เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 14   กุมภาพันธ์ จอห์น ดรามานี มาฮามา ประธานาธิบดีกานา ได้เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดแห่งการปฏิวัติอิสลาม  ซึ่งท่านผู้นำสูงสุดแห่งการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึงมุมมองเชิงบวกและความเป็นมิตรภาพฉันท์มิตรของอิหร่านที่ได้เพิ่มความร่วมมือกับประเทศในแอฟริกานับตั้งแต่เริ่มแรกของการปฏิวัติอิสลาม  และกล่าวเสริมว่า "มหาอำนาจล่าอานานิคมคัดค้านในความสัมพันธ์ที่ดีและแน่นแฟ้นของอิหร่านกับแอฟริกา และเช่นเดียวกันพวกเขาคือต้นเหตุหลักของสงคราม ความขัดแย้งและให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งแนวทางในการแก้ปัญหาทั้งหมดเหล่านี้คือความใกล้ชิดของ" บรรดาประเทศเอกราช "และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกัน "  

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ผลประโยชน์ของมหาอำนาจผู้อหังการนั้นวางอยู่บนพื้นฐานของการสร้างความไม่สงบและก่อสงครามในภาคส่วนต่างๆของโลก   พร้อมกับกล่าวย้ำว่า กลุ่มก่อการร้ายในภูมิภาคและแอฟริกานั้น ถูกบ่มเพาะและสร้างขึ้นโดยหน่วยข่าวกรองของอเมริกา อังกฤษและระบอบไซออนิสต์ 

ท่านผู้นำสูงสุดอิหร่าน ได้ชี้ถึงคำพูดของประธานาธิบดีกานา กรณีซีเรียที่ได้รับความเดือดร้อนจากการก่อการร้าย   โดยตั้งโจทย์คำถามว่าอาวุธที่ทันสมัยจำนวนมากและเงินสนับสนุนเหล่านี้ตกอยู่ในมือของกลุ่มก่อการร้ายได้อย่างไร  พร้อมกับย้ำกล่าวว่า   รากเหง้าของปัญหาทั้งหมดเกิดจากมหาอำนาจผู้อหังการโดยมีอเมริกาเป็นหัวหอกสำคัญและระบอบไซออนิสต์ที่ชั่วร้าย 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่านโยบายถาวรของสาธารณรัฐอิสลามในกรณีของซีเรียนั้น คือ การ "สนับสนุนและฝักใฝ่สันติภาพ" และกล่าวเสริมว่า เราได้พยายามอยู่เสมอที่จะให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในซีเรียนั้นจบลงด้วยดีและเกิดผลดีแก่ชาวซีเรีย และเราเชื่อว่าชาติที่อยู่นอกประเทศไม่สามารถที่จะเขียนใบสั่งสำหรับการเยี่ยวยาแก้ไขให้กับประชาชาติซีเรียได้ 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า วิธีการแก้ปัญหาซีเรียและการจัดการกับปัญหาเช่นการก่อการร้ายและความทุกข์ทรมานของชาวปาเลสไตน์นั้นขึ้นอยู่กับความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของบรรดาประเทศเอกราช และย้ำว่า  อิหร่านและประเทศกานามีขีดความสามารถที่ดีมากและเราหวังว่าการเยือนครั้งนี้จะนำไปสู่ความร่วมมือที่เพิ่มมากขึ้น

ท่านผู้นำสูงสุดได้ชื่นชมบรรดานักต่อสู้ผู้เรียกร้องความเป็นเอกราชในแอฟริกาที่ได้ต่อสู้กับลัทธิล่าอาณานิคม และเสริมกล่าวว่าบุคคลผู้โดดเด่นเหล่านี้ได้ยกระดับอัตลักษณ์ของชาวแอฟริกาในระดับโลก 

ในการพบปะครั้งนี้ อะกอ โรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่านร่วมอยู่ด้วย  จอห์น ดรามานี มาฮามา ประธานาธิบดีกานา ได้ชี้ถึงอารยะธรรมอันเก่าแก่ของอิหร่านและความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ พร้อมกับถือว่าคำพูดของท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามคือแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์โลกให้มีความสันติ  โดยเฉพาะในประเด็นปาเลสไตน์ และกล่าวเสริมว่า  ความเจ็บปวดและความทนทุกข์ทรมานของชาวปาเลสไตน์ สร้างความหวาดวิตกและความกังวลให้กับประชาชาติ ซึ่งทุกคนจำต้องให้ความร่วมมือซึ่งกันและกันเพื่อปกป้องสิทธิของพี่น้องปาเลสไตน์

จอห์น ดรามานี มาฮามา ได้ชี้ถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายในแอฟริกาและเอเชียตะวัน  และกล่าวขอบคุณในความจริงของอิหร่านในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายโดยเฉพาะสถานการณ์ที่ซับซ้อนในซีเรีย ว่า  แท้จริงแล้วนโยบายการเมืองของอิหร่านวางอยู่บนพื้นฐานแห่งการเคารพและให้เกียรติในสิทธิของประชาชาติทั้งหลายและวางอยู่บนพื้นแห่งการกำหนดชะตากรรมด้วยตัวเอง และหวังว่าด้วยบทบาทอันทรงอิทธิพลของอิหร่านในการต่อสู้กับการก่อการร้าย ประเด็นปัญหาของซีเรียจะได้รับการแก้ไขในทิศทางที่ดีขึ้น

จอห์น ดรามานี มาฮามา ได้ขอบคุณการช่วยเหลือด้านมนุษย์ธรรมของอิหร่านที่มีต่อชาวกานา ว่า  เราในฐานะเป็นตัวแทนของประเทศในแอฟริกา ขอขอบคุณสาธารณรัฐอิสลามที่ได้แสดงบทบาทในการสนับสนุนช่วยเหลืออย่างจริงใจต่อกลุ่มเสรีนิยมในทวีปแอฟริกาโดยเฉพาะความช่วยเหลือในการปกป้องขบวนการต่อต้านการเหยียดผิวในแอฟริกาใต้ 

ประธานาธิบดีกานาได้ชี้ถึงการเจรจาของเขาในกรุงเตหะรานและการลงนามในหลาย ๆ บันทึกข้อตกลง ว่า เราพร้อมที่จะเพิ่มความร่วมมือในภาคต่างๆ