สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

ประธานสภาผู้ชำนาญการและสมาชิกสภาเข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม

เราทราบถึงปัญหาของประชาชนแต่ไม่มีปัญหาใดที่จะไม่สามารถแก้ไขได้

เมื่อช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ประธานสภาผู้ชำนาญการและสมาชิกสภาเข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำถือว่า การยืนอยู่เคียงข้างพระผู้เป็นเจ้า คือ พันธสัญญาอันแน่วแน่ที่น่าเชื่อถือและเป็นแนวทางอันสดใสของฝ่ายของสัจธรรม และท่านยังได้ชี้ถึงอนาคตที่กระจ่างชัดของอิหร่านโดยเน้นว่า” เงื่อนไขในการบรรลุยังพันธสัญญานี้ของพระองค์ ก็คือการปฏิบัติหน้าที่ของบรรดานักการศาสนา เจ้าหน้าที่รัฐฯ และหน่วยงานต่างๆในการศึกษาและการเผยแพร่โดยการทำให้มีความศรัทธาเกิดขึ้น การยืนหยัดต่อการปฏิบัติของพวกเขาที่มีความยำเกรงต่อพระองค์ การออกห่างจากระบบของชนชั้นสูง อีกทั้งยังจะต้องมีการยืนหยัดในการทำงานและความพยายามอย่างมาก”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวเตือนถึงความรุนแรงทางการเมืองและสถานภาพที่พิเศษของสภาผู้ชำนาญการ โดยกล่าวเสริมว่า "สภาแห่งนี้ในความเป็นจริง นั้นคือ สภาของบรรดานักการศาสนาที่แสดงถึงการผสมผสานกันระหว่างศาสนาและการเมือง"

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ถึงการต่อสู้และสงครามที่ยากลำบากในทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและความปลอดภัยของอิหร่าน ด้วยกับการโจมตีในทุกรุปแบบของเหล่าศัตรู โดยกล่าวว่า “ขณะที่บางคนกลับทำการต่อต้านและคิดว่าสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านนั้นเป็นผู้เริ่มต้นในการทำสงคราม แต่ถือว่าความคิดเช่นนี้บ่งบอกถึงการเพิกเฉยและการละเลย เพราะว่า การดำรงอยู่ของสาธารณรัฐอิสลาม ระบอบการปกครองของศาสนา  อุดมการณ์และเป้าหมายของระบบรัฐอิสลาม รวมทั้ง ความเป็นเอกภาพ ความยุติธรรมทางสังคม การต่อสู้กับการกดขี่และการสนับสนุนผู้ถูกกดขี่ เป็นเหตุให้เหล่าศัตรูของศาสนาจำต้องเริ่มก่อสงครามและการรุกราน ดั่งที่ปรกฏในหลักฐานยืนยันจากโองการอัลกุรอานที่แสดงให้เห็นถึงฝ่ายสัจธรรมนั้นได้ถูกรุกรานจากฝ่ายอธรรมในช่วงประวัติศาสตร์มาโดยตลอด”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า จุดสำคัญในการเผชิญหน้ากันอย่างต่อเนื่องระหว่างสัจธรรมและอธรรมคือ พันธสัญญาที่แน่วแน่แห่งพระผู้เป็นเจ้าในชัยชนะของฝ่ายสัจธรรม โดยท่านกล่าวเสริมว่า “การบรรลุในพันธสัญญานี้ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้ศรัทธานั้นได้ยืนหยัดอย่างมั่นคง โดยมีเงื่อนไขดังนี้ คือ การมีเจตนาที่ถูกต้อง ความอดทนอดกลั้น การมีบะศีรัต(รู้แจ้งเห็นจริง) ความเพียรพยายามและการยืนหยัดในรักษาเงื่อนไขเหล่า ฉะนั้น การบรรลุในพันธสัญญานี้ คือ หนึ่งในภารกิจที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนและไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น”

