สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

ผู้บัญชาการสูงสุด เข้าร่วมเป็นประธานในพิธีการสำเร็จการศึกษาของมหาวิทยาลัยตำรวจ

ศัตรูจงรู้เถิดว่า การกดขี่การข่มขู่ของท่านนั้นไร้ความหมายต่อเรา

เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ (17กันยายน) ท่านผู้บัญชาการสูงสุด (ทุกเหล่าทัพ) เข้าร่วมเป็นประธานในพิธีการสำเร็จการศึกษาของนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยตำรวจ อามีน 

ในเริ่มต้น ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้อ่านซูเราะฮ์ฟาติฮะฮ์เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับบรรดาชะฮีดและยังขอพรต่อพระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงประทานฐานันดรอันสูงส่งให้แด่พวก 

หลังจากนั้นท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้เดินตรวจแถวกองร้อยตำรวจเกียรติยศ อาทิ ตำรวจตะเวนชายแดนและตำรวจจราจร 

อีกทั้งท่านผู้นำสูงสุดยังได้จับมือพร้อมทั้งสอบถามสารทุกข์สุกดิบของบรรดาทหารผ่านศึกที่ได้เสียสละด้วยความภาคภูมิใจ 

  ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ถึงประวัติความเป็นมาของชาติมหาอำนาจโดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกาและลิ่วล้อของมัน โดยมีความต้องการที่จะทำลายความมั่นคงในอิหร่าน แต่ทว่า หลังจากชัยชนะของการปฏิวัติอิสลาม โดยท่านยังกล่าวว่า "แม้ว่าจะมีการกระทำที่ชั่วร้ายและการกระทำที่นำไปสู่การบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศ ในช่วง 38 ปีที่ผ่านมาก็ตาม แต่ต้องเผชิญกับกองกำลังการพิทักษ์ประเทศ โดยเฉพาะตำรวจซึ่งเป็นเยาวชนที่มีศรัทธามั่น และมีความกล้าหาญในการยืนหยัดเพื่อรักษาความปลอดภัยของชาติ”

ท่านผู้นำสูงสุดยังชี้ถึงภารกิจอันหลากหลายของตำรวจที่มีอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ โดยกล่าวว่า "ไม่มีกองกำลังหรือองค์กรใดที่มีความสามารถเทียบเท่ากับกองกำลังของตำรวจ ท่ามกลางสายตาของประชาชน ด้วยเหตุนี้เอง จึงถือว่าเป็นความภาคภูมิใจยิ่งนักที่สาธารณรัฐอิสลามได้มีกองกำลังเช่นนี้ ซึ่งมีความสามารถในการปฏิบัติการที่เหมาะสม อีกทั้งยังมีความเข้มแข็งอีกด้วย”  

ผู้บัญชาการสูงสุด ยังเน้นว่า ด้วยการรักษาความปลอดภัยของตำรวจให้กับประชาชน เป็นผลให้ประเทศชาติได้รับความปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์รุนแรงในปัจจุบัน ด้วยการแทรกซึมของศัตรูเพื่อมุ่งหวังการหว่านเมล็ดพันธ์แห่งการก่อการร้ายในภูมิภาคนี้ให้เกิดขึ้น และถือว่าอเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทำให้ประเทศชาติมีความปลอดภัย ความสงบสุขและความมั่นคง ตลอดจนการเผชิญหน้าอย่างจริงจัง และการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ทุจริตและกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งบทบาทนี้จะต้องมีความเข้มแข็งให้มากยิ่งขึ้นในทุกๆวัน โดยผ่านจากการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ การวิจัยเชิงประจักษ์และการอบรมในศูนย์ต่างๆ อาทิ  มหาวิทยาลัยตำรวจ

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังเน้นว่า: เรามีตำรวจในสาธารณรัฐอิสลาม ที่จะต้องมีการปฏิบัติตามอัลกุรอาน ซึ่งจะทำให้เราสามารถบรรลุสู่จุดมุ่งหมายได้

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังเน้นถึงความจำเป็นต่ออำนาจที่มี ต้องมีด้วยกับความรักและความเมตตาต่อประชาชนโดยกล่าวว่า  การยึดมั่นในกฎหมายและความกล้าหาญในการปฏิบัติ คือหน้าที่หลักของกองกำลังตำรวจ 

ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังชี้ถึงบริบทของการไร้ความมั่นคงในภูมิภาค เกิดขึ้นจากการแทรกแซงที่ชั่วร้ายของอเมริกาและขบวนการยิวไซออนิสต์ในภูมิภาค และการรักษาผลประโยชน์ที่ไม่ชอบธรรม พร้อมทำให้ประเทศต่างๆ ได้รับความอ่อนแอ โดยท่านยังกล่าวเสริมว่า ในวันหนึ่ง พวกเขาเหล่านั้นได้สร้างกลุ่มไอซิสขึ้นมา และด้วยความสามารถและความพยายามของบรรดาเยาวชนที่กล้าหาญของเรา จึงทำให้จมูกของเหล่าศัตรูนั้นถูกลากถูไปกับพื้นดิน 

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า วิธีการเดียวในการเผชิญหน้าจากแทรกแซงของชาติมหาอำนาจโดยเฉพาะอย่างยิ่งอเมริกา ก็คือ การใช้ศักยภาพของประชาชาติและรัฐบาลต่างๆในภูมิภาค โดยกล่าวย้ำว่า: ถ้าเราถอยหลังหนึ่งก้าว ศัตรูก็จะก้าวเข้ามาอีกหนึ่งก้าว

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ถึงความเหิมเกริมของอเมริกาในข้อตกลงนิวเคลียร์และกล่าวเสริมว่า "ในกรณีนี้ พวกเขาได้แสดงถึงตัวตนที่ชั่วร้ายในความเป็นซาตานออกมา ซึ่งบ่งบอกถึงคำพูดของท่านอิมามผู้ทรงเกียรติที่กล่าวว่า อเมริกาคือซาตานตัวใหญ่ และแน่นอนยิ่ง การปกครองของสหรัฐอเมริกา ถือว่าเป็นการปกครองของซาตานที่ชั่วร้ายที่สุด 

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวถึงความพยายามทางด้านวิทยาศาสตร์ของนักวิชาการชาวอิหร่าน ในการบรรลุความรู้ทางด้านนิวเคลียร์โดยกล่าวว่า ตามที่ผู้เชี่ยวชาญและผู้สันทัดกรณีได้คาดการณ์ว่า ประเทศของเราจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าอย่างน้อยสองหมื่นเมกะวัตต์จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เพื่อที่จะผลิตไฟฟ้าไว้ใช้ในอีกหลายปีข้างหน้า ด้วยเหตุนี้ เพื่อเป็นตอบสนองความต้องการของชาติ อิหร่านจึงมีการดำเนินการทางด้านวิทยาศาสตร์และในการปฏิบัติ และการดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้อง อีกทั้งไม่เป็นอันตราย แต่ทว่าอเมริกากลับคัดค้านในความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของอิหร่านและประเทศอื่นๆ ดังนั้นการเผชิญหน้ากันจึงเกิดขึ้น และเป็นการยืนหยัดอย่างถูกต้องบนความอดทน จากกรณีการคว่ำบาตรอันไร้ซึ่งความชอบธรรมใดๆ

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า ในขณะที่รัฐบาลมีความเห็นว่าต้องมีการเจรจา และละทิ้งการพัฒนาบางอย่าง เพื่อแลกกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร ทว่าในวันนี้ แม้จะมีข้อตกลงสัญญาในการเจรจาอยู่มากมายก็ตาม ในทางกลับกัน อเมริกาได้ปฏิบัติต่อข้อสรุปของการเจรจาอย่างไร้ความเป็นธรรม มีการข่มขู่และการกลั่นแกล้งในทุกรูปแบบ

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้ตั้งคำถามว่า "ประชาชาติอิหร่านและเจ้าหน้าที่รัฐจะมีการดำเนินการในการเผชิญกับการขับเคลื่อนที่แฝงด้วยความโกรธของศัตรูได้อย่างไร?" และท่านยังเน้นว่า ถือเป็นความจำเป็นของเจ้าหน้าที่รัฐที่จะต้องมีการพิสูจน์ให้ชาติมหาอำนาจอย่างอเมริกาได้เห็นว่า ต้องพึ่งพาประชาชนและประชาชาติอิหร่าน คือประชาชาติที่มีศักยภาพด้วยกับความเป็นสิริมงคลของอิสลาม จะไม่ยอมก้มหัวให้กับอำนาจในการกดขี่ข่มเหงใดๆทั้งสิ้น 

 

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า  "พวกอเมริกาจะต้องรู้ว่าประชาชาติอิหร่านนั้นมีจุดยืนที่มีเกียรติยิ่งและมีอำนาจ อีกทั้งจะไม่ถอยหลังออกจากบริบทของสาธารณรัฐอิสลามเป็นอันขาด" 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังเน้นว่า: เหล่าศัตรูจงรู้ไว้เถิดว่า การกดขี่ข่มเหงและการข่มขู่ของพวกเขานั้นมีผลต่อประเทศอื่นๆ แต่ในสาธารณรัฐอิสลามกลับไม่มีผลใดๆทั้งสิ้น เพราะว่ารัฐอิสลามได้ยืนหยัดอย่างกล้าหาญ

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า สาเหตุของความเป็นศัตรูที่เพิ่มมากขึ้นกับอิหร่าน คือ การดลใจให้กับประชาชาติอื่น ๆ โดยกล่าวเสริมว่า เจ้าหน้าที่ๆชั่วร้าย จอมโกหกหลอกลวงได้กล่าวหาประชาชาติและสาธารณรัฐอิสลามว่าเป็นผู้โกหก ในขณะที่ประชาชาติอิหร่านได้มีการขับเคลื่อนและทำหน้าที่อย่างสุจริตบนเส้นทางนี้จนไปถึงจุดสิ้นสุด 

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวถึงเจ้าหน้าที่อเมริกาว่า คนที่โกหกคือพวกคุณ ซึ่งคนโกหกคือคนที่ไม่เคารพต่อประเทศอื่นใดๆ ในความเจริญและความก้าวหน้า อีกทั้งยังจะหาผลประโยชน์ที่ไม่ชอบธรรมให้กับตนอีกด้วย

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า "ประชาชาติอิหร่านได้ยืนหยัดอย่างมั่นคงและจะมีการตอบโต้ในกรณีการขับเคลื่อนที่ผิดพลาดของชาติมหาอำนาจในข้อตกลงนิวเคลียร์ที่จะต้องเผชิญกับปฏิกิริยาของสาธารณรัฐอิสลามอย่างแน่นอน" 

ในช่วงท้ายของการปราศรัย ท่านผู้บัญชาการสูงสุดทุกเหล่าทัพ ยังชี้ถึงปัญหาการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเน้นถึงความจำเป็นในการวางแผนอย่างละเอียดและรวดเร็วที่ครอบคลุมในการจัดการกับปัญหาและในประเด็นต่างๆ เช่น การต่อต้านการค้ายาเสพติดและการข่มขืน โดยกล่าวว่า ในประเด็นอุบัติเหตุบนท้องถนน จะต้องมีการดูแลจากกองกำลังตำรวจ และหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงคมนาคมและศูนย์อุตสาหกรรมทั้งหลายที่จะเป็นตัวกำหนดวิธีการป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าวและมีการแก้ไขในจุดด้อยของการปฏิบัติหน้าที่ของพวกเขา

ในพิธีการครั้งนี้  นายพล อัชตะรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กล่าวว่า ถือเป็นหน้าที่ๆสำคัญในการรับใช้ประชาชาติโดยมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดีในการช่วยเหลือประชาชน โดยกล่าวเสริมว่า "การส่งเสริมศักยภาพในภารกิจและความสามารถในการสู้รบ" "การจัดตั้งฐานในการปฏิบัติการ" “การป้องกันชายแดน” “การต่อสู้กับความทุจริตในรัฐอิสลามและความมั่นคงของประเทศ” ถือว่าเป็นแบบแผนงานหลักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นายพล บัคตียารี อธิการบดีมหาวิทยาลัยตำรวจอามีนได้กล่าวรายงานถึงการปฏิบัติการและรูปแบบแผนโครงการทางด้านวิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม การศึกษาและการอบรมและการเสริมสร้างความสามารถในการสู้รบของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ 

ในพิธีการนี้ บรรดาผู้บัญชาการ ผู้อำนวยการและอาจารย์ตัวอย่างจำนวนหนึ่งของมหาวิทยาลัยนายร้อยตำรวจได้รับมอบของขวัญจากผู้บัญชาการสูงสุดทุกเหล่าทัพและยังมีตัวแทนของมหาวิทยาลัยถึงสองคนได้รับมอบอินทรธนูโดยการติดบนบ่าจากท่านผู้นำสูงสุดอีกด้วย

การดำเนินการตามข้อตกลงกับผู้เสียสละและการออกกำลังกายเป็นส่วนหนึ่งของพิธีสำเร็จการศึกษาที่มหาวิทยาลัยตำรวจ 

นอกเหนือจากนี้ ยังมีการเดินสวนสนามและการซ้อมรบภาคสนามของบรรดาหน่วยต่างของกองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมส่วนหนึ่งในพิธีการสำเร็จการศึกษาของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยตำรวจในครั้งนี้ 

700 /