สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

แรงงานนับพันคนเข้าพบท่านผู้นำสูงสุด

อเมริกาเขียนบนกระดาษอนุญาตให้ทำธุรกิจกับอิหร่านแต่ในทางปฏิบัตินั้นพวกเขาสร้างกระแสอิหร่านโฟเบีย

 เนื่องในวาระวันแรงงาน บรรดาคนงานนับพันคนทั่วประเทศเข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม  ซึ่งท่านผู้นำสูงสุดได้ชื่นชมความซื่อสัตย์ การเสียสละ การยืนหยัดและความมั่นคงของคนงานที่มีต่อการปฏิวัติและระบอบ  พร้อมกับย้ำถึง  "การแก้ปัญหาสังคมแรงงาน"  "การเสริมสร้างการผลิตภายในประเทศ"  "ความจำเป็นในการจัดการอย่างจริงจังกับการลักลอบนำสินค้าเข้าประเทศ" และ "ห้ามนำเข้าสินค้าที่มีความคล้ายกันที่มีอยู่ในอิหร่าน"  และจากนั้นได้ชี้ถึงความเป็นปรปักษ์ของอเมริกา  ว่าอเมริกาที่ไม่อาจไว้วางใจได้นั้นยังคงยืนกรานและยืนยันในการคว่ำบาตรอิหร่านในรูปลักษณะต่างๆ  ด้วยการสร้างกระแส "Iranophobia"  ในภาคปฏิบัติเพื่อขัดขวางการปฏิสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับภายนอก 

ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึงการเลือกตั้งรัฐสภาอิสลามรอบสองในวันศุกร์ที่จะถึงนี้  โดยเรียกร้องให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนออกมาใช้สิทธิ์ในครั้งนี้

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้กล่าวขอบคุณสำหรับความพยายามและความพยายามของสังคมแรงงานทำงานในประเทศและแสดงความนับถือต่อคนงานที่ได้ทำงานและพยายามใน อันเป็น"ค่านิยมและคุณค่าของสังคม"  และกล่าวเสริมว่าทุกคนที่กำลังมุ่งมั่นในการทำงานในสังคม ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ รัฐมนตรี อาจารย์ นักเรียนนักศึกษา ผู้บริหารและท่านอื่น ๆทั้งหมดล้วนแล้วหมายถึงคนงานทั้งสิ้น และในความเป็นจริงแล้วคือ "ค่านิยมของการผลิต" 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ย้ำว่าในมุมมองของศาสนาอิสลามนั้น  "การว่างง่าน ความเกียจคร้านและการปล่อยเวลาให้พ้นไปวันๆอย่างไร้สาระ" เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับค่านิยม   และกล่าวเสริมว่า ทุกคนที่กำลังทำงานในสาขาที่แตกต่างๆ นอกจากเพิ่มคุณภาพของการทำงานแล้วจำต้องอุทิศตัวเองและทำงานตามสิทธิของมันอย่างแท้จริง

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวเสริมว่า ทุกคนในประเทศที่รับหน้าที่รับผิดชอบจะต้องทุ่มเทและสละเวลาอย่างแท้จริงในการทำหน้าที่นี้ให้สมบูรณ์แบบ

ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึง ความจงรักภักดีการเสียสละและการยืนหยัดความมั่นคงของคนงานที่มีต่อการปฏิวัติและระบอบในช่วง 37  ปีที่ผ่านมา  ว่า แม้จะมีปัญหาทางเศรษฐกิจแต่คนงานก็ไม่เคยสนใจต่อการโฆษณาชวนเชื่อที่ได้ต่อต้านการปฏิวัติและแม้จะไม่ได้เผชิญหน้ากับระบอบมิหนำซ้ำยังเป็นผู้พิทักษ์ระบอบอิสลามอยู่เสมอ

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามยังได้ขอบคุณอย่างจริงใจต่อสังคมแรงเนื่องจากความจงรักภักดีและวิสัยทัศน์(บาศีรัต)ที่มีต่อประเด็นการปฏิวัติและระบอบ และได้ชี้ถึงประเด็น "หน้าที่ของคนงาน องค์กรธุรกิจและเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจแบบยืนหยัดและยั่งยืน" และกล่าวเสริมว่า สาส์นที่แท้จริงของคำขวัญแห่งปี  “ปีแห่งการยืนหยัดทางเศรษฐกิจและมุ่งสู่การปฏิบัติ” คือ บรรดาเจ้าหน้าที่จำต้องมีการวางแผนและดำเนินการภาคปฏิบัติให้สอดคล้องกับแต่ละวรรคของนโยบายเศรษฐกิจแบบยืนหยัดและยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมที่แท้จิรง

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึง บทบาทและการมีส่วนร่วมของคนงานในการดำเนินการตามนโยบายเศรษฐกิจแบบยืนหยัดและยั่งยืน ว่า  สิ่งที่สำคัญที่สุดของภาระหน้าที่ของคนงานในภาคส่วนนี้คือ "ถูกต้องเหมาะสม มีคุณภาพและความแข็งแกร่งในการทำงาน"  

ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึงการยกระดับคุณภาพของการทำงานที่เพิ่มสูงขึ้น ว่า  หนึ่งในประเด็นที่สำคัญที่ส่งผลกระทบที่สำคัญในการเพิ่มคุณภาพของแรงงานคือ การจริงจังในประเด็น "เพิ่มทักษะความสามารถ" และ “เพิ่มทักษะแรงงาน” ซึ่งรัฐบาลต้องรับผิดชอบในประเด็นนี้

ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า อีกอิทธิพลหนึ่งที่สำคัญในการเพิ่มคุณภาพของการทำงานคือการรักษาความปลอดภัยให้กับคนงาน  และกล่าวเสริมว่า การรักษาความปลอดภัยในการทำงานสำหรับคนงานนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่และนายจ้าง

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่าการ "การปิดโรงงานการผลิต" เป็นผลกระทบที่ร้ายแรง และกล่าวเสริมว่า บางครั้งการปิดโรงงานเนื่องจากประสบกับปัญหาบางอย่างเช่นการขาดสภาพคล่อง อุปกรณ์เครื่องมือที่ล้าสมัยและเก่าโทรม ซึ่งในกรณีนี้ไม่ใช่ความผิดของนายจ้าง ซึ่งบรรดาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งในภาคอุตสาหกรรม การพาณิชย์  ธนาคาร  หัวหน้าเจ้าหน้าที่ภาคไอทีและบริษัทฐานมหาภาคที่จะต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบ 

ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า อย่างไรก็ตามบางครั้งเนื่องจากการฉวยโอกาสของนายจ้างบางคนและเอาเงินกู้ยืมใช้ในภาคส่วนต่างๆเช่นการก่อสร้างมากกว่าโรงงานผลิต อันเป็นเหตุให้โรงงานถูกปิด ซึ่งในกรณีเหล่านี้ศาลยุติธรรม รัฐบาลและหน่วยงานข่าวกรองจะต้องติตามเรื่องนี้อย่างจริงจัง 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวว่า ไม่ใครที่ไม่เห็นด้วยกับการสร้างความมั่งคั่ง แต่ทว่าการสร้างความมั่งคั่งนี้ไม่ควรที่จะเอาเปรียบสังคมแรงงานและกลุ่มบุคคลทีด้อยโอกาส 

ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า "การส่งเสริมผลิตภัณฑ์จากแรงงานอิหร่าน"  "ความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน" และ "การเพิ่มส่วนแบ่งของค่าจ้างในต้นทุนการผลิต"  เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการปรับปรุงคุณภาพของแรงงาน และกล่าวเสริมว่า  ขั้นตอนทั้งหมดเหล่านี้นี้สามารถนำมาใช้ในวางแผนให้เหมาะสมด้วยการใช้ประโยชน์จากวิธีการและรูปแบบที่ถูกต้องอีกทั้งประสบการณ์ของประเทศอื่น ๆเพื่อปรับปรุงในการสร้างแรงจูงใจและคุณภาพของงานคนงานและก็ไม่ส่งผลกระทบและความเสียหายต่อนายจ้างอีกด้วย 

