เมื่อช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ได้มีการจัดพิธีลงนามรับรองประธานาธิบดีสมัยที่สิบสอง ณ ฮุซัยนียะฮ์อิมามโคมัยนี โดยมีการเข้าร่วมของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐฯ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพ อีกทั้งบรรดาทุตานุทูตในประเทศต่างๆ โดยท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้ทำการลงนามแต่งตั้งฮุจญตุลอิสลาม ดร. ฮะซัน โรฮานี เป็นประธานาธิบดีสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านอีกครั้งจากคะแนนเสียงส่วนมากของประชาชนอิหร่าน
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การลงนามครั้งนี้เกิดขึ้นจากการเลือกตั้งและคะแนนเสียงส่วนมากซึ่งแสดงถึงความมั่นคงของสาธารณรัฐอิสลาม โดยท่านยังเน้นถึง การดำเนินการเศรษฐกิจต้านทานถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของประธานาธิบดี และกล่าวว่า: ท่านจะต้องมีความพยายามในการดำรงความยุติธรรมและการให้การสนับสนุนกับกลุ่มชนที่ยากไร้และการดำเนินการตามกฎหมายอิสลามอันบริสุทธิ์และเสริมสร้างความสามัคคีและศักดิ์ศรีแห่งชาติและให้ความสำคัญในขีดความสามารถและศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของประเทศ อีกทั้งการให้ความสำคัญในการรู้จักถึงคุณค่าและหลักการของการปฏิวัติอิสลามอย่างเปิดเผย
เนื้อหาของหนังสือการลงนามแต่งตั้งประธานาธิบดีสาธารณรัฐอิสลาม ซึ่งได้อ่านโดยฮุจญตุลอิสลาม มูฮัมมะดี ฆุลพัยกานี มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮ์ ผู้ทรงกรุณาปราณียิ่งเสมอ
ข้าพเจ้าขอกล่าวสรรเสริญต่อพระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงยิ่งใหญ่ที่ได้ทำการทดสอบประชาชาติของพระองค์ในการทดสอบทางด้านการเมืองและสังคม อีกทั้งยังทำให้ประชาชาติอิหร่านนั้นได้รับความภาคภูมิใจ และจากการเข้าร่วมของพวกเขาซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในการปกป้องศักดิ์ศรีและการรักษาความมั่นคงของประเทศและการจัดตั้งระบอบสาธารณรัฐอิสลาม
การเลือกตั้งที่ได้รับจากเสียงส่วนมากของประชาชน, การเข้าแถวที่ยาวเหยียดของบรรดาผู้ที่มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศและจากคะแนนเสียงตอบรับในการเลือกตั้งประธานาธิบดี จนในที่สุดก็ได้รับคะแนนเสียงส่วนมากในการเลือกตั้งบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งทั้งหมดนั้นบ่งบอกถึงสัญลักษณ์อันกระจ่างชัดในความสำเร็จของระบอบรัฐอิสลามและการยืนหยัดของประชาชนในรัฐอิสลาม และนี่คือหนึ่งในศักยภาพที่สำคัญที่สุดของประเทศ อันเป็นที่รักของเรา เพื่อที่จะได้บรรลุสู่อุดมคติอันสูงส่งของการปฏิวัติและเป็นหนึ่งในความหวังของอนาคตอันสดใสสำหรับประชาชาติและประเทศชาติต่อไป
บัดนี้ ด้วยกับความช่วยเหลือและพระคุณของพระผู้เป็นเจ้า ภายใต้ในร่มเงาแห่งวะลียุลลอฮ์ อะอฺศ็อม (ขอพระองค์ทรงให้เราเสียสละเพื่อท่าน) ด้วยสิริมงคลที่ประจวบเหมาะกับวันวิลาดัตของอิมามอะบุลฮะซัน อัรริฎอ (ขอความสันติพึงมีแด่ท่าน) และด้วยกับการยอมรับในคะแนนเสียงของประชาชน ข้าพเจ้าจึงขอลงนามแต่งตั้งฮุจญตุลอิสลาม ดร.