ช่วงบ่ายวานนี้ (เสาร์ที่ 27 ) โยฮันน์ ชไนเดอร์-อัมมันน์ ประธานาธิบดีสวิสเข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม โดยท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึงประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศและภาพสะท้อนในเชิงบวกของความคิดเห็นของประชาชนอิหร่าน ที่มีต่อรัฐบาลสวิสโดยให้การตอบรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและทางวิทยาศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น และกล่าวเสริมว่า ปริมาณการค้าระหว่างอิหร่านและสวิตเซอร์แลนด์อยู่ในระดับต่ำและไม่สมดุล นักลงทุนและธุรกิจสวิสต้องตระหนักถึงศักยภาพที่ดีของอิหร่านเพื่อที่จะสามารถปรับปรุงความสมดุลทางการค้าให้ดีขึ้น
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า สวิตเซอร์แลนด์ไม่มีประวัติศาสตร์เชิงลบที่เกี่ยวข้องกับการคว่ำบาตรและการกดดันและการลงโทษของบางประเทศตะวันตกที่มีต่ออิหร่านอันเป็นหนึ่งในช่องทางด้านวัฒนธรรมที่เหมาะสมสำหรับความร่วมมือที่เพิ่มขึ้น และกล่าวย้ำว่า ในอดีตที่ผ่านมาเราถือว่าสวิตเซอร์แลนด์เป็นศูนย์กลางของสันติภาพ มิตรภาพและความร่วมมือ ซึ่งบางประเทศในยุโรปไม่เป็นเช่นนี้ โดยที่ผลประโยชน์ของพวกเขาวางอยู่บนพื้นฐานของการทำสงครามและการสร้างความขัดแย้ง
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึงประสบการณ์ของชาวอิหร่านจากสงครามที่เกิดขึ้นที่บางประเทศยุโรปได้มีการจัดส่งจรวดและเครื่องบินรบของยุโรปให้กับซัดดัมในช่วงสงครามแห่งการพิทักษ์อันศักดิ์สิทธิ์ โดยกล่าวว่า การกระทำเช่นนี้ทำให้เกิดความทรงจำเชิงลบต่อประชาชนของเรา แต่ทว่าสำหรับในอิหร่านนั้นไม่มีความคิดดังกล่าวต่อสวิตเซอร์แลนด์
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ย้ำถึงการสนับสนุนทางเศรษฐกิจอย่างสมบูรณ์และการให้หลักประกันในสิทธิของสาธารณรัฐอิสลามในข้อตกลงระหว่างสองประเทศ ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผลลัพธ์แห่งความร่วมมืออย่างจริงจังและความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงซึ่งข้อตกลงดังกล่าวนี้จะนำไปสู่การกระทำที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
ในการพบปะครั้งนี้ประธานาธิบดี โรฮานี ก็เข้าร่วมด้วย โยฮันน์ ชไนเดอร์-อัมมันน์ ประธานาธิบดีสวิสได้แสดงความพึงพอใจที่ได้มาเยือนอิหร่าน และได้ชี้ถึงประวัติความสัมพันธ์อันฉันท์มิตรที่ยาวนานระหว่างสองประเทศ ว่า ข้าพเจ้ามีความภูมิใจที่ได้มาเยือนอิหร่านและได้เห็นการพัฒนาและความเจริญเติบโตและก้าวหน้า และได้เห็นทิศทางแห่งการขับเคลื่อนสู่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศในทิศทางที่ดีขึ้น
โยฮันน์ ชไนเดอร์-อัมมันน์ ได้ชี้ถึงการเดินทางครั้งนี้มีผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและวิทยาศาสตร์ของสวิสร่วมติดตามคณะมาด้วย ว่า ในการเยือนครั้งนี้ได้มีการเจรจาด้านความร่วมมือที่ในทุกด้านและหลากหลายระหว่างอิหร่านและสวิตเซอร์แลนด์ และการลงนามในแผนงานจะสามารถนำไปสู่การพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ดีขึ้น
ประธานาธิบดีสวิส ได้ชี้ถึงความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ว่า ขอบเขตของความไม่มั่นคงและความท้าทายในวันนี้นั้นมันได้แผ่ไปถึงยุโรปและสวิสเซอร์แลนด์แล้ว ดังนั้นแนวทางในการแก้ปัญหาความท้าทายที่สำคัญเหล่านี้จะต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