เมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ผ่านมา (2 พ.ค) นาง ปาร์ค กึน เฮ ประธานาธิบดีหญิงแห่งเกาหลีใต้ เข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม  ซึ่งท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึงมุมมองในเชิงบวกของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านที่จะเพิ่มความร่วมมือกับประเทศในเอเชีย และถือว่า "การปฏิสัมพันธ์แบบต่อเนื่องและถาวรระหว่างอิหร่านและเกาหลีใต้" นั้นจะเกิดประโยชน์สำหรับทั้งสองประเทศ โดยกล่าวย้ำว่า ความเข้าใจและข้อตกลงระหว่างทั้งสองประเทศควรจะได้ข้อสรุปในลักษณะที่ว่าผลกระทบจากภายนอกและผลกระทบเชิงลบจะไม่ก่อให้เกิดผลใดๆต่อสิ่งเหล่านี้  เพราะมันเป็นการไม่สมควรและไม่เหมาะสมยิ่งที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอิหร่านและเกาหลีใต้ตกอยู่ภายใต้การบริหารคบคุมและอิทธิของอเมริกา

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในด้านต่างๆทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การเมือง สังคมและการรักษาความปลอดภัยเป็นไปเพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศและกล่าวเสริมว่า ในด้านนโยบายต่างประเทศของเรานั้น เรามีความเต็มใจที่จะพิจารณามองไปยังประเทศในเอเชียเพราะเรามีวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ร่วมกัน และบนพื้นฐานนี้เราเชื่อมั่นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุความเข้าใจ ข้อตกลงและความร่วมมือกับประเทศในเอเชียมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเกาหลีใต้ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่พัฒนาแล้ว 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึงปัญหาด้านความปลอดภัยที่สำคัญในภูมิภาคและทั่วโลก และกล่าวว่า หากภัยคุกคามของการก่อการร้ายและความไม่มั่นคงไม่มีการเผชิญหน้าอย่างแท้จริงและถูกต้องซึ่งการรักษาในอนาคตข้างหน้าก็จะเป็นเรื่องยากมากขึ้น และไม่มีประเทศใดที่สามารถป้องกันในการเผชิญกับอันตรายนี้

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึงการแบ่งกลุ่มก่อการร้ายออกเป็นสองประเภทคือ "ดี" และ "เลวร้าย" โดยอเมริกา ว่า อเมริกาจะชูสโลแกนในการต่อสู้กับการก่อการร้าย แต่ในทางปฏิบัติไม่มีความสัตย์จริงแต่อย่างใด  ในขณะที่การก่อการร้ายไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใดก็เลวร้ายทั้งหมดและเป็นอันตรายสำหรับประชาชาติและความมั่นคงของชาติ เพราะปราศจากความปลอดภัย ความก้าวหน้าที่ดีก็จะไม่เกิดขึ้น

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงข้อตกลงและความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศโดยเฉพาะในประเด็นที่มีความสำคัญในความร่วมมือทวิภาคี ว่า มีความเป็นไปที่จะเกิดรูปลักษณ์แห่งความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ระหว่างอิหร่านและเกาหลีใต้ แต่ความสำคัญของเราในการเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการพาณิชย์และการค้าเท่านั้น แต่จำต้องบรรลุข้อตกลงและลงนามในสิ่งที่อิหร่านมีความจำเป็นและต้องการในภาคส่วนของโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจทั่วไป

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า การบรรลุข้อตกลงระหว่างสองประเทศที่ปราศจากภาวะแทรกซ้อนจากต่างชาติเป็นหนึ่งในความต้องการขั้นพื้นฐานสำหรับความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ และกล่าวย้ำว่า ความสัมพันธ์ของอิหร่านกับเกาหลีใต้ไม่ควรที่จะขึ้นอยู่กับอิทธิพลของการถูกคว่ำบาตร และการปองร้ายของอเมริกา แต่ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ จำต้องมี"อย่างต่อเนื่อง เสถียรภาพที่แข็งแกร่งและมีความจริงใจ"  

ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานที่เต็มไปด้วยอุปสรรค์ขวากหนามต่างๆแห่งความสัมพันธ์ทวิภาคี ว่า โชคดีที่รัฐบาลเกาหลีใต้เป็นรัฐที่มีสภาพคล่องและได้รับการสนับสนุน และอิหร่านเองก็ศักยภาพที่มากมายเช่นมีทรัพยากรมนุษย์ที่เป็นเยาวชนหนุ่มสาว มีความสามารถและการศึกษาเพื่อเพิ่มความร่วมมือที่ยั่งยืนระหว่างสองประเทศ

ในการพบปะครั้งนี้ อะกอ โรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่านก็เข้าร่วมด้วย  

นาง ปาร์ค กึน เฮ ประธานาธิบดีหญิงแห่งเหาหลีใต้ ถือว่า การเดินทางเยือนกรุงเตหะรานในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันมีค่าในการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีและเพิ่มความไว้วางใจซึ่งกันและกัน  และกล่าวว่า ในช่วงของการคว่ำบาตรเราก็มีความพยายามที่จะสามารถดำเนินการและปรากฏตัวในอิหร่านอย่างต่อเนื่อง

ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ถือว่า อิหร่านมากด้วยศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพประสิทธิผล และมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่โดดเด่นพิเศษ และกล่าวเสริมว่า หวังว่าในอนาคตความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเศรษฐกิจจะได้รับการพัฒนาในทิศทางที่ดีขึ้น

ประธานาธิบดีหญิงของเกาหลีใต้ ได้ชี้ถึงคำพูดของท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม โดยเฉพาะในประเด็นการพัฒนาเศรษฐกิจของอิหร่าน การพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรมและเศรษฐกิจพอเพียงว่า  ดิฉันมั่นใจว่าการตอกย้ำและให้ความสำคัญของ ฯพณฯ ในการพัฒนาและการเติบโตทางเศรษฐกิจของอิหร่านนั้นจะสามารถบรรลุผลสำเร็จได้เป็นอย่างดีสำหรับประเทศของท่านในอนาคต   และเราประกาศความพร้อมที่จะเพิ่มความร่วมมือในภาคต่างๆเช่นสิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและเศรษฐศาสตร์