สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

“หากว่าบางประเทศในภูมิภาคได้ใช้สติสักนิด ก็จะไม่ถูกสหรัฐต้องหลอกใช้พวกเขาได้หรอก”

แรงงานหลายพันคนเข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม

เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องในวโรกาสวันแรงงานแห่งชาติ คณะแรงงานหลายพันคน เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำถือว่า แผนการสมรู้ร่วมคิดหลักที่สำคัญที่สุดในการเผชิญหน้ากับรัฐอิสลาม คือ สงครามทางด้านเศรษฐกิจ และท่านยังได้เน้นถึงวิธีการเดียวที่จะเผชิญกับสงครามนี้ก็คือ การสนับสนุนสินค้าอิหร่าน และการพึ่งพายังขีดความสามารถในประเทศ โดยที่ต้องไม่พึ่งพาต่างชาติ ซึ่งท่านกล่าวว่า “ หน้าที่ของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ คือ การแก้ไขปัญหาต่างๆและขจัดอุปสรรคของแรงงาน อีกทั้งในการเพิ่มศักยภาพต่อการผลิต และหน้าที่ของประชาชน ก็คือ การตัดสินใจและการมีเจตนามุ่งมั่นในการซื้อสินค้าอิหร่าน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงสงคราม ความไม่มั่นคง และการหลั่งเลือดที่เกิดขึ้นจากการปรากฏตัวของสหรัฐฯในภูมิภาค โดยกล่าวว่า “ผู้ที่จะต้องถอนตัวออกจากภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ไป ก็คือ สหรัฐ ไม่ใช่สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ดั่งที่หลายปีก่อนนั้น ข้าพเจ้าได้พูดมาหลายครั้งแล้วว่า ยุคของการทุบตีแล้ววิ่งหนีนั้นได้สิ้นสุดแล้ว”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าวเทอดเกียรติในวันอีด(เฉลิมฉลอง)ที่ยิ่งใหญ่ของวันนิศฟูชะอ์บาน และท่านยังได้เน้นถึงการใช้ประโยชน์จากวันสำคัญที่มีเกียรติยิ่งทางด้านจิตวิญญาณของเดือนชะอ์บานนี้ โดยกล่าวว่า “วันนิศฟูชะอ์บาน เป็นวันที่แสดงถึงความหวังต่ออนาคตและพันธสัญญาที่พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดไว้ สำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งสุดท้ายของโลก และการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ของเหล่าผู้ฉ้อฉลในปัจจุบัน โดยการชี้นำของท่านอิมามแห่งยุคสมัย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวต่ออีกว่า พลังงานของมนุษย์ในภาคส่วนของการผลิต โดยเฉพาะแรงงานทั้งหลาย คือ ความมั่งคั่งอันยิ่งใหญ่ โดยกล่าวเสริมว่า “ คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของพลังแรงงานในอิหร่าน ก็คือ การมีศิลปะ ความคิดสร้างสรรและแรงบันดาลใจในการผลิตในระดับที่สูงกว่าระดับปานกลางของโลก”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงการเข้าเยี่ยมชมนิทรรศการผลิตภัณฑ์สินค้าอิหร่านที่จัดขึ้นในฮุซัยนียะฮ์ อิมามโคมัยนี เมื่อช่วงบ่ายของวานนี้ โดยท่านยังเน้นว่า “ ด้วยกับการแทรกแซง การคว่ำบาตร ปัญหาต่างๆที่เหล่ามหาอำนาจได้ก่อขึ้นมา แต่การผลิตภายในประเทศที่จัดแสดงในงานนิทรรศการนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงความลักษณะพิเศษ ที่จะต้องเทอดเกียรติต่อแรงงานของชาวอิหร่าน ด้วยเหตุนี้เอง ข้าพเจ้าจะต้องขอจูบมือของแรงงานชาวอิหร่าน ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในแรงงานที่ดีที่สุดของโลก”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า “ ด้วยกับการดำรงอยู่ของแรงงานชาวอิหร่านที่พิเศษนี้ แต่ช่างน่าเสียใจยิ่งนักที่ยังไม่ได้มีความเชื่อมั่นต่อสินค้าของอิหร่านหรือยังไม่ได้มีการดำเนินการอย่างจริงจัง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การสนับสนุนสินค้าอิหร่าน หมายถึง การสนับสนุนแรงงานและการผลิตในประเทศ โดยกล่าวว่า “การสนับสนุนนี้ ในทุกๆด้านและทุกมิตินั้นเป็นภาระหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐฯและประชาชนทั้งหลายด้วยเช่นกัน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงคำฟ้องร้องและปัญหาที่เกิดขึ้นจากฝ่ายผู้ผลิตและแรงงานทั้งหลาย โดยกล่าวว่า “หน้าที่ของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐฯในการสนับสนุนสินค้าอิหร่าน คือ การขจัดอุปสรรคให้หมดสิ้นอย่างสมบูรณ์ เช่น สังคมสงเคราะห์ การธนาคาร การจ่ายภาษีศุลกากร”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังเน้นว่า “หากว่าอุปสรรคเหล่านี้ได้ถูกขจัดออกไป ก็จะไม่เห็นว่าการผลิตในโรงงานด้วยกับการใช้ประโยชน์เพียงหนึ่งในสามของขีดความสามารถเท่านั้น เพราะว่า การมีช่องว่างในขีดความสามารถของหนึ่งในโรงงานนั้น หมายถึง การว่างงานในประเทศ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังเน้นถึงการสนับสนุนต่อสินค้าอิหร่าน ถือว่าเป็นการบริหารจัดการต่อความว่างงานของแรงงานทั้งหลาย การสร้างงานให้กับเยาวชนที่สำเร็จการศึกษา และเช่นกันในภาคส่วนต่างๆของการผลิต โดยกล่าวว่า “หน้าที่ของประชาชนที่จะต้องสนับสนุนอย่างจริงจังในการซื้อผลิตภัณฑ์ในประเทศ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าววิจารณ์ถึงการซื้อสินค้าของต่างชาติ ในขณะที่มีการผลิตสินค้านี้ในประเทศเช่นกัน โดยกล่าวว่า “เพราะสาเหตุใดหรือ ที่บางคนจึงพยายามที่จะซื้อสินค้าของต่างชาติ ซึ่งถือว่านี่เป็นความเข้าใจที่ไม่ดีและยังเป็นอาการของคนที่เป็นโรค ซึ่งทุกหน่วยงานของภาครัฐฯและภาคประชาชนจะต้องตัดสินใจที่จะใช้ประโยชน์จากสินค้าของชาวอิหร่านเอง”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า หนึ่งในผลลัพท์ของการสนับสนุนสินค้าอิหร่าน ก็คือ การแก้ไขปัญหาทางสังคม ความมั่นคงและจริยธรรมที่เกิดขึ้นมาจากการว่างงาน โดยกล่าวว่า “การสนับสนุนสินค้าอิหร่าน คือ หนึ่งในวิธีการที่ดีที่สุดและมีผลอย่างมากที่สุดในการเผชิญหน้ากับแผนการสมรู้ร่วมคิดของเหล่าศัตรูทางภาคเศรษฐกิจ เพราะว่า พวกเขาไม่สามารถที่จะบรรลุผลในสงครามทางการทหารได้”