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การตีความต่างๆจากพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานที่บ่งบอกถึงการอยู่เคียงข้างกับพระผู้เป็นเจ้าและการสนับสนุนของพระองค์ต่อฝ่ายของสัจธรรมนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก และเป็นการทำให้จิตใจนิ่งสงบ อีกทั้งยังเป็นความหวังที่มากที่สุดของโองการอัลกุรอาน โดยกล่าวเสริมว่า “บรรดาศาสดาและเอาลิยาอ์(ผู้ที่มีความรักต่อพระเจ้า)ของพระเจ้า ด้วยกับการมีความเชื่อต่อพันธสัญญาของพระองค์และการยืนหยัดบนเงื่อนไขที่จะให้สัญญานั้นได้เกิดขึ้น ซึ่งพวกเขาได้เปลี่ยนให้พันสัญญาอันนี้ไปสู่ความเป็นจริงในช่วงเวลาต่างๆของประวัติศาสตร์ ในขณะที่เรานั้นได้เห็นในการอยู่เคียงข้างกับพระผู้เป็นเจ้าและการสนับสนุนของพระองค์ในชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามและการป้องกันอันศักดิ์สิทธิ์มาแล้ว”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ความศรัทธา ความยำเกรง ความอดทน และการทำความดี คือ หนึ่งในเงื่อนไขของการร่วมอยู่เคียงข้างและการสนับสนุนของพระผู้เป็นเจ้า โดยท่านเน้นว่า “เจ้าหน้าที่รัฐฯทั้งหลาย นักการศาสนา ผู้ปราศรัยเทศนาธรรม  ผู้ประกาศทั้งหลายในเวทีต่างๆ และองค์กรที่มีขนาดใหญ่อย่างเช่น ในระบบการการศึกษาธิการ ระดับอุดมศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องค์กรการสื่อสารมวลชน สถานีโทรทัศน์และวิทยุ จำต้องมีการวางแบบแผนในการเกิดขึ้นของเงื่อนไขในการบรรลุพันธสัญญาในการอยู่เคียงข้างของพระเจ้า นั่นคือ การศึกษาที่มีศรัทธา ความยำเกรงและการทำความดี”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การยืนหยัดและการประสบความสำเร็จในการเผชิญหน้าในการโจมตีของทางการเมือง การเงิน ทางการทหาร  การรักษาความปลอดภัยและทางวัฒนธรรมของอเมริกาและรัฐเถื่อนไซออนิสต์นั้นเกิดขึ้นด้วยกับการมีศรัทธาและความยำเกรงของประชาชนและเยาวชนทั้งหลาย โดยกล่าวเสริมว่า “การเสียสละของประชาชน  การผลิตคนรุ่นใหม่อย่างเช่นชะฮีดฮุญาญี นั้นโดยส่วนมากแล้วได้รับการสนับสนุนจากพระเจ้าทั้งสิ้น ดังนั้นเพื่อที่จะขยายความกว้างขวางในความเมตตาและการสนับสนุนของพระองค์ ก็จำเป็นที่จะต้องมีการปลูกฝังในระบบการศึกษาและความศรัทธาในสังคม”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า  การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐฯและนักการศาสนาทั้งหลาย รวมทั้ง สมาชิกของสภาผู้ชำนาญการนั้นมีผลสะท้อนที่มากกว่าการเผยแพร่ทางภาษา โดยกล่าวว่า “จงหลีกเลี่ยงจากการหลงใหลในวัตถุนิยมทางโลก และระบบชนชั้นสูง อีกทั้งการมุมานะในการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐฯและนักการศาสนา แม้ว่าจะไม่อยู่ในสายตาของประชาชนก็ตาม ซึ่งทั้งหมดนั้นจะนำไปสู่ความเมตตาของพระผู้เป็นเจ้าและจะมีผลต่อประชาชนที่มากกว่า และเมื่อใดก็ตามที่ประชาชนไม่เห็นว่าคำพูดและการปฏิบัติของเขานั้นขัดแย้งกัน ฉะนั้นความศรัทธาของพวกเขาก็จะเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นและจะมีการขับเคลื่อนที่เชื่อมั่นต่อแนวทางที่เที่ยงตรงได้มากขึ้นอีกด้วย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การเป็นผู้ที่ยืนหยัดในปฏิบัติและการชี้นำในการปฏิบัติให้กับประชาชน คือ เหตุผลในความสำเร็จที่น่าอัศจรรย์ของท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) โดยท่านผู้นำยังเน้นว่า  “การยึดมั่นในจุดต่างๆเหล่านี้ จะทำให้เรานั้นอยู่เคียงข้างกับพระผู้เป็นเจ้าได้ ฉะนั้นเมื่อใดก็ตามที่เรายืนเคียงข้างพระองค์ เมื่อนั้นเราจะมีความกล้าหาญในการเผชิญหน้ากับมหาอำนาจผู้กดขี่ได้และจะมีการปฏิบัติอย่างชาญลาดอีกด้วย”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังรู้สึกพอใจต่อการได้รับข้อมูลอย่างละเอียดของคนรุ่นใหม่และวัยหนุ่มสาวและการมีความหวังในทุกภาคส่วน โดยกล่าวเสริมว่า “กลุ่มเยาวชนกลุ่มใหญ่ที่พวกเขานั้นไม่เคยเห็นท่านอิมามโคมัยนีและไม่เคยสัมผัสกับสงครามศักดิ์สิทธิ์ แต่พวกเขาได้ยืนหยัดอย่างมั่นคงและมีศรัทธาอย่างลึกซึ้งต่อเป้าหมายของการปฏิวัติอิสลาม”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า "การขับเคลื่อนไหวของเยาวชนที่เต็มไปด้วยกับความอุตสาหะที่มีชีวิตชีวาในประเทศ ซึ่งทำให้ข้าพเจ้าเชื่อว่า อนาคตที่ดียิ่งขึ้นกว่าในปัจจุบันจะเกิดขึ้นกับอิหร่านและยังมีการยืนหยัดอย่างมั่นคงกว่าเดิมอีกด้วย"

