สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

ประธานาธิบดีอิหร่านและคณะรัฐมนตรีเข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม

ต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและการทำงานอย่างหนักหน่วง

 

จำเป็นที่จะต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและการทำงานอย่างหนักหน่วงตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน

เมื่อช่วงเช้าของวันพุธที่ผ่านมา ประธานาธิบดีอิหร่านและคณะรัฐมนตรี เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำถือว่า ลักษณะอันพิเศษในระบอบการปกครองของอิมามอะลี คือ การดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม การมีคุณธรรม ความชอบธรรมและการเข้าร่วมกับประชาชน ซึ่งเป็นมาตรฐานของการประเมินผลและการตรวจสอบในการดำเนินงานของบรรดาเจ้าหน้าที่ และท่านผู้นำยังได้เน้นถึงประเด็นสำคัญเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจ นโยบายต่างประแทศ และความเป็นเอกภาพ อีกทั้งความสามัคคี โดยกล่าวว่า “ในแวดวงด้านเศรษฐกิจ จะต้องมีความแข็งแกร่งและมีดำเนินงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเจ้าหน้าที่ด้านเศรษฐกิจจะต้องทำงานอย่างหนักหน่วงในแก้ปัญหาของประชาชนตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน”

ในช่วงแรกของการปราศรัย ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้กล่าวแสดงความยินดีเนื่องในวันอีดเฆาะดีรคุม โดยถือว่า การเลือกสรรท่านอะลี (อ) เป็นผู้นำของประชาชาติและตัวแทนของท่านศาสดา (ศ็อลฯ) นั้นเป็นความโปรดปรานที่ยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้า และท่านผู้นำยังกล่าวอีกว่า “หน้าที่ๆสำคัญของเรา ในฐานะของการปกครองของอิสลาม ก็คือ การนำเอาจุดเด่นและลักษณะอันพิเศษในระบอบการปกครองของท่านอิมามอะลีมาใช้”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้กล่าวแสดงความยินดีเนื่องในสัปดาห์แห่งรัฐบาล ซึ่งสัปดาห์นี้ตรงกับการรำลึกถึงนามอันอมตะของท่านชะฮีด รอญาอี และชะฮีดบอฮุนัร โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “สัปดาห์แห่งรัฐบาลถือได้ว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะมีการประเมินผลของเจ้าหน้าที่รัฐบาลในการดำเนินงานของพวกเขา ฉะนั้นในสัปดาห์นี้จะขอบอกกับเจ้าหน้าที่รัฐฯ ทั้งสุภาพบุรุษและสตรีที่เข้ามาร่วมในการประชุมนี้ว่า “ขอให้พระเจ้าทรงช่วยเหลือพวกท่านให้แข็งแกร่งด้วยเถิด เพราะว่า ในการบริหารประเทศด้วยกับประชากรที่มีมากกว่า 80 ล้านคน ในปัญหาต่างๆนั้นถือว่าเป็นหน้าที่ๆหนักและลำบากอย่างยิ่ง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังเน้นถึงสัปดาห์รัฐบาล โดยถือว่าเป็นโอกาสอีกเช่นกันในการประเมินผลทั้งในเชิงบวกและด้านลบของหน่วยงานต่างๆและบรรดาเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ โดยท่านกล่าวเสริมว่า ในการประเมินผลนี้ จะต้องมีการมองถึงจุดบวกและจุดลบไปพร้อมกับ เพื่อที่จะได้เพิ่มในจุดบวกและขจัดในจุดลบให้ออกไป”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าวถึงการประเมินผลในหนึ่งปีที่ผ่านมาของรัฐบาลสมัยที่ 12 โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตุไว้ว่า “ในหนึ่งปีที่ผ่านมาได้มีการดำเนินงานที่ดีในทางด้านเศรษฐกิจ พลังงาน และการเพิ่มปริมาณในการส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่น้ำมันและการลดปริมาณในการนำเข้า