เมื่อช่วงเช้าวันพุธที่ผ่านมา ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลามและผู้บัญชาการสูงสุดของสามเหล่าทัพ ได้ปรากฏตัวในพิธีสำเร็จการศึกษา การสาบานตนและมอบอินธนูให้แก่นักศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยกองทัพทหารแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ณ มหาวิทยาลัยอากาศชะฮีดซัตตารีย์
ในพิธีดังกล่าวท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ย้ำถึงความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมที่เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณในประเด็น “"ความเชื่อและความศรัทธา" "วิทยาศาสตร์และเทคนิค" และ "วินัยขององค์กร" ของกองกำลังติดอาวุธ(กองทัพอิหร่าน) และการถ่ายโอนประสบการณ์ที่มีคุณค่าแห่งการพิทักษ์ปกป้องอันศักดิ์สิทธิ์ให้กับบรรดาเยาวชนคนหนุ่มสาว และย้ำกล่าวว่า ในวันนี้ประเทศอิหร่านเนื่องจากถูกกดดันอย่างหนักเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม ความเป็นอิสระ ค่านิยมและความเชื่อในการปกครองของอัลลอฮ์(ซบ) กำลังเผชิญหน้ากับแนวรบอันกว้างขวางของศัตรู ซึ่งกองทัพอิหร่านจะต้องพร้อมอยู่เสมอในการทำหน้าที่เมื่อถึงกรณีจำเป็น
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า บรรดาเยาวชนคนหนุ่มสาวผู้มีศรัทธามั่น ซื่อสัตย์และมีประสิทธิภาพนั้นคือความมั่งคั่งที่แท้จริงและยิ่งใหญ่ของประเทศ พร้อมกับได้ชี้ถึงยุคสมัยสงครามการปกป้องพิทักษ์อันศักดิ์สิทธิ์ ว่า ยุคสมัยสงครามการปกป้องพิทักษ์อันศักดิ์สิทธิ์เป็นสนามแห่งการทดสอบที่หนักอึ้ง ซึ่งในสมัยนั้นแก่นแท้แห่งตัวตนของกองทัพแห่งสาธารณรัฐอิสลามถูกเปิดเผยออกมาและกองกำลังทหาร สามารถปฏิบัติงานได้อย่างโดดเด่นและยอดเยี่ยม
ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า หนึ่งในมาตรการสำคัญในมหาวิทยาลัยทหารคือการสร้างความเข้าใจกับยุคสมัยแห่งการปกป้องพิทักษ์อันศักดิ์สิทธิ์และอธิบายเงื่อนไขต่างๆให้กับเยาวชนคนหนุ่มสาว และกล่าวเสริมว่า สงครามแปดปีนั้นในความเป็นจริงแล้ว คือสงครามที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศและเป็นการรุกรานครั้งใหญ่ของบรรดาศัตรูทั้งหมด และบรรดาข้าสมุนทั่วโลกของมหาอำนาจในระดับโลก ภูมิภาคที่มีพรมแดน เอกลักษณ์ ค่านิยม ระบบอิสลามและการปฏิวัติของประเทศอิหร่าน
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวย้ำว่า ในการต่อสู้ครั้งร้ายแรงและรุนแรงครั้งนี้ ประชาชาติผู้ยิ่งใหญ่แห่งอิหร่านและกองกำลังทหารติดอาวุธได้พึ่งพายังพลังแห่งศรัทธา การยืนหยัด และเชื่อมั่นยังพระองค์ และพึ่งพายังรูฮุลลอฮ์ ได้ทำการลุกขึ้นต่อสู้เพื่อพระองค์ และสามารถมีชัยเหนือมหาอำนาจทั้งหลาย
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวถึงบรรดานิสิตนักศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยทหารว่า ทายาทในอดีตของพวกท่านก็เป็นทายาทที่มีเกียรติ์และน่าภาคภูมิใจเช่นนี้ ซึ่งในวันนี้พวกท่านคือทายาทและผู้สืบทอดมรดกจากพวกเขาเหล่านั้น
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้เทิดเกียรติถึงความกล้าหาญ ความเสียสละและการต่อสู้ของเหล่าผู้บัญชาการกองทัพบุคคลเช่น ศัยยาด และบอบออีย์ และกล่าวเสริมว่า วันนี้โลกทั้งโลกทั้งเพื่อนและศัตรูด้วยวาจาใจต่างยอมรับและยอมจำนนต่อความยิ่งใหญ่ สติปัญญา ความกล้าหาญและพลังอำนาจของประเทศอิหร่านและระบบอิสลาม
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้กล่าวขอบคุณผู้บัญชาการทหารและผู้บัญชาการทหารของมหาวิทยาลัย และในช่วงท้ายกล่าวย้ำว่า ด้วยความโปรดปรานและเตาฟิกของพระผู้อภิบาล อนาคตของประเทศในวันพรุ่งนี้จะดีขึ้นและสว่างไสวกว่าวันนี้อย่างแน่นอน
ช่วงแรกหลังจากท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามเข้าสู่สนาม ท่านได้เข้าเยี่ยมสุสานของบรรดาชะฮีด ของกองทัพ พร้อมกับอ่านฟาติฮะฮ์ และวิงวอนขอพระองค์โปรดประทานฐานันดรของบรรดาชะฮีดให้สูงส่งยิ่งขึ้น
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เยี่ยมชมพิธีสวนสนามในครั้งนี้ด้วย