นายอิมรอน ข่าน นายกรัฐมนตรีปากีสถานพร้อมคณะเข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำถือว่า ความสัมพันธ์กันระหว่างประเทศอิหร่านกับปากีสถานนั้นเป็นความสัมพันธ์ที่อยู่ในหัวใจอย่างลึกซึ้ง และท่านผู้นำเน้นว่า “ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศนั้นเป็นความสัมพันธ์ที่อยู่เหนือความคาดหมายของเหล่าศัตรู ซึ่งจะต้องมีความเข้มแข็งให้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ชี้ถึงที่มาต่างๆทางประวัติศาสตร์ระหว่างความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ โดยท่านตั้งข้อสังเกตว่า “จุดสูงสุดของเกียรติยศของเอเชียใต้ก็คือ ในยุคสมัยของการปกครองของชาวมุสลิม และสิ่งที่สร้างความเสียหายอย่างมากที่สุดของชาติมหาอำนาจ นักล่าอาณานิคมอังกฤษในภูมิภาคนี้ก็คือ การบ่อนทำลายอารยธรรมอันสูงส่งของอิสลาม”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้กล่าวเทอดเกียรติต่อบุคคลสำคัญที่ยิ่งใหญ่ของประเทศปากีสถาน ดังเช่น ท่านอิกบาล ลาโฮรี และท่านมูฮัมมัด อะลี ญินาฮ์ โดยกล่าวว่า “การมีความสัมพันธ์ที่ดีนั้นมีประโยชน์กันต่อประเทศทั้งสอง ขณะที่เหล่าศัตรูต่างมุ่งหวังอย่างจริงจังที่จะไม่ให้เกิดความสัมพันธ์อันนี้ แต่ก็จะต้องมีการร่วมมือกัน มีความสัมพันธ์กันในทุกภาคส่วนต่างๆที่อยู่เหนือความคาดหมายของพวกเขาให้มากยิ่งขึ้นและต้องมีความเข้มแข็งมากกว่าเดิมอีกด้วย”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ประเด็นความมั่นคงระหว่างเขตพรมแดนของทั้งสองประเทศ คือ สิ่งที่สำคัญยิ่ง โดยกล่าวเสริมว่า “กลุ่มก่อการร้ายต่างๆ คือ ปัจจัยที่ทำให้เขตพรมแดนต่างๆนั้นไม่มีความปลอดภัย โดยพวกเขาเหล่านั้นได้รับการช่วยเหลือทางการเงินและอาวุธยุทโธปกรณ์จากเหล่าศัตรู และหนึ่งในเป้าหมายของการเคลื่อนไหวเพื่อจะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยระหว่างเขตพรมแดนของอิหร่านกับปากีสถาน ก็คือ การสร้างความมัวหมองให้เกิดขึ้นระหว่างความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้กล่าวขอบคุณต่อการช่วยเหลือของรัฐบาลปากีสถานในเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งล่าสุดและการเริ่มต้นในการเดินทางนายอิมรอน ข่านยังประเทศอิหร่านด้วยกับการเยือนเมืองมัชฮัดและการเยี่ยมเยียนสถานที่ฝังร่างอันบริสุทธิ์ของท่านอิมามอะลี บิน มูซา อัรริฎอ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเดินทางครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ที่สร้างสรรค์ระหว่างสองประเทศอีกด้วย”
ในการเข้าพบครั้งนี้ พณฯ โรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน เข้าร่วมอยู่ด้วย โดยนายอิมรอน ข่าน นายกรัฐมนตรีปากีสถาน ถือว่า การเจรจาของตนในกรุงเตหะรานเป็นการเจรจาที่ดีอย่างยิ่ง และเขากล่าวว่า “ในการเจรจากันครั้งนี้ ส่วนมากของปัญหาต่างๆนั้นได้รับการแก้ไขและบรรดารัฐมนตรีของปากีสถานก็ได้มีการเจรจาที่ดีกันกับคู่ภาคีชาวอิหร่าน”
นายกรัฐมนตรีปากีสถาน ยังได้ชี้ถึงความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ระหว่างอิหร่านกับอินเดีย กล่าวว่า “บรรดามุสลิมได้ปกครองอินเดียในช่วง 600 ปีที่ผ่านมา และอิหร่านมีอิทธิพลต่อพวกเขา แม้แต่ภาษาทางการของระบอบการปกครองของอินเดียก็ยังเป็นภาษาเปอร์เซียอีกด้วย”
นาย อิมรอน ข่าน ถือว่า การปล้นสะดมความมั่งคั่งของอินเดียเกิดขึ้นในยุคสมัยของการเข้ามาของอังกฤษยังประเทศนี้ และกล่าวเสริมว่า “พวกอังกฤษนั้นคือ พวกที่ปล้มสะดมความมั่งคั่งของอินเดีย และมีการทำลายระบบการศึกษาของพวกเขา ทั้งยังถือว่า อินเดียนั้นเป็นอาณานิคมแห่งอัญมณีในการล่าอาณานิคมของพวกเหล่านั้น”
นายกรัฐมนตรีปากีสถาน ยังเปิดเผยอีกว่า บางประเทศกลับไม่ต้องการให้เตหะรานกับอิสลามาบัดนั้นมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดซึ่งกันและกัน แต่เราก็สามารถพิชิตเหนืออุปสรรคเหล่านี้ได้ และเขายังตั้งข้อสังเกตว่า “เราก็ต่างพยายามที่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศนั้นมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และจะมีการติดต่อกับรัฐบาลของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านกันอย่างต่อเนื่องอีกด้วย”