สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

สมาชิกสมาพันธ์อิสลามนักศึกษานับพันคนเข้าพบท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม

ต้องอบรมเยาวชนให้เป็นนักปฏิวัติและมีความมุ่งมั่นในการเผชิญหน้ากับสงครามเย็น

สมาชิกสมาพันธ์อิสลามแห่งนิสิตนักศึกษานับพันคนทั่วประเทศเข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม  ซึ่งทานผู้นำสูงสุดถือว่าหนึ่งในประเด็นที่สำคัญที่สุดในการเผชิญหน้ากับสาธารณรัฐอิสลามกับมหาอำนาจผู้อหังการคือประเด็นของเยาวชน และกล่าวย้ำว่า แนวรบฝ่ายตรงกันข้ามกับระบอบอิสลามนั้นมีความพยายามที่จะเปลี่ยนอัตลักษณ์ทางศาสนาและปฏิวัติของเยาวชนหนุ่มสาวชาวอิหร่าน  การทำลายความหวัง ความสุขและแรงจูงใจออกจากพวกเขา และวิธีเดียวที่จะจัดการและเผชิญหน้ากับความซับซ้อนและการซ่อนเร้นนี้คือการตัรบียะห์(ฝึกฝนและอบรม)บรรดาเยาวชนให้มีความ "เคร่งครัดในศาสนา เป็นนักปฏิวัติ มีความบริสุทธิ์  มั่นคงและแน่วแน่  มีความระมัดระวัง แรงบันดาลใจ ความหวัง  ความคิด  ความกล้าหาญและความเสียสละ"  ในฐานะ "นายพลแห่งสงครามเย็น" 

ในช่วงแรกของการพบปะท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้กำชับส่งเสริมให้บรรดาเยาวชนใช้ประโยชน์จากโอกาสที่ทรงค่าของเดือนรอญับ จากนั้นเดือนชะอ์บานและเดือนรอมฎอน  และกล่าวว่า สามเดือนนี้เป็นเดือนของ “การผลิบานแห่งจิตวิญญาณ”และบรรดาเยาวชนอยู่ในห้วงอายุขัยของการผลิบานซึ่งสามารถที่จะใช้ประโยชน์และโอกาสอันทรงค่านี้ในการเสริมสร้างจิตวิญญาณของตนให้เข้มแข็งมากขึ้น

จากนั้นท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงสนามแห่งการต่อสู้ในการเผชิญหน้ากับระบอบอิสลามกับแนวรบของมหาอำนาจผู้อหังการภายใต้การนำของอเมริกาและยิวไซออนิสต์  และกล่าวเสริมว่า  ความเป็นอิสระของประเทศรวมทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมซึ่งเป็นหนึ่งในสนามแห่งการเผชิญหน้าในครั้งนี้ เพราะอำนาจนั้นจะทำการเผชิญหน้าและยืนหยัดต่อสู้กับทุกประเทศที่ต้องการล่าอานานิคมและการแทรกซึมของต่างชาติ และปกป้องเอกราชของตน 

ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า ความก้าวหน้าก็เป็นอีกกรณีตัวอย่างของความขัดแย้งของระบอบอิสลามกับแนวรบของมหาอำนาจผู้อหังการ และกล่าวว่า มหาอำนาจโลกจะยังคงยืนหยัดต่อสู้กับประเทศที่ต้องการที่จะประสบความสำเร็จโดยไม่ต้องพึ่งพาอาศัยพวกเขาในการพัฒนาและความก้าวหน้าของประเทศ เพราะความก้าวหน้าเช่นนี้สำหรับทุกประเทศและประชาชาตินั้นถือเป็น "แบบอย่าง" ที่ดีที่สุด 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า หนึ่งในแรงจูงใจหลักของมหาอำนาจผู้อหังการในการต่อกรกับความสามารถของอิหร่านที่ได้บรรลุเรื่องนิวเคลียร์นั้นก็คือประเด็นนี้  และกล่าวเสริมว่า ถ้าประนีประนอมกับมหาอำนาจเหล่านี้  แน่นอนยิ่งการต่อต้านของพวกเขาที่มีต่อความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยี ชีวภาพนาโน เทคโนโลยีและสาขาวิชาวิทยาศาสตร์อื่น ๆที่สำคัญก็จะเพิ่มขยายมากขึ้น เพราะพวกเขาคัดค้านความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์  เศรษฐกิจและอารยะธรรมของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า "สถานะที่แข็งแกร่งของอิหร่านในเอเชียตะวันตกและโลก"  "ประเด็นปาเลสไตน์"  "ประเด็นการมุกอวิมัต" และ "ประเด็นวิถีชีวิตอิสลามอิหร่าน" ถือเป็นหนึ่งในสนามแห่งความขัดแย้งระหว่างแนวรบของมหาอำนาจผู้อหังการกับสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน  และกล่าเสริมว่า ในประเทศใดที่นิยมวิถีชีวิตแบบตะวันตก บรรดาปัญญาชนและมันสมองของประเทศจะกลายเป็นบุคคลที่ยอมจำนนต่อนโยบายของมหาอำนาจผู้อหังการอย่างแน่นอน 

ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่าประเด็น "เยาวชน" เป็นอีกสนามหนึ่งที่สำคัญที่สุดของความแตกต่าง และกล่าวเสริมว่า ในวันนี้ประเด็นของของเยาวชนกลายเป็นสงครามเย็นใต้ผิวหนังและครอบคลุมระหว่างสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านในด้านหนึ่งและอเมริกา ไซโอนิสต์และสมุนรับใช้ของพวกเขาอีกด้านหนึ่งที่กำลังดำเนินการอยู่

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า เยาวชนนิสิตนักศึกษานั้นเป็นนายทหารของสงครามนี้ และกล่าวเสริมว่า ในสงครามเย็นครั้งนี้เราสามารถจินตนาทีมีความแตกต่างของนายทหารสองคนที่มีตัวตนที่แตกต่างกัน ซึ่งผลลัพธ์ของสงครามครั้งนี้ก็จะแตกต่างกันไปและขึ้นอยู่กับตัวตนของนายทหาร 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ย้ำว่าสงครามเย็นจะอันตรายมากกว่าสงครามหนักและได้ชี้ถึงการโพนทะนาต่างๆของบรรดาศัตรู ว่า บางครั้งเราถูกคุกคามด้วยสงครามหนักและขู่จะทิ้งระเบิดซึ่งคำพูดเหล่านี้เป็นคำพูดที่ผิดพลาดอย่างมาก เนื่องจากว่าพวกเขาไม่มีคามกล้าและบังอาจพอในการทำสิ่งนี้ และหากมันกล้าทำแน่นอนยิ่งพวกเขาจะต้องพบกับความหายนะอย่างแน่แท้ 

ท่านผู้นำสูงสุดชี้ว่า ขณะนี้สงครามเย็นที่ต่อต้านระบอบอิสลามกำลังดำเนินการอยู่ และเราต้องปกป้องมากกว่าการถูกโจมตี และกล่าวเสริมว่า หากในค่ายสนามรบและป้อมปราการ เรามีนายทหาร เจ้าหน้าที่เคร่งครัดศาสนา นักปฏิวัติ มุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว  เฉลียวฉลาด ขยันขันแข็งเจ้าของทัศนะความคิด กล้าหาญและเสียสละแล้ว เราสามารถคาดเดาผลลัพธ์ของการต่อสู้

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวว่า แต่หากในสงครามเย็นครั้งนี้เรามีนายทหารที่ยอมจำนน หลอกลวง มอบความไว้วางใจจากรอยยิ้มของศัตรู ไร้แรงจูงใจ ไร้ความคิด ไม่สนใจไม่แยแสกับชะตากรรมของตนเองและคนอื่น ๆ และเพลิดเพลินกับความบันเทิงในค่ายและป้อมปราการ ซึ่งผลลัพธ์ของการต่อสู้นั้นย่อมมีความชัดเจน 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า ดังนั้นในสงครามเย็นมีสองนายทหารที่มีอัตลักษณ์ที่แตกต่างกัน  นายทหารกลุ่มหนึ่งเป็นที่ชื่นชอบและยอมรับของสาธารณรัฐอิสลามเป็นและและอีกกลุ่มหนึ่งเป็นที่ชื่นชอบของแนวรบมหาอำนาจผู้อหังการ  และการปรากฏตัวของแต่ละประเภทของนายทหารนั้นสามารถเปลี่ยนชะตากรรมของการต่อสู้

ท่านผู้นำสูงสุดได้ตอกย้ำในประเด็น "การเคร่งครัดในศาสนา ความบริสุทธิ์และความยำเกรงของเยาวชน" และ "หลีกเลี่ยงพวกเขาให้ห่างไกลจากความบันเทิงที่ไร้สาระ" นั้นไม่ควรวางอยู่บนพื้นฐานแห่งความอคติและความคลั่ง  และกล่าวเสริมว่า ชาวตะวันตกโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวอเมริกาแสวงหาสิ่งเหล่านี้เพื่อให้บรรดาเยาวชนอิหร่านกลายเป็นบุคคลที่ไร้ความศรัทธา ขลาดกลัว ไร้แรงบันดาลใจ ปราศจากการขับเคลื่อน หมดหวัง มองศัตรูในแง่ดีและมองหัวหน้าและผู้บัญชาของพวกเขาในแง่ร้าย  แต่ทว่าสาธารณรัฐอิสลามมุ่งแสวงหาในการตัรบียะฮ์อบรมคนหนุ่มสาวที่ตรงข้ามกับความต้องการของมหาอำนาจผู้อหังการ 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้กำชับให้สมาพันธ์อิสลามแห่งนิสิตนักศึกษามีความพยายามในการอบรมบ่มเพาะความรู้ให้แก่เยาวชนในรูปแบบต่างๆและอัตลักษณ์ทางศาสนาและการปฏิวัติและการแพร่กระจายจิตวิญญาณนี้กับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันของพวกเขาทั้งหมดและกล่าวเสริมว่า  เหมือนดั่งที่เรามีการขับเคลื่อนด้านวิทยาศาสตร์ ศาสนาและเยาวชนปฏิวัติที่มีการวางแผนระยะยาว ศัตรูก็มีการวางแผนระยะยาวเช่นกัน  และวิธีการที่จะตอบโต้พวกเขาคือการขยายตัวเชิงปริมาณและคุณภาพของเยาวชนปฏิวัติ ความสัตย์ซื่อ ความมั่นคงและความเพียรพยายามของพวกเขา 

