คณะผู้จัดงานรำลึกถึงมัรฮูมอยาตุลลอฮ์ ฮัจญ์ ซัยยิด มุสฏอฟา โคมัยนี เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม เนื่องในวโรกาสครบรอบสี่สิบปีการจากไปของท่าน โดยท่านผู้นำกล่าวเทิดเกียรติและขอบคุณต่อคณะผู้จัดงานในครั้งนี้ ซึ่งถือว่าบุคลิกภาพของมัรฮูม ฮัจญ์ ซัยยิดมุสฏอฟานั้น มีหลายมิติด้วยกัน และกล่าวว่า “เขาเป็นผู้มีความสามารถ มีปราดเปรื่องทางความรู้ เป็นผู้ที่ได้ขัดเกลาจิตวิญญาณ ผู้ที่มีความกล้าหาญและเป็นนักต่อสู้ อีกทั้งเป็นมนุษย์ที่คุณลักษณะอันพิเศษยิ่ง ต้องมีการนำเสนอสถานภาพของท่านให้สังคมและเยาวชนคนรุ่นใหม่ได้รับรู้ ซึ่งถือว่าเป็นการดีและมีความจำเป็นอย่างยิ่ง
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ถึงบทบาทที่ส่งผลอย่างมากของมัรฮูมฮัจญ์ ซัยยิดมุสฏอฟา โคมัยนี (ขอพระองค์ทรงเมตตาท่าน) ในช่วงปี42 (ปีอิหร่าน) โดยท่านกล่าวว่า “ในปีนั้น ท่านมัรฮูมได้เข้าร่วมกับมวลชนในฮะรัมท่านหญิงมะอ์ศูมะฮ์ พร้อมทั้งเป็นการรวมตัวของนักต่อสู้ที่กล้าหาญ และท่านยังเป็นแกนนำของมวลชนอีกด้วย”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวถึงการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของท่านมัรฮูม ในปี1356 ถือว่าเป็นต้นเหตุแห่งการขับเคลื่อนของประชาชน โดยกล่าวว่า “ปฏิกิริยาของท่านอิมามจากการสูญเสียบุตรชายถือว่าเป็นความโปรดปรานที่เร้นลับของพระผู้เป็นเจ้า และบุคลิกภาพบางส่วนของท่านอิมามเกิดจากการอดทนในความโศกเศร้านี้”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ถึงมิติของการขัดเกลาและความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณของมัรฮูม ฮัจญ์ ซัยยิด มุสฏอฟา โคมัยนี อีกทั้งความสัมถะของท่านโดยกล่าวเสริมว่า “เป็นที่ทราบว่าท่านมัรฮูม เป็นบุตรของท่านอิมาม แต่ท่านไม่เคยใช้ประโยชน์ในความเป็นบุตรของท่านอิมามไปในทางที่ไม่ดีเลยแม้แต่น้อย”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า “ท่านมัรฮูม ฮัจญ์ ซัยยิดมุสฏอฟา โคมัยนี มีความรักและเป็นห่วงต่อท่านอิมามอย่างมาก และไม่เคยสร้างความไม่สบายใจให้กับท่านอิมาม”
ก่อนการปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ฮุจญตุลอิสลาม ระชาด ประธานจัดงานรำลึกมัรฮูม อยาตุลลอฮ์ ฮัจญ์ซัยยิด มุสฏอฟา โคมัยนี และท่าน มูฮัมมัด อะลี อันซอรี เลขานุการในการจัดงานดังกล่าวได้กล่าวรายงานถึงแผนงานการจัดงานรำลึกท่านมัรฮูมอยาตุลลอฮ์ ฮัจญ์ซัยยิด มุสฏอฟา โคมัยนี