คณะเยาวชนระดับหัวกระทิ นักอัจฉริยะบุคคล ผู้คว้าเหรียญโอลิมปิกวิชาการระดับโลกและนักกีฬาวอลเลย์บอลเยาวชนทีมชาติ ที่ได้รับชัยชนะในการแข่งขันระดับโลก ได้เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำถือว่า วิถีของความเป็นนักอัจฉริยะบุคคล เป็นวิถีที่ไม่มีที่สิ้นสุด โดยท่านยังได้กล่าวเทอดเกียรติในความคิดที่ลึกซึ้งและการใช้สติปัญญาของบรรดาเยาวชนในระดับหัวกระทิ พร้อมทั้งกล่าวว่า “ความก้าวหน้าทางวิชาการ จะยังให้ประโยชน์กับประเทศ ด้วยกับการมีวิสัยทัศน์แห่งการปฏิวัติอิสลามบนพื้นฐานของแนวคิดของอิสลาม และบรรดาเยาวชนระดับหัวกระทิ นักอัจฉริยะบุคคล จะต้องทำให้เป้าหลักของพวกเขานั้นก้าวข้ามผ่านขอบเขตทางวิชาการ เทคโนโลยีและความก้าวหน้า”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การพบปะกับเยาวชนในระดับหัวกระทิและบรรดานักกีฬาที่เป็นความหวังต่ออนาคตของการปฏิวัติและประเทศ เป็นการพบปะกันแบบที่เป็นกันเองอย่างมาก โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “ คำพูดต่างๆของบรรดาเยาวชนระดับหัวกระทิในการพบปะกันครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงการมีแนวคิดที่มีวิสัยทัศน์ที่ลึกซึ้งต่อปัญหาต่างๆที่สำคัญอย่างมากและยังจะทำให้มีความสุขอีกด้วย”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้กล่าวขอบคุณจากการดำเนินการของบรรดาเยาวชนระดับหัวกระทิในการมอบเหรียญรางวัลของพวกเขาให้แด่ท่านผู้นำ โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “การดำเนินการนี้ มิใช่การมอบแบบส่วนตัว แต่ทว่า เป็นการมอบในเชิงสัญลักษณ์หนึ่ง ขณะที่ข้าพเจ้าได้ตอบรับเหรียญเหล่านี้ ก็จะส่งมันกลับคืนยังเยาวชนที่มีเกียรติยิ่งนี้ เพื่อที่พวกเขาจะได้เก็บรักษามันไว้ให้คงอยู่กับพวกเขาต่อไป”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้กล่าวถึงเยาวชนในระดับหัวกระทิและนักอัจฉริยะบุคคลว่า “เรานั้นมีเกียรติด้วยการมีเกียรติของพวกเธอ และเรานั้นมีความภาคภูมิใจด้วยกับความภาคภูมิของพวกเธอ และความภาคภูมิใจของพวกเธอ ก็คือ ความภาคภูมิใจของประเทศและผู้ที่มีความรักและห่วงใยต่อรัฐอิสลาม”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงคำพูดต่างๆของบรรดาเยาวชนระดับหัวกระทิ นักอัจฉริยะบุคคล บางประเด็นและข้อเสนอแนะของพวกเขาในการตรวจสอบและการติดตามข้อเสนอเหล่านี้ โดยท่านได้เน้นย้ำและกล่าวว่า “วิถีของนักอัจฉริยะและหัวกระทิ เป็นวิถีที่ไม่มีการสิ้นสุดในความพยายามและความก้าวหน้า ฉะนั้น ด้วยกับการได้รับเหรียญรางวัลเหล่านี้ อย่าถือว่าเป็นที่สิ้นสุดของวิถีและแนวทางนี้ และอย่าได้หยุดนิ่งจากการใช้ศักยภาพและขีดความสามารถของนักอัจฉริยะบุคคลเป็นอันขาด”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ชี้ถึงความล้าหลังที่เกิดขึ้นกับประชาชาติอิหร่านในช่วงหนึ่งในสองศตวรรษที่ผ่านมา ในยุคการปกครองของราชวงศ์กอญัรและปาห์เลวี โดยกล่าวเสริมว่า “ด้วยความพยายามทั้งหมด หลังจากชัยชนะในการปฏิวัติอิสลาม โดยเฉพาะในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เรามีความก้าวหน้าในประเด็นการขับเคลื่อนทางวิชาการและเทคโนโลยี แต่ทว่า ในขณะนี้ เราก็ยังล้าหลังอยู่อีกมาก และหน้าที่ๆสำคัญอย่างยิ่งของเยาวชน นักอัจฉริยะและหัวกระทิ นอกเหนือความสำเร็จทางวิชาการที่รวดเร็วอย่างต่อเนื่องและจะต้องก้าวข้ามผ่านขอบเขตทางวิชาการและเทคโนโลยี”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงการที่อิหร่านถูกจัดอันดับสูงขึ้นทางด้านนาโนเทคโนโลยี โดยท่านได้เน้นย้ำว่า “ขณะนี้ ความคาดหวังที่บรรดาเยาวชนระดับหัวกระทิและรุ่นต่อไป ก็คือการค้นพบในหลายร้อยกรณีต่างๆ เช่น ในวิชาการนาโนและปรากฏการณ์ที่ยังไม่ถูกรู้จักทางวิชาการด้านชีววิทยา และเทคโนโลยี และอย่าได้เพียงพอแต่กับการดำเนินตามวีถีของความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ความจำเป็นในการไปถึงยังระดับขั้นตอนนี้ คือ การคงรักษาไว้และการทำให้แก่นแท้ของความเป็นนักอัจฉริยะและหัวกระทินั้นมีความสูงส่ง และการไม่เชื่อใจต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยท่านกล่าวเสริมว่า “เยาวชนทั้งหลาย จะต้องเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถที่มีอยู่ ด้วยกับความพยายามและการดำเนินการที่ก้าวผ่านปัญหาต่างๆบนวิถีของความก้าวหน้าอย่างไม่หยุดนิ่งแต่อย่างใด”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า สิ่งที่จำเป็นในการมีประโยชน์ของเยาวชนระดับหัวกระทิต่อประเทศและประชาชาติ คือ การมีวิสัยทัศน์ต่อการปฏิวัติอิสลาม โดยท่านกล่าวเสริมว่า “พวกเธอ จะต้องเสริมความแข็งแกร่งในแนวคิดแห่งการปฏิวัติอิสลามและการมีบะศีรัต(การรู้แจ้งเห็นจริง) เพราะว่า หากปราศจากวิสัยทัศน์นี้ ความก้าวหน้าที่มีประโยชน์ต่อประเทศก็จะไม่เกิดขึ้น และเช่นเดียวกัน พวกเธอก็อย่าได้ลืมความสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณกับพระผู้เป็นเจ้า การตะวักกุล(การมอบหมายกิจการงานต่อพระองค์) และการขอความช่วยเหลือจากพระองค์”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้อีกถึง ชัยชนะของทีมวอลเลย์บอลทีมชาติเยาวชน โดยกล่าวว่า “ด้วยกับความโปรดปรานของพระผู้เป็นเจ้า ได้ทำให้เยาวชนทีมวอลเลย์บอลของเราสามารถสร้างความภาคภูมิใจและได้ยืนหยัดบนจุดสุงสูดของวอลเลย์บอลโลก ถือว่า ความสำเร็จนี้มีคุณค่าอย่างมากและทำให้ประชาชนมีความสุขและข้าพเจ้าโดยส่วนตัวแล้วก็มีความสุข เมื่อได้เห็นประชาชนมีความสุข ข้าพเจ้าก็มีความสุขด้วยเช่นกัน”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้มาจากการมีหัวหน้าผู้ฝึกสอนเป็นชาวอิหร่าน คือ สิ่งที่น่าพอใจและสำคัญอย่างมาก โดยท่านได้เน้นย้ำว่า “ข้าพเจ้าเชื่อมาเสมอว่ากลุ่มกีฬาในประเทศควรที่จะมีหัวหน้าผู้ฝึกสอนเป็นชาวอิหร่าน”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้อีกเช่นว่า การเข้าร่วมของสตรีผู้หนึ่งที่คว้าเหรียญรางวัลพร้อมกับลูกน้อยของนาง โดยกล่าวว่า “สตรีที่มีเกียรติผู้นี้ ด้วยกับการมีสามีและลูก แสดงให้เห็นว่า สตรีที่มีสามีและลูกนั้น ก็สามารถที่จะประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้ได้ด้วยเช่นกัน”
ในส่วนหนึ่งของการปราศรัยของท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านได้ชี้ถึงคำพูดต่างๆของหนึ่งในเยาวชนระดับหัวกระทิเกี่ยวกับปัญหาที่มีอยู่ในวิถีต่างๆของนักอัจฉริยะบุคคลและการดำเนินการของหน่วยงานต่างๆ โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ปัญหาต่างๆนั้น จะต้องไม่ทำให้เยาวชนหยุดนิ่งและสิ้นหวัง เพราะว่าความสิ้นหวังนั้นคือ ยาพิษ และถ้าหากว่า ชนรุ่นก่อนๆได้หยุดนิ่งและมีความสิ้นหวัง เราก็จะต้องอยู่ในช่วงการปกครองแบบเผด็จการที่เลวร้าย แต่ทว่า ในขณะนี้ ด้วยกับเกียรติยศของเยาวชนรุ่นก่อนๆ ที่ได้ตระเตรียมความพร้อมในสถานการณ์ต่างๆ จนทำให้ขีดความสามารถของเยาวชนระดับหัวกระทิได้ปรากฏขึ้น ทั้งยังสามารถยืนหยัดได้อย่างสง่างามและพูดจาได้อย่างเปิดเผยอีกด้วย”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้อีกเช่นกันถึงคำพูดหนึ่งของบรรดาเยาวชนในระดับหัวกระทิ ที่เขาเชื่อว่า