ซึ่งจะต้องมีการเพิ่มอัตราในการส่งออกและการลดปริมาณในการนำเข้าอย่างต่อเนื่อง และจะต้องมีการเปิดเผยให้กับประชาชนได้รับรู้ด้วย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวต่อถึงปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ โดยท่านได้ชี้ถึงการจัดประชุมในความร่วมมือของประธานทั้งสามสภา โดยกล่าวเสริมว่า “จุดประสงค์ในการจัดประชุมนี้ คือ การให้ความสนใจต่อปัญหาหลักทางเศรษฐกิจและความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาเหล่านั้นอย่างเร็วที่สุด ด้วยเหตุนี้เอง จะต้องมีการเพิ่มจุดที่เหมือนกันโดยผ่านจากการเจรจาและการติดต่อสื่อสารในการประชุมนี้ด้วย”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้เน้นถึงการให้ความสนใจของศัตรูในการมีจุดด้อยและช่องโหว่ทางเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นถึงปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ โดยกล่าวว่า “ในด้านเศรษฐกิจจะต้องมีการเสริมสร้างความแข็งแกร่งและมีการดำเนินงานอย่างเต็มประสิทธิภาพและการเติมเต็มช่องโหว่ ซึ่งกรณีเหล่านี้ถือว่ามีความเป็นไปได้และเราก็ไม่มีทางตันในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า “ปริมาณและคุณภาพในการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ทั้งหลายด้านเศรษฐกิจจะต้องมีการทำงานอย่างหนักตลอดกลางวันและกลางคืน โดยยึดนโยบายทางด้านเศรษฐกิจต้านทานเป็นหลักในการผลิตภายในประเทศ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังเน้นว่า “นโยบายของเศรษฐกิจต้านทาน จะต้องเป็นดั่งเกราะในการปกป้องและการสร้างศักยภาพในการเผชิญหน้ากับศัตรูและเป็นการสร้างศักยภาพที่นำไปสู่การขับเคลื่อนไปข้างหน้า ด้วยเหตุนี้เอง เศรษฐกิจต้านทานโดยแกนหลักในการผลิตภายในประเทศจึงจะต้องมีทั้งด้านการป้องกันด้วย”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้เน้นถึงประเด็นการผลิตในประเทศและการแก้ปัญหาในประเด็นนี้ ถือว่าเป็นหนึ่งในปัญหาที่สำคัญที่ในที่ประชุมของแกนนำทั้งสามสภาจะต้องให้ความสนใจ โดยท่านกล่าวว่า “ปัญหาในการผลิต มีแนวทางในการแก้ไข ซึ่งบรรดานักเศรษฐกิจทั้งหลายก็ได้นำเสนอแนวทางในการแก้ไข หากว่ามีการดำเนินการ แน่นอนว่า การดำรงชีพที่ประชาชนประสบปัญหาในขณะนี้ก็จะมีการแก้ไข”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นถึงความจำเป็นในความพยายามทุกฝ่ายเพื่อไม่ให้มีการปิดโรงงานต่างๆหรือการป้องกันไม่มีการทำงานต่ำกว่าขีดความสามารถของพวกเขา โดยท่านได้ชี้ถึงประเด็นการบริหารทางเศรษฐกิจกล่าวว่า “หน้าที่ของรัฐบาล คือ การบริหารและจัดการด้านเศรษฐกิจ ซึ่งความหมายของการบริหารมิได้หมายถึงการใช้อำนาจและเป้าหมายของนโยบายทั่วไปของมาตราที่ 44 ก็คือ จะไม่มีการไม่ใช้อำนาจเป็นอันขาด”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าวเสริมถึงการอธิบายในการบริหารเศรษฐกิจในประเทศ โดยกล่าวว่า “การเปิดประตูให้กับนักเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่ซื่อสัตย์ รวมถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมและความอุตสาหะของเหล่าเยาวชนและการขจัดอุปสรรคและการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ และเช่นกัน การปิดช่องทางในการแทรกซึมในการทุจริตและมีการดำเนินการกับผู้ทุจริต เป็นสององค์ประกอบที่สำคัญในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศ”

