ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ในการพบปะกับเจ้าหน้าที่และบรรดาผู้บริหารองค์กรการสื่อสารมวลชน และคณะกรรมาธิการควบคุมสื่อแห่งชาติ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ได้อธิบายถึง เป้าหมายของสงครามเย็นที่ถูกวางแผนไว้ทุกรูปแบบ ในการต่อกรกับสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน การเปลี่ยนความเชื่อของประชาชนถือว่า เป็นเป้าหมายสำคัญของสงครามที่สลับซับซ้อนนี้ 

และท่านยังเน้นถึง การมีบทบาททางสื่อสารของเอกชน ว่าจะต้องมีการวางแผนการอย่างระมัดระวังและละเอียด เพื่อทำให้บรรลุสู่ผลงานของสื่อในด้านต่างๆ

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ในช่วงเริ่มต้นของการปราศรัยของท่านได้กล่าวถึง ประเด็นความสำคัญของการสื่อสารมวลชนแห่งชาติในระบอบสาธารณรัฐอิสลาม และท่านได้ชี้ถึง การปฏิบัติงานอันยิ่งใหญ่ของการสื่อสารแห่งชาติด้วยกับการสนับสนุนจากการใช้สื่อในยุคสมัยใหม่ ซึ่งจะเป็นองค์ประกอบในการโต้แย้งที่มีความสลับซับซ้อนและมีความสำคัญเป็นอย่างมากในสงครามเย็น 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวถึง บุคคลที่มีวิสัยทัศน์ดี และ มีอุดมการณ์ จะต้องมาทำการศึกษาและตรวจสอบอย่างละเอียดในมิติต่างๆ อีกทั้งจะต้องมีความรอบคอบและระมัดระวังให้มากกว่าเดิม

ท่านชี้ถึงความซับซ้อนและผลอันตรายของสงครามเย็นที่มีมากกว่า โดยกล่าวเสริมว่า ในขณะที่สงครามเย็นนั้น มีความแตกต่างกันกับสงครามร้อนที่เปิดเผย แต่สงครามนี้เป็นสงครามที่มีขั้นตอนที่ละเอียดและซับซ้อน แม้ว่า บางกรณีจะเกิดผลกระทบต่อสังคมก็ตาม ซึ่งเป็นเหตุให้สังคมนั้นรู้สึกเพลียจากการหลับไหลและไม่มีความรู้สึกต่อการโจมตีและแทรกแซงของบรรดาศัตรู

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ย้ำว่า สงครามร้อนนั้น โดยส่วนมากแล้ว เป็นสาเหตุให้ประชาชนมีแรงผลักดัน ในการสร้างความเป็นเอกภาพและความสามัคคีแห่งชาติให้เกิดขึ้น แต่ในสงครามเย็นเป็นสงครามที่ทำให้อุดมการณ์ของฝ่ายตรงกันข้ามนั้นสูญสลายไป อีกทั้งยังเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งกันด้วย

หลังจากนั้น ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอีได้อธิบายถึงอันตรายและความวิตกของสงครามเย็นที่มีมากกว่าสงครามร้อน โดยกล่าวว่า สงครามเย็นมิใช่เฉพาะกับอิหร่านเท่านั้น แต่ประเด็นอิหร่าน ถือว่า เป็นประเด็นที่สำคัญยิ่ง และเป้าหมายหลักจากสงครามนี้ ซึ่งมีการวางแนวความคิดไว้แล้ว ในการเปลี่ยนสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน โดยมีการเปลี่ยนแปลงสภาพภายใน ซึ่งยังคงรักษาอิสลามไว้เพียงเปลือกนอกเท่านั้น

ท่านได้เน้นถึง การเปลี่ยนแปลงภายในและวิถีชีวิต หมายถึง การเปลี่ยนแปลงทางด้านอุดมการณ์ , สัญลักษณ์ต่างๆ และแนวคิดแห่งการปฏิวัติ อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงในเป้าหมายต่างๆอีกด้วย