การดำเนินการตามมาตราที่ 44 ตามถ้อยแถลงของนโยบายทั่วไปนั้นไม่เหมาะสมกับความเป็นเอกชน โดยท่านกล่าวว่า “ในประเด็นของมาตราที่ 44 นั้นมีการตีความ ที่ไม่ใช่ว่าด้วยกับเหตุผลที่ไม่เหมาะสม แต่ทว่าเหตุผลหลัก ก็คือ ทางการปฏิบัติ และข้าพเจ้าก็เป็นหนึ่งในผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์คนสำคัญที่สุดทางการปฏิบัติเหล่านั้น และส่วนมากในกรณีต่างๆ ข้าพเจ้าก็ยืนหยัดต่อการเผชิญกับปัญหาต่างๆและมีการส่งกลับคืนและไปแก้ไขมาใหม่อีกด้วย”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้เน้นว่า “การตีความ คือ สิ่งที่ประเทศนั้นมีความต้องการ และในเวลานั้น บรรดาคณาจารย์และผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจต่างได้เน้นถึงความจำเป็นในการตีความเช่นนี้ของมาตราที่ 44 แต่ทว่า ช่างน่าเสียใจอย่างยิ่งที่รัฐบาลไม่ได้ปฏิบัติในเรื่องนี้อย่างดี และข้าพเจ้าก็ติดตามในเรื่องนี้มาโดยตลอด”
ก่อนการปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ตัวแทนคณะเยาวชนที่คว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกวิชาการโลก จำนวน 6 คน และสมาชิกนักกีฬาทีมวอลเลย์บอลทีมชาติทั้ง 2 คนได้กล่าวแสดงทัศนะและข้อเสนอของตนให้ท่านผู้นำรับฟัง
สุภาพบุรุษ :
อะลีริฎอ กะรีมี ผู้คว้าเหรียญเงินในการแข่งขันโอลิมปิกเคมี
ยูซุฟ ชัลลอเกฮ์ นักศึกษาแพทย์ศาสตร์ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกนาโน
อะลีริฎอ ชะรีฟ นักศึกษาคณิตศาสตร์ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกฟิสิกส์โลก
ริฎอ คิยานีพูร นักศึกษาแพทย์ศาสตร์ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกชีววิทยา
นีมอ รอญะบี ผู้คว้าเหรียญทองแดงดาราศาสตร์
และสุภาพสตรี
ซะฮ์รอ ฮิดายะตี มะติน เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกวรรณคดีระดับนักเรียน
ประเด็นต่างๆมีการที่กล่าวถึง
-การรายงานในการดำเนินการของศูนย์กลางนักศึกษาระดับหัวกระทิบนพื้นฐานของกิจกรรมทางวิชาการในมัสยิด โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ด้อยโอกาส
-ความจำเป็นในการรักษานักอัจฉริยะบุคคลในประทศโดยที่มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆด้วยตนเอง
-ความจำเป็นในการส่งเสริมวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นถึงภารกิจในสภาพแวดล้อมทางวิชาการเพื่อการแก้ไขปัญหาหลักของประเทศ
-ความจำเป็นในการรักษาจิตวิญญาณต่อความรับผิดชอบและการเป็นนักการปฏิวัติของบรรดานักอัจฉริยะบุคคล
-ความจำเป็นในการจัดแข่งขันโอลิมปิกในสาขาวิชาด้านมนุษยศาสตร์ เช่น ปรัชญา
-การวิพากษ์วิจารณ์ในความสนใจที่น้อยมากต่อความต้องการของนักอัจฉริยะบุคคลและความจำเป็นในการหลีกเลี่ยงจากความสิ้นหวังของพวกเขา
-ความจำเป็นในการใช้ข้อบังคับต่างๆในหน้าที่ทั่วไปในส่วนค่าใช้จ่ายของทหารที่มีหน้าที่
-การวิจารณ์วิถีที่ไม่ถูกต้องในการปฏิบัติตามมาตราที่ 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งชาติ
และเช่นเดียวกัน นายเบฮ์รุส อะฏออี หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมวอลเลย์บอลทีมชาติเยาวชน และนายอะมีรฮุเซน เอสฟันดิยอร กัปตันทีมวอลเลย์บอล ได้กล่าวขอบคุณต่อความสนใจของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามในกีฬาวอลเลย์บอลและท่านผู้นำยังได้ส่งสาส์นแสดงความยินดีต่อชัยชนะของทีมวอลเลย์บอลเยาวชน โดยพวกเขาถือว่า เป็นเหตุการณ์ที่สร้างประวัติศาสตร์และการได้รับชัยชนะของบุคลากรชาวอิหร่านนั้นเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง