เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ (1 พ ย) ที่ผ่านมา รัฐมนตรีต่างประเทศ นักการทูตระดับสูงและเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศอิหร่าน เข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ในการพบปะครั้งนี้ท่านผู้นำสูงสุด ได้อธิบาย “พื้นฐานและกลยุทธ์ที่มั่นคงของนโยบายต่างประเทศในรัฐธรรมนูญและข้อบังคับที่มาจากพื้นฐานเหล่านี้และนโยบายต่างๆ” พร้อมกับอธิบาย การแก้ปัญหาที่มีเหตุผลและมีประสิทธิภาพในประเด็นปัญหาที่สำคัญในระดับภูมิภาครวมทั้งอิหร่าน ซีเรีย เยเมนและบาห์เรน และกล่าวว่า ย้ำ เป้าหมายของอเมริกาในภูมิภาค 180 องศา ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับเป้าหมายของอิหร่าน
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า นโยบายด้านต่างประเทศของอิหร่านก็คือนโยบายต่างประเทศของระบอบที่มีอยู่ในรัฐธรรมนูญ และกล่าวย้ำว่า นโยบายต่างประเทศเหล่านี้ ได้มาจากอิสลามและเป้าหมายและอุดมการณ์ของการปฏิวัติอิสลาม และเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศ นักการทูตและอุปทูตนั้น ในความเป็นจริงแล้ว คือ ตัวแทน คือทหารและข้าราชการของหลักพื้นฐานและอุดมการณ์เหล่านี้
ท่านผู้นำสูงสุด ได้กล่าวในประเด็นนี้ว่า นโยบายต่างประเทศของอิหร่าน ก็เหมือนกับทุกประเทศทั่วโลกที่ยึดมั่นบนพื้นฐานของผลประโยชน์ระยะยาว หลักการและค่านิยม ซึ่งไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนที่เข้ามาบริหารแม้จะมีผลประโยชน์ทางการเมืองลักษณะใดก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงพื้นฐานเหล่านี้ได้ รัฐบาลจะสามารถมีอิทธิพลและมีบทบาทส่วนร่วมแค่ยุทธ์วิธีและความคิดสร้างสรรค์ในการดำเนินการเชิงกลยุทธ์ต่างๆของนโยบายต่างประเทศเท่านั้น
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า กลยุทธ์ทางการทูตของรัฐบาลต่างๆทั้งหมด ควรนำมาใช้เพื่อความก้าวหน้าของพื้นฐานและหลักการนโยบายต่างประเทศในรัฐธรรมนูญ และตัวแทนทางการเมืองของอิหร่านที่อยู่ในต่างประเทศ ให้ถือตนเองคือตัวแทน คือผู้ให้การสนับสนุนปกป้องอย่างแท้จริง และผู้มีตรรกะในนโยบายต่างๆของระบอบอย่างแท้จริง
ท่านผู้นำสูงสุด ได้ชี้ถึงการโฆษณาชวนเชื่ออย่างอึกกะทึกครึกโครมของต่างชาติ ต่อประเด็น “การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบของการถูกบีบบังคับหรือด้วยความสมัครใจ” ในนโยบายต่างประเทศของสาธารณรัฐอิสลาม ว่า การวิเคราะห์เช่นนี้เป็นการคาดเดาอันเป็นที่น่าพอใจของตะวันตก ซึ่งเกิดจากแรงกดดันในข้อเท็จจริงของนโยบายต่างประเทศของสาธารณรัฐอิสลาม อย่างน้อยที่สุดในระดับภูมิภาค เสมือนดั่งเขื่อนแข็งแกร่งและภูพาที่มั่นคง อันเป็นตัวสกัดกั้นมหาอำนาจผู้ครอบงำต่างๆโดยเฉพาะอเมริกา เนื่องจากพวกเขาเหล่านี้มีความหวังที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายของเรา
ท่านผู้นำการปฏิวัติถือว่า นโยบายของอเมริกาในภูมิภาคที่มีความละเอียดอ่อนอย่างมากในเอเชียตะวันตกนั้น เป็นสาเหตุหลักของสถานการณ์ที่ผิดปกติ พร้อมกับกล่าวว่า แตกต่างกับทัศนะของบางคนที่ถือว่า อเมริกาเป็นองค์ประกอบหลักที่ก่อให้เกิดปัญหาในภูมิภาคนี้ ซึ่งไม่ใช่เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางในการแก้ปัญหา
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวย้ำอีกว่า นโยบายของสาธารณรัฐอิสลามนั้นไม่ใช่เป็นการสร้างโดยคนนี้หรือคนโน้น แต่ทว่ามันขึ้นอยู่กับพื้นฐานหลักอันแข็งแกร่งของรัฐธรรมนูญ พร้อมกับกล่าวเสริมว่า ในรัฐธรรมนูญ อิสลามเป็นตัวชี้วัดของการดำเนินนโยบายต่างประเทศ ดังนั้น จุดยืนในการเผชิญหน้ากับชาติต่างๆและปัญหาต่างๆนั้น ควรจะมีลักษณะและเอกลักษณ์เฉพาะทางศาสนา
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงพื้นฐานหลักของนโยบายต่างประเทศในรัฐธรรมนูญ อาทิเช่น ความมุ่งมั่นในการเป็นพี่น้องกับมวลมุสลิมทั่วโลก สนับสนุนบรรดาพี่น้องผู้ถูกกดขี่ทั่วโลกอย่างแน่วแน่ กำจัดลัทธิจักรวรรดินิยมอย่างสมบูรณ์แบบ และป้องกันไม่ให้เข้าไปมีอิทธิพลในทุกสนามและทุกด้าน ความเป็นอิสระในทุกด้าน ปกป้องสิทธิของพี่น้องมุสลิม ไม่สร้างสัมพันธ์กับจักรวรรดินิยม ความสัมพันธ์อย่างสันติร่วมกันกับรัฐอื่น ๆ ในภาวะสงคราม ละเว้นจากการรบกวนใด ๆ ในกิจการภายในของประเทศ และให้การสนับสนุนนักต่อสู้ที่เรียกร้องความเป็นธรรมของบรรดาผู้ถูกกดขี่ในการต่อสู้กับมหาอำนาจผู้อหังการ ในทุกหนแห่งของโลก และกล่าวเสริมว่า พื้นฐานหลักเช่นนี้ สามารถสร้างแรงดึงดูด สร้างนวัตกรรม และมีความสูงส่ง ในความคิดของประชาชาติต่างๆโดยเฉพาะในบรรดามันสองของประเทศได้เป็นอย่างดี
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามกล่าวว่า นโยบายต่างประเทศของสาธารณรัฐอิสลาม ด้วยกลยุทธ์ และเอกลักษณ์ที่พิเศษ คือนโยบายต่างประเทศของการปฏิวัติ และหากในการดำเนินควบคู่ด้วยความชาญฉลาดแล้ว ก็จะเกิดผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์ขึ้นมาอย่างแน่นอน และจะมีศักยภาพพอในการแก้ปัญหาที่สำคัญจากปัญหาต่างๆของโลกอิสลาม
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึง บางผลลัพธ์ในเชิงบวกของการดำเนินการตามกลยุทธ์นโยบายต่างประเทศ ว่า การดำเนินนโยบายต่างๆของการปฏิวัติในทุกด้าน รวมทั้งการเจรจาต่อรองกับมหาอำนาจ ที่ส่งผลให้มีการเพิ่มพลังอำนาจ อิทธิพล ส่งเสริมสถานะภาพของประเทศ ศักดิ์ศรี เกียรติยศ และความน่าเชื่อถือของชาวอิหร่านในหมู่ประชาชาติทั้งหลายมากยิ่งขึ้น
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้เน้นย้ำในการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในกลยุทธ์ที่มั่นคงของนโยบายต่างประเทศ ว่า เราไม่อาจอ้างว่าเราได้บรรลุและประสบความสำเร็จในเป้าหมายของตนแล้ว หรือว่า มันมีความใกล้กับเป้าหมายมากที่สุด เนื่องจาก การดำเนิน “นโยบายต่างประเทศของการปฏิวัติ” บางครั้งในภาคปฏิบัติอาจจะเกิดความประมาท การปฏิบัติงานที่น้อยนิด ไม่เฉลียวใจ และอุปสรรค์จากภายนอกควบคู่อยู่เสมอ ทว่าด้วยฐานะภาพอันทรงเกียรติ์ ศักดิ์ศรีของประเทศที่มีอยู่ในขณะนี้ จึงเป็นหนี้บุญคุณของนโยบายต่างๆที่มีวิทยปัญญาเหล่านี้ และหากเราไม่ปฏิบัติตามพื้นฐานหลักดังกล่าว จะมีพระองค์เท่านั้นที่รู้ว่า ภายในเขตชายแดนต่างๆ เราจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหาต่างๆและการโจมตีที่หนักหน่วงอะไรบ้าง
ในส่วนนี้ ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้สรุปประเด็นข้างต้น โดยกล่าวถึงรัฐมนตรีต่างประเทศ คณะทูตและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศ ว่า ด้วย “ ความแข็งแกร่ง พลังอำนาจและศักดิ์ศรีเกียรติยศ” จงสานต่อพื้นฐานหลักของการปฏิวัติ กลยุทธ์ที่มั่นคงของนโยบายต่างประเทศให้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เพื่อทำให้ต่างชาติ และบางคนที่เป็นสมุนของพวกภายในประเทศ นั้น ไม่มีความพอใจต่อการเปลี่ยนแปลงในนโยบายต่างประเทศของสาธารณรัฐอิสลาม
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงข้อบังคับที่เกิดจากการยึดมั่นบนพื้นฐานและกลยุทธ์นโยบายต่างประเทศ ว่า พึงรู้ว่ากลยุทธ์ต่างๆของนโยบายต่างประเทศควรทำหน้าที่ในการรับใช้พื้นฐานกลยุทธ์เสียกว่ามากกว่า หาใช่เป็นเพียงแค่ยุทธ์วิธี ซึ่งมีความขัดแย้งกับการดำเนินการ
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า “ ความเชื่อมั่นในตัวเอง ความชัดเจน และความแข็งแกร่งในการเผชิญหน้ากับปัจจัยที่ขัดแย้งและอุปสรรค์” เป็นอีกหนึ่งในข้อบังคับที่สำคัญของนโยบายต่างประเทศ ขณะเดียวกัน ท่านกล่าวเสริมว่า ทั้งนี้ศิลปะทางการทูต คือ ความคิดเห็น และอุปสรรค์นั้นจะต้องมีการนำเสนอที่สามารถส่งผลกระทบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า ตรรกะของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านในประเด็นภูมิภาค นั้น เป็นนโยบายที่มั่นคงและเป็นที่พอใจของโลก และอธิบายแนวทางของอิหร่านในการแก้ปัญหาต่างๆเหล่านี้ ว่า ในเรื่องปาเลสไตน์ นอกเหนือจากเราเป็นปฏิเสธระบอบไซออนิสต์เถื่อน เราประณามอย่างรุนแรงต่อการก่ออาชญากรรมรายวันของระบอบเถื่อนนี้แล้ว เรายังได้เสนอให้มีการเลือกตั้งโดยประชาชน ซึ่งมันสอดคล้องและสมดุลกับข้อเท็จจริงของโลกในวันนี้
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า ทุกรัฐบาลที่ออกมาให้การสนับสนุนคะแนนเสียงของปาเลสไตน์ จะสามารถกำหนดชะตากรรมของไซออนิสต์ และผู้ที่พำนักอาศัยในดินแดนดังกล่าวได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้การต่อต้านกับข้อเสนอที่มีตรรกะของเรานั้น พูดว่านั้นหมายถึงการล่มสลายของระบอบไซออนิสต์ ดังนั้นมันเป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้วว่ารัฐเถื่อนไซออนิสต์จะต้องล่มสลาย
ในประเด็นซีเรีย ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าวย้ำว่า คำพูดของเราในประเด็นนี้ คือคำพูดที่หนักแน่นที่สุด เราเชื่อว่า มันไม่มีความหมาย สำหรับประเทศต่างๆที่ได้มารวมตัวกัน เพื่อจะทำการตัดสินเกี่ยวกับระบอบการปกครองและผู้นำของประเทศ สิ่งนี้เป็นอุตริกรรมที่อันตรายและน่ากลัวอย่างมาก ซึ่งไม่ว่ารัฐบาลใดในโลกนี้ก็ไม่อาจยอมรับในการตัดสินใจและการดำเนินการดังกล่าว
อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า แนวทางยุติปัญหาในกรณีของซีเรียนั้นคือ การจัดการเลือกตั้ง และเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ ถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหยุดยั้งการสนับสนุนทั้งทางการทหารและการเงินของมหาอำนาจแก่บรรดาฝ่ายต่อต้านในซีเรีย เพื่อจะให้เกิดบรรยากาศและแวดล้อมที่สงบในการเลือกตั้ง และผู้ใดประสงค์แบบไหนก็มีความอิสระในการลงคะแนนเลือกตั้ง
ในประเด็นนี้ ท่านผู้นำสูงสุด ได้ปัดปฏิเสธการแบ่งแยกประเทศต่างๆและแบ่งย่อยให้กลายเป็นกลุ่มชนพื้นเมืองเล็กๆขึ้นมา พร้อมกับกล่าวเสริมว่า การอ้างอิงถึงกลุ่มหนึ่งของกลุ่มก่อการร้ายต่างๆเพื่อจัดตั้งรัฐบาลนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามหลักตรรกะและไม่อาจยอมรับได้ และการวางโครงสร้างเช่นนี้มันจะยิ่งก่อให้เกิดสงครามที่รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงประเด็นอิรัก ว่า การแบ่งแยกประเทศให้เป็นเขตพื้นที่ของอาหรับชีอะห์ อาหรับซุนนีและเคริด์ มันขัดแย้งกับความต้องการและผลประโยชน์ของประชาชน ซึ่งในภาคปฏิบัติมันเป็นไปไม่ได้ ไร้สาระและไม่อาจยอมรับได้
ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า บูรณภาพดินแดน ความสามัคคีและอำนาจอธิปไตยของอิรักคือหลักการของอิหร่านในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับอิรัก
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้กล่าวในประเด็นเยเมน ว่า ต้องยุติการก่ออาชญากรรมของซาอุดิอาระเบียโดยเร็ว และให้มีการเจรจาระหว่างชาวเยเมนกับชาวเยเมน จึงจะสามารถยุติความขัดแย้งในประเทศนี้ได้
ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวว่า พฤติกรรมของซาอุดิอาระเบียในเยเมนและซีเรีย เป็นการเหยียบเรือสองแคม ซึ่งในเยเมนพวกเขากล่าวว่า การเข้าไปแทรกแซงทางทหารเนื่องจากการเรียกร้องของประธานาธิบดีเยเมนที่หนีออกจากประเทศ แต่ในซีเรีย กลับไม่ยอมรับข้อเรียกร้องของผู้นำที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศ และซาอุดิอาระเบียก็ต้องหยุดให้การสนับสนุนกองกำลังติดอาวุธอีกด้วย
ท่านผู้นำสูงสุด ได้กล่าวในประเด็นบาห์เรน ว่า ประชาชนชาวบาห์เรนไม่ได้เรียกร้องสิ่งใดนอกเหนือจากสิทธิในการลงคะแนนเสียงและสิทธิในการเลือกตั้ง และเราถือว่าข้อเรียกร้องเหล่านี้ของพวกเขาถูกต้องตามหลักตรรกะ
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้อธิบายแนวทางของสาธารณรัฐอิสลามในการแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในภูมิภาค ว่า สาเหตุหลักของความไม่สงบที่เกิดขึ้น คืออเมริกาให้การสนับสนุนรัฐเถื่อนไซออนิสต์และกลุ่มกอการร้าย และนโยบายนี้ 180 องศา มันสวนทางอย่างสิ้นเชิงกับเป้าหมายของอิหร่าน ในภูมิภาค
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ปฏิเสธ การเจรจากับอเมริกาในประเด็นภูมิภาค และกล่าวว่า อเมริกากำลังแสวงหาผลประโยชน์ของตนเอง ไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหา ในการเจรจาพวกเขาต้องการให้ได้ประโยชน์สำหรับพวกเขา ร้อยละ 60 และ 70 และเป้าหมายที่เหลือของพวกเขาที่ได้ดำเนินการและปฏิบัติมานั้นล้วนเป็นสิ่งที่ขัดกับข้อกฎหมาย แล้วการเจรจาจะให้ความหมายอันใดอีกหรือ ?
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า การส่งเสริมและขยายความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องกับประเทศเพื่อบ้าน ประเทศอิสลามและประเทศแอฟริกา เป็นอีกหนึ่งข้อบังคับของนโยบายต่างประเทศของเรา
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การเรียกพวกท่านเหล่านี้เป็นนักรบ นักตอสู้ และบรรดาผู้อยู่แถวหน้า ในเวทีระดับนานาชาตินั้น อันเนื่องจากความเหมาะสมและสถานะภาพของการเป็นนักการทูต คณะทูตานุทูตและเจ้าหน้าที่ของประทรวงต่างประเทศนั้นเอง และกล่าวเสริมว่า กระทรวงต่างประเทศได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนได้อย่างดี หากพิจารณาจากภาระหน้าที่ที่มี โดยเฉพาะประสบการณ์ล่าสุดในการเจรจานิวเคลียร์ ของ ดร ซาริฟ ที่สามารถก้าวผ่านบททดสอบไปด้วยดี
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชื่นชมในความมุมานะและความตั้งใจอย่างแท้จริงของคณะทีมเจรจานิวเคลียร์ ว่า ความรู้สึกมีอำนาจ การนั่งเจรจากับหกชาติมหาอำนาจในการปกป้องเป้าหมายและยืนหยัดในการเข้าร่วมของตนที่ต้องเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงกันข้าม เป็นหนึ่งในจุดแข็งของคณะผู้เข้าร่วมของเราในการเจรจานิวเคลียร์
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า การมีศาสนา คือจุดแข็งของ ดร ซาริฟ และกล่าวย้ำว่า ข้าพเจ้าทำการวิงวอนขอดุอาอ์ให้กับพวกท่านอยู่เสมอ
ส่วนที่สามและส่วนสุดท้ายในการปราศรัยครั้งนี้ ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าวกำชับและกล่าวตักเตือนในบางประเด็นกับคณะทูต และเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศที่อยู่ต่างประเทศ
เสถียรภาพ การพึ่งพาอำนาจและอำนาจหน้าที่ขององค์ประประกอบของชาติ" รวมถึง "บทบาทที่เข้มข้นและเด็ดขาดในการกำหนดชะตากรรมของประชาชนและประเทศ" "ทรัพยากรมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพ มีทักษะ ความสด และเต็มรูปแบบ " "ความก้าวหน้าที่น่าอัศจรรย์ของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี “ยึดมั่นในจิตวิญญาณทางศาสนาและการปฏิวัติของบรรดาเจ้าหน้าที่การทูตและเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศ "และ" ใช้ประโยชน์จากประเทศต่างๆที่ไม่ยึดมั่นในบทบาทในการบรรลุเป้าหมายของเศรษฐกิจแบบยั่งยืน เหล่านี้คือคำแนะนำและกำชับจากท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม