เมื่อช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ผ่านมา (23 ม.ค. ) ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง แห่งสาธารณรัฐจีน พร้อมคณะเข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม โดยท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึงความสัมพันธ์อันยาวนานของทั้งสองประเทศจีนและอิหร่านในด้านการค้าและวัฒนธรรม ว่า รัฐบาลและประชาชาติอิหร่านมีความพยายามอยู่เสมอในการสร้างเสริมสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์กับชาติต่างๆที่มีความเป็นอิสระและมีความไว้วางใจ เช่น จีน ด้วยเหตุนี้บนพื้นฐานดังกล่าวการบรรลุข้อตกลงระหว่างเจ้าหน้าที่อิหร่านกับเจ้าหน้าที่จีนสำหรับความสัมพันธ์เชิงยุทธ์ศาสตร์ 25 ปี นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องอย่างยิ่งและเป็นนัยยะที่ดียิ่ง
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า คำพูดของประธานาธิบดีจีน ในประเด็นความจำเป็นในการฟื้นฟู “ทางสายไหม” และการขยายความร่วมมือของชาติที่ตั้งอยู่บนเส้นทางดังกล่าวนั้น ถือเป็นความคิดที่มีตรรกะและสามารถยอมรับได้ และกล่าวเสริมว่า สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านจะไม่มีวันลืมความร่วมมือของสาธารณรัฐจีนในช่วงเวลาที่อิหร่านถูกคว่ำบาตรอย่างแน่นอน
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า “พลังงาน” เป็นประเด็นที่สำคัญของโลกในวันนี้ และกล่าวว่า อิหร่านถือเป็นชาติเดียวที่เป็นประเทศอิสระในภูมิภาคที่สามารถไว้วางใจได้ในประเด็นพลังงาน เนื่องจากมีความแตกต่างกับชาติต่างๆในภูมิภาค เพราะนโยบายพลังงานอิหร่านมิได้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลและอำนาจของต่างชาติแต่อย่างใด
ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึงนโยบายของชาติผู้ล่าอานานิคมบางประเทศโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรของพวกเขาที่ไร้ความยุติธรรมต่อประเทศอื่นๆ ว่า สถานภาพเช่นนี้ทำให้ประเทศต่างๆที่มีความเป็นอิสระหันมาจับมือและความร่วมมือซึ่งกันและกันมากยิ่งขึ้น และการบรรลุข้อตกลงระหว่างอิหร่านกับจีนในความสัมพันธ์เชิงยุทธ์ศาสตร์ในรอบ 25 ปี ก็อยู่ภายใต้กรอบดังกล่าว ซึ่งทั้งสองฝ่ายจำต้องดำเนินการติดตามอย่างแท้จริงเพื่อสามารถบรรลุผลภาคปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึงความสนใจและมุมมองของตะวันออกที่มีต่อวัฒนธรรมอิหร่าน ว่า ตะวันตกไม่สามารถดึงดูดความไว้วางใจของประชาชาติอิหร่านได้
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า นโยบายของอเมริกาที่มีต่ออิหร่านในหมู่ประเทศตะวันตกนั้นเป็นนโยบายที่ชั่วร้ายและก้าวร้าว และกล่าวย้ำว่า นโยบายที่ก้าวร้าวอันนี้ทำให้ประชาชาติอิหร่านและเจ้าหน้าที่มีการดำเนินการพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศที่มีความอิสระมากยิ่งขึ้น
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ตอกย้ำในประเด็น “ความหนึ่งเดียวของจีน” ซึ่งเป็นหนึ่งนโยบายพื้นฐานและชัดแจ้งของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน และได้ชี้ถึงคำพูดของประธานาธิบดีจีน ในประเด็นการขยายตัวความร่วมมือในด้านความมั่นคงระหว่างทั้งสองประเทศ ว่า แต่เป็นสิ่งที่น่าเสียดายที่ภูมิภาคของเราเนื่องจากนโยบายที่ผิดพลาดของตะวันตก อีกทั้งการเบี่ยงเบนและการตีความที่ผิดพลาดจากศาสนาอิสลามทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยซึ่งสร้างภาวะเสี่ยงกันอย่างแพร่หลาย ดังนั้นจงให้ความร่วมมือกันอย่างชาญฉลาดเพื่อสกัดกั้นและยับยั้งภัยอันตรายเหล่านี้
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า บางประเทศในภูมิภาคเป็นแหล่งที่มาที่แท้จริงของความคิดอันเบี่ยงเบนและบิดเบือนเหล่านี้ ซึ่งตะวันตกแทนที่จะเผชิญหน้ากับแหล่งที่มาหลักที่แท้จริงของความคิดนี้และกลุ่มก่อการร้าย กลับโจมตีและกดดันชาวมุสลิมในยุโรปและอเมริกา ในขณะที่ขบวนการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายนั้นมีความแตกต่างกับแนวคิดของอิสลามอันบริสุทธิ์อย่างสิ้นเชิง