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า “แน่นอนที่สุด ข้าพเจ้าเคยพูดไปเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ในช่วงสมัยของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนก่อน ก็เหมือนกันกับประธานาธิบดีคนปัจจุบันนี้ ที่เขานั้นมีนิสัยแย่และพูดจาหยาบคาย และพวกเขาก็ทราบดีว่า ถ้าพวกเขาได้เข้ามาปะทะกับอิหร่านในทางการทหาร พวกเขาก็จะได้รับความเสียหายหลายๆเท่าด้วยเช่นกัน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวอีกว่า “พวกเขาจึงต้องเชื่อมั่นในสงครามทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ซึ่งห้องปฏิบัติการณ์ทางสงครามทางภาคเศรษฐกิจกับสาธารณรัฐอิสลาม นั้นก็คือ กระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกานั่นเอง”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังเน้นถึงวิธีการในการเผชิญหน้ากับสงครามทางเศรษฐกิจ คือ การพึ่งพายังขีดความสามารถและศักยภาพในประเทศ โดยกล่าวว่า “ข้าพเจ้าไม่ได้เชื่อมั่นว่า เราจะต้องตัดความสัมพันธ์กับโลก แต่การพึ่งพายังต่างประเทศนั้นถือว่าเป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลวง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวเสริมว่า เราจะต้องมีความฉลาดหลักแหลมและมีสัมพันธ์กับโลกอย่างจริงจังแต่จะต้องรู้ด้วยว่า โลกไม่ใช่เฉพาะกับสหรัฐและบางประเทศในยุโรปเท่านั้น โลกนั้นมีขนาดที่ใหญ่อย่างมาก ที่เราจะต้องมีความสัมพันธ์กับหลายๆประเทศด้วยเช่นกัน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังเน้นว่า “ความสัมพันธ์กับโลก มิได้หมายถึง การยึดถือพวกต่างชาติ แต่จะต้องคำนึงถึงพลังงานภายในประเทศด้วย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวเสริมว่า “หากประชาชนมองว่า เจ้าหน้าที่ทั้งหลายต่างพยายามแก้ไขปัญหาต่างๆโดยจะต้องพึ่งพายังขีดความสามารถในประเทศ ฉะนั้นปัญหาและอุปสรรคต่างก็จะได้รับการแก้ไขด้วยเช่นกัน และเจ้าหน้าที่จะต้องไม่คำนึงถึงต่างชาติ”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า อีกวิธีการหนึ่งของสหรัฐในการเผชิญหน้ากับระบอบประชาธิปไตยของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ก็คือ การยุยงบางประเทศที่มีความเข้าใจอันน้อยและสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นภายในภูมิภาค โดยกล่าวว่า “ พวกสหรัฐฯต่างพยายามที่ยุยงให้พวกซาอุดี้และบางประเทศในภูมิภาคต้องเข้ามาเผชิญหน้ากับสาธารณรัฐอิสลาม หากว่าพวกเขานั้นได้ใช้สติแล้วละก็จะไม่ถูกพวกสหรัฐต้องหลอกใช้หรอก”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังเน้นถึงพวกสหรัฐฯที่ไม่ต้องการจ่ายค่าใช้จ่ายในการเผชิญหน้ากับสาธารณรัฐอิสลามและประชาชาติผู้มีอำนาจชาวอิหร่าน โดยหวังในการพึ่งพายังบางประเทศแถบภูมิภาค ซึ่งท่านกล่าวเสริมว่า “บางประเทศในภูมิภาค พึงรู้ไว้เถิดว่า หากว่าจะเกิดการเผชิญหน้ากับสาธารณรัฐอิสลาม แน่นอนยิ่งพวกเขาจะได้รับความเสียหายและจะพบกับความพ่ายแพ้อย่างหนักหน่วง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงความไม่มั่นคงและสงครามที่เกิดขึ้นจากการปรากฏตัวของสหรัฐในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ โดยเน้นว่า ด้วยเหตุนี้เอง เราจะต้องตัดแขนขาของพวกสหรัฐที่เข้ามาในภูมิภาคนี้ และจะต้องให้พวกเขาถอนตัวออกจากภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้อีกด้วย”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังเน้นถึงผู้ที่จะต้องถอนตัวออกจากภูมิภาค คือ พวกสหรัฐฯ มิใช่สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน โดยกล่าวเสริมว่า “เราเป็นเจ้าของที่นี่ อ่าวเปอร์เซียและภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ นั้นก็คือ บ้านของพวกเรา แต่พวกท่านคือ คนแปลกหน้าที่มีเป้าหมายที่ชั่วร้ายและสร้างความแตกแยกอย่างต่อเนื่อง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังเน้นว่า “พวกท่านก็จงรู้ไว้เถิดว่า สหรัฐฯและบางประเทศที่เหมือนกันนั้น จะถูกตัดแขนและขาจากภูมิภาคนี้อย่างแน่นอน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ในช่วงท้ายของการปราศรัยของท่านถึงประเด็นการนำเข้าสินค้าที่ไม่ถูกหลักการและปัญหาการหนีภาษี โดยกล่าวว่า “ปัญหาต่างๆที่ฝ่ายผู้ผลิต ผู้ลงทุน และแรงงานทั้งหลายประสบ ก็มาจากในสองประเด็นนี้ ซึ่งรัฐบาลจะต้องมีการดำเนินการในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้”

ก่อนการปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม พณฯท่าน ระบีอี รัฐมนตรีสังคมสงเคราะห์ แรงงานและสวัสดิการสังคม ได้กล่าวรายงานเกี่ยวกับนโยบายและการดำเนินการของกระทรวงนี้ในกรณีการดูแลสภาพที่ดีของแรงงาน การสร้างงาน และขจัดความยากจน โดยกล่าวว่า “เรามีความสามารถที่จะพัฒนาสินค้าอิหร่านให้มีมาตรฐานและคุณภาพที่จะแข่งขันกับโลกได้และยังจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งของตลาดโลกได้อีกด้วย”

 

 

 

 

 

 

 

 

700 /