เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ( กุมภาพันธ์) อิลฮาม อาลีเยฟ ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจานได้เข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ซึ่งในการพบปะครั้งนี้ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึง ความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ดีและความคล้ายคลึงกันลักษณะร่วมระหว่างอิหร่านและอาเซอร์ไบจานโดยเฉพาะความคล้ายคลึงกันด้านศาสนาและนิกายของทั้งสองประเทศ ว่า การส่งเสริมการศึกษาศาสนาอิสลาม การเคารพสัญลักษณ์ทางศาสนาและพิธีกรรมจะนำไปสู่การตอบรับและการสนับสนุนของประชาชนในการเผชิญหน้ากับภัยคุกคาม
ในการพบปะครั้งนี้ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า มุมมองของสาธารณรัฐอิสลามที่มีต่อประชาชนชาวอาเซอร์ไบจานนั้นอยู่ในกรอบของความเป็นพี่น้องและเหนือไปกว่าประเด็นความเป็นเพื่อนและประเทศเพื่อนบ้านเสียอีก โดยกล่าวย้ำว่า เสถียรภาพทางการเมือง ความปลอดภัย ความมั่นคงและสวัสดิการทั่วไปของชาวอาเซอร์ไบจานนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเราและด้วยหัวใจที่ความเข้าใจระหว่างประเทศทั้งสองควรที่จะยกระดับการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและความร่วมมือในด้านต่างๆให้มากขึ้นกว่าเดิม
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึง ความคล้ายคลึงกันในด้านศาสนาในอิหร่านและอาเซอร์ไบจาน ว่า ความศรัทธาในอิสลามและความเป็นชีอะห์ของประชาชนชาวอาเซอร์ไบจาน เป็นทุนทรัพย์ที่มีค่าของอาเซอร์ไบจาน หากรัฐบาลขานรับและให้เกียรติเคารพในสัญลักษณ์ทางศาสนาและความเชื่อทางศาสนาของประชาชนแล้ว ประชาชนก็จะให้การสนับสนุนรัฐบาลและยืนหยัดต่อสู้ต่อกับศัตรูจากบางประเทศของของมหาอำนาจมากยิ่งขึ้น
ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า แนวทางในการเผชิญหน้ากับกลุ่มก่อการร้ายตักฟีร์ในหมู่ประชาชาติทั้งหลายนั้นขึ้นอยู่กับการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการเคลื่อนไหวอิสลาม และกล่าวย้ำว่า ภูมิภาคอาเซอร์ไบจานในแง่ของศาสนานั้นมีรากฐานและต้นกำเนิดมาจากนักวิชาการอิสลามบางท่าน และประชาชนชาวอาเซอร์ไบจานก็เป็นคนที่มีความเฉลียวฉลาด รอบคอบและรอบรู้ ซึ่งการช่วยเหลือและการส่งเสริมของรัฐบาลในกิจกรรมทางศาสนาจะเพิ่มประสิทธิภาพในอิทธิพลของการดึงดูดความสนใจและความรู้สึกของพวกเขาได้มากขึ้น
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้เห็นชอบในคำพูดของประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน ที่ถือว่าภัยคุกคามของทั้งสองประเทศมาจากแหล่งเดียวกัน โดยท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า การส่งเสริมในการสอนศาสนาอิสลามและหลักคำสอนของสำนักคิดชีอะห์ จะนำไปสู่การดึงดูดความช่วยเหลือจากพระองค์ และด้วยพรอันประเสริฐของบรรดาอะห์ลุลบัยต์(อ)จะสามารถเผชิญหน้ากับปัญหาและภัยคุกคามต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในการพบปะครั้งนี้ ฮะซันโรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่านก็เข้าร่วมด้วย อิลฮาม อาลีเยฟ ได้ชี้ถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างกรุงเตหะรานและบากู และถือว่าการเจรจาในประเทศของเราเป็นการเจรจาต่อรองที่สำคัญและสร้างสรรค์ พร้อมกับกล่าวเสริมว่า วัฒนธรรม ศาสนาและประวัติศาสตร์ร่วมนั้นก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีและยาวนานระหว่างอิหร่านและอาเซอร์ไบจาน
เขาได้ชี้ถึงการลงนามกว่า 10 เอกสารในด้านความร่วมมือระหว่างเตหะรานและบากูถือเป็นการแสดงออกอย่างฉันท์พี่น้องและเป็นความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ดีเยี่ยม และเสริมกล่าวว่า ความร่วมมือในด้านการค้า การขนส่ง พลังงานและอุตสาหกรรมได้ดำเนินการตามขั้นตอนและผ่านไปด้วยดีและเราจะร่วมกันพยายามและขยายความสัมพันธ์ทวิภาคีในทุกด้านและแขนงสาขา
ประธานาธิบดี อาเซอร์ไบจาน ถือว่า เตหะรานและบากูจะมีความเห็นพ้องต้องกันในประเด็นระหว่างประเทศ และกล่าวเสริมว่า อิหร่านได้แสดงบทบาทที่สำคัญมากในการสร้างความสงบและความมั่นคงในโลกและเรารู้ถือว่าความมั่นคงของอิหร่านคือความมั่นคงของเรา
อาลีเยฟ ได้ชี้ถึงภัยคุกคามที่มีต่อทั้งสองประเทศมาจากแหล่งที่มาอันเดียวกัน ว่า ในการเยือนครั้งนี้เราได้ตกลงกันว่าจะให้ความร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้ายเพื่อสร้างสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค
เขาได้ชี้ถึงการให้เกียรติต่อค่านิยมของอิสลามและการช่วยเหลือด้านศาสนาของรัฐบาลอาเซอร์ไบจาน ว่า หลังจากที่อาเซอร์ไบจานได้รับเอกราช มีการสร้างมัสยิดถึงสองพันแห่ง ครึ่งหนึ่งของจำนวนดังกล่าวสร้างขึ้นมาอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบและการดูแลของฉัน
ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน ได้ประณามการเคลื่อนไหวต่อต้านอิสลาม และสาเหตุที่ทำให้ศัตรูโกรธแค้นประเทศนี้เพราะประชาชนมีความศรัทธาในศาสนา และกล่าวเสริมว่า อิสลามและชีอะห์เป็นที่นิยมชื่นชอบของประชาชนชาวอาเซอร์ไบจาน และการมีอยู่ของบุคคลที่มีสถานะภาพที่สูงส่งและโดดเด่นเยี่ยงท่านในภูมิภาคนี้นั้นได้สร้างพลังและแรงบันดาลใจให้เรามากขึ้น