ในวันแรกของปีใหม่ ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอีผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้กล่าวปราศรัยในฮะรัมท่านอิมามริฎอ(อ)โดยมีประชาชนเข้าร่วมอย่างเนืองแน่น ท่านผู้นำสูงสุดได้กล่าวปราศรัยครั้งสำคัญด้วยการอธิบายความหมายที่แท้จริงและเป้าหมาย “ที่ซ่อนเร้นและความคิดแบ่งแยกดินแดนที่อันตรายของการยอมจำนน” ซึ่งอเมริกาและบางคนภายในประเทศได้พยายามอัดฉีดแนวทางสองแนวทางอันจอมปลอมและมดเท็จให้กับความคิดของปัญญาชนและประชาชนชาวอิหร่าน อีกทั้งได้นำเสนอสิบข้อเสนอแนะขั้นพื้นฐานสำหรับ "การดำเนินการและการปฏิบัติ" ในรูปแบบของเศรษฐกิจแบบยืนหยัด ว่า นี่คือทางที่เป็นตรรกะและในขณะเดียวกันจะช่วยคุ้มกันการปฏิวัติอิหร่านให้พ้นจากภัยคุกคามและการคว่ำบาตร และจะสามารถช่วยให้รัฐบาลนำเสนอและรายงานที่เป็นข้อเท็จจริงและสร้างความเชื่อมั่นในช่วงปลายปี ภายใต้ความเป็นหนึ่งเดียว การช่วยเหลือและความร่วมมือและประสานงานระหว่างสามฝ่ายบริหารของประเทศ
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้กล่าวแสดงความยินดีแด่ประชาชาติอิหร่านอีกครั้งเนื่องในวาระขึ้นปีใหม่และถือว่าปีใหม่ 95 ซึ่งต้นปีและท้ายปีอยู่ห้วงเวลาแห่งวันคล้ายวันประสูติของท่านหญิงฟาตีมะฮ์(ซ)อันเป็นปีแห่งความจำเริญสำหรับประเทศชาติ
จากนั้นท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้อธิบายคำขวัญแห่งปี “ปีแห่งการยืนหยัดทางเศรษฐกิจและมุ่งสู่การปฏิบัติ”
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ย้ำถึงการเลือกคำขวัญแห่งปี 95 ว่า วางอยู่บนพื้นฐานของหลักตรรกะและเหตุและผลที่แม่นยำ และเรียกร้องประชาชนทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาเยาวชนคนหนุ่มสาวสู่การไตร่ตรองและการขบคิดในพื้นฐานของหลักตรรกะและเหตุและผล และย้ำกล่าวว่า บางทีบางคนอาจจะเข้าใจว่าคำขวัญในปีนี้ถูกเลือกขึ้นมาเนื่องจากประเด็นของวัฒนธรรมและศีลธรรม ทว่าเมื่อพิจารณาองค์ประกอบโดยรวมของประเทศแล้วจึงได้ตัดสินใจว่าเหมือนกับช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่ได้เลือกคำขวัญด้านเศรษฐกิจเพื่อให้กลายเป็น "วาทกรรมสาธารณะ" ที่แพร่หลายในสังคม
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวเสริมว่า การเลือกคำขวัญในปีนี้วางอยู่บนพื้นฐานของการวิเคราะห์และมุมมองเชิงมหาภาคที่มีต่อประเด็นปัญหาของประเทศ
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้อธิบายมุมมองเชิงมหาภาค ว่า ในห้วงเวลาปัจจุบันอเมริกาได้พยายามในการอัดฉีดความคิดบางอย่างในหมู่ปัญญาชนของประเทศและความคิดเห็นของประชาชน บนหลักการที่ว่า ประชาชาติอิหร่านจะต้องอยู่บนทางสองแพร่ง และไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากต้องเลือกเพียงแค่หนึ่งทางเท่านั้น !
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวว่า สองแนวทางที่พวกเขาแอบอ้างคือ ประชาชาติอิหร่านจำต้องเห็นชอบด้วยกับอเมริกาหรือไม่ก็ตกอยู่ภายใต้การคว่ำบาตรจากอเมริกาอย่างถาวรและและเผชิญกับปัญหาของมันที่ตามมา
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวชี้ถึง ความมั่งคั่ง เครื่องมือทางการเมือง การโฆษณาชวนเชื่ออย่างกว้างขวางและอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารของอเมริกา ว่า บนพื้นฐานของหลักคิดดังกล่าวนี้ก็จะต้องเห็นชอบด้วยกับอเมริกาและต้องยอมรับการกดดันจากพวกเขา ทำให้บางครั้งไม่คำนึงถึง "จุดยืน หลักพื้นฐานและเส้นสีแดง"
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวเสริมว่า ในการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ล่าสุดที่ได้รับการยอมรับนั้น และคณะทีมงานเจรจาก็ยอมรับมันและก็ได้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ซึ่งในบางเรื่องรัฐมนตรีต่างประเทศของเราได้พูดกับข้าพเจ้าว่า ในบางครั้งเราไม่อาจรักษาเส้นสีแดงของเราได้”
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า สิ่งนี้หมายความว่าเมื่อฝ่ายตรงกันข้ามรัฐบาลเป็นรัฐบาลเช่นอเมริกา ซึ่งการยอมรับพวกเขาหมายถึงการละทิ้งบางประเด็นที่ว่ามนุษย์ได้พยายามยืนหยัดบนสิ่งนั้นมาอย่างยาวนาน
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวเสริมว่า มีบางคนภายในประเทศที่ยอมรับความคิดอันตรายของทางสองแพร่งอนจอมปลอมเช่นนี้ อีกทั้งยังพยายามให้บุคคลยอมรับมันด้วย และกล่าวเสริมว่า พวกเขาเหล่านี้พูดว่าเศรษฐกิจของอิหร่านมีศักยภาพอันมหาศาล โดยที่การใช้ศักยภาพเหล่านี้ไม่เพียงพอเพียงแค่การบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ แต่ยังมีประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอเมริกา ที่ประชาชาติอิหร่านและเจ้าหน้าที่จะต้องร่วมกันตัดสินใจและดำเนินการร่วมกันกับอเมริกา
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การเจรจาและความร่วมมือกับอเมริกาเกี่ยวกับ "ปัญหาในเอเชียตะวันตก" และ "การหารือเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างเตหะรานและวอชิงตัน ที่ให้อิหร่านยอมอ่อนข้อและประนีประนอมต่อหลักการและเส้นสีแดงของตน." เป็นหนึ่งในประเด็นแห่งมุมมองเฉพาะตนที่กำลังมุ่งหาเป้าหมายหลังจากบรรลุข้อตกลง
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวว่า มุมมองเฉพาะตนนี้เชื่อว่าปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศจะได้รับการแก้ไขด้วยการพูดคุยและเจรจากับอเมริกาและประนีประนอมและอ่อนข้อต่อจุดยืนของตนเอง และกล่าวเสริมว่า บุคคลเหล่านี้พูดว่า การบรรลุข้อตกนิวเคลียร์ ถูกขนามนามว่าเป็นการบรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ ดังนั้นการเจรจากับอเมริกาในประเด็นต่างๆแม้แต่เรื่องรัฐธรรมนูญของประเทศก็สามารถกล่าวได้เช่นกันว่า เป็นการบรรลุข้อตกลงครั้งที่ 2 3 และ 4 และเมื่อการเจรจาได้บรรลุข้อตกลงแล้วจะทำให้ประชาชนมีวิถีชีวิตที่ดีขึ้นและสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆของพวกเขา
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า ความหมายที่แท้จริงของความคิดและมุมมองที่อันตรายนี้คือ สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านและค่อยๆละจุดยืนและประนีประนอมจากรากฐานแห่งอำนาจและความปลอดภัยของตน และอ่อนข้อต่อจุดยืนในประเด็นปัญหาพื้นฐานที่อยู่ในกรอบของศาสนาอิสลามและระบบอิสลามให้เป็นไปตามพวกเขา เช่นการสนับสนุนกลุ่มมุกอวิมัตและการสนับสนุนทางการเมืองชาวปาเลสไตน์ เยเมนและบาห์เรน โดยไม่คำนึงถึงจุดยืนของพวกเขาเพื่อเข้าใกล้ชิดกับความปรารถนาของอเมริกา!
