งานรับขวัญวัยบาลิฆซึ่งเป็นงานแห่งการเฉลิมฉลองที่มีชีวิตชีวาโดยมีนักเรียนสองพันคนจากโรงเรียนต่างๆในกรุงเตหะราน ได้จัดขึ้นเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ณ ฮูซัยนียะห์อิมามโคมัยนี(รฎ)
ในงานที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุขีและความถวิลหาในการเป็นบ่าวของพระองค์นั้น บรรดาเยาวชนผู้ศรัทธาได้ร่วมกันนมาซมัฆริบและอิชา ภายใต้การนำของท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวให้โอวาทในงานครั้งนี้ว่า การรับขวัญวัยบาลิฆเป็นการเฉลิมฉลองที่ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าและเข้าหาสู่พระองค์อย่างใกล้ชิดและถือเป็นการได้รับโอกาสในภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์จากพระผู้อภิบาลเพื่อให้บรรลุความผาสุกและความรุ่งโรจน์ และกล่าวว่า มนุษย์ได้เรียนรู้ประสบการณ์จากเหตุการณ์และขั้นตอนต่างๆของการดำเนินชีวิต ซึ่งต้องใช้ความกล้าหาญในการเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้เพื่อบรรลุซึ่งความภาคภูมิใจทางโลกและเกียรติยศศักดิ์ศรีของพระผู้อภิบาลอันเป็นเกราะแห่งความแข็งแกร่งทางจิตวิญญาณ
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึง “ช่วงเวลาแห่งการเข้าสู่วัยบรรลุนิติภาวะ” ด้วยการทบทวนให้เห็นถึงคุณค่าของการเข้าสู่วัยบรรลุนิติภาวะทางจิตวิญญาณ ว่า เคล็ดลับแห่งความก้าวหน้าของบุคคลและสังคมอยู่ที่การรักษาความสัมพันธ์กับอัลลอฮ์(ซบ) และในวันนี้ข้อเสียที่สำคัญของอารยะธรรมตะวันตกที่กำลังตกต่ำและลดลงนั้นเพราะตัดขาดความสัมพันธ์กับพระเจ้า(อัลลอฮ์ ซบ)
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า แนวทางที่ดีที่สุดในการสร้างสัมพันธ์กับพระองค์ คือ “นมาซ และการอ่านอัลกุรอาน” พร้อมกับกล่าวเสริมว่า การให้ความสำคัญในข้อเท็จจริงต่อคู่สนทนาของมนุษย์ในการนมาซ “นั่นคือเอกองค์อัลลอฮ์(ซบ)ผู้ทรงอำนาจและเกรียงไกร” นั้น จะนำมาซึ่งความไว้วางใจ ความกล้าหาญและความมั่นใจในตัวเอง ดังนั้นจงทำการนมาซต้นเวลา ให้ความสำคัญต่อการนมาซอย่างจริงจัง และสร้างสัมพันธ์กับอัลกุรอาน ความหมายอันสว่างไสวของอัลกุรอานและการชี้นำทางให้มั่นคงและผูกพันอยู่ตลอดเวลา
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงความพยายามของศัตรูที่มีอิทธิพลทางการเมืองเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศและหนึ่งในเป้าหมายของศัตรูคือการแทรกซึมและมีอิทธิพลต่อวัยรุ่นและบรรดาเยาวชน และกล่าวเสริมว่า เยาวชนที่รักของเราซึ่งในวันนี้เป็นลูกหลานของประชาชาติอิหร่าน และจะเป็นสุภาพบุรุษและผู้บริหารประเทศในอนาคตจะต้องแสดงบทบาทอย่างแท้จริงในการมีส่วนร่วมและมีความสดใสเบิกบานในสังคมด้วยการปกปักษ์รักษาเมื่อได้ทำการเผชิญหน้ากับแผนการร้ายของศัตรู
“มีความรอบรู้ในศาสตร์วิชาการและการเรียนรู้” และ “สร้างความพร้อมต่อสุขภาพร่างกายสติปัญญาและจิตวิญญาณ” เป็นอีกคำแนะนำหนึ่งจากท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามที่ได้กล่าวให้กับบรรดาเยาวชนในครั้งนี้
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงแนวทา
ที่จะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงโดยผ่าน "การออกกำลังกายและโภชนาการที่เหมาะสม" และการให้ได้มาซึ่งสุขภาพทางจิตวิญญาณ โดยผ่าน "การเข้าหาพระองค์ การนมาซ การวิงวอนขอดุอาอ์และรำลึกบรรดาชะฮีด" และกล่าวเสริมว่า การสร้างสุขภาพจิตนั้นควรอ่านและศึกษาหนังสือและตำราของบรรดานักคิดและนักเขียนที่ดี
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการศึกษาและการขัดเกลาตนเองอันเป็นเงื่อนไขของการบรรลุชีวิตที่ดีกว่าในวันพรุ่งนี้ และกล่าวเสริมว่า โอ้เยาวชนที่รักทั้งหลาย อนาคตของประเทศนี้เป็นของพวกท่าน และพวกท่านจะเป็นผู้บริหารประเทศและสร้างประวัติศาสตร์นี้ ดังนั้นจงใช้โอกาสนี้ในการสร้างความพร้อมสำหรับวันนั้น
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามยังได้แนะนำกำชับให้บรรดาเยาวชนเรียนรู้แบบอย่างจากบรรดาชุฮาดาอ์ และกล่าวเสริมว่า บรรดาชุฮาดาอ์ที่เป็นที่รักของเรานั้นในช่วงวัยหนุ่มต่างได้เสียสละตนในการป้องกันอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประเทศและเพื่อขจัดความชั่วร้ายของศัตรู ได้ทำการอุทิศพลีสินทรัพย์ที่มีค่ามากที่สุดคือการเสียสละชีวิตของพวกเขาในทางของอัลลอฮ์ และการอ่านหนังสือที่หอมหวานและมีเสน่ห์ดึงดูดในการพิทักษ์ปกป้องอันศักดิ์สิทธิ์ จะทำให้หัวใจของพวกท่านคุ้นเคยกับความเสียสละและความกล้าหาญของบรรดาชุฮาดาอ์
ในช่วงท้ายท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ทำการแนะนำกำชับให้บรรดาเยาวชนเห็นถึงคุณค่าของบุพการี ให้การเคารพ ให้เกียรติและตอบแทนในความรักความเอ็นดูของพวกเขา