เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 11  ธันวาคม  ฮุจญตุลอิสลาม อัมมาร ฮะกีม  ประธานสมาพันธ์ชีอะห์แห่งชาติอิรักและคณะสมาชิกสภาได้เข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม  ในการนี้ท่านผู้นำสูงสุด  ได้แสดงออกและชื่นชมในการก่อตัวของพันธมิตรในกลุ่มต่างๆของชีอะห์ในอิรัก ว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญ  และย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องรักษาและเสริมสร้างรากฐานของความสามัคคีนี้ และมีมุมมองเฉกเช่นผู้เป็นบิดาที่คอยห่วงใยและขานรับทุกกลุ่มชนและทุกชาติพันธุ์และนิกายต่างๆในอิรัก 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้แสดงความยินดีเนื่องในวาระคล้ายวันประสูติของท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)และท่านอิมามญะอ์ฟัร อัศศอดิก(อ) และชัยชนะที่สามารถปลดปล่อยเมืองโมซูล  และถือว่า ประธานและสมาชิกสภาแห่งชาติและทุกขบวนการที่อยู่ภายใต้พันธมิตรแห่งชาติชีอะห์ในอิรักมีภารกิจที่หนักอึ้ง และทุกๆการตัดสินใจจะมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของพวกเขาใน "อิรัก ภูมิภาคและศาสนาอิสลาม”  และย้ำว่า การบรรลุเป้าหมายของพันธมิตรที่ทรงค่าแห่งชาตินั้น จะต้องอาศัยการทำงานร่วมกันและความสามัคคี และเพื่อให้มีการดำเนินการในรูปแบบนี้อย่างต่อเนื่องจำเป็นที่จะต้องมีความระมัดระวัง 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า หนึ่งในงานหลักที่สำคัญของพันธมิตรแห่งชาติคือให้การสนับสนุนรัฐบาลอิรัก  พร้อมกับแสดงความพึงพอใจกับการกระทำของรัฐบาลอิรักภายใต้การนำของอัลอิบาดีย์ที่ให้การตอบรับและร่วมมือกับกลุ่มขบวนการอัชดุลชะอ์บีย์   และกล่าวย้ำว่า อัชดุลชะอ์บีย์ คือกองกำลังอาสาภาคประชาชนซึ่งเป็นความมั่นคั่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและทรัพยากรที่ทรงค่าสำหรับอิรักทั้งในวันนี้และวันพรุ่งนี้ซึ่ง ควรที่จะได้รับการสนับสนุนและความเข้มแข็ง  

ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึงประเด็นวิทยาศาสตร์และการวิจัยเพื่อความก้าวหน้าและเพิ่มขีดความสามารถของอิรักอันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และกล่าวเสริมว่า ควรมีการเสริมสร้างความเข้มแข็งและรากฐานของวิทยาศาสตร์และการวิจัยในมหาวิทยาลัยในอิรักและจำต้องได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่อเมริกาและศัตรูอื่น ๆของอิรักได้ทำการสังหารนักวิทยาศาสตร์ของประเทศจำนวนมาก 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้แนะประเด็นหนึ่งที่มีความสำคัญแก่พันธมิตรชีอะห์ในอิรัก ว่า อย่าไว้วางใจอเมริกาอย่างเด็ดขาด  

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวในประเด็นนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐจะไม่เห็นด้วยกับความแข็งแกร่งของบรรดาประเทศมุสลิม อย่างเช่นอิรักเสมอมา และจะต้องไม่ปล่อยให้การสร้างภาพและรอยยิ้มของพวกเขาหลอกลวงพวกท่านได้ 

ท่านผู้นำสูงสุดยังได้ย้ำถึงคำเตือนที่มักจะกล่าวอยู่เสมอต่อการปฏิวัติอิสลามของเราที่จะไม่มีวันไว้วางใจอเมริกา ว่า เราในสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ทุกครั้งที่เราปฏิบัติตามคำแนะนำสั่งเสียนี้เราจะได้รับประโยชน์ และเมื่อใดก็ตามที่เราหลงลืมมันเราก็จะพบกับความสูญเสีย 

ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึงในเรื่องของการขาดความเชื่อมั่นในอเมริกาโดยชี้ไปยังประเด็นหนึ่งว่า  พวกเขาจะปฏิบัติตรงข้ามกับคำกล่าวอ้าง พวกเขาไม่ต้องการที่จะถอนรากถอนโคนกลุ่มก่อการร้ายตักฟีรี และพวกเขามีความพยายามที่จะรักษาส่วนหนึ่งของกลุ่มก่อการร้ายไว้เพื่อเป้าหมายต่างๆ ในอนาคตของตน 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า ขณะนี้ในเมืองโมซุลของอิรัก และในซีเรียก็เช่นกัน รัฐบาลอเมริกาไม่ต้องการให้กลุ่มก่อการร้ายตักฟีรีพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ 

ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึงการขายน้ำมันของอิรักโดยไอซิส ว่า  ในห้วงเวลาดังกล่าวอเมริกาได้เพียงแค่ดูการเคลื่อนไหของรถบรรทุกน้ำมันเท่านั้น และพวกเขาก็ไม่ได้กำหนดเป้าหมายในการโจมตีแต่อย่างใด ดังนั้นจึงไม่ควรไว้วางใจอเมริกาอย่างเด็ดขาด  

ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึงอนาคตอันสดใสของอิรักซึ่งจะมีอนาคตที่ดีกว่าและมีสถานการณ์ที่ดีกว่าวันนี้ และย้ำกล่าวว่า ความก้าวหน้าของอิรักจะเป็นประโยชน์สำหรับสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน และการประสานความร่วมมือกันมากยิ่งขึ้นระหว่างสองประเทศก็จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย 

ในช่วงท้ายในการพบปะครั้งนี้ ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นและการต้อนรับของบรรดาเจ้าหน้าที่และประชาชานชาวอิรักที่มีต่อบรรดาผู้แสวงบุญเดินเท้าอัรบะอีนฮุซัยนี  และถือว่าการเดินเท้าอัรบะอีนฮุซัยนีนั้นเป็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ครั้งประวัติการณ์

ในช่วงแรก ฮุจญตุลอิสลาม ฮะกีม ประธานสมาพันธ์ชีอะห์แห่งชาติอิรัก กล่าวขอบคุณในคำแนะนำและการชี้นำจากท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี  และการสนับสนุนของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน จากนั้นได้รายงานกระบวนการก่อตัวกลุ่มพันธมิตรแห่งชาติและมาตรการ  พร้อมกับอวยพรสำหรับความสำเร็จและชัยชนะล่าสุดในอิรักซีเรียและเยเมน  และกล่าวว่า หนึ่งในผลลัพธ์ที่สำคัญของพันธมิตรแห่งชาติของชีอะห์ในอิรักคือการยอมรับและบรรจุกลุ่มขบวนการอัชดุลชะอ์บียในกฎหมายของประเทศ นอกเหนือจากได้รับการโหวตเป็นตัวแทนของพันธมิตรแห่งชาติแล้ว  พันธมิตรแห่งชาติชีอะฮ์สามารถดึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกลุ่มอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเข้ามาร่วมพันธมิตรอีกด้วย