สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

นักกีฬาที่คว้าเหรียญรางวัลในการแข่งขันเอเชียนพาราเกมส์กรุงจากาตาร์2018พบท่านผู้นำสูงสุด

คณะนักกีฬาที่คว้าเหรียญรางวัลในการแข่งขันเอเชียนพาราเกมส์พบผู้นำ

คณะนักกีฬาที่คว้าเหรียญรางวัลในการแข่งขันเอเชียนพาราเกมส์ 2018 ณ กรุงจากาตาร์ ประเทศอินโดนีเซียได้เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำกล่าวเทอดเกียรติในการสร้างความภาคภูมิใจของบรรดานักกีฬาคนพิการและทหารผ่านศึกในการคว้าชัยชนะครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการใช้ประโยชน์จากศักยภาพที่แฝงอยู่ โดยท่านกล่าวกับพวกเขาว่า “การกระทำอันมีคุณค่าของพวกท่านทั้งหลายนั้น ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า หากเรานำศักยภาพของมนุษย์ที่ถูกหลงลืมและในประเทศชาติมาใช้ แน่นอนยิ่ง ก็จะเป็นแนวทางสู่ความก้าวหน้าและการประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังเน้นถึงคาราวานทัพนักกีฬาของคนพิการและทหารผ่านศึกทั้งหลายในการแข่งขันพาราเอเชียนเกมส์ ได้ทำให้ประชาชาติอิหร่านนั้นได้รับเกียรติยิ่ง โดยกล่าวเสริมว่า “กีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัล ถือว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างมากสำหรับในทุกประเทศ  แม้แต่ในบางประเทศเพื่อต้องการที่คว้าชัยชนะให้ได้ จึงทำให้สโลแกนของกีฬาที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองนั้นกลายเป็นประเด็นทางการเมืองในการคว้าชัยชนะ และเรานั้นยังถือว่า ในการคว้าชัยชนะของนักกีฬาที่มาจากคนพิการและทหารผ่านศึก คือ คุณค่าอันหนึ่งและการมีเจตนามุ่งมั่นที่เพิ่มมากขึ้น”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ด้วยกับการขอบคุณต่อความโปรดปรานอันยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้าในการคว้าเหรียญรางวัลจากการแข่งขันพาราเอเชียนเกมส์ โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ปัญหาหลักของมนุษย์ทั้งหลาย คือ การละเมิดและเพิกเฉยต่อพระเจ้า ในขณะที่ ผู้ชนะเลิศของคาราวานทัพกีฬาอิหร่าน หลังจากที่ได้รับเหรียญรางวัลก็ได้ทำการขอบคุณต่อพระองค์ ด้วยกับการยกมือขึ้นสู่ฟากฟ้าหรือก้มกราบกรานต่อพระองค์ ถือว่า นี่คือ ความภาคภูมิใจหนึ่ง  ซึ่งเป็นการกระทำที่มีคุณค่ายิ่งและจะทำให้เกิดความสำเร็จทั้งหลายได้มากยิ่งขึ้น”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การเชื่อมั่นตนเองของเหล่านักกีฬาคนพิการและทหารผ่านศึก โดยเฉพาะบรรดาสตรีในการปกป้องคุณค่าทางศาสนาและประเทศชาติ เป็นการกระทำที่ควรค่าต่อการยกย่องอย่างยิ่ง และท่านยังกล่าวอีกว่า “ผู้ที่ถือธงของคาราวานนักกีฬาอิหร่านโดยสตรีที่มีการคลุมฮิญาบ การเข้าร่วมในการนมาซแบบญะมาอัตและนมาซวันศุกร์นั้น หมายถึง การยืนหยัดในการเผชิญหน้ากับการโจมตีที่ไร้ซึ่งเงื่อนไขและมาตรการของผู้สวาปามโลก และการไม่ยอมอ่อนข้อให้กับการโจมตีเหล่านี้”

ท่านผูนำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า “ในสถานการณ์เช่นนี้ บางคนไม่สามารถที่จะยืนหยัดในการเผชิญหน้ากับการโจมตีที่คาดหวังในความไม่สิ้นสุดของฝ่ายผู้ปฏิเสธและชาติมหาอำนาจและต้องก้าวถอยหลังออกไป แต่พวกท่านทั้งหลายได้ยืนหยัด และด้วยการมีอำนาจทางวัฒนธรรมจากฮิญาบและความบริสุทธิ์ใจในการสวมใส่อาภรณ์แห่งชาติและศาสนา ซึ่งพวกท่านได้ทำการปกป้องมัน ฉะนั้น ด้วยเหตุผลอันนี้จึงทำให้ข้าพเจ้าจะต้องขอกล่าวขอบคุณอย่างจริงจังและลึกซึ้งจากบรรดาสมาชิกนักกีฬาของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านทุกๆคน”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า สงครามที่เกิดขึ้นในโลกวันนี้ คือ สงครามแห่งเจตนาและความมุ่งหวัง โดยท่านได้เน้นว่า “พวกท่านนั้นด้วยการขับเคลื่อนที่มีคุณค่า แสดงให้เห็นถึงการมีอำนาจ อิสระภาพทางวัฒนธรรม และการมีเจตนาที่เข็มแข็ง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า หนึ่งในบทเรียนของชัยชนะของบรรดานักกีฬาคนพิการและทหารผ่านศึก คือ การใช้ประโยชน์จากศักยภาพที่แฝงเร้นอยู่ในตัวของมนุษย์ โดยท่านได้เน้นว่า “หนึ่งในปัญหาใหญ่ของประเทศในสถานการณ์ปัจจุบัน คือ การไม่ได้ใช้ศักยภาพต่างๆที่มากมายแห่งชาติ เช่น ศักยภาพที่มีอยู่ทางภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม แห่งมนุษย์ แหล่งที่มาใต้พื้นดิน การค้า การนำเข้าและส่งออกนานาชาติ เป็นต้น”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังตั้งข้อสังเกตว่า “หากว่าไม่ได้ใช้ศักยภาพเหล่านี้อย่างถูกต้อง แน่นอนที่สุด ปัญหาต่างๆทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้ จะไม่ถูกขจัดออกไป”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าวเสริมว่า “เราจะต้องนำเอาชัยชนะของเหล่าผู้พิการและทหารผ่านศึกมาเป็นบทเรียน โดยเฉพาะบรรดาเยาวชนทั้งหลาย และจะต้องใช้ประโยชน์จากศักยภาพที่ซ่อนอยู่ จนเรานั้นสามารถที่พบกับความก้าวหน้าและความผาสุกทั้งโลกนี้และโลกหน้า”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การได้คว้าเหรียญทอง 6 เหรียญในการแข่งขันว่ายน้ำของนักกีฬาคนพิการ คือ หนึ่งในตัวอย่างที่เด่นชัดของการใช้ศักยภาพทางด้านศักยภาพ

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวขอบคุณด้วยเช่นกันต่อการประหยัดค่าใช้จ่ายในคาราวานทัพนักกีฬาคนพิการและทหารผ่านศึก โดยการคว้าชัยชนะของนักกีฬา เป็นสุดยอดของการมีแรงจูงใจให้กับสาธารณชนในการสนใจยังการเล่นกีฬา และท่านผู้นำยังกล่าวเสริมว่า “ แรงจูงใจของเหล่านักกีฬาคนพิการและทหารผ่านศึกในสังคมนั้นเป็นสองเท่าที่มากกว่าการคว้าชัยชนะของกีฬาอื่นๆ

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าวในช่วงท้ายถึงข้อเรียกร้องของบรรดานักกีฬา  รัฐมนตรีกระทรวงการกีฬาและเยาวชน โดยท่านสั่งให้รัฐบาลมีความจริงจังในการตอบรับข้อเรียกร้องเหล่านี้

ในการพบปะกันครั้งนี้ นาย มะฮ์ดี อะลีซอเดะห์ อดีตทหารผ่านศึกและเชลยศึกจากสงครามศักดิ์สิทธิ์แห่งการป้องกันประเทศ เจ้าของเหรียญทองในการแข่งขันพาราเอเชียนเกมส์ที่กรุงจากาตาร์ และนางสาว ซาเระห์  ญะวอนมัรดี อันนอซ ดอรอบิยอน และอุชรัต คุรดิสทอนี เจ้าของเหรียญรางวัลในการแข่งขันครั้งนี้ได้กล่าวบางประเด็นที่สำคัญ

 

 

 

 

700 /