สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

บรรดาคณาจารย์มหาวิทยาลัยทั่วประเทศเข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม

วิธีการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องคือการลงประชามติของชาวปาเลสไตน์

“วิธีการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องของอิหร่านในปัญหาปาเลสไตน์ คือ การลงประชามติของชาวปาเลสไตน์อย่างแท้จริง”

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา บรรดาคณาจารย์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยต่างๆและศูนย์วิจัยทั้งหลายหลายร้อยคนเข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม โดยท่านผู้นำถือว่า มหาวิทยาลัย คือ หนึ่งในศูนย์กลางที่สำคัญอย่างมากในการอบรมสั่งสอนกองกำลังทางสติปัญญาของประเทศ และท่านได้ยังอธิบายถึงความจำเป็นหลักทั้งสามประการของมหาวิทยาลัย หมายถึง การมีส่วนร่วมในแก้ไขปัญหาและความท้าทายของประเทศ การอบรมสั่งสอนทางด้านวัฒนธรรม จริยธรรมและอัตลักษณ์ของนักศึกษา และ การเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและการปรับปรุงในด้านสภาพแวดล้อมของมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยท่านเน้นว่า “จะต้องมีการแก้ไขปัญหาของประเทศอย่างรอบคอบ การใช้ประโยชน์จากขีดความสามารถและศักยภาพของมหาวิทยาลัยและจากบรรดาอาจารย์และบรรดามือทั้งหลายที่มีความสามารถของเยาวชนคนหนุ่มสาวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกับความพยายามและแรงจูงใจในเส้นทางนี้ ซึ่งถือว่า เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก”

ในช่วงเริ่มต้นของการปราศรัยของท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำได้ประเมินผลในประเด็นต่างๆที่บรรดาอาจารย์ได้นำเสนอในการเข้าพบกันครั้งนี้ ซึ่งถือว่า เป็นเรื่องที่ดีอย่างมาก โดยเฉพาะในปัญหาต่างๆของประเทศ และท่านผู้นำยังกล่าวว่า “ในคำพูดของบรรดาอาจารย์ ได้พูดถึงหัวข้อที่สำคัญ ๆ เช่น เศรษฐกิจ ผลกระทบทางสังคม ข้อตกลงนิวเคลียร์ ปัญหาน้ำ อากาศและอวกาศ นวัตกรรม การทูต ภาพยนตร์ ศิลปะ การแต่งงานและครอบครัว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางสติปัญญาและแรงจูงใจของสังคมมหาวิทยาลัย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า มหาวิทยาลัยนั้นเป็นศูนย์กลางที่สำคัญในการอบรมสั่งสอนกองกำลังทางสติปัญญาของประเทศ โดยกล่าวเสริมว่า “มหาวิทยาลัยที่ดีนั้น มีความสำคัญต่อการบริหารประเทศและในกระบวนการสร้างและการอบรมสั่งสอนกองกำลังทางสติปัญญา ก็ถือว่า บรรดาอาจารย์ผู้ที่มีเกียรตินั้นมีบทบาทที่สำคัญอย่างมาก”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้กล่าวถึงสามข้อกำหนดพื้นฐานในการบรรลุเป้าหมายที่สำคัญนี้และบทบาทที่มีประสิทธิภาพของมหาวิทยาลัยในความก้าวหน้าของประเทศ