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวว่า บนพื้นฐานของความคิดและมุมมองเช่นนี้สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านจำต้องเหมือนกับรัฐอาหรับบางประเทศที่ได้ยื่นมือของพวกเขาในการสร้างมิตรภาพกับอิสราเอลอย่างอัปยศและต่ำต้อยอย่างสมบูรณ์แบบและในท้ายที่สุดก็จะกลายเป็นประเทศที่เห็นด้วยกับศัตรูไซออนิสต์
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ย้ำว่าภายใต้กรอบของแนวคิดและมุมมองที่อันตรายเช่นนี้ การถอยหลังก็จะคงดำเนินการเรื่อยๆ และกล่าวเสริมว่า หากได้ปฏิบัติตามความต้องการและความปรารถนาของอเมริกาแล้วสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านต้องสละอาวุธยุทโธปกรณ์ในการป้องกันตนเองออกและจำต้องคอยตอบคำถามทำไมในลักษณะต่างๆและความโลภของอเมริกาอยู่ตลอดเวลา
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึงกระพือข่าวโฆษณาชวนเชื่อของสื่อต่างๆของตะวันตกในประเด็นการทดสอบขีปนาวุธของอิหร่านว่า ขณะที่อเมริกาในบางครั้งบางเวลาได้ทำการซ้อมรบในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียที่มีระยะห่างกับประเทศของตนหลายพันกิโลเมตรได้กลับนิ่งเฉยแต่เมื่อสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านได้ทำการซ้อมรบและทดสอบขีปนาวุธในบ้านและเพื่อปกป้องและป้องกันและรักษาความปลอดภัยของตัวเองแต่พวกเขากับตีโพยตีพายและกระพือข่าวต่างๆนานา
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามย้ำว่า หากยอมรับความคิดและมุมมองเฉพาะนี้ ความตะกละของอเมริกาและการล่าถอยในการเผชิญหน้ากับพวกเขาก็จะไม่มีขีดจำกัดและไม่หยุดเพียงแค่นี้ และท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า ในกระบวนการเช่นนี้ สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านต้องอธิบายให้อเมริการับรู้ว่าทำไมอิหร่านได้มีการจัดตั้งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามและกองกำลังอัลกุดส์ ทำไมนโยบายของรัฐบาลจะต้องสอดคล้องกับกฎหมายชาริอะฮ์ ทำไมสามอำนาจฝ่ายบริหารต้องวางอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายอิสลาม และทำไมสภาชำนาญการไม่รับรองกฎหมายที่ขัดกับหลักการอิสลาม ?
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวย้ำว่า หากเรายอมประนีประนอมกับอเมริกา ศัตรูก็จะรุกคืบแบบก้าวต่อก้าวและในที่สุดจะทำให้สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านไร้แก่นแท้และกลวง และจะรักษาไว้เพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวว่า บนพื้นฐาน “การวิเคราะห์และความต้องการของศัตรู” หากประชาชาติอิหร่านต้องการที่จะหลุดพ้นจากความชั่วร้ายของอเมริกา ก็จะต้องล้มเลิกในเนื้อหาแก่นแท้ของสาธารณรัฐอิสลาม แนวคิดอิสลามและการรักษาความปลอดภัยของตนเอง
หลังจากที่ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้อธิบายมุมมองต่างๆที่หลากหลายของความคิดเฉพาะเหล่านี้ ก็ได้นำเสนอข้อบกพร่องต่างๆ และกล่าวว่า ในกรณีที่มองข้ามในการวิเคราะห์ครั้งนี้ว่าทุกข้อตกลงใด ๆ กับอเมริกามันหมายความว่าความจำเป็นของอิหร่านที่จะต้องปฏิบัติตามข้อผูกพันดังกล่าวและความชั่วร้าย การหลอกลวงและการฉ้อโกงและบิดพลิ้วในพันธะสัญญาของอเมริกาที่มีต่อประเทศ ซึ่งประเด็นและปัญหานี้เรากำลังเห็นอยู่อย่างชัดเจนในวันนี้ นั้นหมายถึง "ความเสียหายที่แท้จริง "
ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงของประเด็นนี้ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ยกกรณีตัวอย่างของการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ ว่า ในการบรรลุข้อตกลงกับอเมริกาครั้งนี้ อเมริกาก็ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง และตามที่รัฐมนตรีต่างประเทศของเราพูดว่าจะลงนามภาระผูกพันบนเศษกระดาษ แต่ในทางปฏิบัติได้ออกนอกเส้นทางอันเป็นการขัดขวางจากการปฏิบัติตามพันธกรณี
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวเสริมว่า แม้นว่าตอนนี้ได้บรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์แต่การทำธุรกรรมธนาคารของเรายังคงมีปัญหาอยู่ เงินของอิหร่านก็ยังไม่ได้กลับคืนมาอีก เนื่องจากชาติตะวันตกและประเทศที่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของพวกเขามีความกลัวต่ออเมริกา
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึงอีกแนวทางหนึ่งของทางสองแพร่งอันจอมปลอมคือ สาเหตุของการเป็นปฏิปักษ์ต่อกันและความเกลียดชังของอเมริกาที่มีต่ออิหร่าน และกล่าวเสริมว่า เมื่อคำนึงถึงตามที่ "ตำแหน่งเชิงกลยุทธ์และตำแหน่งยุทธศาสตร์ของอิหร่านในภูมิภาค", "ทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์" "ประชากรจำนวนมาก" "มากด้วยพรสวรรค์" และ"ประวัติศาสตร์โบราณ" ทำให้อิหร่านกลายเป็น "เขตพื้นที่แห่งดอกไม้" แต่ประเทศที่ไม่มีใครเทียบได้นั้นถูกอเมริกาครอบงำมานานหลายทศวรรษ การปฏิวัติอิสลามของประเทศอิหร่านประเทศที่ปกครองที่ไม่มีปัญหาใดๆได้ขับไล่อเมริกาออกจากประเทศ ซึ่งประชาชาติอิหร่านด้วยการยึดมั่นในการปฏิวัติอิสลามสามารถปลดแอกประเทศออกจากอุ้งมืออเมริกาได้อย่างเบ็ดเสร็จและสมบูรณ์แบบ
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามอิหร่าน ได้กล่าวว่า การปฏิวัติอิสลามไม่เพียงแต่ทำให้อิหร่านปลดแอกจากอเมริกาเท่านั้นทว่าสามารถแพร่ขยายจิตวิญญาณแห่งการยืนหยัดต่อสู้และเผชิญหน้ากับการล่าอานานิคมของอเมริกาไปยังภูมิภาคและนอกจากภูมิภาคอีกด้วย
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวว่า กล่าวว่า ปัจจัยหลักแห่งความล้มเหลวของนโยบายอเมริกันที่มีต่อ "มหานครตะวันออกกลาง" และครอบงำและครอบครองของระบอบการปกครองไซออนิสต์ในกิจการในภูมิภาคเช่นเดียวกับความผิดหวังของพวกเขาในเยเมน ซีเรีย อิรักและปาเลสไตน์ นั้น คือ สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ด้วยเหตุนี้การเป็นศัตรูและปฏิปักษ์กับประชาชาติอิหร่านจึงเป็นเรื่องหลักและมีความหยั่งลึก และความเป็นศัตรูกับอิหร่านจะคงมีต่อไปจนกว่าจะสามารถฟื้นฟูการครอบงำของพวกเขาในอิหร่านกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้อธิบายเหตุผล "การปกครองในระยะยาวของประเทศอังกฤษและจากนั้นต่อด้วยอเมริกาในอิหร่าน” ว่า อังกฤษและอเมริกาได้สร้างบังเกอร์(ป้อมปราการ)ในประเทศ และด้วยบังเกอร์ดังกล่าวจะทำให้พวกเขาสามารถครอบงำอิหร่านได้อีกครั้ง แต่การปฏิวัติอิสลามที่นำโดยเยาวชนนักปฏิวัติสามารถทำลายบังเกอร์เหล่านี้ และได้สร้างบังเกอร์ใหม่ขึ้นมาแทนเพื่อปกป้องสาธารณรัฐอิสลามและผลประโยชน์ของชาติ
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวเสริมว่า ขณะนี้อเมริกามีการวางแผนและใช้เครื่องมือทางการทูตในความพยายามที่จะซ่อมแซมบังเกอร์ที่ถูกทำลาย และทำลายล้างบังเกอร์แห่งการปฏิวัติอิสลาม
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวเสริมว่า ความชั่วร้ายของระบอบการปกครองของปาห์ลาวี เป็นป้อมปราการที่สำคัญที่สุดของอเมริกาในอิหร่าน แต่ทว่าการปฏิวัติอิสลามได้ทำลายระบอบกษัตริย์และอธิปไตยส่วนบุคคลได้สิ้นซาก และได้แทนที่ด้วยป้อมปราการใหม่ขึ้นมาภายใต้ชื่อ "อำนาจอธิปไตยแห่งประชาชน"