จากนั้นทานผู้นำสูงสุดได้อธิบายสิทธิของนายจ้าง และกล่าวย้ำว่า นายจ้างและลูกจ้างตามตรรกะศาสนาอิสลามนั้นคือสิ่งที่เติมเต็มความสมบูรณ์ซึ่งกันและกัน และหาใช่สิ่งที่ขัดแย้งกันตามทัศนะของศัตรู 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมบรรดานายจ้างที่นำเอาเงินทุนมาลงในสนามแห่งการผลิตและผู้ประกอบการ แทนที่เอาเงินลงทุนเงินฝากไว้ในธนาคารโดยที่ไม่มีความกังวล และกล่าวเสริมว่า  "ความร่วมมืออย่างจริงใจระหว่างนายจ้างกับคนงาน '' ความพยายามของเจ้าหน้าที่ที่จะอำนวยความสะดวกในการลงทุนในภาคต่างๆ" และ "การปูทางในการส่งออกและการปกป้องสิทธิของผู้ส่งออกในต่างประเทศ" เหล่านี้คือสิทธิของนายจ้างที่จะต้องคำนึงถึง 

ในการนี้ท่านผู้นำสูงสุดได้กล่าวถึงบรรดาเจ้าหน้าที่ว่า ควรตรวจสอบความถูกต้องและคุณภาพของสินค้าที่ส่งออก เพราะหากมีการส่งสินค้าที่ไม่ดีและมีคุณภาพต่ำจะทำให้อิหร่านถูกครหาและอับอายอีกทั้งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของประเทศ

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ย้ำอย่างมากถึงประเด็น "ค่านิยมและความสำคัญของการผลิตในประเทศ." และกล่าวเสริมว่า  การผลิตในประเทศควรจะถือเป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์และการสนับสนุนต่อสิ่งนี้ให้ถือเป็น"หน้าที่" ที่จะต้องตระหนัก 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การนำเข้าสินค้าที่มีความคล้ายกันในประเทศถือเป็น "สิ่งต้องห้ามอย่างเด็ดขาด" และกล่าวเสริมว่า  บางร้านขายได้ตระหนักอยู่เสมอว่า เขาจะขายสิ้นค้าที่ผลิตในประเทศเท่านั้นซึ่งการกระทำเช่นนี้ของบุคคลดังกล่าวควรที่จะมีการกล่าวชื่นชมและแสดงความภาคภูมิใจ  

ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมวา แต่ทั้งนี้ในบางร้านค้าขนาดใหญ่และบางขึ้นเป็นร้านค้าที่ขึ้นอยู่กับรัฐ มีการวางขายสิ้นค้าต่างประเทศเกือบทั้งหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเกลียดอย่างมาก  และการกระทำเช่นนี้จะก่อให้เกิดการว่างงานของแรงงานอิหร่านและเป็นการช่วยเหลือสนับสนุนแรงงานต่างชาติ

ท่านผู้นำสูงสุดได้วิจารณ์วัฒนธรรมการซื้อสินค้าจากต่างประเทศและแสดงสินค้าที่มีตราสัญลักษณ์ของต่างประเทศ ว่า  เรามีปฏิสัมพันธ์กับทั่วโลก แต่ทว่าในประเด็นที่เรามีการผลิตภายในประเทศนั้น การนำเข้า การขายและการบริโภคสินค้าจากต่างประเทศควรได้รับการยอมรับว่าเป็นโฆษณาชวนเชื่อและการต่อต้านค่านิยม 

ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า ทั้งนี้ในบริบทนี้ผมไม่ได้สนับสนุนความคลั่งไคล้และความอคติ แต่ควรกระทำด้วยสติปัญญาและความรอบคอบ  

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงกรณีตัวอย่างเช่นกรณีของการนำเข้ารถยนต์จากอเมริกา ว่า ชาวอเมริกันเองเนื่องจากมีการใช้รถยนต์มากและมีราคาแพงมาก พวกเขาจึงไม่ค่อยเต็มใจและต้องการที่จะซื้อรถยนต์เหล่านี้ และในวันนี้และสถานการณ์เช่นนี้ เราได้สั่งซื้อและนำเข้ารถยนต์เหล่านี้จากบางโรงงานของอเมริกาที่กำลังจะล้มละลาย ? สิ่งนี้เป็นที่น่าแปลกใจอย่างมาก

ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า บรรดาผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ที่มีเกียรติ ควรยืนหยัดกับแรงกดดันที่มีการกระทำที่ซ่อนอยู่ในประเด็นเหล่านี้ และควรที่จะยืนหยัดอย่างแท้จริงไม่ให้มีการกระทำในประเด็นนี้ 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้วิจารณ์ "การนำเข้าสิ่งค้าที่ไม่จำเป็นนับพันล้าน"และได้ชี้ถึงปัญหาที่ร้ายแรงของการลักลอบนำเข้าสินค้าเข้ามาในประเทศ ว่า ข้าพเจ้าได้กล่าวเตือนบรรดา เจ้าหน้าที่ของรัฐในทุกสมัย และพวกเขากล่าวว่าหากเรากำหนดภาษีในราคาที่สูง การลักลอบนำเข้าสินค้าก็จะเพิ่มขึ้น แต่เหตุผลนี้ไม่อาจยอมรับได้ 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า การลักลอบนำสิ้นค้าเข้าประเทศเป็นภัยพิบัติที่ร้ายแรงและเป็นยาพิษต่อการผลิตในประเทศ และได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงต่อความล้มเหลวในการจัดการอย่างจริงจังกับปัญหานี้  ว่า จำต้องตั้งแต่งให้บุคคลที่มีความมุ่งมั่นแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในความดูแลในเรื่องนี้ ส่วนรัฐบาลนอกเหนือจากเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรที่เกี่ยวข้องแล้ว ต้องใช้อำนาจที่มีอยู่ในการเผชิญหน้าและจัดการกับขบวนการลักลอบนำสิ้นค้าเข้าประเทศ 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอีกล่าวเสริมว่า ทั้งนี้ความหมายของการต่อสู้และเผชิญหน้ากับการลักลอบนำเข้าสินค้า ไม่ใช้การจัดการกับขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าขนาดเล็ก และกลุ่มที่อ่อนแอในบางพื้นที่ที่พวกเขา  แต่หมายถึงขบวนการขนาดใหญ่ที่ลักลอบนำหลายร้อยตู้คอนเทนเนอร์ขนสินค้าหนีภาษีเข้ามาในประเทศ 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึงประเด็นหนึ่งที่สำคัญมากของการผลิตในประเทศ  ว่า บางครั้งบางสินค้าสามารถผลิตในประเทศได้ แต่ทั้งนี้ผู้นำเข้าสินค้าได้ได้ผลกำไรมาก ด้วยเหตุนี้จึงใช้วิธีการต่างๆ ทั้ง "ให้สินบนสูง คุกคามและแม้กระทั่งการฆาตกรรม" เพื่อพยายามที่จะหยุดการผลิตสินค้าเหล่านั้น

ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า ปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก และเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยและไม่ควรละเลยในการจัดการกับสิ่งนี้ 

ท่านผู้นำได้ชี้ถึงข้อบกพร่องอุปสรรค์ที่สกัดกั้นความเจริญเติบโตของการผลิตในประเทศ โดยได้วิพากษ์วิจารณ์บุคคลที่อ้างว่าเทคโนโลยีการผลิตในประเทศนั้นเก่าโทรม ดังนั้นจึงต้องมีการนำเข้าสินค้าและผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศเข้ามา 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า บางคนที่สนับสนุนสินค้าจากต่างประเทศ ทุกครั้งที่ไม่สามารถเอาเหตุผลมาหักล้างพวกเขาจะบอกว่าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ "มีคุณภาพสูงและเจริญก้าวหน้า" และเทคโนโลยีในประเทศนั้น "เก่า"  ก็ดีและอาจยอมรบได้  แต่ทำไมไม่เอาความสามารถทั้งหมดนี้และความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชนอิหร่านมาแก้ปัญหาเหล่านี้ ?  

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถามว่า  สติปัญญาของชาวอิหร่านที่สามารถผลิตขีปนาวุธที่สามารถยิงเป้าไกลถึงสองพันกิโลเมตรโดยมีความผิดพลาดแค่ 10 เมตรนั้น   ไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาเทคโนโลยีภายในบางส่วน เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ ได้กระนั้นหรือ ? แล้วทำไมไม่พยายามเข้าหาบรรดาเยาวชนในการแก้ปัญหาเหล่านี้ ?

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า การพัฒนาบางอย่างไม่อาจเปิดเผยได้ เพราะเป็นความลับ และไม่สามารถบอกทั้งหมดได้ มิฉะนั้นพวกเขาจะประหลาดใจและตกตะลึงในความสามารถของเยาวชนของเรา 

ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า การที่อิหร่านจะก้าวไปถึงสุดยอดของอารยธรรมอิสลามนั้น ไม่ใช่เป็นแค่คำขวัญและสำนวนไม่ แต่เป็นข้อเท็จจริง มีคุณสมบัติและความสามารถพอ และศักยภาพต่างๆหากได้รับการวางรากฐานที่ดีแล้วก็จะก้าวบรรลุเป้าหมายนี้อย่างแน่นอน 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวว่า  แน่นอนศัตรูก็ยังเป็นศัตรูที่คอยขัดขวาง และศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดคืออเมริกาและยิวไซออนิสต์ 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า ในบางครั้งอเมริกาจะบ่นและรำพันมาแต่ไกล  ว่าทำไมเรามองพวกเขาในแง่ร้าย?เพราะเราได้เห็นสิ่งเหล่านี้ ที่ทำให้เรามองพวกเขาในแง่ร้ายและเราไม่สามารถปิดตาของเราร่วมมือกับพวกเขาได้ 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า "การทำธุรกรรมทางธนาคารที่ต้องทนความลำบากและการหยุดชะงักและช้ามาก และการก่อกวนของอเมริกาในการทำธุรกรรมธนาคาร" เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของปัจจัยที่ทำให้เรามองพวกเขาในแง่ร้าย  และกล่าวเสริมว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่ก็ยังมีการพูดถึงการก่อกวนในการทำธุรกรรมผ่านธนาคาร แต่ทำไม่ธนาคารขนาดใหญ่ไม่เต็มใจที่จะให้ความร่วมมือกับอิหร่าน ? 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวว่า สาเหตุที่ธนาคารขนาดใหญ่ไม่เต็มใจที่จะให้ความร่วมมือกับอิหร่าน เพราะมีการกระพือกระแส "โรคกลัวอิหร่าน" ที่อเมริกาได้สร้างขึ้นและมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ 

ท่านผู้นำสูงสุดได้กล่าวว่า ข้าพเจ้าได้กล่าวเตือนซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าไม่สามารถไว้วางใจและเชื่อถืออเมริกาได้ และในวันนี้เหตุผลของปัญหานี้ก็กำลังปรากฏให้อย่างชัดเจน 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึง การเขียนบนกระดาษและ กล่าวว่า "ธนาคารสามารถทำธุรกรรมกับอิหร่านได้" แต่ในทางปฏิบัตินั้นได้กระทำในอีกลักษณะหนึ่งด้วยการสร้าง "โรคกลัวอิหร่าน"  และกล่าวเสริมว่า อเมริกากล่าวหาว่าอิหร่านเป็นประเทศที่ให้การสนับสนุนการก่อการร้ายและการสนับสนุนการก่อการร้ายนี้เองที่เป็นเหตุต้องถูกคว่ำบาตร 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวว่า เนื้อหาอันนี้ต้องการที่จะส่งสาส์นอันใดหรือให้กับธนาคารและบุคคลภายนอก ?  นั้นคือ การส่งสาส์นว่า อย่าได้ดำเนินการในการทำธุรกรรมทางธนาคารกับอิหร่าน  ซึ่งผลที่ตามคือทำให้ธนาคารและนักลงทุนต่างชาติมีความหวาดกลัวและตื่นตระหนกที่จะทำธุรกรรมร่วมกับอิหร่าน 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวเสริมว่า แน่นอนยิ่งในเรื่องของการก่อการร้ายนั้น อเมริกามีความเลวร้ายและชั่วร้ายยิ่งกว่าผู้ก่อการร้ายเสียอีก และตามพื้นฐานของข้อมูลที่มีอยู่ อเมริกายังคงให้การช่วยเหลือผู้ก่อการร้ายที่มีชื่อเสียงเรียงนามอีกด้วย  