จากนั้นท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอีได้ชี้ถึงหน้าที่ของบรรดาเจ้าหน้าที่ที่มีต่อประเด็นของเยาวชน และเน้นย้ำถึงการจัดการศึกษาให้มีความเคร่งครัดศาสนาและควรใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้ และกล่าวเสริมว่า  ในสถานศึกษา นอกเหนือจากความพยายามในด้านตำราของนักเรียนแล้ว จะต้องปูพื้นฐานและวางแผนที่เหมาะสมในการเอื้อในการดำเนินการและทำกิจกรรมเชิงปฏิวัติ เพื่อสามารถสร้างเยาวชนรุ่นใหม่ให้เป็นเยาวชนนักปฏิวัติ 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า สภาพแวดล้อมของเยาวชนในประเทศเป็นแวดล้อมแห่ง "ความหวัง" และย้ำว่า  แม้จะมีปัจจัยต่างๆที่เบี่ยงเบนและแนวรบที่หลากหลายของศัตรู ทั้งนี้ประเทศในวันนี้เรามีเยาวชนผู้ศรัทธา นักปฏิวัติ  นักตะวัซซุล นักเดินเท้าในวันอัรบะอีน นักอ่านคัมภีร์กุรอาน นักอิอ์ติกาฟ และนักยืนหยัดอยู่ในสนามแห่งการปฏิวัติ ซึ่งเหล่านี้เราต้องขอบคุณพระองค์อย่างสุดซึ้ง 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การมีอยู่ของเยาวชนเหล่านี้ถือเป็นคุณค่าอันยิ่งใหญ่สำหรับประเทศ และกล่าวย้ำว่า หลังจาก 37 ปี  แนวรบของมหาอำนาจผู้อหังการก็ยังไม่สามารถทำลายสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านได้ หรือยับยั้งการเจริญเติบโตและความแข็งแกร่งในภูมิภาค   และกล่าวเสริมว่าแม้จะมีภัยคุกคามในภาคปฏิบัติและการโฆษณาชวนเชื่ออย่างมากมาย แต่ในวันนี้กองกำลังฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอนได้สำแดงตัวตนในโลกอิสลามให้เห็นแล้ว และประณามขึ้นบัญชีดำกองกำลังฮิซบุลลอฮ์บนเศษกระดาษที่ขาดลุ่ยโดยรัฐบาลผู้ฉ้อฉลนั้น  ข้าสมุนรับใช้ กลวง นั้น ไม่มีความสำคัญและไม่มีราคาใดๆทั้งสิ้น  

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอีได้ชี้ถึงความพ่ายแพ้ของระบอบการปกครองไซออนิสต์ในสงคราม 33 วันกับฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอนและเปรียบเทียบชัยชนะครั้งนี้ กับความพ่ายแพ้ของกองทัพอันแข็งแกร่งของสามประเทศอาหรับต่ออิสราเอล และกล่าวย้ำว่า ฮิซบุลลอฮ์และเยาวชนผู้ศรัทธาเสมือนดั่งดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงและเป็นความภาคภูมิใจของโลกอิสลาม

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า ตัวตนของการเคลื่อนไหวแห่งสัจธรรมนั้นย่อมสู่ความก้าวหน้า และกล่าวเสริมว่าความจริงบางครั้งอาจจะต้องเผชิญกับความยากลำบาก แต่ในท้ายที่สุดก็จะประสบกับชัยชนะและความสำเร็จ 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า เงื่อนไขหลักสำหรับชัยชนะของความจริงนั้นคือการยืนหยัดของนายทหารสงครามเย็น ที่มีต่ออุปสรรค์ปัญหา  และกล่าวย้ำว่า ความเท็จจริงนั้นเป็นของเยาวชน และด้วยความโปรดปรานของพระองค์ วันหนึ่งจะมาถึงอุปสรรค์ปัญหาจะค่อยๆหายไปและเยาวชนจะก้าวสู่จุดสูงสุดแห่งชีวิต  

 

700 /