ฮะซัน โรฮานี เป็นประธานาธิบดีสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านคนต่อไป ณ บัดนี้ อีกทั้งยังขอวิงวอนจากพระองค์ ขอให้เขานั้นประสบความสำเร็จในหน้าที่และการงาน และจะขอกล่าวเตือนอีกว่า หน้าที่นี้ถือว่าเป็นหน้าที่ๆสำคัญยิ่ง เป็นหน้าที่ๆได้รับความพึงพอพระทัยจากพระองค์ และเป็นเสบียงในการพบปะพระองค์ในวันปรโลก จงมีความพยายามในการดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรมและให้ความใส่ใจต่อกลุ่มชนที่ยากไร้ และการดำเนินการตามครรลองของกฏหมายอิสลามอันบริสุทธิ์ และการเสริมสร้างความสามัคคีและศักดิ์ศรีของชาติและการให้ความสำคัญต่อศักยภาพของประเทศและการรู้จักถึงคุณค่าและหลักการพื้นฐานของการปฏิวัติอิสลามและ ก็จงมีเชื่อมั่นเถิดว่า ประชาชาติที่มีความกล้าหาญนี้ในการรับใช้ประเทศชาติจากความอดทนในความยากลำบากและในการเผชิญหน้ากับชาติมหาอำนาจจะไม่ปล่อยให้ท่านอยู่อย่างเดียวดายเป็นอันขาด
ข้าพเจ้าจึงมีความจำเป็นที่จะต้องกล่าวถึงการดำเนินการในเศรษฐกิจต้านทานและการเพ่งความสนใจในการสร้างงานและการผลิตภายในประเทศ อีกทั้งจะขอย้ำอีกครั้งถึงคะแนนเสียงของประชาชาติและการลงนามแต่งตั้งท่านนั้นขึ้นอยู่กับการรักษาและระมัดระวังต่อกรอบและครรลองในแนวทางของการปฏิวัติอิสลาม
ท้ายที่สุดนี้ ข้าพเจ้าขอกล่าวรำลึกถึงท่านอิมามโคมัยนี ผู้ทรงเกียรติ และขอกล่าวสลามยังดวงวิญญาณของท่านและบรรดาชะฮีดทั้งหลาย
ขอกล่าวสลามไปยังบรรดาปวงบ่าวผู้ทรงคุณธรรมของพระองค์
ซัยยิดอะลี คาเมเนอี
4/ สิงหาคม/ 2017
ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวแสดงความยินดีเนื่องในวันวิลาดัตอิมามริฎอ (อ)ที่ประจวบเหมาะกับพิธีสาบานตนซึ่งถือว่าเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง และกล่าวว่า หนึ่งในความสำคัญของพิธีการนี้ ก็คือ การเริ่มต้นในการบริหารจัดการประเทศอีกสมัยหนึ่งที่ประธานาธิบดีรวมทั้งบรรดาเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของเขา จะต้องสร้างความพึงพอใจในการตอบสนองความต้องการของประชาชนและการใช้ศักยภาพที่มากกว่าในอดีตที่ผ่านมา โดยการมีนวัตกรรมใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ประชาชนนั้นมีบทบาทอย่างมากในการคัดเลือกผู้บริหารในระดับต้นของประเทศ โดยกล่าวเสริมว่า: พิธีการสาบานตนของประธานาธิบดีครั้งนี้ เป็นครั้งที่สิบสองหลังจากการปฏิวัติอิสลามซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงคะแนนเสียงและการเลือกสรรของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งนี่คือผลผลิตอันยิ่งใหญ่ของการปฏิวัติ
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามยังชี้ถึงการจัดตั้งรัฐสภาในสิบสมัย, สภาเทศบาลและหมู่บ้านอีกห้าสมัย และสภาผู้ชำนาญการจำนวนห้าสมัย ซึ่งทั้งหมดนั้นได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชนทั้งสิ้น โดยกล่าวว่า ก่อนการปฏิวัติอิสลาม ด้วยกับการมีอยู่ของเผด็จการ ประชาชนทั้งหลายนั้นไม่มีสิทธิ์ในการกำหนดผู้บริหารจัดการประเทศ แต่ด้วยกับการปฏิวัติอิสลามและความมุ่งมั่น ,ความศรัทธาอันมั่นคง ,การมีวิสัยทัศน์อันแจ่มแจ้ง ความกล้าหาญชาญชัยของวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ดั่งเช่น ท่านอิมามโคมัยนี ทำให้ประชาชนได้มีบทบาทและเป็นผู้เลือกสรรอย่างแท้จริงในการบริหารประเทศของพวกเขา
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังย้ำว่า เยาวชนหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ไม่ได้สัมผัสในยุคสมัยก่อนการปฏิวัติ แต่ด้วยกับบทบาทของประชาชนในการปกครอง ถือว่า เป็นผลผลิตอันยิ่งใหญ่ของท่านอิมาม ผู้ทรงเกียรติที่สามารถขับเคลื่อนมหาสมุทรแห่งประชาชาติ โดยได้มีการเปลี่ยนแปลงจากระบอบเผด็จการและการแทรกแซงของต่างชาติมาสู่ระบอบรัฐอิสลาม
