศึกษาและการอบรมสั่งสอนบรรดาเด็ก วัยรุ่นและเยาวชน ตลอดเวลา 12 ปี จะต้องเป็นการอบรมสั่งสอนมนุษย์ที่มีศรัทธา มีสติปัญญา นักคิดและนักวิชาการ มีระเบียบวินัย และมีจริยธรรมและศีลธรรมแห่งอิสลาม กล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า เป็นมนุษย์ที่ความเป็นนักต่อสู้และผู้ปฏิบัติ”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ตั้งคำถามที่ว่า สำหรับการอบรมสั่งสอนมนุษย์เช่นนี้ ระบบการศึกษาจะต้องมีลักษณะเป็นเช่นไร โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “เพื่อที่จะทำให้บรรลุตรรกะและเป้าหมายในการสร้างมนุษย์ การศึกษา ในฐานะที่เป็นกองทัพอันมหึมาทางด้านวัฒนธรรม ซึ่งจะต้องมีความต้องการโครงสร้างที่มั่นคง และการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงช่วงเวลา 9 ปี จากการจัดทำเอกสารของการปฏิรูปการศึกษา โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ในเอกสารนี้ได้ระบุถึงเป้าหมายทั่วไป กลยุทธ์โดยรวม ซึ่งจะต้องมีการจัดทำแบบแผนบริหารตามนโยบายต่างๆ”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า “แผนบริหารของเอกสารในการปฏิรูปการศึกษา แม้จะมีความเพียรพยายามของรัฐบาลต่างๆ แต่ก็ยังไม่ได้มีการเรียบเรียงอย่างสมบูรณ์ ซึ่งสภาสูงสุดแห่งการศึกษาและผู้บริหารระดับสูง จะต้องปฏิบัติตามความรับผิดชอบนี้”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การฟื้นฟูในระยะเวลาของเอกสารการปฏิรูปการศึกษา ด้วยมุมมองที่สมบูรณ์ คือ ญัตติของเอกสารการปฏิรูปการศึกษา และเป็นหน้าที่ของสภาสูงสุดแห่งการปฏิวัติทางวัฒนธรรม โดยท่านกล่าวเสริมว่า “บรรดาเจ้าหน้าที่ของการศึกษา จะต้องติดตามปัญหาเหล่านี้”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การจัดกำหนดเวลา และ การกำหนดตัวชี้วัดความก้าวหน้า คือ สิ่งที่จำเป็นในแบบแผนครอบคลุมสำหรับการดำเนินการตามเอกสารการปฏิรูปการศึกษา โดยท่านกล่าวเสริมว่า “แบบแผนครอบคลุม จะต้องมีความเชื่อมั่นและรวมถึงเป้าหมายทั้งหมดของเอกสารของการปฏิรูปการศึกษา”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า มีความสำคัญที่จะต้องอธิบายอย่างถูกต้องเกี่ยวกับเอกสารการปฏิรูปการศึกษา โดยท่านกล่าวว่า “เอกสารการปฏิรูปการศึกษา จะต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจนและมีพลังดึงดูด เพื่อที่จะทำให้บรรดาผู้บริหาร ครูทั้งหลายมีแรงจูงใจในการดำเนินการอย่างละเอียด”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า บรรดาครู เป็นองค์ประกอบที่กำหนดในระบบทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ของการศึกษา และท่านได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปกป้องศักดิ์ศรีและบทบาทของครู โดยกล่าวว่า “บรรดาครู ด้วยความหมายที่แท้จริง คือ เหล่าททหารของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามที่ก้าวหน้าของประเทศชาติ และการรักษาศักดิ์ศรีและฐานภาพของครูเป็นความรับผิดชอบของพวกเขาในอันดับแรก และครูทุกคน จะต้องมีความรู้สึกเหล่านี้ ซึ่งเขานั้นคือผู้สร้างอนาคต”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า “กระทรวงศึกษาธิการ จะต้องให้การสนับสนุนต่อศักดิ์ศรีและฐานภาพของบรรดาครูและเป้าหมายนี้ จะบรรลุได้ด้วยกับความช่วยเหลือของรัฐสภาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์กรการวางแบบแผนและงบประมาณ เป็นต้น”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้เน้นว่า “มุมมองของกระทรวงศึกษาธิการ จะต้องมีมองเป็นโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ใช่เป็นเพียงการบริโภค และการใช้จ่ายของกระทรวงศึกษาธิการ จะต้องเหมือนกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การสร้างวัฒนธรรมเพื่อแสดงความเคารพและให้เกียรติต่อบรรดาครูในสังคม เป็นปัจจัยที่สามในการปกป้องสถานะและศักดิ์ศรีของกลุ่มชนที่สำคัญและมีประสิทธิภาพนี้ โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “หน่วยงานทางด้านวัฒนธรรม