บรรดาอิมามนำนมาซวันศุกร์ทั่วประเทศเข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดแห่งการปฏิวัติอิสลาม  ซึ่งท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึงสถานะภาพที่สูงส่งของการนมาซวันศุกร์ อันเปรียบดั่งค่ายแห่งความศรัทธาวิสัยทัศน์และจริยธรรม  และชี้ถึงถึงภาระหน้าที่ที่สำคัญของอิมามนำนมาซวันศุกร์ในการ “อธิบายข้อเท็จจริง ทิศทางการเมืองและวัฒนธรรม”  และกล่าวเสริมว่า การเลือกตั้งเป็นสิ่งที่สำคัญมากและเป็นความโปรดปรานที่ยิ่งใหญ่จริงๆ  ควรเน้นย้ำให้มีส่วนร่วมสูงสุดของประชาชนในการเลือกตั้งในเดือนอิสฟันด์ที่จะถึงนี้  ความหมายและแนวคิดอันลุ่มลึกในสิทธิของประชาชนในด้าน “การดำเนินการ การ ตรวจสอบสิทธิของผู้สมัคร บัญชีรายชื่อเลือกตั้ง การรักษาการลงคะแนนของประชาชนและการยอมรับของผลการเลือกตั้ง”  อันเป็นแง่มุมที่จะเติมเต็มและให้ความหมายที่สมบูรณ์แบบมากขึ้นและประชาชน อันเนื่องจากความโลภของอเมริกาที่มีต่อการเลือกตั้งในครั้งนี้ ซึ่งควรจะมีการพิจารณาและตระหนักในการแทรกซึมของพวกเขาให้ดี 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวในช่วงแรกของการปราศรัย ว่า  การเลือกใช้คำว่าค่ายสำหรับการนมาซวันศุกร์นั้น เนื่องจากเหตุผลที่ว่า เรากำลังมีการเผชิญหน้าทางจิตวิญญาณ ความเชื่อ ความศรัทธาและการเมือง เหมือนดั่งสมัยสงครามพิทักษ์ปกป้องอันศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาได้ยัดเหยียดให้กับเรา และการป้องกันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น

ทานผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึงความสามารถของอิหร่านที่จะปกป้องตัวเองว่า ในการต่อสู้(ญิฮาด)ครั้งนี้ "ความศรัทธา วิสัยทัศน์ (บาศีรัต) ความยำเกรงและจริยธรรมและศีลธรรมอันดีงามของประชาชน(อัคลาค)ตกเป็นเป้าโจมตี และไวรัสที่เป็นอันตรายก็จะถูกกระจายไปในสังคมและชุมชนอย่างแพร่หลาย

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า เป้าหมายหลักที่สำคัญของอิมามนำนมาซคือการอธิบายข้อเท็จจริง ว่า บรรดาอิมามนำนมาซวันศุกร์อยู่ในฐานะผู้รู้นักการศาสนาประจำเมืองอีกทั้งเป็นทายาทของบรรดาศาสดา  ควรใช้โอกาสในการชุมนุมของการนมาซวันศุกร์ทำการอธิบายและชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆให้กับประชาชน  

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การพูดคุยแบบเห็นหน้าและซึ่งๆหน้าในการนมาซวันศุกร์ย่อมที่มีอิทธิพลอย่างมาก และมีความสำคัญกว่าการสื่อสารทางไกลที่ผ่านเครื่องมือการสื่อสารที่ทันสมัยใหม่ และย้ำกล่าวว่า  บรรดาอิมามนำนมาซวันศุกร์ควรใช้ประโยชน์สูงสุดจากโอกาสนี้  ในพิธีนมาซวันศุกร์และถือเป็นหัวใจหลักด้านวัฒนธรรมของทุกๆเมืองในการชี้นำทางการเมืองและวัฒนธรรม 

ท่านผู้นำสูงสุดย้ำถึงการชี้นำด้านวัฒนธรรมอันมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งกว่าการชี้นำด้านการเมือง  ว่า  หนึ่งในวัตถุประสงค์หลักของศัตรูศาสนาอิสลามและประชาชาติอิหร่าน คือการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมและจริยธรรมของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิถีชีวิตของพวกเขา

ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึงมิติต่างๆของวิถีชีวิตอิสลาม ว่า  “มารยาท” และการออกห่างและห่างไกลจากการดูหมิ่นและดูแคลนแม้กระทั่งการสนทนากับฝ่ายตรงกันข้าม ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญที่สุดในวิถีชีวิตอิสลาม ซึ่งมีความเพียรพยายามอย่างมากที่จะให้ประชาชนไม่เคร่งครัดต่อมารยาทเหล่านี้แต่เป็นสิ่งที่น่าเสียดายที่ในบางกรณีของความพยายามเหลานี้ได้รับความสำเร็จ 

ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า วัตรปฏิบัติและวิถีชีวิตที่ดีเช่นการอ่านหนังสือก็เป็นอีกหนึ่งมิติที่สำคัญของวิถีชีวิตอิสลาม และกล่าวย้ำว่า ควรส่งเสริมให้ประชาชนและเยาวชนคนหนุ่มสาวอ่านหนังสือ และส่งเสริมให้ปัญญาชนผลิตหนังสือและในทุกสถานที่ที่มีการจัดนมาซวันศุกร์ของทุกเมืองอาจจะมีการจัดศูนย์แสดงหนังสือที่ดีและทันสมัยทันเหตุการณ์และเป็นที่ต้องการของประชาชน 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ย้ำถึง หนึ่งในประเด็นที่สำคัญในเรื่องของการนมาซวันศุกร์คือการดึงดูดประชากรหนุ่มสาวของประเทศว่า การดึงเยาวชนไม่อาจเป็นไปได้ด้วยแค่คำพูดเท่านั้นแต่ทว่าจะต้องดึงดูดเยาวชนคนหนุ่มสาวเหล่านี้ด้วยหัวใจและความเข้าใจเพื่อสามารถเข้าร่วมนมาซวันศุกร์

ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า คำพูดที่เหมาะสมและสมเหตุสมผลที่มีความน่าเชื่อถือ  "ในประเด็นทางการเมืองและวัฒนธรรม” และ “คำพูดใหม่” คือปัจจัยพื้นฐานในการดึงดูดเยาวชนคนหนุ่มสาวในการเข้าร่วมนมาซวันศุกร์ ว่า  “คำพูดใหม่” มิได้หมายถึงคำพูดที่ผิดจารีตและอุตริกรรม   แต่ทว่าทั้งนี้คำพูดใหม่ที่ได้มานั้นต้องมาจากการคิดไตร่ตรอง การค้นคว้าและการแสวงหาในเนื้อหาและบริบทที่แท้จริง 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า ความจริงใจและความเมตตาจิตของบรรดาอิมามนำนมาซวันศุกร์  การห่างไกลจากการหยิ่งยโสและโอ้อวด  มีแบบอย่างของนักเรียนศาสนาและมีความรักความเมตตาเยี่ยงบิดา หลีกเลี่ยงพฤติกรรมการบริหารและการอุปถัมภ์ ถือเป็นปัจจัยต่างๆ ที่จะดึงดูดเยาวชนคนหนุ่มสาวในการเข้าร่วมนมาซวันศุกร์เป็นสิ่งที่สำคัญ และกล่าวเสริม ว่า ในการเทศนาธรรมในวันศุกร์ต้องมีการนำเสนอในสิ่งที่ถูกต้องถึงแม้ว่าผู้รับฟังจะไม่ชื่นชอบและไม่ประทับใจก็ตาม ก็ต้องนำเสนอด้วยภาษาของเหตุผลตรรกะและด้วยคำพูดที่อบอุ่นใจ 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ย้ำถึง ความจำเป็นที่จะต้องรักษาสถานะของบรรดาอิมามนำนมาซวันศุกร์ สำนักงานใหญ่และประชาชน  ว่า การดำรงนมาซวันศุกร์ในสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านถือเป็นความโปรดปรานที่ยิ่งใหญ่อันต้องรู้ถึงคุณค่าของสิ่งนี้  และบนพื้นฐานอันนี้เนื้อหาในการเทศนาธรรมในนมาซวันศุกร์ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของสังคมด้วย