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า หนึ่งในแนวทางในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ คือ การป้องกันในการออกกฏระเบียบอย่างต่อเนื่องและบางทีมีการขัดแย้งกัน โดยท่านได้เน้นว่า “จะต้องมีความมั่นคงและความสงบนิ่งให้กับนักเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจเพื่อที่พวกเขานั้นจะได้มีการวางแบบแผนในอนาคตของพวกเขา”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การดำเนินการกับผู้ทุจริตและการปิดการแทรกซึมทางการทุจริตนั้นต้องการในการเปิดสายตาและความเฉลียวฉลาดของเหล่าผู้บริหารหน่วยงานของรัฐบาล โดยท่านได้ชี้ถึงปัญหาในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเกี่ยวกับทองคำและสกุลเงิน โดยตั้งข้อสังเกตุว่า “แม้ว่า จะมีการอ้างเหตุผลบางประการสำหรับปัญหาเหล่านี้ แต่อย่างไรก็ตาม การไม่สนใจและการเพิกเฉยในการบริหารก็ได้เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังเน้นถึงวิธีการขั้นสูงในการกำกับดูแลการจัดสรรสกุลเงินต่างประเทศ โดยกล่าวว่า “เมื่อมีการจัดสรรและนำสกุลเงินต่างประเทศเข้าสู่ตลาด ก็จะต้องมีการดำเนินการด้วยสายตาที่เฉียบแหลมและไม่ควรจะเป็นเช่นนั้นในสภาพที่เกิดสถานการณ์ยากลำบากในประเทศ โดยมีการนำเอาเงินหลายพันล้านดอลลาร์ให้ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มหนึ่ง จะด้วยการลักลอบนำเข้าหรือด้วยการอ้างชื่อของการนำเข้าสินค้าเพื่อประโยชน์อย่างอื่น หรือจะด้วยกับการจัดสรรให้กับการเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้เน้นถึงการมีศักยภาพของรัฐบาลในการบริหารจัดการเศรษฐกิจของประเทศ โดยกล่าวว่า “ความจำเป็นในการบริหารจัดการเศรษฐกิจนี้ จะต้องมีความอุตสาหะอย่างจริงจังและการทุ่มเทในการต่อสู้ในเวทีเศรษฐกิจพร้อมกับการกำกับดูแลอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการปิดการแทรกซึมของการทุจริต โดยที่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีดำเนินการโดยผ่านตุลาการสูงสุด”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ปัญหาการขาดแคลนบางสินค้าในการบริโภคอุปโภคที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาหนึ่งนั้น เกิดขึ้นจากการสร้างและเป็นประเภทหนึ่งของการทำลาย โดยท่านกล่าวเสริมว่า “พวกท่านจะมีการตรวจสอบในการกระทำดังกล่าวด้วยกับสายตาที่เฉียบแหลมและต้องเผชิญหน้าอย่างจริงจัง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังเน้นอีกถึงประเด็นความจำเป็นในการบริหารจัดการเศรษฐกิจว่า “จะต้องมีการใช้ประโยชน์จากศักยภาพทางเศรษฐกิจที่มีอยู่มากมายและมีความโดดเด่นของประเทศ” และท่านผู้นำยังได้อ้างถึงรายงานจากศูนย์นานาชาติโดยกล่าวว่า “อิหร่านถือว่าเป็นประเทศแรกในโลกที่มีศักยภาพที่ยังไม่ได้ถูกนำใช้ประโยชน์”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าวเสริมว่า ตามรายงานจากสถิติของสถาบันวิจัยนานาชาติระบุว่า อิหร่านอยู่ในอันดับที่ 18 ของบรรดาประเทศในสองร้อยประเทศที่มีศักยภาพในการผลิตภายในประเทศ ซึ่งหากว่า มีการใช้ประโยชน์จากศักยภาพในประเทศได้มากขึ้นและดีขึ้น เราก็สามารถที่จะเข้าสู่อันดับที่สูงขึ้นของโลก”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การใช้ประโยชน์ที่ไม่ดีจากศักยภาพและทรัพยากรในประเทศ เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นในประเด็นการบริหารเศรษฐกิจ โดยท่านได้ถามว่า ในฐานะที่อิหร่านั้นเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก แล้วจึงต้องมีการนำเข้าน้ำมันเบนซินด้วย? ในขณะที่อิหร่านนั้นมีความสามารถที่จะสร้างโรงกลั่นน้ำมันและผลิต แม้แต่มีการส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมัน โดยการใช้ประโยชน์อย่างถูกต้องในความโปรดปรานอันยิ่งขึ้นของการสำรองของน้ำมัน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การบริโภคน้ำมันเบนซินมากกว่า 100 ล้านลิตรต่อวัน ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการใช้ประโยชน์ที่ไม่ดีจากศักยภาพและทรัพยากรในประเทศ โดยท่านกล่าวเสริมว่า “กระทรวงน้ำมันและเจ้าหน้าที่รัฐ จะต้องหาวิธีการในลดปริมาณของการใช้น้ำมันเบนซิน”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าววิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เต็มใจของรัฐบาลในการใช้ศักยภาพอย่างมหาศาลของภาคเอกชนโดยกล่าวว่า “การดำเนินการตามนโยบายของมาตราที่ 44 อย่างถูกต้องและครบถ้วนและการใช้ประโยชน์จากบรรดานักธุรกิจ ผู้ผลิต นักอุตสาหกรรม ผู้ประกอบชิ้นส่วนอะไหล่และภาคส่วนอื่นๆ ของภาคเอกชน ซึ่งจะมีผลต่อการบริหารจัดการทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างแน่นอน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การสร้างแรงจูงใจในการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในโครงการที่ยังไม่เสร็จ ก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งในการใช้ประโยชน์จากศักยภาพของนักเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจและจัดการให้มีสภาพคล่องตัวทางการเงิน”