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม เน้นถึงความภาคภูมิใจของระบอบประชาธิปไตยทางศาสนาและการมีบทบาทของประชาชนในการบริหารจัดการประเทศและการคัดเลือกเจ้าหน้าที่รัฐตลอดสี่สิบปีที่ผ่านมา และกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ในยุคสมัยนี้คือ ทายาทของสี่สิบปีที่ผ่านมา โดยการเพียรพยายามของบรรดาเจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่ได้มีจัดตั้งโครงสร้างทางทฤษฎีความรู้และการปฏิบัติที่ก่อนการปฏิวัติอิสลามนั้นมิได้เกิดขึ้นมาแต่อย่างใด
ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า โครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้จะนำไปสู่การขับเคลื่อนของประชาชาติในอนาคต โดยเน้นว่า บรรดาเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ จะต้องนำประสบการณ์ของสี่สิบปีที่ผ่านมาเป็นบทเรียน มาใช้ประโยชน์และโดยถือว่าสิ่งนี้คือทุนแห่งชาติที่บรรดาผู้บริหารประเทศได้รับสืบทอดติดต่อกันมา
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การอบรมเยาวชนรุ่นใหม่ด้วยกับการมีความคิดในการปฏิวัติและการมีแรงจูงใจอย่างเต็มรูปแบบและความพร้อมในการดำเนินการคือ หนึ่งในความเป็นสิริมงคลของการปฏิวัติอิสลาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้งหลายจะต้องนำมาปฏิบัติ และกล่าวเสริมว่า อีกหนึ่งในผลผลิตในช่วงสี่สิบปีของการบริหารสาธารณรัฐอิสลาม ก็คือ การที่ประชาชาติอิหร่านได้มีส่วนร่วมปฏิสัมพันธ์กับโลกและในขณะดียวกัน การเผชิญหน้ากับระบอบมหาอำนาจและการยืนหยัดในการต่อสู้กับผู้ประสงค์ร้ายอย่างจริงจัง
ท่านผู้นำสูงสุดยังตั้งข้อสังเกตในส่วนนี้ว่า : หนึ่งในสิ่งที่ข้าพเจ้าจะขอย้ำอีกครั้งเพื่อที่จะไม่มีการลืมเลือนก็คือ อย่าได้เพิกเฉยต่อกลยุทธ์ของศัตรูเป็นอันขาด
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวว่า เราไม่ควรลืมว่าศัตรูกำลังวางแผนการร้าย แต่ในอดีตที่ผ่านมาในสี่ทศวรรษ ประชาชาติและเจ้าหน้าที่ก็ได้รับประสบการณ์อันนั้นแล้ว
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ถึงการคว่ำบาตรต่างๆ นับจากการเริ่มต้นในชัยชนะของการปฏิวัติอิสลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหลายปีที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า แม้ว่าการคว่ำบาตรจะทำให้เกิดปัญหาต่างๆก็ตาม แต่จะทำให้เรานั้นได้สนใจในศักยภาพและขีดความสามารถในการผลิตและการใช้ประโยชน์ ซึ่งในทุกวันนี้อิหร่านจะมีความเข้มแข็งมากกว่าในปีแรกๆของการปฏิวัติอิสลามเสียอีก
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังชี้ถึงกลยุทธ์ต่างๆของศัตรูโดยกล่าวว่า ในหลายปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่บางคนเหมือนกับเจ้าหน้าที่คนปัจจุบันของอเมริกาได้เปิดเผยถึงความเป็นศัตรูกับอิหร่านและมีการใช้กลยุทธ์ต่างๆเหมือนกับการปฏิวัติในหลากสี ซึ่งแผนการณ์ร้ายเหล่านี้ทำให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่จะมีความเชื่อมั่นเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังมีวิธีการในการต่อกรกับกลยุทธ์ของศัตรูอีกด้วย
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม เน้นถึง ความไม่หวาดกลัวของสาธารณรัฐอิสลามต่อกลยุทธ์ต่างๆของผู้ประสงค์ร้าย ซึ่งศักยภาพอันมากมายของประเทศจะถูกนำมาใช้ในการเผชิญหน้ากับพวกเหล่านี้ และกล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลใหม่ จงรู้ไว้เถิดว่า ด้วยกับการมีศักยภาพอันมากมาย จะต้องนำมาใช้ประโยชน์ให้ถูกต้อง
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า รัฐบาลใหม่จะต้องเป็นรัฐบาลทที่มีอัตลักษณ์ของการปฏิวัติ ,การปฏิบัติงานญิฮาดี ,การใช้ประโยชน์จากการสนับสนุนของประชาชน และการใช้ทุนแห่งวัตถุและจิตวิญญาณของประเทศ
ท่านผู้นำสูงสุดยังอธิบายถึงสามวิธีการในการขับเคลื่อนของรัฐบาลใหม่โดยกล่าวว่า : "ปัญหาที่สำคัญอย่างยิ่งคือ “ปัญหาการดำรงชีพและเศรษฐกิจ” จะต้องถือเป็นปัญหาหลักของรัฐบาล “การมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางกับโลกและการสร้างปฏิสัมพันธ์กับประชาชาติและรัฐบาลต่างๆ” และ”การยืนหยัดต่อสู้กับชาติมหาอำนาจ” ทั้งหมดนี้คือ สามกระบวนการหลักที่รัฐบาลจะต้องถือว่าเป็นวาระแห่งชาติ
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า จอมเผด็จการอเมริกา คือ ผู้ละเมิดที่ไร้ยางอายจากบรรดาชาติมหาอำนาจ โดยเน้นว่า ตลอดช่วงสี่ทศวรรษที่ผ่านมาในการดำเนินการระหว่างประเทศแสดงให้เห็นถึงค่าใช้จ่ายในการให้ยอมรับในอำนาจของมหาอำนาจนั้นมีมากกว่าค่าใช้จ่ายในการยืนหยัดและต่อกรกับพวกเหล่านี้
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี เน้นถึงการยอมรับต่อชาติมหาอำนาจจะทำให้ประชาชาติพบกับความยากลำบากและความก้าวหน้าก็จะถูกปิดกั้นโดยกล่าวเสริมว่า สาธารณรัฐอิสลามนั้นไม่เคยยอมจำนนให้กับชาติมหาอำนาจและ ไม่มีการประนีประนอมกับพวกเขา และด้วยกับการเสียสละของบรรดาชะฮีดทำให้ในวันนี้อิหร่านนั้นมีความพัฒนาก้าวหน้าและมีความเข้มแข็ง อีกทั้งยังทำให้สโลแกนหลักได้เป็นที่รู้จักอีกด้วย
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้ให้คำแนะนำ สิบ คุณประการ แก่ประธานาธิบดีอิหร่านและคณะรัฐบาลของเขา โดยกล่าวว่า
"การมีความรับผิดชอบต่อความไว้วางใจของประชาชน '' การจัดเรียงลำดับความสำคัญในการวางแผนและค่าใช้จ่ายในการขจัดความยากจนและการทุจริต" และ "การดำเนินการโครงการแบบแผนที่หก” ทั้งหมดนี้คือ สามคำแนะนำแรกของท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี
ท่านผู้นำสูงสุดยังอธิบายถึงคำแนะนำที่สี่ กล่าวว่า ความเป็นเอกภาพของประชาชาติ ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง ฉะนั้นจงรักษาและระมัดระวังและอย่าได้แบ่งเป็นสองฝ่าย เพราะจะเป็นอันตรายต่อประชาชน
ท่านผู้นำสูงสุดยังชี้ถึงการมีรสนิยมที่แตกต่างกันของประชาชนและกล่าวว่า ให้ประชาชนมีรสนิยมที่แตกต่างกันซึ่งจะทำให้มีชีวิตนั้นมีความสงบสุข
ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามกล่าวถึงคำแนะนำที่ห้าว่า อย่ารีบตัดสินใจในทัศนะที่เห็นต่าง เพราะว่าภารกิจและหน้าที่รับผิดชอบนั้นมีข้อบกพร่อง ซึ่งจะต้องยอมรับในคำวิพากษ์วิจารณ์ในมุมมองต่างๆ
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าวถึงคำแนะนำต่อไปโดยการให้ความสำคัญของรัฐบาลในการรับใช้ประชาชนและการสร้างสัมพันธ์กับพวกเขาโดยตรง และคำแนะนำที่เจ็ดก็คือ ท่านจะต้องรู้ถึงคุณค่าของกองกำลังแห่งการปฏิวัติและศรัทธาที่มีแรงจูงใจ เพราะว่ากองกำลังเหล่านี้จะเป็นโล่คุ้มกันในการป้องกันปัญหาต่างๆ