“ความจำเป็นในการมีส่วนร่วมของมหาวิทยาลัยกับการแก้ไขปัญหาของประเทศ” คือ ข้อกำหนดประการแรก โดยท่านผู้นำได้เน้นว่า “ปัญหาของวันนี้และวันพรุ่งนี้จะต้องได้รับการแก้ไขอย่างรอบคอบ เพราะว่าความไม่รอบคอบและไม่ถูกต้องในการบริหารนั้นจะทำให้เกิดความซับซ้อนและยุ่งยากในปัญหาเพิ่มมากขึ้นไปอีก”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ชี้ถึงปัญหาบางอย่างของประเทศ ที่จะต้องมีการเข้าร่วมของมหาวิทยาลัยอย่างจริงจังและรอบคอบที่สุด โดยกล่าวว่า “ยกตัวอย่างเช่น ในประเด็นที่สำคัญของเศรษฐกิจซึ่งบางคนได้เชื่อว่าปัญหาดังกล่าวนั้นเกิดจากวิธีการบริหารที่อ่อนแอหรือผิดพลาด ดังนั้นมหาวิทยาลัยจะต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขอย่างถูกต้อง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวเสริมในประเด็นนี้ว่า “ข้าพเจ้าได้บอกกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐมาหลายครั้งแล้วถึงการใช้ประโยชน์จากวิสัยทัศน์ต่างๆของอาจารย์ทางด้านเศรษฐศาสตร์ เพราะว่าทัศนะต่างๆที่สำคัญนั้นจะเป็นวิธีการในการแก้ไขปัญหาทั้งหลาย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังถือว่า อุตสาหกรรม เป็นอีกพื้นฐานหนึ่งในความก้าวหน้าและความรุ่งเรืองของมหาวิทยาลัยทั้งหลาย โดยเน้นถึงการอนุมัติในหลักสูตรระยะหนึ่งปีสำหรับบรรดาอาจารย์ทางด้านอุตสาหกรรม โดยกล่าวว่า “มหาวิทยาลัย จะต้องรู้จักอย่างใกล้ชิดต่อปัญหาทางอุตสาหกรรมและสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้ โดยที่ไม่ต้องการในการแก้ไขปัญหาทางอุตสาหกรรมน้ำมันหรืออุตสาหกรรมการไฟฟ้าด้วยกับการพึ่งพายังพวกต่างชาติ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงบางคำพูดที่กล่าวถึงความรู้สึกจำเป็นในการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงจากบริษัทของต่างชาติเพื่อที่จะเพิ่มในการกลั่นน้ำมัน โดยกล่าวว่า “ผลลัพท์ของการทำสนธิสัญญากับบริษัทของต่างชาติก็คือ พวกเขานั้นสามารถที่จะบังคับให้ประเทศต้องกระทำการบางอย่างตามที่พวกเขานั้นต้องการได้”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่าประสบการณ์ในการเสริมสร้างสมรรถนะแร่ยูเรเนียมได้ถึง 20 เปอร์เซ็น คือตัวอย่างที่ชัดเจนในขีดความสามารถและศักยภาพของเยาวชนทั้งหลายของประเทศ โดยกล่าวว่า “ในช่วงเวลาที่มีการขายยูเรเนียมที่เสริมสมรรถนะได้ 20 เปอร์เซ็น โดยมีการตั้งข้อแม้และเงื่อนไขต่างๆ ในขณะที่เจ้าหน้าที่บางคนมักจะให้ความสนใจในเรื่องนี้เป็นพิเศษ ซึ่งด้วยกับความพยายามของเยาวชนทั้งหลายและการยืนหยัดของพวกเขา จนเรานั้นสามารถเสริมสมรรถนะยูเรเนียมได้ถึง 20 เปอร์เซ็นด้วยกัน ขณะที่โลกนี้นั้นยังไม่เชื่อว่าเราสามารถจะกระทำได้ และเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องการแร่ยูเรเนียมจากสหรัฐอเมริกา รัสเซียและฝรั่งเศสอีกต่อไป”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวเสริมว่า “ความสามารถที่กระทำการงานนี้ได้ถือว่าเป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์อย่างมาก เพราะว่าเรานั้นไม่สามารถที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของบ่อน้ำมันได้?

