คณะผู้เข้าร่วมการประชุมนานาชาติภายใต้หัวข้อ “บทบาทของชีอะฮ์ในการถือกำเนิดและการแผ่ขยายของวิทยาการแห่งอิสลาม” ได้เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม
“สิ่งที่โลกอิสลามในวันนี้ต้องการมากที่สุด คือ ความเป็นเอกภาพและความก้าวหน้าทางวิทยาการ”
เมื่อช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ผ่านมา บรรดาแขกผู้เข้าร่วมในการประชุมนานาชาติ ภายใต้หัวข้อ “บทบาทของชีอะฮ์ในการถือกำเนิดและการแผ่ขยายของวิทยาการแห่งอิสลาม ได้เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำถือว่า สิ่งที่โลกอิสลามในวันนี้ต้องการมากที่สุด ก็คือ ความเป็นเอกภาพและความเป็นปึกแผ่นเดียวกัน อีกทั้งการขับเคลื่อนในการพัฒนาก้าวหน้าทางวิชาการในทุกๆแขนง และท่านยังเน้นว่า “วันนี้ การตื่นตัวในโลกอิสลามได้ปรากฏตัวขึ้น ขณะที่พวกตะวันตกต่างพยายามที่จะปฏิเสธมัน ฉะนั้น จะเห็นได้ว่า การตื่นตัวนี้ถือว่าเป็นพื้นฐานในการโน้นน้าวสู่อิสลามได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังถือว่าเป็นการแจ้งข่าวดีถึงอนาคตที่ดีกว่าอีกด้วย”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวเทอดเกียรติและขอบคุณต่อคณะกรรมาธิการจัดการประชุมครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อยาตุลลอฮ์ มะการิม ชีรอซี โดยกล่าวว่า “ในวันนี้ ทุกๆการขับเคลื่อนที่เป็นเหตุให้มีการรู้จักซึ่งกันและกันต่อกลุ่มและสำนักคิดทั้งหลายของอิสลาม ถือว่า เป็นความดีงามหนึ่ง และการการประชุมครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวอย่างของการขับเคลื่อนที่นำไปสู่ทิศทางของความเป็นเอกภาพในประชาชาติอิสลาม”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ชี้ถึงความพยายามอย่างองอาจของศัตรูในการเผชิญหน้ากับบรรดามุสลิม โดยกล่าวเสริมว่า “ในสถานการณ์เช่นนี้ ทุกๆการกระทำที่ทำให้การรู้จักบรรดามุสลิมนั้นเป็นจุดแข็งต่อกันและกันและยังเป็นพื้นฐานที่จะนำไปสู่การทำงานร่วมกัน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างให้ประชาชาติอิสลามนั้นมีความเป็นเอกภาพและความสามัคคีต่อกัน”
ท่านผู้นำสูงสุด ยังได้ชี้ถึงบทบาทของชีอะฮ์ในช่วงประวัติศาสตร์ในการยกฐานะภาพอันสูงส่งทางวิทยาการของอิสลามและวิทยาการทั่วไป โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ ผลงานและการรับใช้บริการอันล้ำค่าเหล่านี้ จำเป็นที่จะต้องแนะนำให้ประชาชาติอิสลามได้รับรู้ เพราะว่าจะเป็นบ่อเกิดแห่งความภาคภูมิใจและยังนำไปสู่ความเป็นอันหนึ่งเดียวกัน”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังเน้นถึงความจำเป็นในการระมัดระวังอย่างจริงจังต่อการสร้างข้อกังขาระหว่างสำนักคิดต่างๆของอิสลาม โดยกล่าวว่า “หนึ่งในประเด็นที่สำคัญอย่างมากและเป็นกรณีที่โลกอิสลามในขณะนี้มีความต้องการ ก็คือ ประเด็นความก้าวหน้าทางวิชาการและการขับเคลื่อนในเรื่องนี้อย่างจริงจัง”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า เหตุผลหลักของการทำให้โลกอิสลามต้องอยู่ในภายใต้การปกครองของตะวันตก คือ ความหล้าหลัง โดยกล่าวเสริมว่า “ในโลกตะวันตก หลังจากที่ได้ผ่านมาหลายทศวรรษติดต่อกันของความหล้าหลังทางวิชาการ และด้วยกับการใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางวิชาการ จนสามารถยกระดับความมั่งคั่ง การมีอำนาจทางความรู้ ทางทหาร การเมืองและการโฆษณาชวนเชื่อ และในท้ายที่สุด พวกเขาก็ได้ทำให้สถานภาพของประเทศอิสลามทั้งหลายต้องตกอยู่ในสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ด้วยกับการล่าอาณานิคม”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงการฉ้อฉลในอำนาจของชาติตะวันตกที่มีต่อประเทศอิสลามต่างๆและการปฏิบัติตามของส่วนมากในหมู่ผู้ปกครองของประเทศเหล่านี้ต่อเหล่าผู้ฉ้อฉล โดยเน้นว่า “เงื่อนไขเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงโดยอาศัยความก้าวหน้าทางความรู้ของประเทศอิสลามต่างๆ และโลกอิสลามก็ยังสามารถที่จะไปถึงจุดสูงสุดของอารยธรรมแห่งมนุษยชาติได้อีกครั้ง”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การขับเคลื่อนในวิถีของการก้าวหน้าทางวิทยาการ คือ หน้าที่ของระบอบการปกครองของประเทศอิสลามและบรรดานักอัจฉริยบุคคลของประเทศเหล่านั้น โดยกล่าวว่า “บรรดานักอัจฉริยบุคคลของโลกอิสลาม จำเป็นที่จะต้องมีการขับเคลื่อนทางความคิดที่ยิ่งใหญ่และยังเป็นข้อเรียกร้องโดยทั่วไปในความก้าวหน้าทางวิทยาการ อีกทั้งในการบรรลุสู่จุดสูงสุดทางความรู้และศาสตร์ต่างๆ”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังระลึกถึงการขับเคลื่อนของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านตามเส้นทางของการก้าวหน้าทางวิทยาการ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในตัวอย่างของความสำเร็จ โดยกล่าวเสริมว่า “บนพื้นฐานของการรายงานจากศูนย์ต่างๆทางการศึกษาของโลกได้ระบุถึงความรวดเร็วในการขับเคลื่อนทางความรู้ของอิหร่านในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้นอยู่ในอัตรา 13 เท่าของค่าเฉลี่ยของโลก”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ตั้งข้อสังเกตอีกว่า “เราจะเดินไปบนเส้นทางนี้ต่อไปจนกว่าจะถึงพรมแดนของวิทยาการและความรู้ ขณะที่อิหร่านนั้นแตกต่างจากพวกตะวันตก โดยมีความพร้อมในการเคลื่อนย้ายผลผลิตและความก้าวหน้าทางความรู้ของตนไปยังประเทศต่างๆของอิสลาม”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การก้าวหน้าทางวิทยาการของอิสลามและศาสตร์ทั่วไป คือ ความจำเป็นโดยท่านกล่าวเสริมว่า “หนึ่งในกรณีที่อิสลามจะสามารถนำเสนอคำพูดใหม่ในปัญหาต่างๆของมนุษยชาติ ก็คือ ในประเด็นที่เกี่ยวกับหลักนิติศาสตร์ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีการดำเนินการในเรื่องนี้ให้มากยิ่งขึ้นและมีความจริงจัง”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้เน้นถึงการเพิ่มความรีบเร่งต่อการขับเคลื่อนทางความรู้ในประเด็นปรัชญาและศาสตร์ที่ว่าด้วยเหตุและผล โดยกล่าวว่า”พวกตะวันตกได้ขยายปรัชญาของตนไปสู่ประเด็นต่างๆทางการเมืองและสังคม ขณะที่เรานั้นจำเป็นที่จะต้องกระทำเช่นนี้ด้วยเช่นกัน เพราะว่า ปรัชญาของอิสลามนั้นมีความเข้มแข็งกว่า ลุ่มลึกกว่า และมีความมั่นคงกว่าปรัชญาตะวันตกเสียอีก”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงการแผ่ขยายของการตื่นตัวของโลกอิสลามและการเพื่มในการโน้มน้าวสู่อิสลามในโลกนี้ โดยกล่าวว่า “ในวันนี้ เยาวชนของโลกได้มีคำถามต่างๆมากมายที่พวกเขาเหล่านั้นต้องการคำตอบที่อยู่ในกรอบของอิสลาม ด้วยเหตุนี้เอง จึงจำเป็นที่จะต้องมีการรีบเร่งในการขับเคลื่อนทางความรู้ในโลกอิสลามและประชาชาติอิสลามก็จะต้องไปให้ถึงจุดสูงสุดทางความรู้และอารยธรรมของตนเองให้ได้ เพื่อที่จะทำให้เหล่าศัตรูและพวกสหรัฐไม่สามารถที่จะออกคำสั่งต่อบรรดาผู้นำของประเทศต่างๆในอิสลาม โดยบอกว่า (สิ่งนี้)จำเป็นที่จะต้องทำและไม่จำเป็นที่จะต้องทำ”
ก่อนในการปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ท่านฮุจญตุลอิสลาม อะรอฟี ประธานจัดการประชุมนานาชาติ บทบาทของชีอะฮ์ในการถือกำเนิดและการแผ่ขยายของวิทยาการอิสลาม กล่าวว่า “การถามตอบ ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งระหว่างสำนักคิดของอิสลาม การนำทุนทางความคิดของชีอะฮ์และบรรดามุสลิมมาใช้อีกครั้งและการแสวงหาจุดแข็งในการนำเสนอวิทยาการของอิสลามอย่างสมบูรณ์ เหล่านี้ถือว่าเป็นวัตถุประสงค์หลักในการจัดการประชุมในครั้งนี้
และเช่นเดียวกัน ท่านฮุจญตุลอิสลาม ดร. ริฎออี เลขาธิการในการประชุมครั้งนี้ยังได้กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์และรูปแบบของการจัดงานประชุมครั้งนี้