สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

รัฐมนตรีข่าวกรองพร้อมคณะเจ้าหน้าที่และพนักงานของกระทรวงเข้าพบท่านผู้นำสูงสุด

กระทรวงข่าวกรองจะต้องคงอยู่ในสภาพของความเป็นนักปฏิวัติ

เมื่อช่วงเช้าของวันพุธที่ผ่านมา รัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ และพนักงานกระทรวงข่าวกรองอิหร่านเข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำถือว่า กระทรวงข่าวกรอง เป็นผลที่ได้รับมาจากการปฏิวัติอิสลามและเป็นดั่งบุตรหลานของท่านอิมามโคมัยนี ผู้ทรงเกียรติและในการปฏิวัติอิสลาม อีกทั้งท่านผู้นำยังเน้นถึงความจำเป็นในการขับเคลื่อนทางการปฏิวัติอิสลามและการคงอยู่ในสภาพความเป็นนักปฏิวัติอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด และท่านผู้นำยังได้ชี้ถึงมิติต่างๆของสงครามด้านข่าวกรองที่ขยายกว้างของฝ่ายศัตรูกับรัฐอิสลาม โดยท่านกล่าวว่า “หนึ่งในแกนหลักที่สำคัญในสงครามนี้ ก็คือ การแทรกซึมและผลเสียที่มีต่อระบอบในการคำนวณของเจ้าหน้าที่  การเปลี่ยนแปลงฐานความเชื่อของประชาชน นอกเหนือจากนี้ ในการการป้องกันตนเอง และการปิดกั้นในการแทรกซึมในทุกๆด้าน ซึ่งจะต้องการมีการตอบโต้ และหลีกเลี่ยงจากการเพิกเฉยและความคิดที่แบบมักง่าย”

ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ในช่วงเริ่มต้นของการปราศรัย ท่านได้ชี้ถึงการเข้ามาเยือนของเดือนชะอ์บาน ซึ่งถือว่าเป็นเดือนที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เหมือนดั่งในเดือนรอญับและรอมฎอน เป็นเดือนที่จะต้องสร้างความสัมพันธ์กับพระผู้เป็นเจ้าให้มากยิ่งขึ้น และความผูกพันธ์กับอัลกุรอาน อีกทั้งการใช้ประโยชน์จากบทดุอา (บทขอพร)เพื่อเสริมสร้างมะอ์รีฟัตให้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย และท่านผู้นำยังได้ชี้ถึงโครงสร้างของกระทรวงหน่วยข่าวกรองของอิหร่าน หลังจากชัยชนะในการปฏิวัติอิสลาม โดยท่านกล่าวเสริมว่า “หน่วยงานด้านข่าวกรองนั้นเกิดขึ้นด้วยกับความปลอดภัยและความบริสุทธิ์ใจ และก็ยังคงอยู่ในสภาพนี้เช่นเดิม จนถึงปัจจุบัน ซึ่งก็ได้ผ่านในการทดสอบอย่างดีมาแล้วด้วย”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า กระทรวงข่าวกรองจะต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐอิสลาม โดยกล่าวว่า “ ในทุกๆสถานที่ของโลกนี้ หน่วยงานด้านข่าวกรองได้ปฏิบัติตามนโยบายของระบอบในการปกครองของประเทศเหล่านั้น”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังเน้นถึงกรอบของนโยบายต่างๆของระบอบสาธารณรัฐอิสลามที่ท่านอิมามโคมัยนีได้กำหนดเอาไว้ ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งเสียของท่านอิมามและคำสั่งสอนของท่าน โดยกล่าวเสริมว่า “ในส่วนนี้ ผู้นำสูงสุดคือส่วนหนึ่งของระบอบ ไม่ใช่เป็นตัวของระบอบ”

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ยังเน้นถึงการแบ่งพรรคแบ่งพวกในกระทรวงหน่วยข่าวกรอง ถือว่าเป็นความผิด โดยกล่าวว่า “ในกระทรวงหน่วยข่าวกรอง จะต้องมีฝ่ายเดียว นั่นก็คือ ฝ่ายของการปฏิวัติอิสลาม”

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ยังเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนของกระทรวงข่าวกรองว่า จะต้องมีศึกษาและเรียนรู้อย่างละเอียดในคำสั่งเสียและถ้อยคำของท่านอิมามโคมัยนี โดยกล่าวว่า “ในทุกๆส่วนของกระทรวง จะต้องมีความเข้าใจในหลักการพื้นฐานของการปฏิวัติอิสลามอย่างสมบูรณ์แบบและจะต้องปฏิบัติตามกรอบของการปฏิวัติอิสลาม”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามยังได้ชี้ถึงสงครามที่ใหญ่และซับซ้อนของฝ่ายศัตรูในการเผชิญหน้ากับระบอบสาธารณรัฐอิสลาม กล่าวเสริมว่า “เรากำลังอยู่ท่ามกลางสนามรบที่ใหญ่ยิ่ง ซึ่งสาธารณรัฐอิสลามอยู่อีกด้านหนึ่งและฝ่ายเหล่าศัตรูที่มีขนาดใหญ่และมีพลังอย่างมากก็อยู่อีกด้านหนึ่ง”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า หน่วยสืบราชการลับของฝ่ายศัตรู คือ แกนหลักในการเผชิญหน้ากัน โดยกล่าวว่า “ขณะที่หน่วยข่าวกรองของฝ่ายศัตรู แม้ว่าจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันก็ไม่อาจที่จะทำความผิดพลาดใดๆได้จนถึงขณะนี้”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวอีกว่า “หากว่าเราเพิกเฉยต่อสงครามนี้ แน่นอนยิ่ง เราก็จะพบกับความปราชัย และเช่นกัน หากว่าเราใช้ความคิดแบบมักง่าย เราจะได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ถึงมิติที่ซับซ้อนของสงครามด้านข่าวกรอง โดยกล่าวว่า”ในสงครามนี้ มีการใช้วิธีการและแนวทางที่แตกต่างกันในการแทรกซึม การขโมยข้อมูล การเปลี่ยนแปลงในกระบวนการคำนวณของผู้ที่ตัดสินใจ และการเปลี่ยนแปลงฐานความเชื่อของประชาชน  จนกระทั่งนำมาสู่ความไม่สมดุลทางทรัพย์สินและเศรษฐกิจ อีกทั้งนำมาสู่ในการสร้างวิกฤติของความวุ่นวายทางความมั่นคง”

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงปัญหาครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในตลาดสกุลเงิน กล่าวว่า “เมื่อมีการระมัดระวังในปัญหาเหล่านี้อย่างลึกซึ้ง ก็จะเห็นถึงรอยเท้าของต่างชาติและหน่วยข่าวกรองของพวกเขา”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม เน้นว่า “จะต้องมีการยืนหยัดในสงครามนี้ในการเผชิญหน้ากับแผนการร้ายของฝ่ายศัตรู นอกเหนือจากการป้องกันตัวเองแล้ว ก็จะต้องมีการตอบโต้อีกด้วยเช่นกันเพื่อชัยชนะเหนือศัตรู ที่หน่วยงานด้านข่าวกรองนั้นคือตัวกำหนดในภาคสนาม”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การวางแบบแผนอย่างละเอียดในระยะยาวด้วยกับการคำนวณเหตุการณ์ในอนาคต การวิเคราะห์และการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด คือ หนึ่งในวิธีการเผชิญหน้าของหน่วยข่าวกรองในประเทศกับแผนการร้ายของฝ่ายศัตรู”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ประเด็นในการแทรกซึม คือ อีกหนึ่งในวิธีการเผชิญหน้าในการโจมตีของฝ่ายศัตรู กล่าวเสริมว่า “บุคคลที่เขาต้องการเป็นผู้รักษาอะมานะฮ์(หน้าที่รับผิดชอบ)ให้กับประเทศและประชาชนในรัฐอิสลาม จะต้องมีการตรวจสอบอย่างถูกต้อง เพราะว่าข้อสงสัยที่เล็กที่สุดในการตรวจสอบคุณสมบัติของบุคคลก็จะต้องส่งผลสะท้อนกลับมา ซึ่งหน่วยงานภาคต่างๆก็จะต้องปฏิบัติตามความเห็นชอบของกระทรวงหน่วยข่าวกรอง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงประเด็นการต่อสู้กับการทุจริต กล่าวว่า จะต้องมีความจริงจังต่อประเด็นการต่อสู้กับการทุจริต และการต่อสู้กับผู้ทำความผิด เพราะว่า การทุจริตเป็นบ่อเกิดของความเสื่อมโทรมทางจิตวิญญาณของปัจเจกบุคคลและสังคม”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ส่วนมากของการทุจริตนั้นเกิดขึ้นจากการต้องการที่มากเกิน ระบบชนชั้นสูง และการฟุ่มเฟือย โดยกล่าวว่า “ขณะที่ท่านอิมาม ผู้ทรงเกียรติของเราได้กล่าวย้ำหลายครั้งถึงการรักษาสภาวะความเป็นนักการศาสนา การใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและอย่างธรรมดาของบรรดาเจ้าหน้าที่ ก็ด้วยเหตุอันนี้”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า “บรรดาเจ้าหน้าที่ในสาธารณรัฐอิสลามต้องไม่คิดเช่นนี้ว่า เจ้าหน้าที่ในประเทศต่างๆ พวกเขามีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างมากมาย ฉะนั้น ในสาธารณรัฐอิสลามในกรณีเหล่านี้ก็ต้องเป็นที่อนุมัติด้วยเช่นกัน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังเน้นว่า “ในสาธารณรัฐอิสลามที่เรานั้นได้ดำเนินการตามระบอบการปกครองของศาสดาแห่งอิสลามและท่านอะมีรุลมุอ์มินีน อะลี (อ) ดังนั้น เราก็จะต้องหลีกเลี่ยงจากระบบชนชั้นสูงและการปฏิบัติตามอำเภอใจ”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าวในช่วงท้ายของการปราศรัยถึงพนักงานในกระทรวงหน่วยข่าวกรองว่า “ข้าพเจ้าขอฝากสลามไปยังพนักงานทุกคนในกระทรวงหน่วยข่าวกรองทั่วทั้งประเทศ และครอบครัวของพวกเขาด้วย ซึ่งพวกท่าน จงรู้ไว้เถิดว่า มรรคผลในการกระทำทั้งหลายของพวกท่านนั้น ภรรยาของพวกท่านก็จะได้รับด้วยเช่นกัน เพราะว่า การงานและการกระทำทั้งหลายเหล่านั้น อันเป็นผลจากความอดทนอดกลั้นของพวกเขาทั้งสิ้น”

ก่อนในการปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ท่านฮุจญตุลอิสลาม อะลาวีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงข่าวกรองอิหร่านได้รายงานถึงการปฏิบัติงานและทัศนคติของกระทรวงหน่วยข่าวกรอง  โดยกล่าวว่า “ข้าพเจ้าขอประกาศว่า บรรดาทหารนิรนามทุกๆคนต่างเตรียมพร้อมในการเผชิญหน้ากับฝ่ายชาติมหาอำนาจโดยมีสหรัฐฯที่กระหายเลือด รัฐเถื่อนไซออนิสต์ จอมทรยศ และซาอุดิอาระเบีย อาชญากรผู้สังหารเด็ก เป็นแกนนำหลัก และเราจะขอปกป้องอุดมการณ์ในการปฏิวัติอิสลาม จนกระทั่งหยดเลือดสุดท้ายในชีวิตของพวกเรา”

700 /