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้กล่าวเสริมว่า การเลือกตั้งเป็นสิ่งที่สำคัญมากและเป็นนิอ์มัตและความโปรดปรานที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง และกล่าวเสริมว่า  ความบารอกัต(ความเป็นสิริมงคล)แห่งความโปรดปรานอันนี้ เกิดจากโลกทัศน์ที่ลุ่มลึกและรูปแบบวิธีการของท่านอิมามโคมัยนี(รฎ) ที่ต่างและตรงกันข้ามกับความคิดเห็นของบางกลุ่ม ซึ่งการเลือกตั้งในรัฐบาลอิสลามถือเป็นสิ่งที่จำเป็น และประชาชนก็เป็นเจ้าของประเทศ และเชื่อว่าการตัดสินใจและทางเลือกของประชาชนควรมีแหล่งที่มาที่มีประสิทธิภาพ

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวว่า ภายใต้โลกทัศน์เช่นนี้และการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ของท่านอิมาม(รฎ) ทำให้ประชาชนอยู่เคียงข้างกับการปฏิวัติเสมอมา เนื่องจากพวกเขารู้ว่าการตัดสินใจของพวกเขามีผลต่อประเทศ

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า การเลือกตั้งในมิติภายในนั้นจะนำไปสู่ความรู้สึก ความเป็นอิสระและความเป็นตัวตนและมีอิทธิพลต่อประเทศชาติ และในมิติภูมิภาคและระหว่างประเทศเป็นบ่อเกิดแห่งเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และชื่อเสียงของของประเทศและระบอบ

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้เน้นย้ำในการปรากฏตัวให้มากที่สุดในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น และกล่าวเสริมว่า เมื่อประชาชนปรากฏตัวมากขึ้น ความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือของระบอบและประเทศก็จะเพิ่มมากขึ้นและนั่นเป็นเหตุผลที่เรามักจะตอกย้ำอยู่เสมอในการปรากฏตัวให้มากขึ้นของประชาชนและในครั้งนี้ก็ขอย้ำในเรื่องนี้อีกครั้ง เนื่องจากระบอบต้องพึ่งพาอาศัยความรู้สึกความละเอียดอ่อน แรงบันดาลใจและการเลือกของประชาชน 

ท่านผู้นำสูงสุดได้วิพากษ์วิจารณ์คำแอบอ้างที่ไม่เชื่อมั่นในการเลือกตั้ง ว่า บางคนเหมือนว่าชินอยู่กับการติดโรคร้ายในช่วงการเลือกตั้ง และโห่ร้องถึงผลสรุปการเลือกตั้งที่ไม่โปร่งใส และได้ทำลายความโปรดปรานต่อการเลือกตั้งนี้ ด้วยวาจาของเขา

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า ทั้งนี้อาจจะมีการทุจริตการเลือกตั้งในบางจุด แต่ทว่าการทุจริตที่จัดทำเป็นระบบที่ทรงผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อผลการเลือกตั้งนั้นไม่มีอย่างแน่นอน 

ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า กรอบข้อกฎหมายคือ การรักษาดูแลเจ้าหน้าที่การเลือกตั้งและคำนึกถึงการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ของรัฐและเอกชนในทุกสมัย รวมทั้งการดูแลด้านความโปร่งใสของการเลือกตั้ง  และเสริมกล่าวว่าบางรัฐบาลมีความแตกต่างถึง 180   องศา   แต่พฤติกรรมทั้งหมดของพวกในด้านการเลือกตั้งก็มีความเป็นธรรมและเป็นการเลือกตั้งที่โปร่งใส   และอินชาอัลลอฮ์ในครั้งนี้ก็จะเป็นเช่นนี้เหมือนกัน  

จากนั้นท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้อธิบายในมิติต่างๆของความหมายที่เปี่ยมด้วยนัยยะ  “ฮักกุล นาส”  สิทธิของประชาชนในสนามแห่งการเลือกตั้ง

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้อธิบาย “ฮักกุล นาส”  สิทธิของประชาชนในด้าน “สิทธิของผู้สมัคร” ว่า หนึ่งในรูปแบบของการเคารพสิทธิของประชาชนในการเลือกตั้งคือ หากผู้ใดมีคุณสมบัติครบอย่าได้ปฏิเสธและเพิกถอนสิทธิของเขา  ควรให้เวทีและสนามแก่เขา  และตรงกันข้ามไม่ว่าผู้ใดที่อยู่ในรัฐสภาและสภาเลือกตั้งผู้เชี่ยวชาญหากไม่มีสิทธิตามกฎหมาย ก็อย่าปล่อยให้เขาเข้ามาเป็นอันขาดไม่ว่าจะโดยประมาทและความไม่ระมัดระวังก็ตาม ซึ่งการละเลยต่อทั้งสองประเด็นนั้นถือเป็นการละเมิดสิทธิของประชาชน 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า คะแนนเสียงของประชาชนคืออามานะห์  และกล่าวเสริมว่า การรักษาอามานะห์นี้ถือเป็นอีกมิติหนึ่งในสิทธิของประชาชน 

ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการตรวจสอบการนับคะแนนและการประกาศผลจำต้องมีการรักษาคะแนนเสียงของประชาชนอย่างซื่อสัตย์สุจริตอย่างแท้จริง และอย่างให้มีการทุจริตในประเรื่องนี้แม้แต่นิดเดียว และหากเกิดขึ้นถือเป็นการทรยศต่ออามานะห์ 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า การยอมรับผลการเลือกตั้งตามกฎหมาย เป็นหนึ่งในมิติของการคำนึงถึงสิทธิของประชาชน  และกล่าวเสริมว่า เมื่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง    ได้ประกาศผลและรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว การคัดค้านและการไม่ยอมรับผลเหล่านี้เป็นการละเมิดสิทธิของประชาชน 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ทบทวนการเลือกตั้งที่คึกคักและยิ่งใหญ่ที่มีประชาชน 40 กว่าล้านคนมาออกลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งปี 88   ว่า   ในปีนั้น บางคนได้ออกมาพูดในเชิงปฏิเสธและพูดที่น่ารังเกียจและไม่เหมาะสม โดยอ้างว่ามีการทุจริตการเลือกตั้งไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง และเรียกร้องให้มีการนับผลคะแนนใหม่อีกครั้ง 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวเสริมว่า  เรามีการประนีประนอมกับพวกเขามากพอสมควร ซึ่งมีรายละเอียดยาว  เรากล่าวว่า พวกเจ้าจงมานับคะแนนทุกหีบเลือกตั้งตามที่ต้องการ แต่พวกเขาก็เพิกเฉยในการชี้แนะ เนื่องจากพวกเขาไม่มีความต้องการที่จะยอมรับสัจธรรมแต่อย่างใดเลย 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้รำลึกการกระทำและการแอบอ้างดังกล่าวที่นำความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อประชาชนและประเทศชาติ  จนถึงวันนี้ก็ยังไม่อาจทดแทนได้ และไม่ทราบว่าสิ่งนี้จะได้รับการชดเชยเมื่อใด?

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ในประเด็นการคำนึงถึงสิทธิของประชาชน ในการ “นำเสนอบัญชีรายชื่อการเลือกตั้ง” 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า  การคำนึงถึงสิทธิของประชาชนในการนำเสนอบัญชีรายชื่อนั้น หมายความว่าอย่าได้นำเอาประเด็นความสัมพันธ์ส่วนตัวหรือเล่นพรรคเล่นพวกเข้ามายุ่งเกี่ยวในบัญชีรายชื่อเป็นอันขาด  และจงอาศัยบรรทัดฐานแห่งความเหมาะสมที่แท้จริงมากำหนดบัญชีรายชื่อ 

ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้แนะให้กับประชาชน ว่า ในการเลือกผู้สมัครเหล่านั้นจงเลือกบุคคลในบัญชีรายชื่อที่มีคุณสมบัติต่างๆรวมทั้งความซื่อสัตย์สุจริตและมีความรักต่อการปฏิวัติอิสลาม  หาใช่บุคคลที่มีเป้าหมายวัตถุประสงค์เฉพาะหรือบางครั้งมีความเสื่อมทรามและทุจริต