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าวเสริมว่า “แต่ทว่า เรายังตระหนักถึงปัญหาในการดำรงชีพของประชาชน แต่เรานั้นเชื่อว่า ไม่มีปัญหาใดในประเทศที่จะไม่ได้รับการแก้ไข และในอีกไม่กี่วันหลังจากนี้ ข้าพเจ้าก็จะมาพูดคุยกับประชาชนเกี่ยวกับประเด็นนี้กัน”

ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวขอบคุณต่อการรายงานของประธานและรองประธานสภาผู้ชำนาญการในการจัดตั้งคณะกรรมาธิการแนวความคิดในการประชุมครั้งล่าสุดที่ผ่านมาของสภาผู้ชำนาญการ 

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวเทอดเกียรติของท่านอยาตุลลอฮ์ ชาฮ์อาบาดี ตัวแทนชาวเตหะรานในสภาผู้ชำนาญการที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อหลายวันที่ผ่านมา โดยท่านผู้นำได้วิงวอนต่อพระเจ้าโปรดทรงยกฐานันดรอันสูงส่งให้กันมัรฮูมผู้นี้ด้วยเถิด 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ถึงการใกล้เข้ามาของเดือนรอญับอันทรงเกียรติ โดยถือว่า เดือนนี้เป็นโอกาสที่ดีในการแสดงความนอบน้อมต่อพระผู้เป็นเจ้า  การตะวัซซุล(การแสวงหาสื่อยังพระองค์) และการใกล้ชิดยังพระองค์

ก่อนการปราศรัยของท่านผู้นำของการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ ญันนะตี ประธานสภาผู้ชำนาญการได้กล่าวรายงานในการปฏิบัติงานของสภาแห่งนี้ โดยชี้ถึงการจัดตั้งคณะกรรมาธิการแนวความคิด กล่าวว่า  “เป้าหมายในการจัดตั้งคณะกรรมาธิการแนวความคิด คือ การสังเกต การตรวจสอบในความคืบหน้าของปัญหาต่างๆและการประเมินผลของการขับเคลื่อนในการปฏิวัติอิสลาม อีกทั้งในการจัดเสวนาโดยมีเป้าหมายดังกล่าวนี้”

นอกจากนี้ รองประธานของสภาผู้ชำนาญการ อยาตุลลอฮ์ ฮาชิมี ชาฮ์รูดี ยังกล่าวรายงานในการจัดประชุมของสภาผู้ชำนาญการ โดยกล่าวว่า “ในที่ประชุมได้มีการพูดคุยกันถึงปัญหาทางวัฒนธรรมและปัญหาในการดำรงชีพของประชาชน ซึ่งถือว่านี่คือประเด็นที่สำคัญยิ่งของบรรดาสมาชิกของสภาผู้ชำนาญการในการประชุมดังกล่าว”

700 /