คำแนะนำที่แปดของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามที่มีต่อบรรดาเจ้าหน้าที่ ก็คือ อย่าลืมในความเป็นศัตรูกับบรรดาศัตรู โดยกล่าวว่า ในการตัดสินใจและการปฏิสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จงจำไว้เถิดว่า ศัตรูจะใช้ความสามารถในการทำลายพวกท่านและจะใช้ข้ออ้างทุกรูปแบบ
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าวถึงการยิงขีปนาวุธส่งดาวเทียมครั้งล่าสุดของอิหร่านว่า การยิงขีปนาวุธส่งดาวเทียม ถือว่าเป็นการกระทำทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสำหรับประเทศอิหร่าน แต่ในกรณีนี้ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่
คำแนะนำอีกประการหนึ่งของท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี คือ การปฏิบัติการญิฮาดีในด้านเศรษฐกิจ,วัฒนธรรม ,การป้องกันประเทศและการรักษาอัตลักษณ์ของการปฏิวัติอิสลามในการต่อสู้กับกลยุทธ์ต่างๆของผู้ที่ประสงค์ไม่ดีต่อประเทศ
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังอธิบายถึงคำแนะนำที่สิบและถือว่าเป็นคำแนะนำประการสุดท้ายโดยกล่าวถึงบรรดาเจ้าหน้าที่ว่า จงมอบหมายกิจการต่อพระผู้เป็นเจ้าและมีความเชื่อในการช่วยเหลือจากพระองค์
ในช่วงท้ายท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังเน้นถึงการไม่หยุดนิ่งในการเผชิญกับผู้ที่ไม่รักษากฏหมายและการต่อต้านศาสนา โดยกล่าวว่า อนาคตของประเทศนั้นเป็นสิทธิของพวกท่าน
ในพิธีการนี้ ท่านโรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่านได้กล่าวแสดงความยินดีเนื่องในวันวิลาดัตอิมามริฎอและยังชี้ถึงชัยชนะของการปฏิวัติอิสลาม และผลผลิตของท่านอิมามโคมัยนี ผู้ทรงเกียรติ กล่าวคือ การมีความเชื่อมั่นในตนเอง ,การมีศักดิ์ศรี ,ความเป็นอิสระและเสรีภาพ โดยกล่าวเสริมว่า สำหรับการสร้างอนาคตในประเทศที่มีความเป็นอิสระ ,ความปลอดภัย สันติภาพและความก้าวหน้าจำเป็นที่จะต้องพึ่งพายังศักยภาพอันมากมายของประเทศ
ท่านโรฮานี ถือว่า การขจัดความยากจนและการทุจริต", "ปัญหาอัตราเงินเฟ้อ", "การเติบโตทางเศรษฐกิจ", "ความภาคภูมิใจของอิหร่านในแวดวงของต่างประเทศ" และ "การเข้าถึงตลาดในภูมิภาคและโลก"คือส่วนหนึ่งของสิทธิประชาชนและกล่าวว่า "การเจริญเติบโตอย่างเป็นอิสระทางจิตวิญญาณ "" การเข้าถึงข้อมูลอย่างง่ายดาย "" ความเท่าเทียมกันในข้อกฎหมาย "" การมีอนาคตที่แน่นอน "" การแสดงออกทางความคิดและการเจรจา "และ" การถือว่าเป็นกิจการของประเทศ" ก็คือส่วนหนึ่งของสิทธิของประชาชนเช่นกัน
ท่านประธานาธิบดี ยังชี้ถึง การรักษาความไว้วางใจที่มีต่อคะแนนเสียงของประชาชน โดยกล่าวว่า ประชาชนด้วยกับคะแนนเสียงของพวกท่านได้ให้สัตยาบันอีกครั้งกับระบอบรัฐอิสลาม ,ผู้นำสูงสุดและรัฐบาล ถือว่าเป็นหน้าที่อันใหญ่หลวงที่วางบนบ่าของพวกเรา
ท่านโรฮานี ถือว่า ระบอบประชาธิปไตยทางศาสนา คือหนึ่งในสิริมงคลของสาธารณรัฐอิสลามและกล่าวว่า ผลผลิตนี้ ไม่เป็นที่สงสัยเลยว่า ได้รับมาจากท่านอิมามโคมัยนี ผู้ทรงเกียรติและท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลในเชิงกลยุทธ์และการเจริญเติบโตของบุตรหลานนักปฏิวัติก็ด้วยกับการมีรสนิยมทางการเมืองที่แตกต่างกัน
