สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

ประธานาธิบดีสโลวีเนียเข้าพบท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม

ประเทศเอกราชต้องมีการเคลื่อนไหวที่แท้จริงในการรับมือกับเหตุการณ์

เมื่อช่วงบ่ายวันอังคารที่ผ่านมา (22)  นาย บอรุต พาฮอร์  ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสโลวีเนีย ได้เข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ซึ่งท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึงเหตุการณ์อันขมขื่นและน่าสะพรึงกลัวในภูมิภาค และบทบาทของผู้มีอำนาจบางประเทศในการกำหนดความไม่มั่นคงและสงครามเหนือประเทศต่างๆในภูมิภาค  และย้ำกล่าวว่า  สาธารณรัฐอิสลามยังคงเรียกร้องให้รัฐเอกราชมีบทบาทที่สำคัญในการจัดการกับความกดดันที่มีต่อประชาชาติและขอให้พวกเขาอย่าได้นิ่งเฉยและเป็นผู้ชม

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การปะทะกันอย่างรุนแรงในประเทศในเอเชียตะวันตกและสร้างกลุ่มก่อการร้ายต่างๆเช่น ไอซิส นั้นเป็นผลของการแทรกแซงและการยัดเหยียดของผู้มีอำนาจบางชาติ และกล่าวเสริมว่า  หน้าที่ของทุกประเทศต้องมีความพยายามดับไฟแห่งการปะทะและการต่อสู้ และสาธารณรัฐอิสลามเองแม้นจะถูกกระแสโฆษณาชวนเชื่อโดยกลุ่มขบวนการล่าอานานิคมที่ค้านกับความเป็นจริง ก็จะยังคงดำเนินการตามวัตถุประสงค์และมีประสิทธิภาพ แต่จะไม่ยุ่งเกี่ยวในกิจการของประเทศอื่น ๆ

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า พันธมิตรอเมริกาที่ไม่ประสบความสำเร็จในการกำจัดไอซิส พร้อมกับอธิบายเหตุผลสำหรับความล้มเหลวโดยชี้สองมุมมองที่มีอยู่  ว่า ตามมุมมองแรก อเมริกาไม่มีแผนการที่จะถอนรากถอนโคนไอซิส และต้องการเป็นอย่างอังกฤษในยุคสมัยล่าอาณานิคมในอินเดียที่ยังคงเหนี่ยวรั้งแคชเมียร์ดั่งกระดูกที่คอยทิ่มแทงบาดแผล  และผลที่ตามมาทำให้ทั้งสองประเทศเพื่อนบ้านอินเดียและปากีสถานจนถึงวันนี้ต้องเผชิญกับความขัดแย้งและรอยร้าวเรื่อยมา  ในประเด็นของไอซิสก็เช่นนี้ โดยที่ไม่มีความจริงจังในการแก้ปัญหาเพื่อให้สถานการณ์ความไม่สงบทั้งในอิรักหรือซีเรียยังคงดำเนินต่อไป

ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวว่า ตามมุมมองที่สองอเมริกาที่มีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหากรณีไอซิส แต่กลไกในการแก้ไขนั้นเป็นไปลักษณะที่ว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะทำเช่นนั้นได้  แน่นอนว่าผลที่ได้รับจากทั้งสองมุมมองนั้นเป็นสิ่งเดียวกัน ในวันนี้ในอิรักและโดยเฉพาะในซีเรียในสถานการณ์ขมขื่นและยากลำบากเป็นอย่างมาก 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงผลที่ตามมาของการสร้างความผันผวนในเอเชียตะวันตกรวมทั้งปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผู้ลี้ภัย ว่า  ในขณะที่ประเทศในยุโรปมีความล้มเหลวที่จะให้ที่พักพิงแก่ผู้ลี้ภัยนับหมื่นคน แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอิหร่านสามารถเป็นเจ้าภาพในให้การต้อนรับและให้ที่พักพิงให้กับชาวอัฟกานิสถานประมาณสามล้านคน มีการปูพื้นฐานด้านการศึกษาและการดำเนินชีวิตให้กับพวกเขา และเปิดใจกว้างอย่างสมบูรณ์ในการต้อนรับด้านมนุษยธรรมให้กับบรรดาผู้อพยพ

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า หนึ่งปีแปดเดือนของการระเบิดในเยเมนและการทำลายโครงสร้างพื้นฐานของประเทศโดยรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ก็เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ขมขื่นและเจ็บปวดในวันนี้ในภูมิภาค และกล่าวเสริมว่า   รัฐบาลที่เป็นเอกราชจะต้องรับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้เพราะหากมีการสร้างแรงกดดันต่อประชาชาติหนึ่งแล้ว มันคือความทุกข์โศกทั้งหมดของมนุษยชาติ

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้เรียกร้องในการเพิ่มความร่วมมือระหว่างอิหร่านและสโลวีเนียเพราะทั้งสองมีโอกาสที่ดีและมีศักยภาพพอ และเสริมกล่าวว่า หวังว่าในอนาคตจะเป็นหลักฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการพูดคุยและการเจรจาในวันนี้

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึงการยึดมั่นของอิหร่านในข้อตกลงนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์ พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์คู่สัญญาที่ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง

ในการพบปะครั้งนี้ ฮะซัน โรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน ได้เข้าร่วมด้วย  นาย บอรุต พาฮอร์  ประธานาธิบดี สโลวีเนียประเมินเจรจาในครั้งนี้กับเจ้าหน้าที่อิหร่านเป็นที่น่าพอใจ  และกล่าวเสริมว่าเรากำลังมองหาที่จะกระชับความสัมพันธ์กับอิหร่านในทุกสาขา

นาย บอรุต พาฮอร์  ถือว่า อิหร่านเป็นประเทศเสาหลักของความมั่นคงและความปลอดภัยในภูมิภาค และประเทศที่น่าเคารพยิ่ง และกล่าวยกย่องอิหร่านต่อการแสดงจุดยืนในการเจรจานิวเคลียร์และผลงานของการพัฒนาที่สำคัญของเราในปีที่ผ่านมา ว่า สโลเวเนียและอิหร่านมีประสบการณ์ร่วมและมีความร่วมมือที่ดีในทุกด้านเสมอมา  

ประธานาธิบดีสโลวีเนีย ได้ชี้ถึงโปรแกรมเปิดสถานทูตในกรุงเตหะรานในระหว่างการเดินทางในครั้งนี้ว่า อิหร่านคือมิตรที่ดีของสโลวีเนียและเราถือว่าการเปิดสถานทูตในอิหร่านเป็นการตัดสินใจที่ฉลาด รอบคอบและเป็นไปตามฉันทามติแห่งชาติ

 

 

700 /