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงอีกวิธีการหนึ่งของรัฐบาลอเมริกาในการสร้าง "โรคกลัวอิหร่าน" เพื่อขัดขวางไม่ให้ความร่วมมือของธนาคารและนักลงทุนต่างประเทศในภาคปฏิบัติ ว่า พวกเขาอ้างว่า สาเหตุที่ขาดความร่วมมือจากต่างประเทศเพราะสถานการณ์ภายในของอิหร่านในขณะที่ในวันนี้ไม่มีภูมิภาคใดที่จะมีความปลอดภัยสูงเท่ากับอิหร่าน  และสถานการณ์ภายในอิหร่านมีความปลอดภัยมากกว่าสถานการณ์ภายในอเมริกาที่พลเมืองในประเทศถูกฆ่าตายเกือบทุกวัน และมีความปลอดภัยมากกว่าชาติยุโรปด้วยซ้ำ และสถานการณ์ภายในอิหร่านมีสถานภาพที่ดีกว่าศัตรูหลายร้อยเท่า 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึง การออกมากล่าวย้ำของเจ้าหน้าที่อเมริกาในการเก็บรักษาและการคว่ำบาตรอิหร่านต่อระบอบการปกครอง ก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่อย่างชัดเจนของ "โรคกลัวอิหร่านเพื่อป้องกันไม่ให้นักลงทุนต่างชาติมีส่วนร่วมกับอิหร่าน "  และกล่าวเสริมว่า เรากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูเช่นนี้ และทุกกิจกรรมที่เราต้องการทำจะต้องคำนึงและพิจารณาถึงศัตรูที่ร้ายกาจเช่นนี้เสมอ   

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึง ความเจริญก้าวหน้าของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านในช่วง 37 ปีที่ผ่านมาแม้จะมีศัตรูเยี่ยงอเมริกาก็ตาม โดยกล่าวเสริมว่า มาตรว่าการเป็นศัตรูเช่นนี้จะยืดเยื้อไปอีกร้อยปีก็ตามแต่ เราก็จะพัฒนาไปอีกร้อยปีเช่นกัน 

ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า อเมริกาคือศัตรูที่ชัดเจน ไม่ว่าเราจะเข้าไปหามัน ไม่ว่าเราจะไม่ยอมรับมัน ไม่ว่าเราจะเอ่ยถึงมันและไม่เอ่ยถึงมันก็ตาม มันก็คือศัตรูของเราตลอดกาล   

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้กำชับและแนะนำ เหล่าผู้บริหารประเทศทั้งสามฝ่าย  หน่วยงานราชการ  หน่วยงานการปฏิวัติและประชาชนทุกภาคส่วน ให้รู้ถึงคุณค่า  พลังงานอำนาจของประเทศและความสามารถ  ว่า เราก็เสมือนอะมีรุลมุอ์มินีน อาลี(อ) ผู้ถูกกดขี่ (มัซลูม) แต่เข้มแข็งและหากว่าเราใช้ศักยภาพและความสามารถ เราก็จะพัฒนาเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ที่สุด และอิสลามที่สุด และแน่นอนเราจะสามารถพิชิตอุปสรรค์ทุกปัญหาทั้งหมด 

ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า แน่นอนเส้นทางของเราจะไม่ราบรื่นเสมอไป  แต่ไม่หินจนเกินไปและถ้าเราพึ่งพาความแข็งแรงของเราแล้ว ก็จะประสบความสำเร็จและความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น 

ในช่วงท้ายทานผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึงความสำคัญของการเลือกตั้งรัฐสภาอิสลามรอบสอง ในวันศุกร์ที่ 29   ในบางเขตพื้นที่ ว่า การเลือกตั้งรอบที่สองก็มีความสำคัญไมน้อยไปกว่ารอบแรก และทุกคนที่มีสิทธิออกเสียงต้องออกมาลงคะแนนในการเลือกตั้งครั้งนี้  

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวว่า การออกมาใช้สิทธิในการเลือกตั้งเป็นตัวกำหนดชะตากรรม เพราะถ้าไม่ไปหย่อนบัตรในหีบบัตรแล้ว ก็จะไม่อาจแสดงและถ่ายถอดความปรารถนา ความถวิลหาและ อัตลักษณ์ของตนสู่หีบบัตรได้  

 

700 /