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ผลกระทบต่างๆทางสังคม เป็นอีกพื้นฐานหนึ่งในการมีส่วนร่วมของมหาวิทยาลัยกับประเด็นปัญหาของประเทศและท่านยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ประมาณสามปีที่แล้วที่หน่วยงานต่างๆทั้งสามสภาได้มีการดำเนินการในประเด็นนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ดีที่จะส่งผลในระยะยาว แต่มหาวิทยาลัยก็ยังสามารถที่จะเสนอคำแนะนำและวิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบทางสังคมอย่างเร่งด่วนได้”

การช่วยเหลือในการปฏิรูปวงจรในการผลิตและการบริโภค ก็เป็นอีกข้อแนะนำของท่านอยาตุลลอฮ์คาเมเนอีที่มีไปยังบรรดาอาจารย์และนักวิจัยของมหาวิทยาลัยต่างๆ

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การตรวจสอบอย่างรอบคอบต่ออุปสรรคในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพในประเทศ" และ การวางรากฐานทางจิตวิทยาและสังคมวิทยาในแนวโน้มของบางกลุ่มชนที่มีสินค้าจากต่างประเทศ คือ อีกประเด็นหนึ่งที่สังคมในมหาวิทยาลัยจะต้องค้นหาวิธีการในการแก้ไขอย่างถูกต้องและรอบคอบที่สุด”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าวสรุปในประเด็นแรกของการปราศรัยของท่านในการเข้าพบกับบรรดาอาจารย์ โดยท่านได้มุ่งเน้นถึงจุดสำคัญก็คือ การมีส่วนร่วมของสังคมมหาวิทยาลัยในการแก้ไขปัญหาและความท้าทายของประเทศ และท่านยังกล่าวอีกว่า "อย่างที่ข้าพเจ้าได้กล่าวหลายครั้งมาแล้ว ความร่วมมือจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ เป็นความต้องการของบรรดาผู้บริหารและเจ้าหน้าที่รัฐฯในขณะที่ผู้บริหารนั้นจะต้องเข้าหาบรรดานักวิชาการยังบ้านของพวกเขา ไม่ใช่ว่าเหล่านักวิชาการนั้นรอคอยผู้บริหารอยู่ที่หลังห้องทำงานของเขาโดยถือว่าเป็นการเสียเวลาอย่างเปล่าประโยชน์”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่จะเข้าร่วมในครั้งนี้ให้มีการดำเนินการและติดตามประเด็นที่เกี่ยวกับหน่วยงานต่างๆกับมหาวิทยาลัยอย่างจริงจัง

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าวถึงประเด็นที่สองในการพบกับบรรดาอาจารย์และนักวิจัยทั้งหลาย โดยกล่าวว่า สติปัญญาในมุมมองของอิสลาม ไม่ได้เป็นหน่วยของการคิดคำนวณทางวัตถุเท่านั้น แต่ทว่าเป็นปัจจัยอันสูงส่งและยังทำให้มนุษย์นั้นมีการเจริญก้าวหน้า ความเชื่อในการดำเนินชีวิตตามวิถีของอิสลามและการสร้างความสัมพันธ์ต่างๆในการดำเนินชีวิต เพื่อที่จะให้ศักยภาพที่ยิ่งใหญ่นี้เกิดขึ้นจำต้องจะทำให้กองกำลังทางสติปัญญานั้นมีการอบรมสั่งสอนทางด้านวัฒนธรรม จิตวิญญาณและทางจริยธรรม

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังเน้นถึงสังคมของมหาวิทยาลัยว่า “เยาวชนที่ใสสะอาดในความเป็นนักศึกษาที่มีศรัทธา กล้าหาญ มุ่งเน้นในการปฏิบัติงาน มีความเชื่อมั่นตนเอง ยอมรับในความถูกต้อง แสวงหาความชอบธรรม เป็นนักต่อสู้กับการกดขี่และการละเมิด ผู้อ่อนโยน โอบอ้อมอารีย์”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ยกตัวอย่างในความจำเป็นในการอบรมทางจิตวิญญาณและจริยธรรม โดยท่านได้ชี้ถึงความละเมิดทางโลกไซเบอร์ รวมทั้งการใส่ร้ายป้ายสี การทำให้ผู้ศรัทธานั้นไม่มีศักดิ์ศรี และการเน้นถึงจุดอ่อนที่เล็กน้อย โดยท่านกล่าวเสริมว่า “การอบรมทางจิตวิญญาณนั้นสามารถที่จะขจัดปัญหาเหล่านี้ออกไปได้”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าวเสริมว่า “พวกท่านจะต้องทำให้เยาวชนในวันนี้ได้รู้จักถึงอัตลักษณ์ของพวกเขา ถ้าหากว่าสังคมไม่มีอัตลักษณ์แล้วไซร้ แน่นอนที่สุดในการเผชิญกับเสียงประณามที่ดังอย่างมากก็จะรู้สึกถึงพ่ายแพ้ แต่ทว่าการมีอัตลักษณ์ทางศาสนา แห่งชาติและทางมนุษยธรรม จะทำให้สังคมนั้นรู้สึกถึงเกียรติยศและการยืนหยัด”

ประเด็นสุดท้ายในการปราศรัยของท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี เกี่ยวกับการอธิบายถึงรูปธรรมของความจำเป็นการปฏิรูปและการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของมหาวทิยาลัย

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การเปลี่ยนแปลงทางความรู้ในวิธีการบริโภคมาเป็นความรู้ทางการผลิตนั้น คือตัวอย่างเหล่านี้ และท่านผู้นำยังกล่าวอีกว่า “เราได้กล่าวมาหลายครั้งแล้วว่าในการเผชิญกับความรู้ของผู้อื่นเรานั้นมีความเป็นศิษย์ แต่การเป็นศิษย์กับการปฏิบัติตามและการบริโภคอย่างสม่ำเสมอนั้นมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าววิพากษ์วิจารณ์ถึงบุคคลที่เชื่อว่า ไม่จำเป็นที่เราจะต้องติดตามในการอธิบายและการพิจารณาเกี่ยวกับมนุษยศาสตร์ของอิสลาม เพราะว่า มนุษยศาสตร์นั้นมีมุมมองที่กว้างขวาง โดยกล่าวเสริมว่า “มุมมองที่ขัดแย้งกันทั้งหมดเหล่านี้ในด้านเศรษฐศาสตร์ การบริหารจัดการ ปรัชญาและมนุษยศาสตร์อื่นๆ บ่งชี้หรือไม่ว่าบางส่วนของความเห็นเหล่านี้นั้นไม่ถูกต้อง? นอกจากนี้ แม้แต่ในวิทยาศาสตร์เองก็ได้พิสูจน์ว่า บางทัศนะนั้นมีความผิดพลาด ดังนั้น ทำไมบางคนจึงไม่ยอมรับในมนุษยศาสตร์แห่งอิสลามหรือ

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การเปลี่ยนถ่ายข้อมูลที่ถูกต้องและความสมบูรณ์ของศาสตร์ต่างๆและการไม่ตรงกับสถานการณ์ปัจจุบันของศาสตร์เหล่านี้ในประเทศ คือ สัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความจำเป็นในการขับเคลื่อนไปยังทิศทางในการผลิตศาสตร์และองค์ความรู้ โดยกล่าวเสริมว่า “อย่าได้ทำให้เกิดความผิดพลาดซ้ำซากเหมือนดั่งในระบอบการปกครองที่ผ่านมา”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าวถึงความก้าวหน้าที่ดีในเรื่องนาโนเทคโนโลยี เซลล์พื้นฐาน เทคโนโลยีทางนิวเคลียร์ เทคโนโลยีทางชีวภาพ การแพทย์และศาสตร์อื่นๆ โดยกล่าวว่า “บางคนก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธความก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัดนี้ได้ แม้แต่ในศูนย์ต่างๆของโลกก็ต้องออกมายอมรับ ขณะที่พวกเขาได้ถือว่านี่เป็นเพียงฟองน้ำเท่านั้น เพื่อที่จะทำให้ประชาชนและสังคมทางมหาวิทยาลัยต้องหมดหวัง แต่ทว่าคำพูดเหล่านี้ของพวกเขานั้นมีความผิดพลาดทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวต่อถึงตัวอย่างที่ชัดเจนของความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงของมหาวิทยาลัย โดยกล่าวเสริมว่า “การมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการวิจัย เป็นสิ่งที่สำคัญ และการวิจัยก็จะมีสองประการในเป้าหมายหลัก ก็คือ การตอบสนองความต้องการและการแก้ไขปัญหาของประเทศ การเข้าถึงจุดสูงสุดและแหล่งที่มาทางวิชาการ อีกทั้งการเข้าร่วมกับแกนหลักของโลกทางวิชาการ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังตั้งข้อสังเกตว่า หัวข้อของบทความนั้นมีทั้งผู้ที่ยอมรับและผู้ที่คัดค้าน แต่ทว่าในบทความจะต้องมีแหล่งอ้างอิงที่เป็นการรักษาเกียรติให้กับประเทศ แต่จะไม่ต้องตั้งกฏเกณฑ์ที่ยุ่งยากในการปรับคุณภาพทางวิชาการของบรรดาอาจารย์”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่าการปรับระดับทางการศึกษาขั้นสูง คือ อีกความเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นของมหาวิทยาลัย โดยกล่าวเสริมว่า “เอกสารฉบับนี้ได้รับการอนุมัติโดยสภาสูงสุดของการปฏิวัติทางวัฒนธรรมในปี1395 (ปฏิทินอิหร่าน) แต่ยังไม่มีการดำเนินการที่ก้าวหน้าแต่อย่างใด”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าวอีกว่า “การปรับระดับทางการศึกษาขั้นสูง ถือว่าเป็นส่วนแบ่งของการทำงานระดับชาติระหว่างมหาวิทยาลัยในภาคส่วนสาขาต่างๆทางวิชาการ โดยต้องมีการเพิ่มปริมาณ การวางแบบแผนเพื่อความก้าวหน้าทางวิชาการและการประเมินผลจากสถานการณ์ทางความรู้ของประเทศได้ง่ายยิ่งขึ้น”

การเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบในแผนการที่ครอบคลุมทางความรู้ของประเทศ เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ท่านผู้นำสูงสุดแห่งการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า เป็นสิ่งที่จำเป็นในการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของมหาวิทยาลัย

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ประเมินผลในแบบแผนการที่ครอบคลุมทางความรู้ของประเทศ โดยถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่กล่าวว่า “แกนร่างของมหาวิทยาลัยจะต้องมีการดำเนินการตามแบบแผนนี้ ซึ่งยังไม่มีข้อมูลที่เพียงพอ ดังนั้น จึงจะต้องมีการจัดประชุมเพื่อทำการอธิบายและการดำเนินการตามแบบแผนที่ครอบคลุมทางความรู้ในมหาวิทยาลัย”

อัตราความเสี่ยงของสาขาวิชาการต่างๆที่ไม่สมดุลและความโน้มเอียงที่เพิ่มขึ้นของสาขาต่างๆที่สร้างรายได้ ซึ่งถือว่าเป็นการลดแนวโน้มไปสู่สาขาวิชาการที่สำคัญมาก อย่างเช่น คณิตศาสตร์ และฟิสิกส์ และท่านผู้นำยังได้เน้นถึงการแก้ไขปัญหานี้ ก็เป็นอีกหนึ่งในความต้องการของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามที่มีต่อสังคมของมหาวิทยาลัย

ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวสรุปต่อบรรดาอาจารย์และสมาชิกคณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยเน้นว่า “ พวกท่านจงให้ความหวังและแจ้งข่าวดีเกี่ยวกับปัจจุบันและอนาคตของประเทศกับบรรดานักศึกษาของพวกท่าน ให้พวกเขานั้นมีความเชื่อในศักยภาพและขีดความสามารถของประเทศและรู้จักถึงจุดยืนของประเทศ เพื่อให้พวกเขามีความมั่นใจ เช่นเดียวกับที่ความก้าวหน้าของประเทศในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมานั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง และอนาคตของประเทศก็จะมีความรุ่งเรืองมากกว่า เมื่อได้เปรียบเทียบกับในปัจจุบัน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงฐานภาพอันสูงส่งของสาธารณรัฐอิสลามท่ามกลางมวลชนของประเทศส่วนใหญ่ โดยกล่าวเสริมว่า "สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านในระหว่างประเทศมหาอำนาจต่างๆที่ไม่มีคุณค่านั้นถือว่า มีศัตรูที่มากที่สุด เช่นเดียวกับกลุ่มชนของประชาชนในภูมิภาคและส่วนใหญ่ของประเทศนั้นมีเกียรติมากที่สุด ทั้งในการสนับสนุนและมีอิทธิพล ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ได้ศัตรูที่ชั่วร้ายอยู่เสมอต้องคิดที่จะวางแผนการสมรู้ร่วมคิด แต่ด้วยกับความกรุณาธิคุณของพระผู้เป็นเจ้า แผนการร้ายเหล่านั้นของศัตรูเมื่อต้องเผชิญกับการยืนหยัดของประชาชาติอิหร่านและสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านจะต้องพบกับความล้มเหลว”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ชี้ถึงความผิวเผินในการแสดงการถูกกดขี่ของชิมร์แห่งยุคสมัย หมายถึงนายกรัฐมนตรีที่เป็นอาชญากรผู้สังหารเด็กของระบอบการปกครองรัฐเถื่อนไซออนิสต์ ในการเดินทางเยือนประเทศยุโรป โดยกล่าวว่า “อาชญากรคนนี้เป็นแกนหลักของเหล่าผู้กดขี่ทั้งหลายในประวัติศาสตร์ ได้พูดจาโกหกกับพวกยุโรปว่า อิหร่านนั้นต้องการที่จะทำลายพวกเราและชาวยิวหลายล้านคน ในขณะที่วิธีการแก้ไขปัญหาของเราต่อปัญหาปาเลสไตน์นั้นต้องเป็นไปอย่างสมเหตุสมผลและมีตรรกะที่ตรงตามมาตรฐานของระบอบประชาธิปไตย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้กล่าววิพากษ์วิจารณ์ถึงความนิ่งเฉยของพวกยุโรปต่ออาชญากรรมของระบอบรัฐเถื่อนไซออนิสต์ในฉนวนกาซาและกุดส์ (เยรูซาเล็ม) โดยกล่าวเสริมว่า “เราได้กล่าวไว้เสมอว่าในการกำหนดระบอบการปกครองในประเทศแห่งประวัติศาสตร์ของปาเลสไตน์ จะต้องใช้วิธีการที่ประชาคมโลกยอมรับโดยมีการนำเสนอต่อสาธารณชนและจะมีการลงประชามติจากชาวปาเลสไตน์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นชาวมุสลิม หรือชาวยิว แม้แต่ชาวคริสเตียนก็ตาม ที่พวกเขาเหล่านั้นได้เคยอาศัยแผ่นดินนี้มากว่า80 ปีด้วยกัน ไม่ว่าจากในประเทศ หรือนอกประเทศก็จะต้องมีลงประชามติด้วยกันทุกคน”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า “แบบแผนนี้ของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านได้มีการรับรองอย่างเป็นทางการในสหประชาชาติ และจะถือว่าตรงตามมาตรฐานที่โลกยอมรับหรือไม่? แล้วทำไมพวกยุโรปจึงไม่เต็มใจที่จะเข้าใจในเรื่องนี้ด้วย?