ท่านผู้การปฏิวัติอิสลามถือว่า ความกลัวต่อมหาอำนาจโดยเฉพาะอย่างยิ่งอเมริกาเป็นหนึ่งในบังเกอร์ที่ได้ปูฐานแห่งการครอบงำ ว่า ซึ่งแตกต่างจากยุคสมัยฏอฆูต ในอิหร่านในขณะนี้ไม่มีใครที่รับรู้เข้าใจและพึ่งพาค่านิยมทางศาสนาและจะไม่เกรงกลัวอเมริกาแม้แต่น้อย
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ว่า ในวันนี้แม้นจะมีบางคนที่กลัวอเมริกา และกล่าวเสริมว่า ความกลัวต่ออเมริกาเป็นสิ่งที่ชอบด้วยหลักเหตุและผลเพราะในการเผชิญหน้ากับอเมริกาไม่มีแรงสนับสนุนที่เข้มแข็งพอ แต่ในสาธารณรัฐอิสลามนั้นความกลัวต่ออเมริกาเป็นเรื่องที่ไร้เหตุผล เนื่องจากสาธารณรัฐอิสลามได้รับการสนับสนุนจากประชาชาติที่ยิ่งใหญ่แห่งอิหร่านอย่างเต็มรูปแบบ
ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึงอีกวิธีหนึ่งในการครอบงำของอเมริกา คือ "การอัดฉีดความไม่มั่นใจของตนเองและการขาดความมั่นใจในจิตวิญญาณของชาติ และกล่าวเสริมว่าด้วยการปฏิวัติอิสลามป้อมปราการของการครอบงำถูกเปลี่ยนและแทนที่ด้วยป้อมปราการที่ยิ่งใหญ่ "เราสามารถทำได้"
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การแยกศาสนาออกจากการเมือง เป็นอีกหนึ่งวิธีการของอเมริกาในการครอบงำอิหร่าน โดยกล่าวย้ำว่า การปฏิวัติอิสลามยังได้ทำลายป้อมปราการอันนี้ด้วย
ในการปราศรัยของท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึงความหมายของคำว่า “ศัตรู” คือ อเมริกา และกล่าวว่า บรรดานักการเมืองสหรัฐและกระทรวงการคลังสหรัฐในด้านหนึ่งนั้นได้ใช้วิธีการเฉพาะและมีความซับซ้อนในการคงมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน และได้พูดเยี่ยงอย่างศัตรูที่แท้จริงในการคุกคามในมาตรการการคว่ำบาตร และอีกด้านหนึ่งได้ปูสำรับเจ็ดซีน (ประเพณีสำรับอาหารเฉพาะในช่วงเทศกาลต้อนรับปีใหม่ในอิหร่าน) ในทำเนียบขาว และได้ใช้วิธีการ "หลอกเด็ก" ส่งข้อความปีใหม่เพื่อแสดงความเมตตาเอื้ออาทรในการดึงดูดเยาวชนคนหนุ่มสาวของเรา !
ท่านผู้นำสูงสุดชี้ว่า เหตุผลที่มีสองมาตรฐานนี้ก็คือว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐยังไม่เข้าใจในความชาญฉลาดและความระมัดระวังของประชาชาติอิหร่าน และยังไม่ทราบว่าประชาติที่ชาญฉลาดนี้ รับรู้และเข้าใจเป้าหมายและวิธีการที่เปิดเผยและซ่อนเร้นของศัตรูของพวกเขาได้เป็นอย่างดี
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวว่า เราไม่มีปัญหากับประชาชนอเมริกาเหมือนกับประชาชนประเทศอื่น ๆ แต่ทว่าเราต้องยืนหยัดจัดการกับนโยบายที่ก้าวร้าวของอเมริกา ด้วยการนำเสนอข้อเท็จจริง ไม่เป็นมิตรของประเทศและเมื่อพิจารณาถึงพวกเขาเราได้กำหนดวิธีการในการขับเคลื่อนประเทศได้อย่างถูกต้อง
ทรัพยากรและศักยภาพที่อุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและทรัพยากรมนุษย์อันมากมายมหาศาลในการขับเคลื่อนเพื่อความคืบหน้าภายนอก โอกาสระหว่างประเทศ และอำนาจของอิทธิพลในภูมิภาคและในบางกรณีทั่วโลก " เป็นข้อเท็จจริงลำดับแรกที่ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึง
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า การเป็นปฏิปักษ์อย่างชัดเจนขงอเมริกาต่ออิหร่านและระบบอิสลาม เป็นอีกข้อเท็จจริงอีกประการหนึ่ง และกล่าวเสริมว่า ภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องของสหรัฐและความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อป้องกันไม่ให้อิหร่านใช้ประโยชน์จากผลลัพธ์ของการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์นั้น มันเป็นข้อบ่งชี้ที่เห็นได้อย่างชัดเจน