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า อเมริกันและชาวตะวันตกพยายามยืนกรานและใช้ประโยชน์จากชื่อ "รัฐอิสลาม" สำหรับกลุ่มก่อการร้ายบางกลุ่ม และกล่าวเสริมว่า วิธีนี้เป็นการดูถูกและดูหมิ่นชาวมุสลิม และแทนที่จะช่วยแก้ปัญหา กลับเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเหล่านี้โดยตรง
ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า การแอบอ้างของอเมริกาและตะวันตกในการจัดตั้ง “พันธมิตรเพื่อปราบปรามโจมตีกลุ่มก่อการร้าย” นั้นเป็นการหลอกลวงเท่านั้น เนื่องจากวิธีการของอเมริกันในทุกเรื่องจะเป็นแบบนี้และพวกเขาไม่มีความสัตย์จริง
ในช่วงท้ายท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้แสดงความหวังว่า ผลการเจรจาและการบรรลุข้อตกลงในกรุงเตหะรานจะเป็นประโยชน์สำหรับทั้งสองฝ่ายอย่างแท้จริง
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง แห่งสาธารณรัฐจีน แสดงความพึงพอใจในการเยือนอิหร่าน ขอบคุณในความรู้สึกแห่งความจริงใจของรัฐบาลและประชาชนอิหร่าน ซึ่งความผูกพันอันนี้เกิดจากความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนอย่างมิตรภาพอันยาวนานระหว่างทั้งสองประเทศ และกล่าวเสริมว่า ความร่วมมือระหว่างอิหร่านและจีนบนพื้นฐานของ "ผลประโยชน์ร่วมกัน" ซึ่งควรที่จะเพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ประธานาธิบดีจีน ได้ชี้ถึงประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างจีนกับอิหร่าน บนเส้นทางสายไหม ซึ่งถือว่า ถนนเส้นทางนี้เป็นสัญลักษณ์ของ "ความสงบสุข ความก้าวหน้าและการแลกเปลี่ยนอย่างฉันท์มิตร" และกล่าวเสริมว่า ประเทศที่อยู่บนเส้นทางนี้ด้วยการพัฒนารูปแบบของความร่วมมือจะสามารถที่จะเผชิญหน้ากับแบบฉบับของอเมริกาที่ต้องการทำลายความสมดุลทางเศรษฐกิจของภูมิภาค และสามารถปกป้องผลประโยชน์และก้าวบรรลุเป้าหมายของพวกเขาได้อย่างรูปธรรม
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จีน มหาอำนาจพยายามที่จะครอบงำและผูกขาดนโยบายเถื่อน " กับเราหรือศัตรูของเรา" เป็น แต่การพัฒนาของเศรษฐกิจที่เกิดใหม่นั้นทำให้พวกเขาต้องสูญเสียอำนาจในการผูกขาด และเป็นการเปิดโอกาสและบรรยากาศที่เหมาะสมสำหรับความคิดและนโยบายของประเทศที่เป็นอิสระ
ประธานาธิบดีจีน ได้สนับสนุนประเด็น "ปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่าน" พร้อมกับถือว่าการสนับสนุนของอิหร่านในประเด็น "ความปึกแผ่นของจีน" เป็นกรณีตัวอย่างของการไว้วางใจซึ่งกันและกันและนโยบายที่เป็นอิสระของทั้งสองประเทศ และกล่าวเสริมว่า เรากำลังดำเนินการตามเส้นทางของการพัฒนาที่เป็นอิสระและเรามีความพร้อมที่จะขยายความร่วมมือในทุกด้าน เหมือนกับที่เราให้การร่วมมือในสมัยก่อนยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร และหลังมาตการคว่ำบาตรก็เช่นกัน
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จีน ได้ชี้ถึงคุณลักษณะที่ดีในด้านต่างๆทั้ง "ภูมิศาสตร์ ทรัพยากรมนุษย์ และพลังงานของอิหร่าน” ว่า เศรษฐกิจของจีนและอิหร่าน เป็นการเติมเต็มความมั่นคั่งซึ่งกันและกัน และการมาเยือนอิหร่านในครั้งนี้ ได้มีการบรรลุข้อตกลงแผนความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ 25 ปี และเรามีความพร้อมที่จะขยายความร่วมมือที่ลึกซึ้ง แน่นแฟ้นมากขึ้นในด้านวัฒนธรรม การศึกษา เทคโนโลยีทางทหาร และความมั่นคงระดับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ร่วม
ประธานาธิบดีจีน ถือว่าการสร้างกลไกในการรักษาความปลอดภัย การเพิ่มความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศในการเผชิญกับการก่อการร้ายและปัญหาที่ซับซ้อนในระดับภูมิภาคนั้นถือเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จีน ถือว่า คำพูดของทานอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือเป็นคำพูดที่มีวิทยปัญญาและ สุขุมรอบคอบ และกล่าวเสริมว่า รัฐบาลและประชาชนจีน มีทัศนคติที่ดีและมีความรักความผูกพันฉันท์มิตร อย่างแท้จริงต่อ ฯพณฯ ท่าน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีแน่นแฟ้นและก้าวหน้าเหมือนในอดีตที่ผ่านมา