ในช่วงเริ่มต้นของการพบปะกัน บรรดาอาจารย์และสมาชิกคณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัยต่างๆจำนวน 13 คน ได้ใช้เวลาประมาณ2 ชั่วโมงในการแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในปัญหาต่างๆ ซึ่งมีดังต่อไปนี้

ดร.ชาฮีน อาคูนซาเดห์ – ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ กรุงเตหะราน

ดร. ชะฮาบ เอสฟันดิยารี - ผู้ช่วยศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยศิลปะศาสตร์

ดร. มูฮัมหมัด ญัมชีดี – ผู้ช่วยศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยเตหะราน

ดร. มูฮัมหมัด ริซา ญะวาดี เยกกอเนห์ – อาจารย์ของมหาวิทยาลัยเตหะราน

ดร. ฟารซาด ญะฮานีน - ผู้ช่วยศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยชาฮิด

ดร. เดห์กอนี ฟีรูซอาบาดี – อาจารย์ผู้ฝึกสอนของมหาวิทยาลัยอุตสาหกรรมชะรีฟ

ดร. มูฮัมหมัด มะฮ์ดี เตห์รอนีชี – ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยชะฮีด เบเฮชตี

ดร. พัยมาน ศอลิฮี – ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยชะฮีด เบเฮชตี

ฮุจญตุลอิสลาม ดร. ซัยยิด อับบาส มูซาวียอน - ศาสตราจารย์ศูนย์วิจัยวัฒนธรรมและแนวคิดแห่งอิสลาม

ดร. คัมรอน ดาวะรี - ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยฟีรโดซี เมืองมัชฮัด

ดร. ชาฮีน มูฮัมหมัด ซอดีกี – อาจารย์ของมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ชะฮีด เบเฮชตี

ดร. ญะอ์ฟัร อัศลานี – ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ เตหะราน

และดร. มัรยัม ฮัจยี อับดุลบากี ​​- ผู้ช่วยศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยอิสลามิคอะซาด

ประเด็นที่นำเสนอมีดังนี้

- การวิจารณ์ความแตกต่างในการแบ่งฝ่ายและการปฏิเสธความสำเร็จของประเทศ

- การให้ความสำคัญในการวิจัยและการเพิ่มงบประมาณในการวิจัย

- การวิพากษ์วิจารณ์มุมมองทางการเมืองของมหาวิทยาลัยและการเปลี่ยนแปลงอธิการบดีของมหาวิทยาลัยหลังจากการเปลี่ยนของรัฐบาล

- การให้ความสำคัญต่อภาพยนตร์และนโยบายที่ถูกต้องในด้านวัฒนธรรมและศิลปะ

-ความจำเป็นในบทเรียนจากข้อตกลงนิวเคลียร์และเข้าใจถึงประสบการณ์ของมัน

- ความจำเป็นในการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนและมาตรการพิเศษเพื่อจัดการกับผลกระทบทางสังคมโดยใช้ขีดความสามารถที่จากประชาชน

- ความกังวลเกี่ยวกับการลดลงของจำนวนประชากรและการเพิ่มอายุในการแต่งงานและข้อเสนอในการจัดตั้งสาขาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับครอบครัว

- ความกังวลในภาวะตกต่ำทางวิชาการในสาขาวิชาการทางด้านอวกาศ

- การเน้นถึงความจำเป็นในการญิฮาดทางวิชาการด้วยการใช้ประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จในการป้องกันศักดิ์สิทธิ์

- ความจำเป็นในการพัฒนาอุตสาหกรรมทางด้านนิวเคลียร์โดยเฉพาะเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก

- ความจำเป็นในการดำเนินการอย่างเร่งด่วนเกี่ยวกับสถานะของน้ำและการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานเพื่อการปรับปรุง

- ความจำเป็นในอุตสาหกรรมทางการธนาคารเพื่อรองรับเศรษฐกิจที่แท้จริง

- การให้ความสำคัญกับการทูตทางวิชาการและการทูตทางด้านสุขภาพ

- ความจำเป็นในการขจัดอุปสรรคต่อการใช้สินค้าอิหร่านอย่างเต็มรูปแบบ

ในช่วงท้ายของการพบปะกันครั้งนี้ ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้นำนมาซมักริบและอิชาอ์ ร่วมกับบรรดาแขกผู้ที่เข้าพบ รวมทั้งยังได้ละศีลอดพร้อมกันอีกด้วย

 

 

700 /