“ความจำเป็นในการจัดการและบริหารในสภาพคล่องทางการเงิน” เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ย้ำในการประชุมกับเจ้าหน้าที่รัฐฯ

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นถึงความเป็นไปได้ในการจัดการสภาพคล่องทางการเงิน โดยกล่าวเสริมว่า “การขาดสภาพคล่องทางการเงินที่มีการหมุนเวียนไปทิศทางใดก็ได้ (ทองคำ , สกุลเงิน,บ้านที่อยู่อาศัยหรืออื่นๆ) ถือว่า เป็นการบ่อนทำลาย ที่กลุ่มต่างๆนั้นจะต้องมีความรับผิดชอบในการควบคุมและจัดการกับมันอย่างเต็มที่”

“การควบคุมและการบริหารจัดการธนาคารกลางที่มีต่อธนาคารอื่นอย่างมีประสิทธิภาพ” ก็เป็นอีกข้อเสนอแนะของท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศ

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้กล่าววิพากษ์วิจารณ์ถึงการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องของธนาคารในกิจกรรมทางธุรกิจและมาตรการอื่นๆ ที่มีค่าใช้จ่าย เช่น การเพิ่มจำนวนสาขาธนาคาร โดยกล่าวว่า “ธนาคารกลางจะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดและถูกต้องเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น เช่น ในธนาคารบางแห่งและสถาบันการเงินต้องเผชิญกับปัญหาในการฝากเงิน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า “จะต้องมีการป้องกันปัญหาในช่วงแรก แต่ก็สามารถที่จะใช้วิธีการที่มีประสิทธิภาพในการจัดการกับสถาบันการเงินที่สร้างปัญหาให้กับประชาชน”

ในส่วนที่สองของคำปราศรัยของท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ในการประชุมกับประธานาธิบดีและสมาชิกคณะรัฐมนตรีได้กล่าวถึงความสำคัญทางนโยบายต่างประเทศ โดยท่านผู้นำได้เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ที่ดีและความต่อเนื่องกับประเทศเพื่อนบ้าน

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงประเทศต่างๆในยุโรปโดยกล่าวเช่นกันว่า ความสัมพันธ์และความต่อเนื่องในการเจรจากับพวกยุโรปนั้นไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่จะต้องไม่ให้ความหวังกับพวกเขาทั้งประเด็นข้อตกลงนิวเคลียร์และเศรษฐกิจของประเทศ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้กล่าววิพากษ์วิจารณ์ต่อพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของยุโรปในประเด็นต่างๆเช่น ข้อตกลงนิวเคลียร์ และการคว่ำบาตรของสหรัฐฯต่ออิหร่าน โดยกล่าวย้ำว่า “จะต้องมีการมองอย่างสงสัยในสัญญาของพวกเขาที่จะต้องมีการระมัดระวังในประเด็นเหล่านี้อย่างจริงจัง”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์นั้นเป็นสื่อกลางหนึ่งในการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ โดยกล่าวเสริมว่า “ข้อตกลงนิวเคลียร์ไม่ใช้เป้าหมาย แต่ทว่าเป็นสื่อกลางหนึ่ง หากว่าเราได้ใช้สื่อนี้ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติไม่ได้ เราก็จะต้องละทิ้งมันเสีย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวว่า พวกชาวยุโรปจะต้องเข้าใจจากการอธิบายและการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐบาลอิหร่านว่า การดำเนินการของพวกเขาจะมีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างเหมาะสมของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นถึงการปฏิเสธในการเจราจากับสหรัฐฯ โดยกล่าวเสริมว่า “ ผลลัพท์ของการเจรจาที่ผ่านมากับเจ้าหน้าที่อเมริกาที่อย่างน้อยที่สุด ก็เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้ว และในขณะนี้กับเจ้าหน้าที่ ที่ชั่วร้ายและไร้มารยาทที่ได้เปิดเผยความเป็นปฏิปักษ์กับชาวอิหร่าน แล้วจะมีการเจรจากันได้อย่างไรเล่า! ดังนั้นจะไม่มีการเจรจาใดๆทั้งสิ้นที่จะเกิดขึ้นกับพวกสหรัฐในทุกระดับชั้น”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าวในช่วงท้ายโดยถือว่า เอกภาพและความสามัคคีของเจ้าหน้าที่ในประเทศ เป็นสิ่งที่จำเป็นมากกว่าในเวลาอื่นๆ โดยกล่าวเสริมว่า “บรรดาแกนนำสภาทั้งหลายและเจ้าหน้าที่ในภาคส่วนต่างๆจะต้องมีการสนับสนุนและการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการทำงานร่วมกันโดยเฉพาะการช่วยเหลือรัฐบาล เพราะว่า รัฐบาลนั้นเป็นแกนกลางของเวที”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ความแตกต่างทางความคิดเห็นระหว่างบรรดาเจ้าหน้าที่นั้นเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่อย่างไรก็ตาม ท่านยังกล่าวเสริมว่า “ความแตกต่างทางความคิดเห็นหล่านี้ไม่ควรที่จะมีการเผยแพร่ทางสื่อเพราะว่าจะทำให้ประชาชนเกิดความกังวลและกระวนกระวายใจได้”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงการประชุมรัฐสภาเมื่อวันก่อนและการถามตอบของสมาชิกรัฐสภาต่อพณฯ ท่านประธานาธิบดี โดยท่านผู้นำได้เน้นว่า การประชุมเมื่อวานนี้ถือว่าเป็นการแสดงถึงการมีอำนาจและความมั่นคงของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน และขอพระผู้เป็นเจ้าทรงประทานความดีงามให้กับท่านประธานาธิบดีและสภานิติบัญญัติที่ได้แสดงถึงการมีอำนาจออกมา”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า สมาชิกรัฐสภาได้ถามคำถามต่อประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกตั้งด้วยกับคะแนนเสียงมากกว่า 23 ล้านเสียง และท่านประธานาธิบดีก็ได้ตอบคำถามด้วยความใจเย็นและเงียบสงบ ซึ่งนี่คือ ความหมายที่แท้จริงของคำว่า ประชาธิปไตยทางศาสนา”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงการมีช่องว่างระหว่างความคาดหวังของฝ่ายนิติบัญญัติกับความเป็นจริงที่มีอยู่ ซึ่งจะต้องมีการเติมให้เต็ม โดยกล่าวย้ำว่า “สิ่งที่สำคัญที่ได้เกิดขึ้น คือ การแสดงถึงความงดงามในการมีอำนาจของสาธารณรัฐอิสลามและความเชื่อมั่นต่อเจ้าหน้าที่”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้เน้นถึงการเข้าถึงยังเป้าหมายอื่นของศัตรูในการประชุมเมื่อวานนี้ โดยกล่าเสริมว่า “การประชุมเมื่อวานนี้ เป็นการประชุมที่ดีอย่างมากทั้งเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับท่านประธานาธิบดีและประธานรัฐสภาที่จะเปิดการปูทางให้เกิดความร่วมมือและความใกล้ชิดกันทางความคิดอีกด้วย”

ในช่วงท้าย ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้เน้นว่า “จะต้องมีการจัดตั้งกลุ่มหนึ่งที่มีความพร้อมอย่างมุมานะในความรับผิดชอบต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างที่ละปัญหา”

ก่อนการปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม พณฯท่านประธานาธิบดีอิหร่านได้กล่าวรายงานเกี่ยวกับการดำเนินงานและแบบแผนของรัฐบาล

