สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

คณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของขบวนการอิสลามเพื่อการต่อสู้ฮามาสเข้าพบท่านผู้นำสูงสุด

ชาวปาเลสไตน์และโลกอิสลามจะได้รับผลประโยชน์จากการยืนหยัดครั้งนี้

คณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของขบวนการอิสลามเพื่อการต้านทาน(ฮามาส)แห่งปาเลสไตน์ เข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม โดยท่านผู้นำถือว่า ปัญหาปาเลสไตน์ คือ ปัญหาแรกที่สำคัญที่สุดของโลกอิสลาม และท่านผู้นำยังได้กล่าวเทอดเกียรติในการยืนหยัดต่อสู้อันน่าประหลาดใจของประชาชนชาวปาเลสไตน์และกลุ่มต่างๆทั้งในการต่อสู้และการยืนหยัดต้านทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มฮามาส โดยท่านผู้นำได้เน้นว่า “ชัยชนะนั้นจะไม่เกิดขึ้นโดยปราศจากการยืนหยัดและการต่อสู้ และเรานั้นเชื่อว่า ด้วยกับพันธสัญญาที่ไม่เปลี่ยนแปลงของพระผู้เป็นเจ้าได้ระบุว่า ปัญหาปาเลสไตน์ จะสิ้นสุดลง ชาวปาเลสไตน์และโลกอิสลาม จะได้รับผลประโยชน์จากการยืนหยัดครั้งนี้”

