เมื่อช่วงค่ำวันพุธที่ผ่านมา นาย รอญับ ฏ็อยยิบ เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกีพร้อมคณะเข้าพบ ท่านอยาตุลลอฮ์คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม โดยท่านเน้นถึงความจำเป็นในการขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของสองประเทศ และข้อตกลงความร่วมมือระหว่างอิหร่านกับตุรกี ในการแก้ไขปัญหาที่สำคัญของโลกอิสลาม ซึ่งถือว่าจะส่งผลดีเป็นอย่างมาก และท่านยังชี้ถึงผลประโยชน์ของอเมริกาและรัฐเถื่อนไซออนิสต์ในการลงประชามติการแบ่งแยกเอกราชของรัฐเคอร์ดิสถาน โดยกล่าวว่า "อย่าไว้เนื้อเชื่อใจต่ออเมริกาและชาติมหาอำนาจเป็นอันขาด เพราะพวกเขาต้องการที่จะจัดตั้งอิสราเอลแห่งใหม่ให้เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้"
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในโลกอิสลาม ซึ่งเริ่มต้นจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ในประเทศเมียนมาร์ จนถึงแอฟริกาเหนือ โดยกล่าวว่า " ในการเผชิญหน้ากับปัญหาต่างๆ หากอิหร่านและตุรกีต่างได้ร่วมมือและมีข้อตกลงกันในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง จะทำให้สองประเทศและโลกอิสลามได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน "
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังชี้ถึง ความจำเป็นในการขยายความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศทางด้านเศรษฐกิจ โดยกล่าวเสริมว่า " ช่างน่าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ในขณะที่เรามีศักยภาพอย่างมหาศาล แต่ทว่า ความร่วมมือทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศยังไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควรนัก ซึ่งจะต้องมีความพยายามในการสร้างความสัมพันธ์ให้มากยิ่งขึ้น "
ท่านผู้นำสูงสูดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวรู้สึกปลึ้มปิติต่อความร่วมมือระหว่างอิหร่านกับตุรกีในที่ประชุมเมืองอัสตานา เกี่ยวกับประเด็นซีเรียและวิธีการแก้ไขและหาทางออก โดยท่านกล่าวว่า " ประเด็นของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสและกลุ่มตักฟีรียังมิได้หมดไป สำหรับการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ จะต้องมีการวางรูปแบบแผนการณ์ในระยะยาวและมีความจริงจังอีกด้วย"
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังถือว่า การลงประชามติแยกเอกราชของรัฐเคอร์ดิสถานในอิรัคที่กำลังจะเกิดขึ้นถือเป็นการทรยศและเป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาค และท่านยังชี้ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อประเทศเพื่อนบ้าน โดยกล่าวว่า "อิหร่านและตุรกีจะมีมาตรการดำเนินการในการเผชิญกับเหตุการณ์ดังกล่าว และรัฐบาลอิรักจะต้องมีการปฏิบัติการณ์อย่างจริงจังในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ด้วยเช่นกัน"
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ความร่วมมือทางความคิด การตัดสินใจของหน่วยงานต่างๆด้านการเมือง การปกครองและเศรษฐกิจของอิหร่านกับตุรกีในการเผชิญหน้ากับปัญหานี้ คือ สิ่งที่สำคัญยิ่ง โดยกล่าวเสริมว่า "วิสัยทัศน์ของอเมริกาและรัฐบาลประเทศในยุโรปนั้น มีความแตกต่างกับวิสัยทัศน์ของอิหร่านและตุรกีในประเด็นดังกล่าว ในขณะที่อเมริกานั้นต้องการที่จะกระทำการกลั่นแกล้งอิหร่านและตุรกี ด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่ไว้ใจต่ออเมริกาและประเทศยุโรปในการแสดงจุดยืนออกมาของพวกเขาเหล่านั้น "
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าวเสริมอีกว่า " เหมือนดั่งที่ท่านประธานาธิบดีกล่าวไปแล้วนั้น จากเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้น ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์คนแรก คือ รัฐเถื่อนไซออนิสต์ และอันดับรองลงมาก็คือ อเมริกา "
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังชี้ถึงความพยายามของเหล่าศัตรูที่จะทำให้อิหร่านและตุรกีไม่สนใจใยดีในประเด็นสำคัญของภูมิภาค โดยกล่าวว่า" ขณะที่ชาติมหาอำนาจ โดยเฉพาะ รัฐเถื่อนไซออนิสต์นั้นต้องการที่จะสร้าง “อิสราเอลใหม่” ในภูมิภาค เพื่อสร้างความแตกแยกและข้อพิพาทให้เกิดขึ้นอีก"
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม เน้นว่า " จำเป็นที่เราจะต้องมีการกำหนดยุทธศาสตร์เกี่ยวกับประเด็นล่าสุดและยังต้องมีการดำเนินการอย่างจริงจังและรวดเร็วที่สุดในการเผชิญหน้ากับปัญหาที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้"