โดยเฉพาะองค์กรสถานีวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาตินั้น ต้องมีบทบาทที่สำคัญอย่างมาก และจะต้องมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องและมีศิลปะอีกด้วย”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ประเด็นการจัดสรรหาครูและการอบรมสั่งสอนนั้น มีความสำคัญอย่างมาก และท่านผู้นำยังได้ชี้ไปยังที่สองมหาวิทยาลัย ฟัรฮังกียอน และชะฮีด ราญาอี โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “จะต้องมีการวางแบบแผนและใช้ศักยภาพเพื่อที่จะทำให้บรรดาครูทั่วประเทศสามารถผ่านเส้นทางของมหาวิทยาลัยทั้งสองเข้ามายังกระทรวงศึกษาธิการได้และรัฐสภาก็จะต้องมีญัตติที่ระบุว่า นอกเหนือจากมหาวิทยาลัยทั้งสองแห่งไม่สามารถที่จะเข้าถึงกระทรวงศึกษาธิการได้”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้เน้นถึงการพิจารณาความเหมาะสมทางศาสนา ทางศีลธรรมและทางการเมืองในการสรรหาบรรดาครู โดยท่านกล่าวว่า “จะต้องมีตัวเลือกที่ถูกต้องในการสรรหาบรรดาครูและมีการดำเนินการอย่างชาญฉลาด และจะไม่อนุญาตให้บุคลากรที่มีคุณภาพต่ำเข้าสู่กระทรวงศึกษาธิการเป็นอันขาด”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงประเด็นความยุติธรรมทางการศึกษา โดยท่านกล่าวเสริมว่า “กรณีความยุติธรรมทางการศึกษาและการใช้ประโยชน์ของนักเรียนจากการแบ่งปันที่เหมาะสมในทุกภาคส่วนของประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกลและการแนะนำและปลูกฝังคนเก่งในพื้นที่ๆด้อยโอกาส ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกันมาหลายครั้ง และในขณะนี้ ปัญหาการศึกษาในระบบออนไลน์ นั้นมีความละเอียดอ่อนมากกว่าเดิมในกรณีความยุติธรรมทางการศึกษา”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้เน้นย้ำถึงการให้ความสนใจกับครอบครัวที่ไม่มีความสามารถทางการเงินในการจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการศึกษาในระบบออนไลน์ โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “องค์กรสถานีวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติ จะต้องเติมช่องว่างในส่วนของความเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ประโยชน์จากการศึกษาในระบบออนไลน์”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า หนึ่งในกรณีที่เกี่ยวข้องกับประเด็นความยุติธรรมทางการศึกษา คือ ประเด็นโรงเรียนภาครัฐ โดยท่านกล่าวว่า “จะต้องมีการปรับระดับและยกคุณภาพของโรงเรียนของรัฐ ในแง่ของการศึกษาและการอบรมสั่งสอน ในสภาพที่บรรดานักเรียนจะต้องไม่รู้สึกว่า ด้วยกับการศึกษาในโรงเรียนดังกล่าวนี้ มีโอกาสน้อยมากที่จะสอบเอ็นทรานซ์ติด ขณะที่ครอบครัวของพวกเขาคิดว่า ได้ส่งลูกๆของพวกเขาไปยังสถานที่ซึ่งไร้ที่พึ่งพา”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการศึกษาในระบบออนไลน์และผลกระทบบางประการที่อาจจะเกิดขึ้น โดยกล่าวว่า “การเปิดบริการแอพการศึกษาออนไลน์ ชาด Shad ถือเป็นการดำเนินที่ดีอย่างมาก แต่การศึกษาในระบบออนไลน์ จะต้องไม่ทำให้นักเรียนต้องเผชิญกับผลเสียของโลกออนไลน์ และอันตรายทางศีลธรรม รวมถึงความศรัทธาด้วย”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึงมิติของการอบรมสั่งสอนในกระทรวงศึกษาธิการ และได้ฟ้องต่อการขาดเอาใจใส่ในกิจกรรมของการอบรมสั่งสอน และความล้าหลังในด้านนี้ แม้ว่าจะมีการเน้นย้ำด้วยหลายครั้งก็ตาม โดยท่านกล่าวว่า “เนื่องจากประเด็นของการศึกษาในระบบออนไลน์ จะต้องมีการใช้วิธีการใหม่ๆในการทำกิจกรรมของการอบรมสั่งสอน เพื่อที่จะไม่ทำให้ปัญหานี้ต้องถูกเพิกเฉย”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า บรรดาโรงเรียนสำหรับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ หรือซัมพาด SAMPAD เป็นหนึ่งในประเด็นที่มีความสำคัญและเป็นพื้นฐานหลักของการศึกษาและท่านผู้นำยังได้ชี้ถึงการลงมติที่เกี่ยวกับโรงเรียนซัมพาด ที่ได้ประกาศล่าช้า โดยเน้นย้ำถึงความจริงจังของประเด็นความสามารถพิเศษต่างๆ โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “สถานภาพของประเทศในการแข่งขันโอลิมปิกทางการศึกษา ก็จะต้องมีการปรับปรุงและยกระดับด้วยเช่น เพราะว่าในหลายปีที่ผ่านมา สถานะของเรายังไม่โดดเด่นเท่าที่ควรจะเป็น”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ชี้ถึงประเด็นสถานภาพของโรงเรียนอนุบาลและเด็กก่อนวัยเรียน ด้วยความเสียใจต่อการละทิ้งโรงเรียนอนุบาล จากเหตุผลความแตกต่างของบางหน่วยงานของรัฐฯ โดยท่านกล่าวว่า “ตามรายงานที่ได้รับถือว่าสถานภาพของโรงเรียนอนุบาลไม่ค่อยดีนัก และอย่าได้มองโรงเรียนอนุบาลเป็นเพียงศูนย์บริการ แต่จะต้องถือว่าเป็นศูนย์การศึกษาที่สำคัญ”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ชี้ถึงการคะยั้นคะยอของชาติตะวันตกในการแทรกแซงต่อการศึกษาของประเทศ ด้วยแรงบันดาลในการกำหนดวิถีชีวิตแบบตะวันตก ตามเอกสาร 2030 หรือการแทรกแซงทางการศึกษาของบางประเทศในภูมิภาค ถือว่าเป็นตัวอย่าง โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “ในวันนี้ ปรัชญาภาคสังคมตะวันตก ในตะวันตกเองก็ต้องพบกับความล้มเหลว และความชั่วร้ายได้ปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด ตั้งแต่ฮอลลีวูดไปจนถึงเพนตากอน”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นถึงการรู้สึกอ่อนไหวต่อการแทรกแซงของศัตรู โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ศัตรูนั้นมีความตั้งใจที่จะกระทำในสิ่งที่ไม่สามารถปฏิบัติได้ด้วยวิธีการทางทหารโดยผ่านวิธีการแทรกแซงและวิธีการอื่นๆ เช่น เอกสาร 2030 ซึ่งจะทำให้บรรดามนุษย์ที่ได้รับการอบรมสั่งสอนนั้นมีความคิดเหมือนกับเขาและมีเป้าหมายในการปฏิบัติการ เพื่อปูทางไปสู่การปล้นสะดมของประชาชาติ”
ในส่วนสุดท้ายของการให้โอวาท ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การดำเนินการของรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อปรับความสัมพันธ์กับรัฐเถื่อนไซออนิสต์ให้เป็นปกตินั้น เป็นการทรยศต่อโลกอิสลาม โลกอาหรับ ประเทศต่างๆในภูมิภาค และปัญหาสำคัญของปาเลสไตน์ โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “แน่นอนว่า สถานการณ์เช่นนี้ จะคงอยู่ได้อีกไม่นานนัก แต่ทว่า รอยเปื้อนแห่งความอัปยศ จะยังคงอยู่บนหน้าผากของผู้ที่หลงลืมการยึดครองประเทศและการพลัดถิ่นของประชาชาติปาเลสไตน์และยังเป็นการเปิดช่องทางในภูมิภาคให้กับไซออนิสต์”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อความร่วมมือของรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในการดำเนินการที่เลวร้ายของรัฐเถื่อนไซออนิสต์และพันธมิตรที่ชั่วร้าย คณะผู้ปกครองสหรัฐที่ต่อต้านผลประโยชน์ของโลกอิสลามและภูมิภาค โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “เราหวังว่า ชาวเอมิเรตส์ทั้งหลายนั้น จะตื่นตัวอย่างเร็วที่สุดและพร้อมที่จะชดเชยกับการกระทำเหล่านี้”
ก่อนการให้โอวาทของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม พณฯท่าน ฮาญี มีรซาอี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวรายงานเกี่ยวกับกิจกรรมของกระทรวงนี้ โดยเขากล่าวว่า “การผลิตชุดการเรียนการสอน เนื้อหาของการศึกษา การกำหนดนโยบายในกระบวนการสรรหาครูและการใช้ประโยชน์จากครู โครงการฝึกอบรมวิชาชีพให้กับนักเรียนทุกคน การเพิ่มเงินเดือนครู การเริ่มดำเนินการก่อสร้างบ้านพักครู 43,000 หน่วยกิต และการเพิ่มขีดความสามารถของมหาวิทยาลัยฟัรฮังกิยอน ทั้งหมดนี้คือแบบแผนและการดำเนินการของกระทรวงศึกษาธิการ”
นายฮาญี มีรซาอี ถือว่า ความรวดเร็วของการศึกษาในปฏิกิริยาตอบโต้ในการระบาดของโรคโคโรน่า นั้นมีความเหมาะสม โดยเขากล่าวว่า “หลังจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่ายังไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ได้มีการวางแบบแผนการศึกษาผ่านสถานีโทรทัศน์และหนึ่งเดือนต่อมา เราได้เปิดบริการแอพพลิเคชั่น ชาด และในปีการศึกษาใหม่ เรานั้นเชื่อมั่นว่า นักเรียนทุกๆคนจะต้องเข้าถึงการศึกษาในแอพดังกล่าว”