ในช่วงเริ่มต้นของการเข้าพบ นายศอลิห์ อัลอารูรี รองผู้อำนวยการสำนักงานฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาสได้มอบจดหมายของนาย อิสมาอีล ฮะนียะฮ์ ผู้อำนวยการสำนักงานฝ่ายการเมืองของฮามาสให้แด่ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้กล่าวขอบคุณต่อการแสดงจุดยืนที่ดีและที่สำคัญอย่างมากนาย อิสมาอีล ฮะนียะฮ์ ในจดหมายฉบับนี้ โดยท่านกล่าวว่า “ฮามาสนั้นคือ หัวใจของการขับเคลื่อนของปาเลสไตน์ ดังเช่นที่ปาเลสไตน์นั้นคือ หัวใจของการขับเคลื่อนของโลกอิสลามนั่นเอง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การยืนหยัดต้านทานของประชาชนชาวกาซาและผู้ที่อาศัยในชายฝั่งทางตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดนนั้น  เป็นการแจ้งข่าวดีที่แสดงถึงชัยชนะ โดยกล่าวเสริมว่า “พระผู้เป็นเจ้าทรงให้สัญญาในชัยชนะให้กับบรรดาผู้ที่ได้ยืนหยัดอย่างมั่นคง แต่ทว่า ในการบรรลุข้อสัญญานี้นั้น มีข้อปฏิบัติที่จำเป็นจะต้องกระทำและที่สำคัญที่สุด ก็คือ การญิฮาด การต่อสู้ และความพยายามอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยในมิติต่างทางการเมือง ด้านวัฒนธรรม แนวคิด เศรษฐกิจและทางการทหาร”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นอีกว่า สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านนั้น จะไม่ยอมมอ่อนข้อให้กับประเทศใดๆก็ตามในโลกในกรณีปาเลสไตน์  โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “เราได้ประกาศมาอย่างตลอดว่า ทัศนะของเราเกี่ยวกับเรื่องปาเลสไตน์นั้นชัดเจนและโปร่งใส แม้แต่ในเวทีนานาชาติ ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านของเรานั้น มีความคิดเห็นที่แตกต่างกับเราในประเด็นนี้ โดยที่พวกเขานั้นต่างก็ทราบดีว่า สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านนั้นมีความจริงจังที่สุดในประเด็นปาเลสไตน์”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวว่า “หนึ่งในเหตุผลที่สำคัญในความเป็นปฏิปักษ์กับสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน คือ ประเด็นปาเลสไตน์ แต่ในความเป็นศัตรูและการสร้างความกดดันต่างๆ มิได้เป็นสาเหตุที่จะทำให้อิหร่านนั้นต้องเปลี่ยนจุดยืนของตนในประเด็นปาเลสไตน์ เพราะว่า การสนับสนุนปาเลสไตน์นั้น เป็นประเด็นหนึ่งของหลักศรัทธาทางศาสนา”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นว่า “หากว่าโลกอิสลามนั้นมีความเป็นเอกภาพในการยืนหยัดในประเด็นปาเลสไตน์ แน่นอนว่า สถานการณ์ในปัจจุบันนี้ก็จะต้องดีกว่านี้อย่างแน่นอนและการที่บางประเทศที่เป็นลิ่วล้อของพวกสหรัฐ ดั่งเช่น พวกซาอุดี้ ได้ถอยห่างจากประเด็นปาเลสไตน์นั้นคือ ความโง่เขลา เพราะว่า ถ้าหากพวกเขาให้การสนับสนุนปาเลสไตน์  พวกเขาจะได้คะแนนพิเศษในการเผชิญหน้ากับสหรัฐฯ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นว่า ชัยชนะของประชาชนชาวปาเลสไตน์นั้นเป็นวิถีแห่งพระเจ้าและการกลับคืนสู่แผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ยังโลกอิสลาม ไม่ใช่เป็นเรื่องแปลกประหลาดหรือไม่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยกล่าวว่า “ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ไม่มีผู้ใดเชื่อว่า ในอิหร่านซึ่งเป็นศูนย์กลางในการแทรกแซงและความหวังของพวกสหรัฐฯจะมีการปกครองในระบอบศาสนาเกิดขึ้นและการเปลี่ยนแปลงสถานทูตอิสราเอลในกรุงเตหะรานให้กลายเป็นสถานทูตของปาเลสไตน์ แต่เรื่องที่ไม่มีความเชื่อเช่นนี้ก็ได้เกิดขึ้น ฉะนั้น การเกิดขึ้นของประเด็นที่ เมื่อมองแบบผิวเผินเป็นเรื่องแปลกนั้นก็มีความเป็นไปได้”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า “การที่ท่านซัยยิด ฮะซัน นัศรุลลอฮ์ กล่าวว่า หากพระเจ้าทรงประสงค์ เราจะได้ทำนมาซร่วมกันในมัสญิดอัลอักซอ การกระทำเช่นนี้ก็เป็นความหวังของเราที่จะต้องเกิดขึ้นจริง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นว่า หนึ่งในข้อปฏิบัติที่จะทำให้ความหวังอันนี้ต้องเกิดขึ้น คือ การมีจุดยืนที่มั่นคง ดั่งเช่นที่นายฮะนียะฮ์ได้ชี้ไว้ในจดหมายนี้ โดยท่านผู้นำ กล่าวว่า “หากว่าเราทุกคนนั้นได้ปฏิบัติตามหน้าที่ของตน แน่นอนว่า พันธสัญญาของพระเจ้าก็จะบังเกิดขึ้น”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงแผนการแห่งการทรยศของข้อตกลงแห่งศตวรรษ โดยเน้นว่า “เป้าหมายของแผนการอันตรายนี้ ก็คือ การกำจัดอัตลักษณ์แห่งความเป็นปาเลสไตน์ให้ออกไปจากประชาชนและบรรดาเยาวชนชาวปาเลสไตน์ที่จะต้องมีการต่อกรกับประเด็นนี้ โดยที่อย่าได้ปล่อยให้พวกเขาต้องใช้ประโยชน์จากเงินตราในการกำจัดอัตลักษณ์แห่งความเป็นปาเลสไตน์เป็นอันขาด”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้เน้นถึงการเผชิญหน้ากับแผนการนี้นั้นต้องใช้การโฆษณาชวนเชื่อ วัฒนธรรมและแนวความคิด โดยกล่าวเสริมว่า “หนึ่งในวิธีการในการเผชิญหน้ากับแผนการนี้ คือ ประชาชนชาวปาเลสไตน์ จะต้องรู้สึกถึงความก้าวหน้าที่ประเด็นนี้ได้เกิดขึ้นมาแล้วในขณะนี้ ด้วยกับความโปรดปรานของพระผู้เป็นเจ้า”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ในหลายปีที่ผ่านมา ชาวปาเลสไตน์ได้ลุกขึ้นต่อสู้ด้วยการปาหิน แต่ในวันนี้ แทนที่ในการใช้หิน ด้วยกับการใช้ขีปนาวุธที่พุ่งเป้าชัดเจน นี่ก็แสดงถึงความรู้สึกในความก้าวหน้านั่นเอง”

ในการพบปะกันครั้งนี้ นายศอลิห์ อัลอารูรี รองผู้อำนวยการสำนักงานฝ่ายการเมืองฮามาส ได้ฝากสลามและความคิดถึงของนายอิสมาอีล ฮะนียะฮ์ ผู้อำนวยการสำนักงานฝ่ายการเมืองฮามาส และชาวปาเลสไตน์ มาถึงยังท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม  โดยเขาได้เน้นว่า “ดังที่ พณฯท่านได้ชี้ไปแล้ว เรานั้นเชื่อว่า ด้วยกับพันธสัญญาของพระเจ้า อัลกุดส์(เยรูซาเล็ม)และปาเลสไตน์จะถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระจากกรงเล็บของพวกรัฐเถื่อนไซออนิสต์ และบรรดานักต่อสู้และประชาชาติอิสลามก็จะได้ทำนมาซร่วมกันในมัสญิดอัลอักซอ”

รองผู้อำนวยการสำนักงานฝ่ายการเมืองของฮามาส ยังได้ชี้ถึงจุดยืนที่ชัดเจนของท่านอิมามโคมัยนี ในการสนับสนุนในประเด็นปาเลสไตน์ ทั้งก่อนการปฏิวัติอิสลาม และหลังการปฏิวัติอิสลาม และเช่นเดียวกันกับจุดยืนอันชัดเจนของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม โดยเขากล่าวว่า “เรานั้น ก็ต้องขอกล่าวขอบคุณต่อการสนับสนุนที่ไม่มีความเปลี่ยนแปลงของสาธารณรัฐอิสลามที่มีต่อชาวปาเลสไตน์และพวกเรามาโดยตลอด”

นายศอลิห์ อัลอารูรี ยังได้ชี้ถึงความเป็นศัตรูของสหรัฐและรัฐเถื่อนไซออนิสต์กับสาธารณรัฐอิสลามในการคว่ำบาตรและการข่มขุ่คุกคาม โดยเขาได้ตั้งข้อสังเกตว่า “เราในฐานะของขบวนการอิสลามเพื่อการยืนหยัดต้านทานและกลุ่มเคลื่อนไหวฮามาส ขอประกาศและเน้นถึงความร่วมมือกับสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน  ไม่ว่า จะมีการดำเนินการใดๆที่ต่อต้านอิหร่าน ก็เท่ากับเป็นการต่อต้านปาเลสไตน์และการขับเคลื่อนในการยืนหยัดต้านทานด้วย และเรายังถือว่า การสนับสนุนอิหร่านนั้นเป็นแถวหน้าของพวกเรา”

เขายังได้ชี้ให้เห็นถึงขีดความสามารถในศักยภาพในการป้องกันของกลุ่มต้านทานในปาเลสไตน์ โดยกล่าวเสริมว่า “ความก้าวหน้าในการป้องกันของฮามาสและกลุ่มต่างๆในการยืนหยัดต้านทานนั้นไม่อาจที่จะเปรียบเทียบกับในหลายๆปีที่ผ่านมาได้ และในวันนี้ ในทุกพื้นที่ๆถูกยึดครองและศูนย์กลางหลักของรัฐเถื่อนไซออนิสต์นั้นอยู่ในการเพ่งเล็งของขีปนาวุธของกลุ่มมุกอวิมัต(ต้านทาน)แห่งปาเลสไตน์

รองผู้อำนวยการสำนักงานฝ่ายการเมืองฮามาส ยังได้ชี้ให้เห็นว่า แผนการของข้อตกลงแห่งศตวรรษนั้นถือว่าเป็นแผนการที่อันตรายที่สุดในการกำจัดอัตลักษณ์แห่งความเป็นปาเลสไตน์ และเขายังได้กล่าวรายงานถึงสถานการณ์ล่าสุดและสถานการณ์ในฉนวนกาซาและในพื้นที่ชายฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน 

ในช่วงท้ายของการพบปะกันครั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาสได้มอบภาพมัสญิดอัลอักซอให้กับท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามด้วย

 

700 /