เมื่อช่วงก่อนเที่ยงของวันอังคารที่ผ่านมา (24 พ.ย.) อับดุลมาลิก ซะลาล นายกรัฐมนตรีแอลจีเรียพร้อมคณะเข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ซึ่งในการพบปะครั้งนี้ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึง ความใกล้เคียงในเรื่องนโยบายทางการเมืองระหว่างสองประเทศ ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ ว่า
“นอกเหนือจากความใกล้เคียงในมุมมองและนโยบายทางการเมืองแล้ว ประเทศอิหร่านมีทัศนคติเชิงบวกต่อประชาชนชาวแอลจีเรีย เนื่องจากประชาชนแอลจีเรีย ได้ยืนหยัดต่อสู้กับลัทธิล่าอาณานิคมในช่วงการปฏิวัติแอลจีเรีย”
ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า ความสัมพันธ์จากไมตรีจิตและจิตวิญญาณที่ดีระหว่างชนชาติต่างๆนั้น เป็นปัจจัยพื้นฐานที่เหมาะสม ในการยกระดับความร่วมมือในด้านต่างๆ โดยเฉพาะภาคเศรษฐกิจ พร้อมกับกล่าวเสริมว่า “ระดับความร่วมมือระหว่างอิหร่านกับแอลจีเรีย อยู่เกณฑ์ที่ต่ำมาก และเราหวังว่า ด้วยการมาเยือนครั้งนี้ และการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมกันในอนาคตอันใกล้นี้ ตลอดจนการเดินทางเยือนของนาย ญิฮาน คีรีย์ ยังแอลจีเรียในเร็วๆนี้ จะสามารถสร้างความสัมพันธ์และยกระดับเศรษฐกิจของสองประเทศได้ดีขึ้นกว่าเดิม”
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึงคำพูดของนายกรัฐมนตรีแอลจีเรีย ในประเด็นการปรากฏตัวของไอซิสและความจำเป็นที่จะต้องมีการปราบปรามอย่างจริงจัง จากประเทศต่างๆในภูมิภาค การก่อการร้ายต่างๆ ได้สร้างความเสียหายต่อภาพพจน์ของอิสลาม ว่า “ปัญหาไอซิส และผู้ก่อการร้ายที่อ้างชื่ออิสลาม ได้แพร่กระจายทั่วทั้งภูมิภาคนั้น ถือเป็นเรื่องที่ผิดปรกติ ซึ่งผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ ได้ถูกสร้างขึ้นมา และยังคงได้รับการสนับสนุนอยู่”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้แสดงความสลดใจต่อชาติอิสลามบางประเทศในภูมิภาค ซึ่งได้ให้การสนับสนุนผู้ก่อการร้ายไอซิส และได้ชี้ถึง การสนับสนุนของอเมริกาและศัตรูอิสลาม แก่ผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ ว่า “ประเทศอิสลามมีความรัก ความผูกพัน และความความเข้าใจต่อกัน สามารถที่จะเข้าร่วมสู่การเจรจา และร่วมมือต่อกัน เพื่อให้บรรลุแนวทางที่เป็นรูปธรรม ต่อการปราบปรามผู้ก่อการร้ายได้”
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ทบทวนกลุ่มมุกอวิมัตต่างๆ ทั้งในแอลจีเรีย อิหร่าน ซีเรียและประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศ ที่ถูกจัดตั้งขึ้น ในช่วงเริ่มต้นของการปฏิวัติอิสลาม ว่า “บางประเทศได้ปฏิบัติตามอเมริกา ซึ่งทำให้การเคลื่อนไหวต้องหยุดชะงักลง แต่ดูเหมือนว่าวันนี้ ปัจจัยเบื้องต้น ในการจัดตั้งกลุ่มมุกอวัตที่มาจากประเทศอิสลามต่างๆมีจุดร่วมที่เหมือนกันนั้น ได้เกิดขึ้นแล้ว”
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวย้ำว่า “หากสามารถจัดตั้งกลุ่มมุกอวิมัตเหล่านี้ได้แล้ว ประเทศอิสลามก็สามารถมีบทบาท และมีอิทธิพลต่อประเด็นที่สำคัญในโลกอิสลาม และสามารถปฏิบัติการต่อการแก้ไขปัญหาในระดับภูมิภาค และการต่อสู้กับการก่อการร้ายการได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ในช่วงท้ายท่านผู้นำสูงสุด ได้ขอพรและหวังว่า โบตัฟลีเกาะห์ ประธานาธิบดี แอลจีเรีย จะหายป่วยและมีสุขภาพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรงในเร็ววัน
อับดุลมาลิก ซะลาล นายกรัฐมนตรีแอลจีเรีย ถือว่า “การประชุมประเทศผู้ส่งออกก๊าซในกรุงเตหะรานนั้นเป็นการประชุมที่ประสบความสำเร็จ และได้ชี้ถึงการเจรจากับเจ้าหน้าที่อิหร่าน ว่า นโยบายของแอลจีเรียและอิหร่านในประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องการต่อสู้และปราบปรามผู้ก่อการร้ายในภูมิภาคนั้น มีความใกล้เคียงกันมาก และเราหวังว่า หลังการเจรจากับกรุงเตหะราน ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจคงจะดีขึ้นกว่าระดับปัจจุบันที่มีอยู่อย่างแน่นอน”