ท่านกล่าวเสริมว่า หนึ่งในเป้าหมายของสงครามเย็น คือ การคงเหลือไว้ซึ่งนามของ “สาธารณรัฐอิสลาม”  แม้ว่า การเข้ามาร่วมของประชาชนคนเดียว ก็ไม่ถือว่า เป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญ นั่นก็คือ การที่อิหร่านได้ทำผลประโยชน์ให้อเมริกา และเครือข่ายอำนาจของพวกมัน

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้เน้นว่า บรรดาเจ้าหน้าที่และประชาชน คือ เหยื่อของสงครามเย็น กล่าวว่า ประชาชน โดยเฉพาะบรรดาผู้เชี่ยวชาญ คณาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัย อีกทั้งบรรดาเยาวชนทั้งหลายและนักกิจกรรมศาสนา ก็คือ เหยื่อของสงครามนี้

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า พวกเขามีความต้องการที่จะสร้างผลกระทบให้เกิดกับประชาชน โดยการเปลี่ยนความเชื่อทั้งหลายของพวกเขา โดยเฉพาะในบรรดาเยาวชน และบรรดาผู้เชี่ยวชาญ กล่าวคือ ความเชื่อทางด้านศาสนา การเมือง และวัฒนธรรมของประชาชน 

ท่านกล่าวว่า ประชาชนของเรา คือผู้ที่มีความเชื่อในหลักศรัทธา โดยเฉพาะในปัญหาศาสนา,ครอบครัว ปัญหาบุรุษกับสตรี,เสรีภาพ,การต่อต้านชาติมหาอำนาจ , ประชาธิปไตยแบบอิสลาม, และในประเด็นต่างๆทางด้านวัฒนธรรม ในขณะเดียวกัน ฝ่ายตรงกันข้ามได้เพียรพยายามให้ความเชื่อเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลง

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้เน้นว่า อีกเป้าหมายหนึ่งของสงครามเย็นก็คือ การเปลี่ยนแปลงความเชื่อที่ไม่ถูกต้องในอดีตที่ผ่านมา และท่านกล่าวว่า ประชาชนของเรามีความเชื่อว่า เผด็จการผู้ชั่วร้าย และขบวนการของพวกมันนั้น มีความพยายามที่จะทำให้อดีตที่มืดบอดได้กลับมามีแสงสว่างอีกครั้ง

ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า พวกเขา(ศัตรู) ต้องการที่จะให้เกิดการเปลี่ยนความเชื่อให้เหมือนกับความเชื่อในอดีต ซึ่งสิ่งที่จะได้รับนั้น ก็คือ ความไม่จำเป็นในการเกิดขึ้นของการปฏิวัติแห่งอิสลาม 

ท่านยังกล่าวอีกว่า การเปลี่ยนความเชื่อให้มาสู่อนาคตและปัจจุบัน ก็เป็นอีกเป้าหมายหนึ่งของสงครามเย็น โดยเน้นว่า พวกเขา(บรรดาศัตรู)ทั้งหลาย ต้องการที่จะทำให้บรรดาเยาวชนนั้นมีความรู้สึกว่า สถานการณ์ปัจจุบันของประเทศเป็นผลของความเขินอาย และปราศจากการพัฒนาการ โดยมีจุดประสงค์ในการสกัดกั้นการเคลื่อนไหวและการมีความหวังในอนาคตของบรรดาเยาวชนทั้งหลาย

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวว่า ด้วยกับการสร้างความเชื่อที่ไม่ตรงกับความจริงให้กับบรรดาเยาวชน โดยเฉพาะในประเด็นอเมริกา ,ยุโรป การวางแผนให้กับประเทศที่มีการพัฒนา ทางความปลอดภัย และความมั่นคง ก็ถือว่า เป็นอีกเป้าหมายหนึ่งของสงครามเย็น ในช่วงท้ายท่านได้กล่าวสรุปว่า เป้าหมายหลักที่ชัดเจนของสงครามเย็นที่ถูกวางแผนไว้แล้ว ก็คือ การเปลี่ยนภายในของสาธารณรัฐอิสลาม โดยการเปลี่ยนในหลักความเชื่อและการทำให้ความเชื่อของประชาชนนั้นมีความอ่อนแอ โดยเฉพาะกับบรรดาเยาวชนทั้งหลาย

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึง สิ่งอำนวยความสะดวกทางด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของศัตรูในสงครามเย็น และกล่าวเสริมว่า การพัฒนาการทั้งหมดของสังคมของโลกออนไลน์ในการรับใช้ที่เป็นเป้าหมายของสงครามเย็นได้บรรลุขึ้น ส่วนสิ่งที่สำคัญกว่า ก็คือ การใช้สิ่งอำนวยความสะดวกและการพัฒนาการต่างๆทางฮาร์ดแวร์และซอฟร์แวร์ ,การจัดตั้งกองทัพที่ประกอบไปด้วยกับผู้เชี่ยวชาญทางปัญญา การเมือง,วรรณกรรม ,สังคม นักเคลื่อนไหวในทางด้านต่างของการสื่อสารและศิลปะ เพื่อทำให้ซอฟร์แวร์มีความแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองต่อการเกิดขึ้นของเป้าหมายในสงครามเย็น

ท่านยังกล่าวอีกว่า จะต้องมีการวางแผน ,การกระทำ และการเพียรพยายามที่แน่วแน่คือ การเปิดเผยถึงผู้ออกแบบและผู้ดำเนินการในสงครามเย็น และท่านยังเน้นว่า ในผลผลิตทั้งหมดและเทคโนโลยีทางเสียงและภาพ และการเขียนจัดพิมพ์ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในเป้าหมายของสงครามเย็น แต่จะเห็นได้ว่า มิได้ใช้ในรูปแบบทางตรง

ท่านผู้นำการปฏิวัติได้กล่าวว่า ในด้านการส่งเสริมศาสนา อย่างน้อยที่สุด ศาสนาเซคิวล่าร์ (ศาสนาที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง)ที่เหมาะสมกับพฤติกรรมของปัจเจกบุคคลและสังคม ถือว่าเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ซ่อนอยู่ของแผนการณ์ทางสังคม ส่วนใหญ่จากสื่อของต่างประเทศ และท่านยังกล่าวเสริมว่า พวกเขา (บรรดาศัตรู)มีการดำเนินการในเป้าหมายที่ซับซ้อนของพวกเขาอย่างจริงจัง และมีการวางแบบแผนรองรับ แต่ทว่าพวกเรานั้นกลับล่าช้ามาในการปฏิบัติการณ์

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวชมเชยต่อความพยายามของสื่อแห่งชาติ ในขณะเดียวเดียวกัน กล่าวเสริมว่า จะต้องใช้ความเพียรพยายามอย่างลึกซึ้ง โดยทำให้เป้าหมายที่ต้องการนั้น บรรลุสู่จุดมุ่งหมายและไม่มีข้ออ้างอันใด และขยายกำลังการผลิตของรายการโทรทัศน์และวิทยุ ในรูปแบบของศิลปะ ที่ทำให้ผู้ชมทั้งหลายนั้นยอมรับ