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า เหลืออีกไม่กี่เดือนก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในอเมริกาบรรดาผู้สมัครร่วมกันแข่งขันประณามและทำลายชื่อเสียงของอิหร่าน ในขณะที่ไม่มีหลักประกันใดๆว่ารัฐบาลชุดต่อไปจะได้ปฏิบัติตามข้อผูกพันในการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์หรือไม่ จากนั้นเมื่อมีการพูดถึงความเป็นศัตรูของอเมริกา บางคนจำนวนหนึ่งภายในประเทศมีเกิดความระส่ำระสาย กระวนกระวายและทุกข์ร้อนไปด้วย
ข้อเท็จจริงประการที่สามที่ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ชี้ถึง คือ "การไม่จำกัดขอบเขตในด้านเครื่องมือของอเมริกาในการเป็นศัตรูกับอิหร่าน"
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวว่า อเมริกาจะใช้สามเครื่องมือหลักที่มีความจำเป็นและมีประสิทธิภาพ คือ "การโฆษณาชวนเชื่อ " "การแทรกซึม" และ "การคว่ำบาตร"
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้มุ่งเน้นกล่าวถึงประเด็นการคว่ำบาตร ว่า ในเป็นความจริงที่ว่าศัตรูรู้สึกว่าได้ผลในการคว่ำบาตรอิหร่าน และทั้งนี้พฤติกรรมของเราเองมีส่วนที่ทำให้พวกเขามีความรู้สึกว่าได้ผลต่อการคว่ำบาตร
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอีได้กล่าวเสริมในประเด็นนี้ว่า ในห้วงระยะเวลาหนึ่งภายในของเรามีการสร้างภาพที่นากลัวต่อผลกระทบและความเสียหายที่ได้รับจากการถูกคว่ำบาตร เหมือนกับในห้วงเวลาเวลาที่มาตรการคว่ำบาตรถูกยกเลิกที่มีการสร้างภาพอย่างอึกกะทึกครึกโครมขณะที่ในประเด็นนี้ยังไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นอีกในวันนี้ และหากสถานการณ์ยังคงดำเนินเช่นนี้อีกต่อไปก็จะไม่มีสิ่งใดๆเกิดขึ้นอีกแน่นอน
หลังจากที่ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ตอกย้ำการมุ่งเน้นด้านคว่ำบาตรของศัตรูแล้ว ท่านผู้นำได้ตั้งโจทย์คำถาม ว่า วิธีการที่ถูกต้องในการจัดการกับ "เครื่องมือแห่งการกดดันและความก้าวร้าว" คืออะไร?
ท่านผู้นำได้ตอบคำถามดังกล่าว ด้วยการชี้ถึงสองแนวทางอันจอมปลอมที่อเมริกานำมาใช้การเผชิญหน้ากบอิหร่าน นั้นหมายถึง "การยอมแพ้และยอมจำนน" หรือ "การกดดันและการคว่ำบาตร" และกล่าวเสริมว่าแน่นอนหนึ่งในสองแนวทางดังกล่าวย่อมมีทางเลือกที่แท้จริง นั้นคือ การยอมรับปัญหาการกดดันจากมาตรการคว่ำบาตรต่อไป หรือ ยืนหยัดบนเศรษฐกิจแบบยั่งยืน(ต้านทาน)เพื่อสามารถพิชิตและก้าวไปสู่ความสำเร็จในการแก้ปัญหา
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้เน้นย้ำในการประเด็นความหมายของคำขวัญแห่งปี “การยืนหยัดทางเศรษฐกิจและมุ่งสู่การปฏิบัติ” ว่า ทั้งนี้รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้วบางส่วนรวมทั้งการเปิดสำนักงานใหญ่ของเศรษฐกิจแบบยั่งยืน (ต้านทาน)และได้แจ้งผลลัพธ์ที่ดีรวมทั้งความสมดุลในเชิงบวกของการค้าและการลดการนำเข้า แต่มันก็เป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะต้องดำเนินการในด้านพื้นฐานหลักอีกต่อไป
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ย้ำถึง ความจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบและแผนที่ทาง โดยได้เสนอสิบแนวทางหลักและขั้นพื้นฐานในการแสดงขั้นพื้นฐานสำหรับการดำเนินการและการปฏิบัติในด้านเศรษฐกิจแบบยั่งยืน (ต้านทาน)
ข้อเสนอประการแรก คือ การค้นหา ระบุและมุ่งเน้นไปที่กิจกรรมและสายโซ่แห่งความได้เปรียบทางเศรษฐกิจ " เพื่อว่าจากแนวทางนี้จะทำให้เปิดแนวทางอื่นๆในการสร้างความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ
การฟื้นฟูและการระดมการผลิตในประเทศ คือข้อเสนอประการที่สองจากท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามให้กับรัฐบาลและเจ้าหน้าที่สำหรับการยืนหยัดทางเศรษฐกิจและมุ่งสู่การปฏิบัติ
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวเสริมว่า บางรายงานบ่งชี้ว่าร้อยละหกสิบของการผลิตในประเทศหรือต้องปิดลงหรือทำงานที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งรัฐบาลสามารถที่จะประสานและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เชี่ยวชาญและนักเศรษฐศาสตร์ที่สำคัญเพื่อรื้อฟื้นการผลิตในประเทศ
หลีกเลี่ยงอย่างแท้จริงในการซื้อสิ้นค้าต่างประเทศที่จะบั่นทอนและลดลงพลังของการผลิตในประเทศ "และ" การบริหารกองทุนและทรัพยากรทางการเงินอิหร่านที่นำเข้าจากต่างประเทศ” เป็นอีกสองข้อเสนอที่ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้เสนอให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวว่า ทั้งนี้เงินทุนของอิหร่านที่ตกอยู่ภายใต้การอายัดของอเมริกาผู้ชั่วร้ายและภายใต้อิทธิพลอื่นๆนั้นยังไม่ได้เข้ามาในประเทศอีก จะอย่างไรก็ตามต้องระมัดระวังให้ดี จะต้องดำเนินการและบริหารจัดการทรัพยากรทางการเงินนี้ให้ดี อย่างได้ใช้ใช้แบบสิ้นเปลืองและอย่าใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น
ข้อเสนอประการที่ห้าจากท่านผู้นำสูงสุดในการดำเนินการและปฏิบัติสำหรับบรรดาเจ้าหน้าที่ คือ สร้างฐานความรู้ภาคเศรษฐกิจที่สำคัญ
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า ความสามารถของชาวอิหร่านสามารถสร้างจรวดที่สามารถกำหนดเป้าหมายที่มีระยะห่างสองพันกิโลเมตร ซึ่งแน่นอนยิ่งจะสามารถสร้างสรรค์ในภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญอื่น ๆ รวมทั้งการสำรวจน้ำมัน ก๊าซ การผลิตรถยนต์ เครื่องบิน รถไฟ นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์อื่นๆได้อย่างแน่นอน ซึ่งรัฐบาลควรปูพื้นฐานให้กับสิ่งเหล่านี้
"การใช้ประโยชน์จากการดำเนินการบางส่วนที่ได้ลงทุนมาก่อนหน้านี้แล้วเช่นปิโตรเคมีและการสร้างโรงไฟฟ้า"และ "การควบคุมการทำธุรกรรมต่างประเทศทั้งหมดเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีไปยังอิหร่าน " คือข้อเสนอประการที่หกและเจ็ดจากท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามเพื่อก้าวไปสู่ความเข้มแข็งและความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของประเทศ
ท่านผู้นำสูงสุดได้วิพากษ์ความขัดแย้งทางการเมืองและหนังสือพิมพ์ในประเด็น "การทุจริต" พร้อมกับแนะนำข้อเสนอประการที่แปด สำหรับการดำเนินการและการปฏิบัติภายใต้กรอบของเศรษฐกิจแบบยั่งยืน (ต้านทาน) คือ "การต่อสู้ที่แท้จริงและจริงจังกับการทุจริตโดยเฉพาะอย่างยิ่งการทุจริตและการลักลอบนำเข้า" ซึ่งมันสร้างผลกระทบที่ร้ายแรงต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ
"การเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน" ซึ่งจะสามารถประหยัดและออมเงินได้จำนวนนับแสนล้าน และ "มุมมองแห่งความใส่ใจเป็นพิเศษและการสนับสนุนเพื่ออุตสาหกรรมขนาดเล็กและขนาดกลาง" เพื่อสร้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจ อันเป็นข้อเสนอประการสุดท้ายจากข้อเสนอแนะทั้งสิบประการจากท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี สำหรับบรรดาเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารเพื่อให้บรรลุคำขวัญแห่งปี นั้นคือ การยืนหยัดทางเศรษฐกิจและมุ่งสู่การปฏิบัติ
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวว่า แน่นอนการกระทำอย่างอื่นก็สามารถที่จะทำได้ในทิศทางนี้ แต่ถ้าหากข้อเสนอแนะสิบประการดังกล่าวได้ปฏิบัติอย่างแท้จริง ในประเทศก็จะเริ่มสู่การขับเคลื่อนเชิงปฏิวัติขนาดใหญ่และการเจริญเติบโตที่มุ่งสู่ความเจริญก้าวหน้า และเศรษฐกิจของอิหร่านก็จะเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้นและลดผลกระทบของการถูกคว่ำบาตรได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวย้ำว่า หากการดำเนินการนี้ได้ปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมทั้งในเชิงหลักตรรกะและการปฏิวัติ ก็จะไม่มีผู้ใดที่จะสั่นสะเทือนในการเผชิญหน้ากับการถูกคว่ำบาตร และไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปในการหลีกเลี่ยงการถูกคว่ำบาตรจากอเมริกาด้วยการประนีประนอมต่อหลักการพื้นฐาน ค่านิยม และเส้นแดงของอิหร่าน
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอีได้ชี้ถึงความจำเป็นที่ประชาชน ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองและเศรษฐกิจที่จะต้องช่วยเหลือรัฐและมีความหนึ่งเดียวกับฝ่ายบริหารประเทศทั้งสามฝ่าย และกล่าวเสริมว่า หวังว่าภายใต้การดำเนินการและการปฏิบัติเพื่อให้บรรลุเศรษฐกิจแบบยั่งยืน ในช่วงปลายปีรัฐบาลสามารถรายงานการฟื้นฟูโรงงานนับพันแห่ง ทั้ง "อุตสาหกรรม การผลิตและการเกษตร" ให้กับประชาชนได้รับทราบ และทำให้ประชาชนสามารถรู้สึกสัมผัสได้และเกิดความเชื่อมั่น
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า "การกระทำเชิงปฏิวัติ" คือปัจจัยพื้นฐานในความสำเร็จตลอดช่วงระยะเวลาสามทศวรรษที่ผ่านมา พร้อมกับเน้นย้ำอีกครั้งในความจำเป็นในการเทิดเกียรติเชิดชูและขอบคุณกองกำลังปฏิวัติและพลพรรคของพระองค์ (ฮิซบุลลอฮ์) และกล่าวเสริมว่า ความสำเร็จของนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ที่เป็นชะฮีด ความสำเร็จของชะฮีด เตะหรานี มุก็อดดัม ในด้านขีปนาวุธ กาซิมี ในด้านต้นกำเนิดของเซลล์ ชะฮีดออวีนีย์ และมัรฮูม ชะละห์โชร์ในด้านวัฒนธรรม เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณและความคิดปฏิวัติที่สามารถแก้ปมปัญหาทีละเปลาะและการบรรลุความสำเร็จ
ในช่วงท้ายของการปราศรัยท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึงความสำคัญของประเด็นวัฒนธรรมว่า ขอย้ำบรรดาเจ้าหน้าที่อีกครั้งหนึ่งจงให้การสนับสนุนคอลเลกชันของประชาชนที่สร้างขึ้นมาเองทั่วประเทศที่กำลังมีส่วนร่วมในการทำงานวัฒนธรรม
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า คอลเลกชันนี้ควรได้รับการพัฒนาในทิศทางที่ดีขึ้น และหน่วยงานทางวัฒนธรรมแทนที่จะเปิดอ้อมแขนของเขากับให้ผู้อื่นที่ไม่ยอมรับการปฏิวัติ อิสลามและค่านิยมจงให้การสนับสนุนบรรดาเยาวชนมุสลิม กองกำลังศรัทธาชน นักปฏิวัติและฮิซบุลลอฮ์แทน
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้กล่าวถึงบรรดาเยาวชนที่รักในประเทศ ว่า “ประเทศ "และ" วันนี้และวันพรุ่งนี้ " เป็นของพวกท่าน หากมีความศรัทธาและความเชื่อมั่นในการปรากฏตัวและการขับเคลื่อนในสนามต่างๆ อเมริกาและชาติที่ใหญ่กว่าอเมริกาก็ไม่สามารถเอาผิดใดๆกับเราได้