เมื่อช่วงบ่ายของวันอังคารที่ผ่านมา ครอบครัวของบรรดาชะฮีดได้เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ซึ่งเป็นการเข้าพบกันประจำสัปดาห์ โดยท่านถือว่า เกียรติยศ ความมั่นคงและการพัฒนา ล้วนเป็นหนี้บุญคุณในการเสียสละและการอุทิศตนของเหล่าชะฮีดทั้งหลาย และท่านยังได้ชี้ถึงเหตุการณ์ล่าสุด และความพยายามของศัตรูในการทำลายรัฐอิสลาม โดยกล่าวว่า “สิ่งที่ถือว่าเป็นอุปสรรคของศัตรูและการปฏิบัติการณ์ของพวกเขาคือ การมีจิตวิญญาณที่มีความกล้าหาญ การเสียสละความศรัทธาของประชาชาติอิหร่าน”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ชี้ถึงความจริงอันนี้ที่เหล่าศัตรูต่างรอโอกาสเพื่อบ่อนทำลายประชาชาติอิหร่าน โดยกล่าวเสริมว่า “ในเหตุการณ์ต่างๆที่ได้เกิดขึ้นเมื่อหลายวันที่ผ่านมาเหล่าศัตรูได้ใช้เครื่องมือต่างๆ อาทิ เงิน อาวุธ การเมืองและองค์กรความมั่นคงเพื่อสร้างปัญหาให้กับรัฐอิสลาม”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะกล่าวในประเด็นนี้ในเวลาที่เหมาะสมให้กับประชาชนผู้มีเกียรติทั้งหลายได้รับทราบกัน”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังชี้ถึงบทบาทในการมีจิตวิญญาณจากการเสียสละของบรรดาชะฮีด เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติการณ์ของเหล่าศัตรู ซึ่งถือว่านี่คือแบบอย่างที่สมบูรณ์ในการมีจิตวิญญาณในการต่อสู้ โดยกล่าวเสริมว่า “ประชาชาติอิหร่านนั้นเป็นหนี้บุญคุณของบรรดาชะฮีด ผู้มีเกียรติของเรา ที่พวกเขาได้ละทิ้งบ้านและครอบครัว เป็นโล่คุ้มกันในการโจมตีของเหล่าศัตรูที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกและตะวันออก อีกทั้งจากบางประเทศในภูมิภาคอีกด้วย”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ถึงสถานการณ์ที่น่าเสียใจในบางประเทศแถบเอเซียตะวันตกและทางเหนือของแอฟริกา โดยกล่าวว่า “จากสงครามการป้องกันอันศักดิ์สิทธิ์ ศัตรู(พวกพรรคบาธ)ได้ย่างก้าวเข้ามายังประเทศ โดยไร้ซึ่งความปราณี ซึ่งถือว่า สถานการณ์อิหร่านในวันนั้นเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่าสถานการณ์วันนี้ที่เกิดขึ้นในลิเบียและซีเรียเสียอีก”
ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ยังได้กล่าวเทอดเกียรติต่อครอบครัวของบรรดาชะฮีด โดยกล่าวเสริมว่า “คุณค่าของบิดาและมารดาในภาระหน้าที่ๆรับผิดชอบนั้น ถือว่ามิได้มีน้อยไปกว่าความกล้าหาญและการเสียสละของบรรดาลูกๆเยาวชนของพวกเขาที่เป็นชะฮีดไปเลยแม้แต่น้อย ซึ่งพวกเขานั้นมีสิทธิอันยิ่งใหญ่ต่อประเทศอีกด้วย”