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะตระหนักถึงเป้าหมายหลักของสื่อแห่งชาติ ในการต่อกรกับศัตรูในสงครามเย็น ก็คือ การเข้าถึงพื้นฐานในการวิเคราะห์อย่างถูกต้องและเป็นจริงในประเทศ และภูมิภาค อีกทั้งในระดับโลกของสาธารณรัฐอิสลามและท่านกล่าวเสริมว่า ในการวิเคราะห์นี้ เป็นการบริหารจัดการแนวความคิดในระดับต่างๆ และในรูปแบบบูรณาการของโครงสร้างและเป็นรากฐานของกิจกรรมทั้งหมด 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวว่า จงหลีกเลี่ยงจากการพูดเกินความจริง มีความสนใจในการแก้ไขปัญหา, ไม่ยอมรับผลกระทบจากการโฆษณาชวนเชื่อของต่างชาติ หลีกเลี่ยงจากความฉาบฉวย และเนื่องจากกำลังการผลิตหรือเพื่อให้บรรลุรศักยภาพต่อการวิเคราะห์พื้นฐานทางด้านโทรทัศน์และวิทยุอย่างมีประสิทธิภาพและท่านกล่าวเสริมว่าา การเปรียบเทียบที่ถูกต้องของสถานการณ์ในประเทศ กับช่วงเวลาการปฏิวัติที่สำคัญของโลก สามารถที่จะช่วยให้เข้าใจอย่างแท้จริงในสถานการณ์ของประเทศได้ 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ไปที่ปัญหาต่างๆมากมาย สงครามกลางเมืองนองเลือด แม้กระทั่งการกลับมาบางส่วนของการปฏิวัติในโลกปัจจุบัน สู่ระบอบการปกครองของเผด็จการในอดีตที่ผ่านมา และกล่าวเสริมว่า  จะต้องเปรียบเทียบกับสถานการณ์ปัจจุบันในอิหร่านกับสถานการณ์ของอเมริกาในรอบเกือบสี่สิบปี หลังจากการประกาศอิสรภาพของประเทศ และสถานการณ์ของฝรั่งเศส จาก 4ทศวรรษของการปฏิวัติในฝรั่งเศส เพื่อที่จะเข้าใจถึงสถานการณ์ปัจจุบันในอิหร่านและความก้าวหน้าที่ล้ำหน้าของประเทศ 

ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวว่า การมีความจำเป็นในการวิเคราะห์พื้นฐานในทุกๆด้านขององค์กรการสื่อสาร และย้ำว่า ในบริบทนี้ จะต้องพิจารณาถึงด้านมืดของต่างชาติและตระหนักดีว่าพวกเขาอยู่ในการบรรลุเป้าหมายของสงครามเย็น ได้แนะนำอิหร่านให้กับสังคมโลก แม้กระทั่งชาวอิหร่านเองก็มีความเข้าใจที่ผิดต่อความเป็นอิหร่านด้วยกัน ในขณะที่สื่อของโลกได้เผยแพร่ภาพของชาวอิหร่านในรูปแบบที่มีความลำเอียง 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้นำเสนอให้กับบรรดาเจ้าหน้าที่และผู้บริหารองค์กรสื่อสารแห่งชาติเพื่อให้บรรลุขั้นพื้นฐานในการวิเคราะห์และเป็นจริง โดยเปรียบเทียบสถานการณ์ของสาธารณรัฐอิสลามกับบางประเทศในภูมิภาค ในรอบ 4ทศวรรษที่ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ร่มเงาของอเมริกา 

ท่านกล่าวว่า การเปรียบเทียบนี้ แสดงให้เห็นว่า การยอมจำนนนั้น มีผลลัพธ์อะไรบ้าง และการยืนหยัดก็จะได้รับคุณงามความดี และนำไปสู่​​การเจริญก้าวหน้า

ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม หลังจากที่ได้อธิบายถึงความจำเป็นสำหรับการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐานในทุกๆการผลิต และรายการ ในการอธิบายภารกิจระดับที่สองของสื่อเพื่อเป็นข้อเสนอและเป็นหน้าที่ที่มีความจำเป็นในการเรียบเรียงแนวคิดขั้นพื้นฐานของหลักการนี้

 ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึง กลยุทธ์ต่างๆ ที่จะนำไปใช้ในการสื่อสารของประเทศซึ่งในช่วงเริ่มต้นการเข้ามารับตำแหน่งของ ท่าน ซัรอัฟรอซ ผู้อำนวยการองค์กรการสื่อสารแห่งชาติอิหร่าน ท่านเน้นว่า กลยุทธ์ทั้งหมดเหล่านี้ควรที่จะดำเนินการและนำไปใช้อย่างชาญฉลาดและมีการวางแบบแผนอย่างถูกต้อง และในบางกรณีก็ถือว่าได้นำไปใช้เป็นอย่างดีทีเดียว

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การวางแบบแผนอย่างชาญฉลาดและละเอียด จากการนำกลยุทธ์ที่ผ่านการวิเคราะห์ขององค์กรการสื่อสารแห่งชาตินำมาใช้ และถือว่าเป็นกลยุทธ์ของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน และนี่คือความจำเป็นในการเคลื่อนไหวทางการสื่อสารของประเทศ

ท่านถือว่า สื่อแห่งชาติ คือสื่อของประเทศและระบอบการปฏิวัติ และเน้นว่า ทีวีและวิทยุคือ แนวหน้าที่จะต้องใช้ในต่อต้านกับสงครามเย็น และบรรดาผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทั้งหลายคือ ทหารในสงครามนี้

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ยังได้กล่าวขอบคุณความพยายามของบรรดาผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของสื่อแห่งชาติ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่าน ซัรอัฟรอซ ผู้อำนวยการองค์กรการสื่อสารแห่งชาติ  เขาเป็นผู้ที่มีความอุตสาหะ, มีความเพียรพยายาม ใช้ชีวิตปกติแบบเรียบง่าย เป็นมิตรที่ดีและปราศจากการมีพิธีการและความหรูหรา มือสะอาด มีความระมัดระวังในการใช้จ่ายเงินจากคลังของประเทศ กล้าหาญ, มีความกล้าที่จะตัดสินใจในการกระทำ และความคิดสร้างสรรค์ อีกทั้งยังมีนวัตกรรมใหม่ๆ 

และท่านผู้นำสูงสุดยังกล่าวว่า คุณสมบัติเหล่านี้ถือว่า มีคุณค่ามากและก็ขอชื่นชมที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และจะต้องทำให้องค์กรการสื่อสารแห่งชาติเป็นองค์กรหนึ่งที่มีอำนาจเด็ดขาด

ก่อนที่ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามจะกล่าวสุนทรพจน์ ท่านซัรอัฟรอซ ผู้อำนวยการองค์กรการสื่อสารมวลชนแห่งชาติ ได้กล่าวรายงานถึงแผนการณ์และการปฏิบัติงานขององค์กรนี้ 

ผู้อำนวยการองค์กรการสื่อสารมวลชนแห่งชาติ  ได้ชี้ถึงปัญหาต่างและวิธีการป้องกันของการสื่อสารแห่งชาติกล่าวว่า การปฏิรูปโครงสร้างก็เหมือนกับการปฏิรูปในกฏระเบียบการ เช่นเดียวกันกับ มีการเตรียมการเปิดตัวสื่อในการโต้ตอบ และการวางแบบแผนที่จะเสริมสร้างการแสดงออกในเว็บไซต์และทางเครือข่ายทางสังคม โทรศัพท์มือถือ เพิ่มคุณภาพทางด้านการผลิต และนี่คือส่วนหนึ่งของการปฏิบัติงานของสื่อแห่งชาติ

เขาเสริมว่า การแสวงหายุทธศาสตร์ อย่างเช่น วาทกรรมของการปฏิวัติแห่งอิสลามเศรษฐกิจต้านทาน วิถีชีวิตอิหร่านอิสลาม การพัฒนาการทางความวิชาการ จัดตั้งศูนย์กลางในการเขียนบทภาพยนตร์ ออกแบบ และเปิดสถานีเครือข่ายสำหรับเด็ก จัดตั้งกลุ่มคณะสุนทรียศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ การดึงเอาคนรุ่นใหม่ที่เป็นเยาวชนมาเป็นผู้บริหารจัดการในด้านต่างๆ การเพิ่มประสิทธิภาพของผู้ชมในการรับชมช่องทีวีทั้งหลายในประเทศ และการเพิ่มประสิทธิภาพของอัลอาลัมและเพรสทีวี และการปรับปรุงเครือข่ายข่าวล่าสุด เน้นการวิเคราะห์ข่าว และการอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น, การติดตั้งช่องทีวีภาษาอาเซอร์ไบจัน  ภาษาเคริด์ และภาษาอูรดู ถือว่าเป็นการปฏิบัติงานที่ส่งออกสู่นอกประเทศ  การจัดเก็บรายการในรูปแบบของแฟ้มข่าว การสร้างความสนใจในเพลงพื้นเมืองทางศาสนาและการปฏิวัติ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และความมั่นคง ทั้งหมดนั้นคือ หนึ่งในตัวอย่างการปฏิบัติงานของสื่อทั้งหลายในประเทศ