ท่านโรฮานี ยังได้กล่าวถึงความพยายามทั้งหมดของรัฐบาลที่จะทำให้ประเด็นไปสู่จุดที่น่าพอใจ โดยกล่าวว่า “ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา เราประสบความสำเร็จที่ดีอย่างมาก เช่น การลดอัตราเงินเฟ้อ การเติบโตทางเศรษฐกิจและการเพิ่มรายได้ขั้นต้น”

ท่านประธานาธิบดี ยังได้ชี้ถึงการให้บริการของรัฐบาลที่มีต่อชาวบ้าน โดยตั้งข้อสังเกตว่า “ในทุกหมู่บ้านที่มีกว่า 10 ครอบครัวได้มีไฟฟ้าใช้และหมู่บ้านส่วนมากก็ได้มีการติดตั้งแก๊สและเครือข่ายในการสื่อสารของประเทศ”

ท่านโรฮานี ยังได้ชี้ถึงการดำเนินการของสภาแห่งการบริหารในภาคเกษตรกรรม รวมถึงการพึ่งพาตนเองในการผลิตข้าวสาลีและน้ำตาล โดยกล่าวเสริมว่า “รายได้ของเกษตรกรทั้งในแง่ของปริมาณในการผลิตและราคาถือว่าดีขึ้นกว่าเดิม และเราก็ยังได้เห็นการเพิ่มขึ้นของการผลิตสินค้าทางเกษตรมากยิ่งขึ้น”

ท่านโรฮานี ถือว่า การเพิ่มขึ้นร้อยละ 90 ในการผลิตก๊าซจากเขต South Pars และการเพิ่มการผลิตน้ำมันจากเขตการค้าร่วม เป็นผลผลิตของรัฐบาลในภาคพลังงาน โดยกล่าวว่า “ประเทศนั้นมีความสามารถในการผลิตเชื้อเพลิงก๊าซและดีเซลได้อย่างพอเพียง และในสิ้นปีนี้ เราก็ยังสามารถที่จะมีการผลิตน้ำมันอย่างพอเพียง”

ท่านโรฮานี ถือว่า การปรับปรุงเรือขนส่ง การเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าในการส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่น้ำมันและการพึ่งพาการส่งออกที่ไม่ใช่น้ำมัน เป็นอีกการให้บริการหนึ่งของรัฐบาล โดยกล่าวเสริมว่า “ถึงแม้ว่า เราจะประสบปัญหาบางอย่างในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ที่เกี่ยวกับสกุลเงินต่างประเทศ เช่นเดียวกันเหมือนในอดีตที่ผ่านที่เรานั้นได้ก้าวผ่านปัญหาที่ยุ่งยากกว่านี้มาแล้ว และด้วยกับการวางแผนที่ดีก็จะทำให้เราผ่านปัญหาเหล่านี้ไปได้เช่นกัน”

ท่านประธานาธิบดี ยังได้ชี้ถึงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯว่า “สถานการณ์ในวันนี้เราไม่มีทางแก้ปัญหาทางการเมือง เนื่องจากรัฐบาลที่กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านยังไม่ยึดถือกฎหมายระหว่างประเทศทั้งหมดเลย"

ท่านโรฮานี ยังอธิบายถึงเป้าหมายของพวกสหรัฐฯที่มีมากกว่าความกดดันทางเศรษฐกิจ และพวกเขานั้นมีความต้องการที่จะกลับมายังอิหร่านอีกครั้ง และมีการครอบงำทั่วประเทศ โดยกล่าวว่า “พวกเขาต้องการที่จะเหยียบย่ำอิสรภาพของอิหร่านอีกครั้ง และเป็นเจ้านายให้กับประชาชนชาวอิหร่าน แต่ประชาชาติของเราจะไม่ยอมรับเรื่องนี้เป็นอันขาด และจะแสดงให้โลกได้เห็นถึงการยืนหยัดของพวกเรา”

ท่านประธานาธิบดีอิหร่าน ยังเน้นอีกว่า “ประชาชาติอิหร่านทั้งหมดทุกคนภายใต้การชี้นำของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม จะไม่ยอมที่จะให้แผนการร้ายของเหล่าศัตรูนั้นประสบผลสำเร็จเป็นอันขาด”

 

 

700 /