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ดำเนินการปราศรัยต่อหน้าบรรดาอิมามนำนมาซวันศุกร์อย่างต่อเนื่องในประเด็นการเลือกตั้งด้วยการมุ่งเน้นในประเด็นที่สำคัญและละเอียดอ่อน ในเรื่องของ “การแทรกซึม”

ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวว่า บรรดาผู้ที่มีการเข้าถึงข้อมูลก็จะรู้ถึงกลลวงที่ได้แพร่กระจายในประเทศหรือกำลังมีการแพร่ขยาย เพื่อเป็นการกดดันในการแทรกซึงการบริหารจัดการและการตัดสินใจ

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงความจำเป็นในการรับรู้และความเฉลียวฉลาดของประชาชน ว่า สมมติว่ามีกลุ่มบุคคลเข้าแทรกซึมในรัฐสภาหรือสภาผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานอื่น ๆของระบอบ ก็จะเหมือนดั่งปลวกที่จะคอยทำลายและกัดแทะเสาหลักและรากฐานต่างๆให้หลุดลุ่ยเสียหาย  

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวเสริมว่า ในประเด็นของการแทรกซึมนั้นไม่ควรมีการใส่ร้ายป้ายสีและเอ่ยถึงสัญลักษณ์ที่ชัดเจนและเจาะจงเฉพาะตัวในการชี้นำความคิดต่อสาธารณชน 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ช่วงเวลานี้เป็นห้วงเวลาที่มีความละเอียดอ่อนและอ่อนไหวมากที่สุด   และกล่าวเสริมว่า แนวรบของศัตรูการปฏิวัติอิสลามและประชาชาติอิหร่านมีทุกรอบด้านอีกทั้งมีการวางแผนร้ายต่างๆและมีความเพียรพยายามอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพวกเขาตระหนักและรู้ถึงภัยอันตรายอย่างแท้จริงในการเผยแผ่ความคิดอิสลามอันบริสุทธิ์ในเขตพื้นที่ต่างๆอย่างแพร่หลาย 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวว่า  ความคิดอิสลามอันบริสุทธิ์เหมือนสายลมอ่อนๆแห่งความโปรดปรานและน้ำหอมที่หอมหวนที่ถูกแพร่กระจาย    และสามารถอบรมสอนสั่งวีรบุรุษที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพในภูมิภาคต่างๆของโลก  ดังนั้นเพื่อเผชิญหน้ากับข้อเท็จจริงเหล่านี้ฝ่ายต่อต้านศาสนาอิสลามจึงมีการโหมกระหน่ำโจมตีโฆษณาทางการเมืองต่อสาธารณรัฐอิสลาม  

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึง ต่างชาติใช้ประโยชน์ด้วยการปั่นป่วนภายใน โหมกระหน่ำการโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง ทุ่มเงิน  ใช้กลลวงทางศีลธรรมและใช้รูปแบบและวิธีการต่างๆอย่างมากมาย  และกล่าวเสริมว่า  ทุกคนต้องมีความระมัดระวังในการต่อต้าน "การแทรกซึม" 

ในช่วงท้ายท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวถึงความโลภของอเมริกาที่มีต่อการเลือกตั้งที่มีจะมีขึ้นในเร็วๆนี้ ว่า   อเมริกาก็เหมือนเราที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง   แต่ทว่าเราต้องการการเปลี่ยนที่ลดความเหินห่างระหว่างประเทศและสังคมให้สอดคล้องกับเป้าหมายของอิสลามและการปฏิวัติ  และพวกเขาก็เช่นกันมีเป้าหมายที่ตรงกันข้ามของการเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของประชาชาติอิหร่าน  ด้วยการมุ่งเป้าให้สังคมออกห่างจากเป้าหมายของการปฏิวัติและให้อิหร่านใกล้ชิดกับเป้าหมายของพวกเขา 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้อเมริกาจึงมีสายตาที่ละโมบต่อการเลือกตั้ง แต่ทว่าประชาชาติอิหร่านจะมีความเฉลียวฉลาดและระมัดระวังทั้งในประเด็นการเลือกตั้งและประเด็นอื่น ๆ ที่จะแสดงการดำเนินการที่ขัดกับความปรารถนาของศัตรู และสามารถหุบปากศัตรูเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา