เมื่อช่วงเช้าวันพุธที่ผ่านมา บรรดาอาสาสมัครบาสิจญ์ นับพันคนเข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า บาสิจญ์ คือ ทหารของการปฏิวัติ สัญลักษณ์ของประชาธิปไตยแบบศาสนาและพึงพาบาศีรัต ย้ำถึงความจำเป็นในการวางแผนอย่างระมัดระวังและตรึกตรองอยู่บนพื้นฐานความคิดเห็นของคณะกรรมการ เพื่อเสริมสร้างการทำงานร่วมกันสำหรับชนชั้นที่แตกต่างกันของอาสาสมัคบาสิจญ์ในการระดมสถานะภาพที่แข็งแกร่งและมีอิทธิพลในรูปแบบต่างๆในสังคม และย้ำกล่าวว่า จิตวิญญาณของบาสิจญ์คือ การตระหนักว่าพระเจ้าคงอยู่กับเราเสมอในทุกที่ทุกเวลา โดยที่ไม่สิ้นหวัง ไม่ซึมเศร้าและไม่พบกับทางตัน ดังนั้นในการตอบสนองต่อคนอ่อนแอที่ทุกข์ทรมานจากความกลัวของศัตรูและจิตวิญญาณของ "ที่ไม่มีความสามารถ" เราต้องกล่าวว่า ด้วยการพึ่งพาอาศัยอำนาจของพระเจ้าและเชื่อมั่นในพลังของการปรากฏตัวของประชาชนจะสามารถเอาชนะความยากลำบากทั้งหมดและไม่มีวันเกรงกลัวต่ออำนาจใดๆทั้งสิ้น
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การเดินขบวนวันอัรบะอีนฮุซัยนีอย่างยิ่งใหญ่นั้น คือ “ปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์แห่งยุคสมัย” และสำแดงถึง "พลังอำนาจของพระเจ้า" และกล่าวเสริมว่า ในปรากฏการณ์และการลุกฮือที่ยั่งยืนและยิ่งใหญ่อาทิเช่น การเดินขบวนวันอัรบะอีนฮุซัยนี หรือกรณีตัวอย่างของการยึดรังโจร (สถานทูตอเมริกา) เหตุการณ์ วันที่ 9 เดือน เดย์ ปี 88 และการอิอ์ติกาฟ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากการโฆษณาชวนเชื่อซึ่งเราจะเห็นพลังอำนาจของพระองค์เหนือสิ่งใดในทุกๆที่
ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า ชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามอิหร่านก็เป็นอีกกรณีตัวอย่างหนึ่งของปรากฏการณ์แห่งพระผู้เป็นจ้า และกล่าวเสริมว่า พลังอำนาจจากพระผู้เป็นเจ้าสามารถประจักษ์ชัดและโดดเด่นยิ่งต่อการปรากฏตัวของประชาชนและการก่อรูปของการปฏิวัติอิสลามอิหร่าน และท่านอิมามโคมัยนี(ฎ)ได้กล่าวว่า ตลอดการปฏิวัติอิสลามอิหร่านนั้นฉันเห็นพลังอำนาจของพระผู้เป็นเจ้าที่คอยให้การช่วยเหลือและอยู่เบื้องหลังการปรากฏตัวอย่างยิ่งใหญ่ของประชาชนเสมอมา
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า การปรากฏตัวของประชาชนนับล้านๆคนในปรากฏการณ์แห่งพระผู้เป็นเข้าในการเดินขบวนวันอัรบะอีนฮุซัยนี บ่งชี้ถึง “ความรักความถวิลหา และพลังดึงดูดที่ควบคู่กับบาศิรัต” และกล่าเสริมว่า ขอต้อนรับและแสดงความยินดีแด่ผู้ซิยารัตที่ได้รับโอกาสในการเดินเท้าอัรบะอีนครั้งยิ่งใหญ่นี้ ขอให้การซิยารัตถูกตอบรับ และขอขอบคุณประชาชนชาวอิรักที่ให้การต้อนรับคลื่นมหาชนอย่างอบอุ่น และความรักความเมตตา ในการบริการต้อนรับในครั้งนี้
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า ปัจจัยที่จะทำให้ปรากฏการณ์แห่งการเดินขบวนนี้เป็นอมตะ และการคงอยู่อย่างน่าอัศจรรย์นี้ตลอดไปนั้น คือการขอบคุณพระผู้อภิบาล และกล่าวเสริมว่า การขอบคุณอย่างแท้จริงนั้นก็แสดงออกในภาคปฏิบัติ เหมือนกับประชาชาติอิหร่านที่มีความเสียสละที่ได้ขอบคุณนิอ์มัตของการปฏิวัติอิสลาม ดังนั้นควรขอบคุณต่อ นิอ์มัตของอัรบะอีนให้คงอยู่ต่อไป รักษาด้วยจิตวิญญาณ และสภาพจิตวิญญาณที่ได้รับมาในช่วงของการเดินทางจิตวิญญาณครั้งนี้ให้คงอยู่ต่อไป เช่น ความเป็นพี่น้องกัน ความรักความเมตตา การให้ความใส่ใจในเรื่องวิลายัตและความพร้อมในการปรากฏตัวที่ยากลำบากในภาคสนาม
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า สื่อบางอย่างของโลกมีความพยายามที่จะบิดเบือนหรือลบเลือนปรากฏการณ์อันเจิดจรัสแหงการเดินขบวนอัรบะอีนฮุซัยนี แต่ก็ล้มเหลว และนิอ์มัตอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้สำหรับประชาชาติอิหร่านและอิรักจะเป็นนิอฺมัตที่ยั่งยืนและนำมาซึ่งศักดิ์ศรีและเกียรติยศอย่างแน่นอน
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า บาสิจญ์คือปรากฏการณ์ที่น่าอัศจรรย์ของการปฏิวัติอิสลาม และกล่าวเสริมว่า อิหม่ามผู้ที่รักยิ่งของเราที่ได้รับการฝึกฝนและแรงบันดาลใจจากพระองค์ เป็นผู้วางรากฐานของต้นไม้ที่มีความจำเริญนี้ และได้มอบหมายให้เยาวชนเป็นผู้ดูแลชะตากรรมของการปฏิวัติ
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ตอกย้ำว่า การดูแลรักษาและการป้องกันการปฏิวัตินี้เป็นภาระหน้าที่ของชาวอิหร่านทั้งหมด และบรรดาเยาวชนคือใบพัดและมอเตอร์ในการขับเคลื่อนครั้งยิ่งใหญ่นี้ พร้อมกับเสริมกล่าวว่า การขับเคลื่อนของเยาวชนบาสิจญ์จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน ทว่าเงื่อนไขของความสำเร็จคือ การมีความยำเกรงในตัวบุคคล และกลุ่มชนอีกทั้งปฏิบัติอะมั้ลที่ดี ซึ่งสองปัจจัยที่สำคัญนี้นำมาซึ่งการดึงดูดการช่วยเหลือและการอยู่เคียงข้างกับพระองค์
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึงกรณีตัวอย่างของนบีมูซากับฮารูน ที่มีมือเปล่าในการเผชิญหน้ากับฟาโรห์มหาอำนาจผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคสมัยว่า พระองค์อัลลอฮ์ ทรงกล่าวกับนบีมูซาว่า “เจ้าอย่าได้หวาดกลัวเลย ฉันจะอยู่เคียงข้างกับเจ้า ทรงเห็นและทรงรับรู้ทุกอย่าง” จากนั้นท่านนบีมูซาได้ตอบแก่ชาวบนีอิสราเอลหลังจากที่พวกเขาได้เห็นกองทัพของฟาโรห์แล้วมีความหวาดกลัวและกล่าวว่า พวกเขาต้องฆ่าเราอย่างแน่นอน นบีมูซากล่าวตอบว่า ไม่.. พระผู้อภิบาลทรงอยู่กับฉัน และจะทรงชี้นำฉัน
ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า การรักษาให้พระองค์คงอยู่เคียงอย่างเช่นนี้นั้นต้องมีความยำเกรงและปฏิบัติอะมั้ลที่สอและห์ พร้อมกับกล่าวเสริมว่า หากสามารถรักษาสถานะให้พระองค์คงอยู่เคียงอย่างเช่นนี้แล้ว แม้นว่าอำนาจอันแข็งแกร่ง 10 เท่าของอเมริกาก็ไม่สามารถที่จะเอาชนะและครอบงำเราได้อย่างแน่นอน
จากนั้นท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ห้าหัวข้อที่สำคัญซึ่งควรคำนึงถึงในการดำเนินการวางแผนในระบบกลไกการทำงานของบาสิจญ์
การพึ่งพายังบาศีรัตของบาสิจญ์ คือหัวข้อแรกที่สำคัญ โดยท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวว่า บาสิจญ์ไม่ใช่การเคลื่อนไหวที่อยู่บนพื้นฐานแห่งความรู้สึก แต่อยู่บนพื้นฐานแห่งการพึ่งพาการเข้าใจอย่างถ่องแท้ และมีบาศีรัต และการกำหนดดัชนีชี้วัดนี้จำต้องรักษาให้คงอยู่ในบาสิจญ์นี้ตลอดไป
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงหัวข้อที่สอง การแผ่ขยายในวงกว้างของบาสิจญ์สำหรับประชาชนทุกภาคส่วนและการไม่แบ่งขั้วถือเป็นหัวข้อที่สองที่สำคัญ และกล่าวเสริมว่า บาสิจญ์คือทหารของการปฏิวัติ และหากมีความแตกแยกเป็นสองขั้วแล้ว มันคือ ขั้วของ “สนับสนุนปฏิวัติ” และ “ต่อต้านการปฏิวัติ” เนื่องจาก สามารถดึง “กลุ่มที่ไม่เอาปฏิวัติ” มาเป็นแนวร่วมได้
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า การเสริมสร้างชนชั้นต่างๆเข้าร่วมในบาสิจญ์ เป็นหัวข้อที่สามสำหรับการขับเคลื่อนที่สำคัญของบาสิจญ์ และกล่าวเสริมว่า การแผ่ขยายของบาสิจญ์ต้องครอบคลุมประชาชนในทุกภาคส่วน และจำต้องมีกลไกและวิธีการที่เหมาะสมและสอดคล้องสำหรับการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกัน
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้อธิบายหัวข้อที่สี่ที่สำคัญสำหรับการปรากฏตัวที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ โดยชี้ถึงประเด็น “บาสิจญ์คือสัญลักษณ์ของประชาชนในแบบประชาธิปไตยแบบศาสนาและอิสลาม” และกล่าวเสริมว่า บางคนจินตนาการว่า ประชาชนแบบประชาธิปไตยแบบศาสนาคือการปรากฏตัวในศูนย์การเลือกตั้งและการออกมาใช้สิทธิ์เท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วสิ่งนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของประชาธิปไตยแบบศาสนา ซึงความหมายที่แท้จริงนั้นคือ ประชาชนที่มีชีวิตในสังคมของตนแบบประชาธิปไตยที่วางอยู่บนพื้นฐานของศาสนาอิสลาม
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ย้ำว่า บนพื้นฐานของการนิยามดังกล่าว บาสิจญ์คือ สัญลักษณ์ของประชาชนแบบประชาธิปไตยแบบศาสนาในทุกภาคส่วนของการดำเนินชีวิต และกล่าวเสริมว่า ด้วยมุมมองดังกล่าว หากบาสิจญ์เข้าสู่สนามของเศรษฐกิจแบบยั่งยืนและวิทยาศาสตร์แล้ว เศรษฐกิจแบบยั่งยืนและวิทยาศาสตร์ก็จะเป็นประชาธิปไตยแบบศาสนาเช่นกัน
หัวข้อที่ห้าที่ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึง คือความจำเป็นที่จะต้องจัดตั้งคณะกรรมการที่มีความคิดเชิงสร้างสรรค์ ในในระดับสูงและระดับล่างในกองกำลังบาสิจญ์
ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า สำหรับการพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่อง และส่งผลที่ยั่งยืนของต้นไม้อันจำเริญของกองกำลังบาสิจญ์นี้ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และกล่าวย้ำว่า หัวข้อต่างๆเหล่านี้หมายถึงการกระทำและความเป็นจริงและควรมีการวางแผนดำเนินการในขั้นตอนต่างๆอย่างละเอียด
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ การลอกเลียนแบบบาสิจญ์ของบางประเทศในภูมิภาค และการวางแผนของศัตรูเพื่อทำลายแบบอย่างของบาสิจญ์ ว่า หนึ่งในแผนการที่สำคัญของศัตรู คือ “การแทรกซึม” ซึ่งมันมากกว่าหนึ่งปีแล้วที่ได้ทำการเตือนซ้ำๆเกี่ยวกับเรื่องนี้
ในคำปราศรัยอีกส่วนหนึ่งของท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงประเด็นอิหร่านกับมหาอำนาจผู้อหังการอเมริกา ว่า ขณะนี้เราไม่ได้จะทำการตัดสินวิพากษ์รัฐบาลชุดใหม่ของอเมริกาที่จะเข้ามาทำหน้าที่ แต่รัฐบาลชุดปัจจุบันได้กระทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับการบรรลุข้อตกลงและการตัดสินใจร่วมกัน ซึ่งในวันนั้นบรรดาเจ้าหน้าที่ของเราได้แจ้งให้เราบทราบ ซึ่งทางเราได้ยึดปฏิบัติ และพวกเขาได้ละเมิดและฉีกสัญญาข้อตกลง
ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึง การต่ออายุคว่ำบาตรอิหร่านในรัฐสภาอเมริกาเป็นเวลา 10 ปี ว่า หากการต่ออายุการคว่ำบาตรนี้เกิดขึ้นจริง แน่นอนยิ่งมันจะเป็นการละเมิดแผนปฏิบัติการเบ็ดเสร็จร่วม และพวกเขาจงรู้เถิดว่าสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน จะแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ต่อการกระทำดังกล่าวอย่างแน่นอน
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์ หรือแผนปฏิบัติการเบ็ดเสร็จร่วมนั้นจะต้องไม่กลายเป็นสื่อสำหรับการกดดันประชาชนและประเทศอิหร่าน
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวว่า จนถึงขณะนี้ รัฐบาลปัจจุบันของอเมริกาได้กระทำการละเมิดหลายครั้งในกรณีของข้อตกลงนิวเคลียร์ ล่าสุดก็คือการต่ออายุกฎหมายการคว่ำบาตรเป็นเวลา 10 ปี หากการต่ออายุการคว่ำบาตรนี้เกิดขึ้นจริง แน่นอนยิ่งมันจะเป็นการละเมิดแผนปฏิบัติการเบ็ดเสร็จร่วม และพวกเขาจงรู้เถิดว่าสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน จะแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ต่อการกระทำดังกล่าวอย่างแน่นอน
ในช่วงท้าย ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวย้ำว่า โดยการพึ่งพิงต่อเดชานุภาพแห่งพระเจ้าและด้วยความเชื่อมั่นในพลังของการเข้าร่วมของประชาชน สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านจะไม่เกรงกลัวต่ออำนาจใดในโลกนี้