ท่านประธานาธิบดี ถือว่า "ความยุติธรรมทางสังคม" และ "การขจัดความยากจน" คือหนึ่งในอุดมคติของการปฏิวัติอิสลาม และกล่าวว่า รัฐบาลสมัยที่สิบเอ็ดได้มีการดำเนินการโดย"การเรียกคืนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ", "ลดปัญหาอัตราเงินเฟ้อ" และ "การเพิ่มในการให้บริการทั่วไป" รวมทั้งการให้ความอนุเคราะห์กับประชาชนและการจัดตั้งระบบแบบแผนพัฒนาสุขภาพ ทั้งหมดนั้นเป็นการดำเนินการที่สำคัญ ซึ่งขณะนี้ สถานการณ์ทางด้านการขจัดความยากจนยังไม่เหมาะสมกับความต้องการของประชาชาติและสาธารณรัฐอิสลาม
ท่านโรฮานี กล่าวว่า จุดประสงค์ที่รัฐบาลสมัยที่สิบสอง ก็คือ "การขจัดความยากจนให้หมดจากสังคมอิหร่านอย่างสิ้นเชิง" และ "การสร้างระบบรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมสังคม" และกล่าวเสริมว่า การขจัดความยากจนนั้นขึ้นอยู่กับการสร้างงานและการสร้างงานและความมั่งคั่ง จะต้องมีการลงทุนขนาดใหญ่และการเข้าถึงตลาดและเทคโนโลยีที่ทันสมัยอีกด้วย
ประธานาธิบดีอิหร่าน ถือว่า นโยบายหลักของรัฐบาลสมัยที่สิบสองก็คือ "การเพิ่มกำลังในการผลิตและการสร้างงาน" และกล่าวว่า เราได้วางแบบแผนทางเศรษฐกิจ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของนโยบายทั่วไปของรัฐ โดยเฉพาะนโยบายด้านเศรษฐกิจต้านทานและในมาตราที่สี่สิบสี่ โดยมีการวางแบบแผนในการปฏิวัติทางเศรษฐกิจ
ท่านโรฮานี ยังเน้นถึงความจำเป็นในการมีปฏิสัมพันธ์กับโลก โดยกล่าวว่า การที่จะต้องผ่านจากความยากลำบากในการคว่ำบาตรโดยมีการรวมกันของอำนาจทางการทูต และการใช้ศักยภาพในการป้องกันอย่างถูกต้อง
ท่านประธานาธิบดี ถือว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์ เป็นสัญญาณของการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีของอิหร่านต่อโลก และกล่าวว่า ในขณะนี้ ด้วยกับการสนับสนุนของประชาชาติ ทีได้สร้างวีรกรรมที่ยิ่งใหญ่ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญแห่งชาติ
ท่านโรฮานี ถือว่า การสิ้นสุดในการเลือกตั้ง เป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และกล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่เราจะได้มาร่วมกันพูดคุยกันและการเลือกหาแนวทางที่ดีที่สุด อีกทั้งการใช้พลังงานและนวัตกรรมของหน่วยงานต่างๆที่มีความคิดสร้างสรร
และเช่นกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอิหร่านได้กล่าวรายงานถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่สิบสอง
ท่านเราะฮ์มานี ฟัฎลี ถือว่า สาส์นที่สำคัญที่สุดในการเข้าร่วมของประชาชนในการเลือกตั้ง ก็คือ การมีศรัทธายังอุดมคติที่แท้จริงของการปฏิวัติอิสลาม โดยกล่าวเสริมว่า ความปลอดภัย ,ความมั่นคง, การปฏิบัติตามข้อกฎหมายและการเข้ามามีส่วนร่วมในเสียงส่วนมาก คือ สี่องค์ประกอบหลักในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่ผ่านมา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอิหร่าน ยังชี้ถึง การดำเนินการในการเลือกตั้งคือ การรักษาคะแนนเสียงของประชาชน และความปลอดภัยในการเลือกตั้ง โดยกล่าวว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดี มีกล่องลงคะแนนเสียงทั้งหมด หกหมื่นสองพันสามร้อยแปดสิบเอ็ด กล่องด้วยกันทั่วประเทศ และมีการเลือกตั้งในหนึ่งร้อยสามประเทศ จนในที่สุดสภาคัดกรองแห่งชาติก็ได้มีมติวินิจฉัยในความถูกต้องของการเลือกตั้งโดยปราศจากคะแนนเสียจากคะแนนทั้งหมดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่สิบสอง